พอเรากินข้าวเสร็จ สถานที่ต่อไปคือ พระราชวังฤดูร้อนอี้เหอหยวนพระราชวังฤดูร้อนสร้างขึ้นประมาณ 800 ปีก่อน ในสมัยราชวงศ์จิ๋น ต่อมาพระนางซูสีไทเฮา แห่งราชวงศ์ชิง อันเป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีน เป็นผู้เข้ามาซ่อมแซม แล้วใช้เป็นที่พักผ่อนในฤดูร้อน เพราะ อากาศจะเย็นสบายกว่าในพระราชวังต้องห้าม พระนางซูสีไทเฮาตั้งชื่อให้ใหม่ว่า อี้เหอหยวน แปลว่า อุทยานเพื่อพลานามัยอันกลมกลืนกันได้ด้วยดีเมื่อถึงที่จอดรถแล้ว เราก็ลงมา เดินต่อไปอีกนิดนึง ระหว่างทางจะมีคนขายมันเผา ขายพุทราเชื่อม ขายเกาลัด มากมายแม่ซื้อมันเผามาอันละ 2 หยวน บอกอร่อยมาก เราก็ซื้อพุทธากินอีก ตอนนี้ 3 ไม้ 5 หยวนละนะ 55555555ตัวโตชอบเหลือเกิน กินได้ตลอด ประตูทางเข้าคุณมุกชี้ แผนที่ ที่เราจะต้องเดิน ก็เดินกันเกือบครบรอบเลยละ เข้าด้านหน้า เอารถไปรอด้านหลังอีกเหมือนเดิมก้อนหินนี้เค้าว่าเป็นก้อนหินอายุยืน ให้ดูด้านข้างจะเห็นเหมือน ผู้หญิงนั่งอยู่ดูออกไหมนี่คือตัวกิเลน หัวเป็นมังกร มีเขา มีปีก แล้วกินอย่างเดียว ไม่ถ่าย คนจีนจะนับถือกันมากนี่จะเป็นที่ทำงานของพระนางซูสีไทเฮาสมัยของพระนางก็มีไฟฟ้าใช้ละนะ อังกฤษเอามาถวาย รถยนต์ก็มีนะ แต่พระนางบอกว่า ให้ทำแบบ พระนางนั่งข้างหน้า คนขับอยู่ด้านหลัง เลยทำไม่ได้กันสมัยก่อนสัญลักษณ์ของฮ่องเต้จะเป็นรูปมังกรอยู่ด้านหน้า แต่สมัยพระนางซูสีไทเฮา จะเอารูปหงส์ขึ้นก่อน แล้วมังกรตามหลังมังกรดูจะเล็กกว่าหงส์นะทางเดินเข้าไปด้านในต้นไม้นี้จะเป็นที่โปรดปราน เพราะจะเหมือนเล็บ (คงจะเคยเห็นในหนังจีนที่ ไทเฮา ชอบใส่เล็บ ยาว ๆ ) แต่ตอนนี้หน้าหนาว ใบจะแห้ง ๆพระนางจะชอบ ต้นสน มาก ที่นี่จะมีต้นสนเยอะมาก เพราะ จะเหมือนหางหงส์ ต้นนี้จะมีอายุเป็น 100 ปีนี่จะเป็นที่นอนของพระนางซูสีไทเฮาคุณมุกบอกว่า โต๊ะอาหารของพระนาง จะเหมือนตู้ปลา ปลาจะอยู่ด้านล่าง กินอาหารไปดูปลาไป อาหารแต่ละมื้อจะทำ 100 กว่าอย่าง จำจำนวนไม่ได้ละ จะกินอย่างละ 1 คำเท่านั้น เพราะกลัวคนอื่นจะวางยาพิษ ถ้ารู้ว่าชอบกินอะไร เลยไม่มีใครรู้เลยว่าพระนางชอบอะไร ตัวนี้คงไม่ใช่ โต๊ะตู้ปลาหรอกเนอะต้นไม้ไม่มีใบ มีแต่ดอกทางเข้าระเบียงกตัญญู เป็นระเบียงที่ยาวที่สุดในโลก กินเนสบุคส์ รับรองแล้ว และแต่ละช่องจะมีรูปภาพ ก็จะไม่ซ้ำรูปกันเลยด้านหน้าจะเป็นทะเลสาบทะเลสาบนี้ชื่อทะเลสาบคุนหมิง เป็นทะเลสาบที่ใช้แรงงานคนขุดขึ้นมา กว้างมากเกาะกลางน้ำดูบรรยากาศ อิอิเดิน ๆ ไปเจอร้านขายของ ดูของกินเล่นของตัวเล็ก 55555ราคา แค่ 5 หยวนเอง ถูกกว่าตั้งครึ่ง แต่กิน ๆ ไป ตัวเล็กบอกไม่อร่อยเลย สู้ที่สนามรังนกไม่ได้ ก็ที่สนามรังนก จะออกหวาน ๆ แต่ที่นี่จะจืด ๆ ก็เลยเอาไปให้ตัวโตกินแทน เดินมาเรื่อย ๆ ประมาณกลางทาง จะเห็น ศาลาที่อยู่บนเขาพยายามจะซูมแต่ข้างบนด้านบนจะเป็นที่ ที่พระนางซูสีไทเฮาขึ้นไปไหว้พระ เวลาขึ้นไปต้องนั่งเกี้ยว แล้วต้องให้คนแบกไปแบบตรง ๆ ห้ามเอียง ถ้าคนไหนทำเอียงจะถูกประหาร เหอเหอ แบกขึ้นเขาอะนะ คงต้องฝึกหนักกันเลยทีเดียวเรือหินอ่อนเรือไรไม่รู้เดิน ๆ มาเจอคนกำลังมุงอะไรกันไม่รู้ เลยเดินไปดู เจอตัวนี้ คนถ่ายรูปกันใหญ่ แปลกดีนะ คอสีขาวนี่คงจะเป็นทางขึ้นเขา แต่เราไม่ได้ไปเดินมาถึงทางออก แล้วเจอตรงนี้ เหมือนที่เราเห็นในหนังจีนเวลาพระเอก นางเอกพลอดรักกัน ออกจากพระราชวังฤดูร้อน ก็ต้องเดินไปขึ้นรถ ระหว่างทางเจอคนขายพุทธาอีก มีสมาชิกไปมุงซื้อกัน เราก็เข้าไปถามมั่ง แต่ไมได้ซื้อละ เพราะที่ซื้อมายังเหลือ ตอนนี้ราคา เป็น 6 ไม้ 5 หยวน เอ้า อะไรมันจะถูกลง ๆ ตอนนี้จบแค่นี้นะคะ ไว้ต่อตอน 5 นะ