1. บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์
ยิ่งหน้าหนาวเริ่มใกล้เข้ามา การบำรุงผิวหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะสาวๆ คนไหนที่มีใบหน้าแห้ง ลอกเป็นขุยง่าย หลังการล้างหน้าทุกครั้งควรมีการเตรียมผิว และบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ (ในขณะที่ใบหน้ายังชื้นจากหยาดน้ำอยู่) ไม่ว่าจะเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ทินท์ หรือแบบธรรมดา ผิวหน้าจะดูดซับสารบำรุงได้ดีที่สุด และได้รับความชุ่มชื้นจากมอยส์เจอไรเซอร์อย่างเต็มที่ ทำให้ผิวหน้านุ่มนวล เปลั่งปลั่งขึ้น และยืดหยุ่นได้ดี

อย่างไรก็ตาม สาวๆ ควรหลีกเลี่ยงการรองพื้นหนา และหนักจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวหน้าไม่ได้หายใจ และหน้าแน่นจนดูไม่เป็นธรรมชาตินะ (สาเหตุที่ทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย-แก่กว่าวัยจริง!)

2. เผยผิวสว่างสดใสด้วยคอนซีลเลอร์เนื้อเหลว
ถ้าสาวๆ มีริ้วรอยปรากฏบนใบหน้า คอนซีลเลอร์จะเป็นตัวช่วยปกปิดได้เป็นอย่างดี ทั้งรอยคล้ำใต้ตา และริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า สเต็ปนี้ให้ใช้แปรงปัดขนาดเล็กเกลี่ยรอบดวงตาให้เรียบ แล้วใช้นิ้วก้อยค่อยๆ กด-เกลี่ยคอนซีลเลอร์เบาๆ อีกที เราแนะนำให้สาวๆ ใช้คอนซีลเลอร์ที่เป็นเนื้อเหลว เพราะมันจะเนียนสนิทเข้ากับผิวได้ง่ายกว่า และไม่จับตัวเป็นก้อนบนผิวให้ต้องเสียเซลฟ์ ตรงกันข้ามถ้าสาวๆ เลือกใช้ในรูปแบบตลับ หรือพาเลท มันจะทำให้ริ้วรอยที่ต้องการปกปิดสังเกตได้ง่ายขึ้น

3. เลือกใช้ฟองน้ำในการแต่งหน้า
เพื่อให้ลุคที่ดูเบาบางเป็นธรรมชาติ และปกปิดเรียบเนียนตลอดวัน ในขั้นตอนรองพื้นให้คุณใช้ 'ฟองน้ำแต่งหน้า' แทนการใช้แปรง หรือนิ้วมือที่เคยชิน เพราะฟองน้ำจะทำให้รองพื้นติดใบหน้าได้ดีกว่า และเรียบเนียนมากขึ้น วิธีการง่ายๆ เพียงคุณพ่นสเปรย์ละอองน้ำไปบนฟองน้ำแต่งหน้าให้พอชื้นก่อน จากนั้นเอาไปแต้มรองพื้นที่คุณเตรียมไว้ แล้วจึงนำไปแตะซับที่ใบหน้าเบาๆ ความชื้นในฟองน้ำจะทำให้รองพื้นที่ทาลงไปดูบางเบา ไม่หนาเตอะหลอกตา แต่จำไว้ว่า อย่าเอาฟองน้ำไปถูกับใบหน้าเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผิวหน้าเป็นรอยแดงได้ …ความบางเบาของรองพื้นจะช่วยให้หน้าคุณดูเด็กลงอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ !

4. ใช้แป้งฝุ่นไม่เจือสี
บางทีการใช้แป้งอัดแข็ง หรือแป้งตลับก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สาวๆ ดูหน้าแก่กว่าวัย และเห็นริ้วรอยต่างๆ ชัดเจนมากขึ้นได้เหมือนกัน ทางที่ดีลองเปลี่ยนมาเป็นแป้งฝุ่นกับแปรงปัดที่ใหญ่ และนิ่มที่สุด มันจะช่วยให้ใบหน้าของคุณเนียนบางเบา-ไม่หนาเตอะ และเป็นธรรมชาติกว่าเป็นไหนๆ แต่หากคุณรู้สึกกังวลใจว่าแป้งจะไม่เซตตัวอยู่ทั้งวัน หรือรองพื้นที่ทาลงไปจะเซตตัวได้ไม่ดี เราแนะนำให้เลือกแป้งฝุ่นชนิดโปร่งแสงที่ไม่เจือปนสีลงไป เพื่อความเป็นธรรมชาติที่สุดบนผิวหน้า!

5. แต่งแต้มสีสันให้ริมฝีปาก
แทนที่จะใช้ลิปสติกสีสดที่ดูแรงเกินไป และทำให้คุณดูเหมือนมีอายุ 30 ต้นๆ ลองเปลี่ยนมาเติมความหวานด้วยลิปกลอสสีชมพู หรือสีส้มอ่อนๆ ให้ใบหน้าดูซอฟต์ขึ้น น่าจะเวิร์กกว่าไม่น้อย ซึ่งสาวๆ อาจใช้ดินสอวาดโครงขอบปากสีชมพูอ่อน แล้วเติมให้เต็มด้วยลิปสีเดียวกัน จากนั้นก็ทาลิปกลอส (รสผลไม้) ทับให้ริมฝีปากดูอิ่มเอิบ แวววาว แค่นี้ก็เพอร์เฟกต์ขึ้นได้ในทันที

6. ไฮไลต์เพิ่มมิติให้ใบหน้า
สุดท้ายแต่งเติมเสน่ห์สร้างมิติบนในหน้าด้วยไฮไลต์เนื้อบางเบา เพียงแตะที่โหนกแก้มทั้งสองให้ดูมีประกายเล็กน้อย เลือกใช้ไฮไลต์สีแชมเปญสำหรับสาวผิวขาว และสีโกลเด้นเบจสำหรับสาวผิวคล้ำ หรือสาวๆ อาจใช้ชิมเมอร์เนื้อครีมช่วยเพิ่มความเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ เลือกใช้สีที่เข้ากันกับผิวได้ดี อย่างสีแชมเปญ สีบรอนซ์ หรือสีกุหลาบอมทอง แล้วทาในจุดที่เป็นเนิน-ส่วนที่สูงที่สุดของใบหน้า เช่น หน้าผาก สันจมูก โหนกแก้ม และคาง ก็ช่วยให้ใบหน้าดูเด็กชวนดึงดูดหนุ่มๆ ได้ไม่น้อยแล้วล่ะ

ป.ล. คุณควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อฝุ่นให้น้อยที่สุด และหันมาใช้ผลิตภัณฑ์เมคอัพที่เป็นเนื้อครีม เจล หรือบรรดาพวกเนื้อเหลวแทน เพราะผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่เป็นเนื้อฝุ่น และคุณต้องใช้แปรงแต่งหน้านั้นจะทำให้ผิวหน้าดูด้าน และแห้ง ทว่าผลิตภัณฑ์เนื้อเหลวจะให้ความชุ่มชื้น เสกผิวหน้าคุณให้ดูอ่อนเยาว์ นุ่มนวลขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก "ไทยรัฐ" //www.thairath.co.th/