การพัฒนาผลงานของพนักงาน
ผลงานของพนักงานเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับหัวหน้างาน และผู้จัดการทุกคน ความสำเร็จของผู้จัดการ และหัวหน้างานทุกคนนั้นส่วนหนึ่งมาจากผลงานและความสำเร็จของลูกน้องของตนเอง ดังนั้นการพัฒนาผลงานของลูกน้องของตนจึงมีความสำคัญมากสำหรับคนที่เป็นหัว หน้างาน หรือผู้จัดการ
แต่การที่จะพัฒนาผลงานของลูกน้องนั้นเป็นสิ่งที่จะพูดว่ายากก็ยาก หรือจะมองว่าง่าย มันก็ง่าย ลูกน้องบางคนก็สามารถที่จะพัฒนาไปได้ไกลมาก บางคนก็เข็นไม่ขึ้นเอาเลยก็มี ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ผมเชื่อว่าผู้จัดการหรือหัวหน้างานทุกคนล้วนพบเจอเหตุการณ์เหล่านี้มากันทุก คนแน่นอน
ลูกน้องที่ทำงานเข้าขากับเราได้ดี เราก็มักจะมอบหมายงานให้อย่างสม่ำเสมอ และมีงานยากๆ ให้ทำตลอดเวลา ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ลูกน้องคนนี้ของเรามีฝีมือที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะความท้าทายในงาน ความยากของงานที่จะต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา
ส่วนลูกน้องที่ทำงานไม่ค่อยดี นายก็มักจะไม่ค่อยมอบหมายงานยากๆ ให้ หรือบางทีก็ไม่ให้งานอะไรเลย ปล่อยให้นั่งเฉยๆ หรือไม่ก็คอยช่วยเหลือคนอื่นในงานที่ไม่ต้องใช้ความคิดอะไรมากมาย ยิ่งทำงานแบบนี้นานวันเข้า ลูกน้องคนนี้ก็ยิ่งไม่ได้รับการพัฒนาอะไรมากขึ้นเลย ทั้งๆ ที่บทบาทของหัวหน้างานนั้นจะต้องพัฒนาลูกน้องทุกอย่างเท่าเทียมกัน และทำให้พนักงานทุกคนสามารถทำงานได้ผลงานที่ทัดเทียมกันด้วย
ดังนั้นหัวหน้างาน หรือผู้จัดการที่ดีจะต้องวิเคราะห์ลูกน้องของตนเองออกว่า แต่ละคนนั้นมีจุดแข็งจุดอ่อนที่ใด และจะต้องได้รับการพัฒนาในด้านใดบ้าง เราอาจจะใช้ 3 ปัจจัยที่ผมเขียนให้อ่านเมื่อวานนี้ในเรื่องของการสร้างผลงานของพนักงานว่า จริงๆ แล้วพนักงานแต่ละคนของเรานั้นขาดอะไร เราจะได้พัฒนาเขาได้ถูกทาง
* Aptitude ก็ คือความรู้ทักษะ และความสามารถในการทำงานของพนักงาน ถ้าพนักงานขาดความรู้ ทักษะในการทำงาน หัวหน้าก็จะต้องส่งเสริมให้ลูกน้องได้รับการพัฒนาเรื่องเหล่านี้ เรื่องของการขาดความรู้และทักษะในการทำงานนั้น เป็นสิ่งที่หัวหน้างานมองลูกน้องตนเองได้ไม่ยากนัก คือ ดูจากผลงานโดยตรงของพนักงานก็น่าจะพอดูออกว่า ผลงานที่ออกมานั้น ยังไม่ได้ตามมาตรฐานหรือไม่ ขาดความรู้ หรือทักษะอะไรบ้างที่จะต้องเติม เพื่อให้ผลงานดีขึ้น
* Attitude ก็คือทัศนคติในการทำงาน เรื่องนี้บางทีหัวหน้างานหรือผู้จัดการอาจจะดูไม่ง่ายนักว่าลูกน้องของเรา ขาดสิ่งเหล่านี้หรือไม่ แต่จริงๆ แล้วทัศนคติของพนักงานนั้น แสดงออกให้เห็นได้ทางพฤติกรรมต่างๆ ในการทำงานด้วย เช่น เรื่องของแรงขับ หรือ แรงผลักดันในการสร้างความสำเร็จในงาน พฤติกรรมที่แสดงให้เห็นชัดก็คือ บางคนก็ขยันขันแข็ง ไม่ท้อถอยเวลาเกิดปัญหาต่าง ๆ ก็พยายามที่จะขวนขวายหาทางแก้ไขจะกระทั่งสามารถแก้ปัญหานั้นๆ ได้ลุล่วงไป ตรงข้ามกับลูกน้องบางคนที่เมื่อพบกับปัญหาแล้วก็ท้อแท้ ไม่มีความตั้งใจในการหาทางแก้ไข พยายามหลีกเลี่ยงปัญหา และซุกปัญหา เพราะไม่มีความอยากที่จะแก้ไข แค่ตัวอย่างนี้ก็มองเห็นแล้วว่า เราจะต้องพัฒนาพนักงานคนนี้ในมุมของทัศนคติ และพฤติกรรมในการทำงาน แม้ว่าพนักงานคนนี้อาจจะมีความรู้ในการทำงานเต็มเปี่ยมก็เป็นได้
* Available Resources เป็นเรื่องของการให้การสนับสนุนพนักงานทั้งในแง่ของทรัพยากรต่างๆ ที่จับต้องได้ เช่น เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เทคโนโลยีในการทำงาน การอำนวยความสะดวก ฯลฯ และที่จับต้องไม่ได้ เช่น แรงจูงใจ การให้การสนับสนุนทางด้านจิตใจ กำลังใจในการทำงาน การพัฒนาพนักงาน และคอยช่วยเหลือให้คำปรึกษาแก่พนักงาน
ในการพัฒนาพนักงานของตนเองให้สามารถสร้างผลงานที่ดีได้นั้น หัวหน้างานหรือผู้จัดการจะต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ ถึงปัจจัยแต่ละตัวข้างต้น ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปในพนักงานแต่ละคน บางคนเก่งงาน แต่ขาดพลังในการทำงาน บางคนขยันสุดๆ แต่ไม่รู้เรื่องงานเลย หรือบางคนก็มีทั้งสองอย่าง แต่ขาดกำลังใจจากหัวหน้าของตนเอง
สิ่งเหล่านี้หัวหน้างานทุกคนจะต้องทำไปพิจารณาเพื่อปั้นพนักงานของตน จากดินไปสู่ดาว ครับผม
Create Date : 05 ตุลาคม 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 5 ตุลาคม 2553 6:33:53 น. |
Counter : 1200 Pageviews. |
|
|
กี่ดาว