เมื่อเท้ามันคัน อะไรมันๆ จะเกิดขึ้น
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2558
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
29 มิถุนายน 2558
 
All Blogs
 

อิตาลี : โรมวันแรกกับอีก 1,459 วันที่เหลือ


เดินทางมาถึงโรมเพื่อรับหน้าที่ได้ไม่มีกี่วันก็มีโอกาสออกไปสำรวจเมืองในวันอาทิตย์ของหน้าร้อนวันหนึ่ง


โดยการนั่งรถนำเที่ยวสองชั้นซึ่งมีอยู่หลายสีหลายบริษัท ผมใช้บริการรถสีแดงเพราะเคยใช้บริการที่เมืองอื่นๆ มาแล้ว ราคา 20 ยูโร นั่งได้ไม่จำกัดครั้งหรือเที่ยวในเวลา 24 ชม. ระวังคนขายตามท่ารถของบางบริษัทบอกให้ถูกกว่า แต่มักเป็นราคาวันเดียว (ถึงสองทุ่มครึ่งเท่านั้น)


ช่วงแรกนั่งสู้แดดหน้าร้อนบนชั้นสองเลย หลังๆ มีลงไปหลบแดดชั้นล่างกันอยู่บ้าง ร้อนจริงอะไรจริงแต่โดยรวมก็ยังพอทนครับ แดดจะร้อนขึ้นอีกในเดือนกรกฎาและสิงหา และจะไม่มีคนอิตาเลียนอยู่ทำงานด้วย เขาจะไปพักผ่อนแถวทะเลหรือต่างประเทศกัน บ้านช่องถ้ายังหาไม่ได้ตอนนี้ สงสัยจะรอนานเลย


โรมมีประวัติยาวนาน ตั้งแต่สมัยเทวตำนานต่อด้วยยุคเริ่มต้นประวัติศาสตร์ ต่อมาเรื่อยๆ จนปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องเล่าให้ฟัง กูเกิ้ลมีทุกอย่างครับ ที่เรียนมาจำได้ คือ โรมก่อตั้งโดย Romulus ซึ่งเป็นแฝดกับ Remus ทั้งสองเป็นลูกเทพเจ้า แต่ถูกปล่อยให้ตาย หมาป่าเอามาเลี้ยง เมื่อ Romulus โตขึ้นได้ฆ่าน้องชายและตั้งเมืองใหม่ในนามตนเองชื่อว่า Rome ถ้าบังเอิญเห็นรูปปั้นหมาตัวเมียให้นมเด็กสองคนอยู่จะได้ทราบว่ามันคือตำนานกำเนิดโรม


สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงโรมมีมากมายครับ ถ่ายรูปสวยๆ ทั้งนั้น ยิ่งในวันฟ้าใสแบบนี้


เยอะจริงๆ สาธยายไม่หมด แถมยังไม่ได้ศึกษาด้วยว่าอะไรมีที่มาน่าสนใจยังไง


เอาเป็นว่าที่ที่นักท่องเที่ยวทั่วไปมักจะต้องรู้จักและพลาดไม่ได้ คือ Colosseum หรือคนอิตาเลียนเรียกว่า Colosseo และน้ำพุ Trevi


ช่วงนี้ทั้งสองที่กำลังซ่อมแซมครับ ยังไม่สมบูรณ์ 100% โดยเฉพาะน้ำพุ Trevi แทบไม่เห็นของเดิมเลย


ให้เวลาเขาหน่อยหรือไม่ก็ค่อยมาหลังจากนี้อีกสักพักใหญ่ๆ


อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องทำใจมาก่อน คือ เรื่องความเรื่อยๆ สบายๆ ของคนท้องถิ่น จะทำอะไรอาจชักช้าไม่ทันใจ พี่ที่เคยอยู่ที่โรมท่านหนึ่งเคยเตือนว่า นิสัยคนอิตาลีคล้ายแขกหรือแอฟริกา ชิลไปเสียทุกเรื่องจนเสียเรื่อง เพียงแต่ประเทศมันดันมาอยู่ในทวีปยุโรปก็เท่านั้น แต่ถ้าท่านมาเที่ยวแค่ไม่กี่วันคงไม่ต้องแคร์


นั่งรถไปดูชีวิตชาวบ้านชาวเมืองไป ได้เห็นอะไรหลายอย่างน่าสนใจ จะขอใส่เป็นข้อสังเกตไว้


บ้านเมืองเขาสวยงามจริง แต่พอดูๆ ไปก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง น้ำพุ ตึก โบสถ์ รูปปั้น วันแรกถ่ายรูปไปเยอะมาก แต่คาดว่าวันหลังๆ ไม่น่าตื่นเต้นอะไรมากแล้ว นึกถึงตอนไปซาฟารีในเคนยาครั้งแรก ถ่ายรูปจนแบตสำรองก็หมดเกลี้ยง ปีหลังๆ นั่งหลับเลยครับ ไว้อาศัยไปเที่ยวเมืองอื่นๆ เอาแทน


วันอาทิตย์ร้านรวงไม่ค่อยเปิด นอกจากร้านในศูนย์กลางเมืองหรือเปิดก็ปิดเร็ว เพราะฉะนั้นอย่างผมจะหายาทาแก้ร้อนในปากหรือซื้อน้ำขวดระหว่างทางกลับที่พักก็ไม่สามารถทำได้ ไม่มีร้านค้าแบบเปิดตลอดปีตลอดชาติแบบเรา ความสะดวกสบายจุดนี้สู้บ้านเราไม่ได้เลย


พลเมืองชั้นสองชั้นสามมีให้เห็น พวกเอเชียใต้ (ส่วนใหญ่มาจากปากีสถาน) จะทำงานหรือมีตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะอยู่บ้าง เช่น ขายตั๋วรถนำเที่ยว ส่วนพวกแอฟริกาทำงานพื้นฐานของผู้อพยพเข้าเมือง คือ ขายน้ำ ลูกอม ยาลม ยาหม่อง ของที่ระลึกหรือกระเป๋าปลอมตามป้ายรถโดยสารหรือที่ท่องเที่ยว อันนี้จากการสังเกตเองในระยะเวลา 1 วันนะครับ อย่าเอาเป็นสาระอะไรมาก


อาหารการกินตามร้านธรรมดาทั่วไป ประมาณร้านอาหารตามสั่งบ้านเรา ซึ่งมีอยู่ดาษดื่นและหาทานง่าย อาหารหนึ่งจานบวกเครื่องดื่ม เฉลี่ยอยู่ที่ 400 บาทต่อมื้อต่อคน ถ้าเป็นร้านดีหน่อยราคาก็จะขยับตามเป็นพันเป็นหมื่นแล้วแต่ สรุปว่าค่าครองชีพสูงตามมาตรฐานประเทศอียู


คนที่ชอบทานอาหารไทยรสจัด ไม่ชอบกินเส้นหรือไม่ชอบแป้งพิซซ่าอย่างผม ขอให้เตรียมอาหารที่ชอบมาเอง เพราะอาหารที่หาทานง่ายที่สุดในประเทศนี้ คือ pasta และ pizza เรื่องอาหารนี่ยอมรับว่าเป็นกรรมของผมเอง แต่ไม่แน่ 4 ปีหลังจากนี้ อาจเป็น expert ด้านเส้นไปเลยก็ได้ อ้อ ถ้าชอบกาแฟก็สวรรค์เลยครับ นักดื่ม(กาแฟ)บอกว่ากาแฟประเทศนี้อร่อย แต่ผมก็ไม่ดื่มกาแฟอีกแหละ กลุ้ม!


เนื่องจากเป็นเมืองโบราณอายุนับพันปี อะไรหลายอย่างจึงเป็นมรดกที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น คิดจะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงยาก หรือจะเป็นนิสัยคนอิตาเลียนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงก็แล้วแต่ ถนนทุกสายในใจกลางเมืองยังคงทำจากหินมาวางเรียงต่อกัน เพื่อรถม้าจะได้วิ่งอย่างสะดวกโยธินในอดีต แต่ปัจจุบันไม่ว่าจะใช้รถรุ่นไหนยี่ห้ออะไรก็รู้สึกถึงความแข็งกระด้างเด้งดึ๋งไม่ต่างกัน


คุณผู้หญิงที่อยากใส่ส้นเข็มเดินสวยๆ ในโรม ระวังจะเสียรองเท้า และอาจต้องเดินเท้าเปล่าหิ้วรองเท้าโชว์นักท่องเที่ยวแทน


อิตาลีเมืองแฟชั่น (หรือเพราะไม่ใช่มิลานหรือเป็นหน้าร้อน?) คนเขาไม่ได้แต่งตัวอะไรมากเลย ยังงงว่าแฟชั่นตรงไหน มองแล้วมองอีกถึงจะเจอแต่งตัวโก้สักคน หนุ่มเลี่ยนแต่งตัวสไตล์ลูกกำนันวิ่งเล่นอยู่ต่างจังหวัดบ้านเรามาก ยอดนิยมเลย คือ เสื้อยืด กางเกงยีนส์ขาสั้น รองเท้าผ้าใบ ดูไปคล้ายชุดประจำชาติสำหรับบุรุษ ไม่เชื่อมาดูที่บันไดสเปนได้เลยครับ


ความอุ่นใจอย่างหนึ่ง อิตาลีมีคนไทยเยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการหรือคนไทยที่มาตั้งรกราก ในเมืองมีสำนักงานของการบินไทย ทำให้รู้สึกว่าประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากกว่าในหลายๆ ประเทศที่เคยไปมา อย่างน้อยคงไม่ต้องคอยบอกว่าไทยแลนด์ไม่ใช่ไทวาน

ระหว่างเดินเอ้อระเหยอย่างมีความสุขอยู่ในโรมด้วยความระมัดระวังตัวอยู่นั่นเอง ก็ได้รับโทรศัพท์จากคนไทยที่มาท่องเที่ยวว่ากระเป๋าถูกล้วงในรถไฟใต้ดิน ต้องการความช่วยเหลือกลับเมืองไทย คำเตือนต่างๆ ที่ได้รับมาตั้งแต่ก่อนเดินทางมาอิตาลีหรือที่พี่คนไทยในที่ทำงานเตือนก็ประดังเข้ามาทันที

โชคดีที่เหยื่อไม่ใช่เรา แต่โชคร้ายที่เป็นคนไทยและเป็นวันหยุดราชการ ไอ้คนที่ล้วงจะเลือกล้วงในวันทำงานหน่อยก็ไม่ได้ ลำบากทั้งคนไทยลำบากทั้งเจ้าหน้าที่ 


เนื่องจากมีชาวต่างชาติโดยเฉพาะประเทศ รมน. อพยพเข้ามาลักลอบอยู่อาศัยในประเทศนี้จำนวนมาก และไม่สามารถทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ อาชีพนักล้วงกระเป๋าจึงได้รับการพัฒนาถึงขั้นสูง มือเบาจนชนิดที่เรียกว่าแค่เดินสวนกันห่างๆ ก็โดนล้วงกระเป๋าไปแล้ว

ข้อสังเกตที่มักจะเป็นประโยชน์แทบทุกครั้ง คือ อะไรก็ตามที่เป็นการเรียกร้องหรือเบี่ยงเบนความสนใจ อย่าไปสนใจโดยเด็ดขาด ใครจะว่าไม่มีน้ำใจก็ช่างมันปะไร เช่น แกล้งหกล้ม แกล้งเข้ามาถามทาง ขอบุหรี่ เคาะกระจก แกล้งโดนประตูรถไฟใต้ดินหนีบ (ใช่ มันลงทุน) แกล้งทะเลาะกัน แกล้งตีลูก แกล้งคุยโทรศัพท์เสียงดัง และกลเม็ดเคล็ดชั่วอื่นๆ อีกมากโข


ไปในที่ที่มีผู้คนขวักไขว่ เช่น ท่ารถ สนามบิน สถานที่ท่องเที่ยว รถไฟใต้ดิน จงกอดกระเป๋าให้แน่น หมั่นเอามือคลำว่าของยังอยู่ครบสมบูรณ์ ยังโชคดีที่ประเภทเข้ามาชิงทรัพย์ทำร้ายร่างกายแบบประเทศอื่นในยุโรปยังไม่ค่อยมี


ทั้งหมดนี้ไม่ได้ให้กลัวครับ แต่ไม่เสียหลายหากจะระวังตัว มาเที่ยวแล้วก็สนุกให้เต็มที่ โดยเฉพาะหน้าร้อน กว่าจะมืดก็สามทุ่มโน่น

จบบล็อกแรกสำหรับการเริ่มชีวิตในโรมแต่เพียงเท่านี้

 
 
 
 




 

Create Date : 29 มิถุนายน 2558
3 comments
Last Update : 31 ธันวาคม 2564 0:00:54 น.
Counter : 2750 Pageviews.

 

ส่วนตัวไม่ชอบโรมเลย แต่โรมดูยิ่งใหญ่

 

โดย: ฟิลิปดา (สมาชิกหมายเลข 1795981 ) 30 มิถุนายน 2558 0:46:45 น.  

 

คิดเสียว่าเวลาไปเดินจตุจักร ระวังโจรแบบไหน มาเที่ยวอิตาลีเมืองใหญ่ๆก็ระวังตัวแบบนั้นแหละค่ะ เที่ยวให้สนุกนะคะ

 

โดย: settembre 30 มิถุนายน 2558 18:18:33 น.  

 

โรมนี่ได้ยินบ่อยเลยค่ะพี่กุ๊กเรื่องนี้ หนูเคยไปแต่มิลาน เจอพวกยิปซีเข้ามา เดินหนีแทบเสียสติ ถ้าของหายไปหนูคงเป็นบ้า

 

โดย: เป้เอง IP: 61.90.113.211 1 กรกฎาคม 2558 10:14:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Thaisoloclub
Location :
Rome Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




Friends' blogs
[Add Thaisoloclub's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.