ว่าด้วยเรื่อง "วิตามินซี"
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง บ่อย เดี๋ยวสะบัดร้อน สะบัดหนาว บางทีก็มีฝนตกไม่เลือกฤดูให้งวยงงกันเล่น ทำให้คุณพ่อคุณแม่ รวมถึงลูกน้อยป่วยเป็นไข้ไปตาม ๆ กัน ซึ่งหลายคนมักเลือกยาเป็นตัวหลักในการรักษา แต่วันนี้เรามีอีกทางหนึ่งในการฟื้นไข้มาฝากกัน ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัว และทำได้ไม่ยาก .................................................................................... โดยวิธีข้างต้นนี้ ภญ.กรรณิการ์ เอกศักดิ์ ให้ ความรู้ว่า ไข้หวัดเป็นโรคที่เป็นกันได้ทุกเพศทุกวัย การรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย และผลไม้ที่ให้วิตามินโดยเฉพาะวิตามินซีสูง ถือเป็นตัวยาชนิดหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ป่วยหายไข้ได้เร็วขึ้น เนื่องจากวิตามินซีจะเป็นตัวเข้าไปเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็ง แรงนั่นเอง "วิตามินซีมีประโยชน์มากมาย ช่วยเสริมภูมิต้านทาน เป็นตัวสร้างคอลลาเจนในเนื้อเยื่อต่าง ๆ เช่น ผิวหนัง กระดูก ฟัน เหงือก และเส้นเลือด ซึ่งช่วยสมาน และซ่อมแซมเนื้อเยื่อบาดแผลให้หายเร็วขึ้น ตลอดจนรักษาอาการเลือดออกตามไรฟัน และช่วยคลายเครียดอีกด้วย" เภสัชกรหญิงกล่าวถึงประโยชน์ของวิตามินซีที่คนส่วนใหญ่มองข้าม อย่างไรก็ดี หลาย ๆ บ้านอาจสงสัยว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายต้องการวิตามินซีเพิ่มแล้ว กับคำถามนี้ เภสัชกรหญิงบอกว่า ให้สังเกตจากการเป็นหวัด หรือภูมิแพ้บ่อย ๆ นั่นหมายความว่า ภูมิต้านทานในร่างกายไม่สมบูรณ์พอ ผิวพรรณซูบซีด ไม่เปล่งปลั่ง หรือบางท่านที่เครียดมีผลให้เป็นโรคกระเพาะ ไมเกรน เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ หรือบ้านที่ชอบสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ วิถีการดำเนินชีวิตของบุคคลเหล่านี้ ต้องการวิตามินซีมากกว่าคนทั่วไป .................................................................................... "ปริมาณวิตามินซีที่ทุกบ้าน ควรได้รับต่อวันคือ 60 มิลลิกรัม เทียบง่าย ๆ คือ ทานส้มสด 1 ผลให้วิตามินซี 20 มิลลิกรัม ต้องทานให้ได้ 3 ผลต่อวัน หรือทานจากผักสด ผลไม้ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละชนิดก็ให้ประมาณวิตามินซีแตกต่างกัน ผักที่ให้วิตามินซีมากหน่อย เช่น บลอคโคลี หรือผลไม้สดที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม สับปะรด ฝรั่ง มะขาม หรืออื่น ๆ เช่น กล้วย ผักกาดกรอบ หัวหอม" เภสัชกรหญิงให้คำแนะนำ ไม่เพียงแต่การรับประทานที่ย่อยง่าย และผลไม้ที่ให้วิตามินแล้ว เภสัชกรรายนี้ให้คำแนะนำว่า การฟื้นไข้ได้เร็ว ต้องดูแลร่างกายให้ดีควบคู่ไปด้วย เช่น อาบน้ำอุ่น พักผ่อนให้เพียงพอ การจิบน้ำอุ่น หรือน้ำผึ้งผสมมะนาวให้ชุ่มคอ ลดการระคายเคือง ระวังเรื่องการสั่งน้ำมูกอย่าสั่งแรง ๆ เพราะจะทำให้เชื้อเข้าสู่โพรงไซนัสหรือหูชั้นใน และเกิดการอักเสบมากขึ้น ถ้าเป็นเด็กเล็กควรใช้ลูกยางดูดน้ำมูกเพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น เอาเป็นว่า ช่วงนี้อากาศเย็นเป็นพิเศษ ด้วยความห่วงใย ทีมงานขอให้ทุกบ้านดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ เพื่อสุขภาพที่ดีตลอดปีกระต่ายทองนี้^_^ ....................................................................................
Create Date : 19 มกราคม 2554 |
Last Update : 19 มกราคม 2554 20:44:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 582 Pageviews. |
|
|
|
| |