เมื่อเท้ามันคัน อะไรมันๆ จะเกิดขึ้น
Group Blog
 
<<
เมษายน 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
16 เมษายน 2559
 
All Blogs
 

อิตาลี : Pisa เมืองที่ยังไงคนไทยก็ต้องรู้จัก











 โตมาพร้อมการเรียนการสอนแบบไทยรุ่นเก่า ถึงจะไม่พัฒนาแข่งขันกันอย่างทุกวันนี้ แต่ก็คลาสสิก มีความสุขในการเรียนและสร้างเพื่อนได้ดี เห็นหลานต้องเรียนทั้งในห้องและนอกห้องแล้วยังต้องทำกิจกรรมอะไรอีกมากมายในวัยเพียงไม่กี่ขวบปีแล้วเครียดแทน ดีใจมากๆ ที่ผ่านวัยนั้นมาได้โดยไม่ต้องทำอะไรแบบนี้

การเรียนแบบเก่าที่ว่านี่คือกำลังนึกถึงภาพโปสเตอร์สมัยนั้น ที่จะมีขายตามร้านเครื่องเขียนหรือร้านขายหนังสือใหญ่ๆ ที่บ้านผมชอบซื้อมาติดตามฝาบ้าน พ่อแม่คิดว่าลูกได้เห็นทุกวันก็คงจำอะไรได้บ้างไม่มากก็น้อย พวกท่ารำวงมาตรฐาน ธงชาติประเทศต่างๆ สิ่งมหัศจรรย์ของโลก อาหาร 5 หมู่ และอื่นๆ อีกมากจนเต็มฝาบ้าน ที่ชอบและจำได้ คือ สิ่งมหัศจรรย์ของโลก และจำได้ติดตาไม่มีวันลืมเลย คือ หอเอนปิซา เพราะเอกลักษณ์ของมันที่ไม่เหมือนใคร หอเอียงๆ ในประเทศอิตาลี จะล้มลงมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ 

ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้ไปเดินเล่นและปีนป่าย เหมือนฝันตอนเด็กเป็นจริง ตอนเห็นหอเอนปิซาครั้งแรกต้องบอกว่าขนลุกเลย ภาพโปสเตอร์ข้างฝาลอยมาทันที

จากโรมไปเมืองปิซาได้หลายแบบครับ ไม่ต้องงงว่าทำไมผมต้องตั้งต้นจากโรมตลอด เพราะผมอยู่ที่นี่ ในช่วงเวลาสองสามปีนี้คงพูดได้เต็มปากว่าบ้านผมอยู่ที่โรม แม้ธนาคารหลายแห่งในโรมจัดประเภทผมเป็นผู้ไม่มีถิ่นพำนักก็ตาม ไปได้หลายแบบ คือ จะไปรถไฟ รถบัส หรือขับรถไปก็ได้ครับ

แบบสายตรงจากโรมไปปิซ่าเลยมีหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ตอนผมไป ผมไปเดินเล่นที่ฟลอเรนซ์ก่อนแล้วจึงต่อรถไปปิซาครับ ไปได้ทั้งทางรถไฟและรถบัส รถไฟจะสะดวกกว่า ราคาไม่แพงเพราะเป็นรถไฟวิ่งระหว่างเมือง (Regionale) และไปถึงกลางเมือง ต่อรถเมล์จากสถานีรถไฟไปอีกสองสามป้ายก็ถึงหอเอนแล้ว 


แต่ตอนผมไปครั้งแรกดันไปนั่งรถบัส เพราะอะไรก็ไม่ทราบ ต่อรถอีกหลายต่อกว่าจะถึงปิซา ไม่ได้ลำบากอะไรแต่คงไม่สะดวกเท่ารถไฟ


ไปครั้งที่สองเลยขับรถไปเลยครับ จากโรมขับเพลินๆ ก็ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ไปถึงหอเอนเป๊ะ โดยรอบมีที่จอดรถบริการมากมาย ราคาพอทน อย่างผมจอดไป 3 ชม. จ่ายไปประมาณ 7 ยูโร 


หลายคนบอกว่าปิซ่าไม่มีอะไร เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ มีแค่หอเอนอย่างเดียวจริงๆ 


แต่สำหรับผมถ้าได้มาอิตาลีแล้ว หาโอกาสมาเถอะ มาง่าย อยู่แป๊บเดียวก็ได้


มันเหมือนมาไม่ถึงอิตาลีถ้าไม่ได้มา เห็นมาแต่เล็กแต่น้อย ใครมีโอกาสได้มาก็คงอยากเห็นของจริง เผลอๆ คนไทยเราจะรู้จักอิตาลีเพราะหอเอนมากกว่าโคลอสเซียมเสียอีก


ค่าเข้าไม่มีครับ เข้าฟรี แต่หากจะขึ้นหอหรือเข้าโบสถ์จะเสียค่าเข้า 18 ยูโร น่าสนใจมั้ยล่ะ


ผมไปมาแล้วสองครั้ง ครั้งหนึ่งมีฝนลงเบาๆ อากาศขมุกขมัว ลมผัดเย็นฉิว 


อีกครั้งแดดจัด อากาศดี ฟ้าเป็นสีคราม 


อารมณ์ต่างกันโดยสิ้นเชิง วันที่แดดจัดถ่ายรูปสนุกมาก เพราะสิ่งปลูกสร้างในบริเวณนี้สร้างด้วยหินอ่อน จะสะท้อนรับแดดสวยงามมาก



รูปที่จะเอาลงจึงเป็นของวันที่มีแดดเสียส่วนใหญ่นะครับ 


หอเอนแห่งเมืองปิซาแท้จริงแล้วคือหอระฆังทรงกระบอก 8 ชั้น สูงประมาณ 56 เมตร มีบันได 293 ขั้น เอียงไปแล้ว 3.97 องศา 


เริ่มสร้างเมื่อปี 1173 แต่ใช้เวลาสร้างนานมาก


เพราะพอสร้างได้ 3 ชั้นก็เริ่มเอียง ต้องหยุดสร้าง 


มีคนมาออกแบบใหม่ สร้างๆ หยุดๆ เพราะสงคราม


และก็เสร็จ 8 ชั้นในที่สุด 


ขนาดว่าสร้างให้หอเอนไปอีกข้างหนึ่งเพื่อให้หอเอนมีความสมดุลแล้ว 


ในช่วงปี 2000 ยังมีการเสริมฐานของหอเอนให้แข็งแรงอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ล้มลงมาในร้อยปีนี้แน่ๆ 


เด็กๆ ต้องรู้จักกาลิเลโอแน่ เพราะหอที่เอนนี้เอง กาลิเลโอได้ใช้ทดลองแรงโน้มถ่วงด้วย


แถมยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง  


เข้าไปแล้วเห็นนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนเอเชียบ้านเรา ทำท่าค้ำหอกันแทบทุกคน 


ไม่ต้องอายนะครับ ทำไปเลย ฝรั่งยังทำเลย 


จากมุมที่เขานิยมทำท่าค้ำหอนี่แหละครับ หอเอนปิซาจะดูเอนที่สุดแล้ว 


ผมลองเดินรอบๆ หอดู ปรากฏว่าจากมุมอี่นดูแล้วไม่เอียงเท่านี้ 


นึกท่าไม่ออกก็ดูคนอื่นก็ได้ครับ มีท่าแปลกๆ ใหม่ๆ เยอะ ลองเลือกเอาสักท่าหนึ่ง 


ถ้าติดตามบล็อกผมมาบ้าง จะทราบว่าผมโปรดการชมวิวทิวทัศน์จากมุมสูงมาก ไปไหนหากมีหอ หน้าผาหรือเคเบิลให้ขึ้น ไม่เคยพลาด

ค่าขึ้นหอเอนปิซา 18 ยูโร รวมค่าเข้าโบสถ์ซึ่งไม่น่าสนใจเท่าถือว่าค่อนข้างแพง 


ที่ผ่านมาเข้าพิพิธภัณฑ์ดีๆ ในโรมก็แค่ 12 ยูโรเอง แต่เพื่อความฟินที่แตกต่างและให้ฝันในวัยเด็กเป็นจริง งานนี้ยอมลงทุนครับ


เขาให้ขึ้นเป็นรอบๆ มีไกด์เล่าประวัติเล็กน้อยเป็นน้ำจิ้มก่อน


และก็ปล่อยให้เดินขึ้นบันไดวน 293 ขั้นกันตามอัธยาศัยและสังขาร


จะเดินช้าเดินเร็ว เดินไม่พักเลย หรือเดินไปพักไป ก็ขึ้นถึงยอดเหมือนกัน


บางจังหวะรู้สึกว่าตัวเอียงไปด้วย ต้องคอยบาลานซ์มาอีกด้าน 


ไม่นานก็ถึงยอดครับ พูดถึงความสูงก็ยังไม่มาก เพราะหอหรือยอดโบสถ์หลายที่สูงกว่านี้


แต่ความจริงที่ว่าเรากำลังอยู่บนยอดหอที่เอนต่างหากที่รู้สึกว่าคุ้มค่า 18 ยูโร


มองไปเห็นพาโนรามาเมืองปิซารอบทิศ


ผมเดินวนถ่ายภาพอยู่ประมาณ 3 รอบจนพอใจ แล้วจึงเดินกลับลงมา


สิ่งปลูกสร้างในบริเวณเดียวกันยังมีวิหารและหอล้างบาป 


ไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก พลาดก็คงไม่เป็นไร ไม่ใช่เพราะบาปหนาล้างไม่หมด แต่เพราะหอเอนมันโดดเด่นเหนือทุกสิ่งอย่างในเมืองนี้ 


ถ้ามาติดเที่ยง ร้านแถวๆ หอเอนก็มีให้ทานนะครับ ทั้งแบบทานช้า ทานเร็ว ร้านจีน บุฟเฟต์ หาเอาได้ตามแต่พอใจ พวกผมเลือกแบบทานเร็ว ราคาไม่แพง มีห้องน้ำให้เข้า พอแล้วครับ 

เดินเล่น กิน เที่ยวถ่ายรูปประมาณ 2 ชม. ครับ มีแผนต้องไปเดินฟลอเรนซ์ต่อ ไว้จะเอารูปวิวสวยๆ ของฟลอเรนซ์มาลงให้ดูเพลินๆ ไม่เขียนบรรยายให้ยืดยาว

สุดท้ายขอฝากไว้ในง่ามใจทุกท่าน อิตาลีเที่ยวสนุกจึงไม่อยากให้ทุกข์ถนัด จงหูตาไว ไม่คุยกับคนแปลกหน้า เก็บรักษาทรัพย์สิน อย่ามัวแต่ฟินถ่ายรูป







 

Create Date : 16 เมษายน 2559
2 comments
Last Update : 31 มีนาคม 2561 2:15:31 น.
Counter : 2796 Pageviews.

 

ภาพ สวย... น่าไปเที่ยว.. แต่ต้องเก็บตังค์อีกนานครับ 555

ขมวดตอนท้าย หมายถึงเราต้องระวังใช่เปล่าครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 16 เมษายน 2559 5:07:36 น.  

 

ถ้ามีโอกาสจะทำท่าค้ำด้วย อิอิ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Thaisoloclub Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: praewa cute 27 เมษายน 2559 17:08:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Thaisoloclub
Location :
Rome Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




Friends' blogs
[Add Thaisoloclub's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.