วันนี้มาแนะนำเพื่อนๆทำอย่างไรให้ผลผลิตที่ดีและได้รับความนิยมในตลาด
น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลกสำหรับการปลูกมะม่วงการให้น้ำ ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่ง เพื่อให้ผลผลิตมะม่วงได้อย่างเต็มที่การให้น้ำอย่างเพียงพอตามที่ต้นมะม่วงต้องการ จะช่วยให้ต้นมะม่วงเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์สม่ำเสมอ ไม่ชะงักทำให้ได้ผลเร็วขึ้นสำหรับมะม่วงที่ปลูกใหม่ กรณีฝนไม่ตกควรรดน้ำให้ทุกวันแล้วค่อยเว้นระยะในการให้น้ำไปเรื่อยๆ เช่น 3 - 4วันต่อครั้งก็พอ จนกว่าต้นมะม่วงจะตั้งตัวได้ การปลูกมะม่วงในที่แห้งแล้งไม่ค่อยมีน้ำเพียงพอ ควรจะปลูกในช่วงต้นๆ ของฤดูฝน เพื่อให้ต้นกล้ามะม่วงได้รับน้ำฝนนานที่สุดทั้งนี้ก็เพื่อให้ต้นกล้ามะม่วงตั้งตัวได้ก่อนถึงฤดูแล้ง หรือจะปลูกต้นกล้วยก่อนแล้วจึงปลูกมะม่วงไว้ข้างๆ ห่างจากต้นกล้วยประมาณ 50 เซนติเมตรก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยประหยัดการให้น้ำมะม่วงได้มาก และต้นกล้ามะม่วงยังมีเปอร์เซ็นต์รอดเกินร้อยเปอร์เซ็นต์อีกด้วย
วัชพืชก็คือพืชที่เราไม่ต้องการนั่นเองครับในการปลูกมะม่วงหรือปลูกพืชอย่างอื่นก็ตามแต่ การกำจัดวัชพืชต้องทำอยู่เสมอเพราะวัชพืชต่าง ๆ เหล่านี้ จะคอยแย่งน้ำและธาตุอาหารจากต้นมะม่วงที่เราปลูกไปหมดทำให้ต้นมะม่วงเจริญเติบโตไม่เต็มที่ อีกอย่างหากเราปล่อยให้สวนมะม่วงรกรุงรังจนเกินไปนั่นจะเป็นที่อยู่อาศัยของโรคแมลงต่าง ๆ ที่จะทำลายต้นมะม่วงที่เราปลูกไว้อีกด้วยการกำจัดวัชพืชมะม่วงสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การถางด้วยจอบ การปลูกพืชคลุมดินการปลูกพืชแซม และการคลุมดินด้วยวัสดุคลุมดินต่าง ๆ เป็นต้น หรือจะไถพรวนให้วัชพืชตายอยู่เสมอก็ทำได้การจะใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับความสะดวกและเหมาะสมของแต่ละคนครับ แต่วิธีที่อยากแนะนำมากที่สุดก็คือการปลูกพืชคลุมดินเพราะพืชคลุมดินปลูกครั้งเดียวสามารถอยู่ได้หลายปี และวิธีที่ควรหลีกเลี่ยงคือการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชเพราะเป็นแนวทางที่ไม่ปลอดภัยทั้งตัวผู้ใช้เอง และสภาพแวดล้อม แถมยังทำให้ดินในสวนมะม่วงเสื่อมคุณภาพอีกด้วย
จะเห็นว่าเราจะทำอย่างไรให้มีผลผลิตที่ดีได้ค่ะ

Create Date : 12 เมษายน 2560		0 comments
Last Update : 12 เมษายน 2560 9:17:17 น.
Counter : 758 Pageviews.
Share Tweet