แกงส้มในภาษาใต้ก็คือแกงเหลืองในภาษากลาง ส่วนแกงส้มภาษากลางเองก็มี หมายถึงแกงส้มของทางภาคกลาง หลายคนต้องเคยเห็นตามตลาดสดหรือร้านขายข้าวแกงในกรุงเทพฯ ที่มันไม่เข้มข้นมาก สีออกส้มๆ มากกว่าเหลือง ใส่กุ้งปลาป่น และนิยมแกงกับผักรวมมิตร รสชาติหวานนำ
มาถึงจุดนี้ คนภาคกลางเคยบอกผมเหมือนกันว่า แกงเหลืองแบบของภาคกลางเองก็มี ไม่ทราบว่าหน้าตารสชาติเป็นไง ไปหาความรู้เพิ่มเติมกันเองแล้วกันครับ
อาหารคู่บารมีของแกงส้ม(ใต้) ที่มักจะขาดไม่ได้ นอกจากพวกปลาทะเลแดดเดียวทอดและไข่เจียวแล้ว คือ หมูหวานนั่นเอง ทำง่าย เพราะมีแค่หมูกับความหวาน ทานกับแกงเผ็ดๆ เข้ากั๊นเข้ากัน แต่ถ้าทานเปล่าๆ อาจจะคิดตำหนิว่าคนใต้จะกินหวานอะไรขนาดนั้น
เริ่มจากเลือกหมูตามใจชอบ สันนอก สันใน สันดาน สามชั้น แต่จะให้อร่อยก็ต้องมีมันติดด้วย ไม่ถูกหลักอนามัยแต่ถูกใจรับรอง
หอมแดงซอยละเอียด รูปถูกแล้วครับ เพียงแต่ในสถานการณ์นั้นมีเพียงหอมใหญ่ในตู้เย็น อะแด็พใช้แทนไปได้
เอาน้ำตั้งไฟให้ร้อนหรือเดือดแล้วแต่เวลาจะอำนวย
ใส่หมูที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำลงไป รอให้เดือดจนเนื้อหมูเริ่มสุก
ใส่ซีอิ๊วดำ สิ่งสำคัญที่ทำให้หมูหวานของท่านออกมาน้ำตาลไหม้น่ารับทาน บางท่านอาจพ้อว่าน้ำตาลไหม้น่ารับทานตรงไหน ก็สูตรเขามาอย่างนั้น
อย่าใส่เยอะไปเชียว ซีอิ๊วดำไว้เหยาะเพิ่มสีสันกับมีกลิ่นเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้เป็นเครื่องปรุงหลักอย่างน้ำปลา น้ำตาล น้ำมันหอย
รอให้ซีอิ๊วผสมกับเนื้อหมู เข้าเนื้อได้สีที่ต้องการ
ตักน้ำตาลปี๊บหนึ่งช้อนโต๊ะสำหรับทำทานถ้วยเล็กๆ คนเดียวใส่ลงไป คนให้ละลายทั่วถึง น้ำตาลทรายใช้แทนได้มั้ย บอกตามตรงว่าสำหรับเมนูนี้ให้ไปดั้นด้นหาน้ำตาลปี๊บมาเลย
เข้ากันดีแล้ว ดูให้พอมีน้ำขลุกขลิก ชิมสักหน่อย จะมีแค่หวานไปหรือหวานน้อยไป เติมอะไรเอาตามสัดส่วน หรือบางคนจะทำแบบขนมหวาน เอาเกลือหรือน้ำปลาเท่าปลายเล็บตัดหวานเสียหน่อยก็ได้
โรยหอมแดงซอย คนอีกสองทีเป็นอันจบบริบูรณ์
เสิร์ฟพร้อมแกงส้มรสเผ็ดจะเข้ากันที่สุด หรือแกงอื่นใดอีกก็ได้ที่เผ็ดไม่แพ้กัน ช่วยให้ทานข้าวได้เยอะขึ้น แถมแก้เผ็ดได้อีกต่างหาก
เมื่อวานเลือกตั้ง ไม่ได้ไปเลือก พอดีเขาจะให้ข้ามโลกไปเลือก ขอเลือกอยู่บ้านดีกว่าครัช