ที่ใดมีธรรมะ...ที่นั่นจะพบกับทางออกของชีวิต ^_^
Group Blog
 
 
มีนาคม 2560
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
20 มีนาคม 2560
 
All Blogs
 
5. กาย...เวทนา...จิต...ธรรม



 

ฝึกกรรมฐานที่หลวงพ่อสอน  ว่าต้องแยกธาตุแยกขันธ์นั้น

 

แยก  5  ขันธ์ไม่ได้ไม่เป็นไร  อย่างน้อยแยก  2  ขันธ์

 

พอแยกเป็น  2  ได้  ความเป็นตัวเป็นตนมันก็แตกแล้ว  ไม่รู้สึก

 

มีตัวมีตน  มีตัวเราเพราะมีการรวมกลุ่มกันของขันธ์

 

เรียกว่ามีฆนะ  ฆนสัญญา  ฆนะไปหมายรู้มวลธรรม
ไปหมายรู้ความเป็นกลุ่มเป็นก้อนของขันธ์ขึ้นมารวมกัน

 

ไปหมายรู้ว่าคือตัวเรา  รูป  เวทนา  สัญญา  สังขารไม่มี

 

แต่เป็นอันเดียวเรียกว่า  “เรา”  ดังนั้นเรามาหัดแยกขันธ์

 

ทำฆนะให้แตก  แยก  5  ขันธ์ไม่ได้  ไม่เดือดร้อน  ไม่ต้องกลัว

 

ให้ได้  2  อันก็ยังดี  แค่  2  ก็พอแล้ว

 

                ถนัดดูกาย  ก็เห็นร่างกายหายใจออก  ร่างกาย

 

หายใจเข้า  ร่างกายยืน  เดิน  นั่ง  นอน  ร่างกายคู้  ร่างกายเหยียด

 

ร่างกายเคลื่อนไหว  ร่างกายหยุดนิ่ง  จะเห็น

 

ร่างกายทำงาน  ใครเป็นคนเห็น  มีจิตเป็นคนเห็น  นี่ไง

 

กายกับจิตก็เป็น  2  อัน  2  ขันธ์  2  ส่วน  แค่นี้ก็พอแล้ว

 

แค่นี้ก็บรรลุมรรคผลได้แล้ว  เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เห็นกาย

 

ไม่ใช่เรา  จิตก็ไม่ใช่เรา  ไม่มีเราเหลือที่ไหนอีกแล้ว  การที่

 

เห็นร่างกายทำงานจิตเป็นคนดูเรียกว่า  การเจริญกายา

 

นุปัสสนาสติปัฏฐาน

 

                มีกายในกายคือ  มีกายแต่ละส่วน  เช่น  ร่างกายที่

 

หายใจออกก็อันหนึ่ง  ร่างกายที่หายใจเข้าก็อันหนึ่ง

 

อย่างนี้เรียกว่ากายในกาย  ร่างกายที่ยืน  ร่างกายที่เดิน

 

ร่างกายที่นั่ง  ร่างกายที่นอน  เรียกกายในกาย  หมายถึง

 

ดูกายแต่ละช็อตๆ  ไป  ใครเป็นคนดู  จิตเป็นคนดู  จิตอยู่

 

ในวิญญาณขันธ์  ถ้าแยกได้  2  ขันธ์  เห็นร่างกายทำงาน

 

จิตเป็นคนดูเรียกว่า  เจริญกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน

 

                ไม่ถนัดดูกาย  ดูความสุข  -  ความทุกข์ก็ได้

 

เห็นความสุข  -  ความทุกข์เป็นอีกขันธ์หนึ่ง  เรียกว่า  เวทนาขันธ์

 

ความสุขเกิดขึ้นจิตเป็นคนรู้  ความทุกข์เกิดขึ้นจิตเป็นคนรู้

 

ความสุขเกิด  แล้วอยู่  แล้วก็หาย  จิตเป็นคนดู

 

ความทุกข์เกิดขึ้น  ตั้งอยู่  แล้วก็หายไป  ดับไป  จิตเป็นคนดู

 

                แยกได้  2  ขันธ์  เวทนากับจิตคือตัววิญญาณขันธ์

 

จิตอยู่ในวิญญาณขันธ์  แยกได้  2  อันนี้  แล้วอาศัยรู้เวทนา

 

เนืองๆ  เรียกว่า  เจริญเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน  ฉะนั้น

 

ไม่ต้องแยก  5  ตัวหรอก  ถนัดดูกายก็เห็นกายทำงาน

 

ใจเป็นคนดู  ถนัดดูเวทนาก็เห็นเวทนาทำงานใจเป็นคนดู

 

มีใจเป็นคนดูนี้ล่ะ

 

                เป็นคนอารมณ์หวือหวา  เดี๋ยวก็อารมณ์ดี  เดี๋ยวก็

 

อารมณ์ร้าย  หรือบางคนมีอารมณ์เดียว  ขี้โมโห  เดี๋ยวก็โกรธ

 

ไม่รู้จะโกรธใครก็โกรธตัวเอง  โกรธตัวเองเบื่อแล้ว

 

ก็โกรธดิน  ฟ้า  อากาศ  โกรธทุกสิ่งทุกอย่าง  อย่างนี้เรา

 

ก็เจริญจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน  เราเห็นความโกรธเกิดขึ้น

 

ตั้งอยู่  ดับไป  จิตเป็นคนดู  เห็นความโลภเกิดขึ้น

 

ตั้งอยู่  ดับไป  จิตเป็นคนดู  เห็นความฟุ้งซ่านเกิดขึ้น  ตั้งอยู่

 

ดับไป  จิตเป็นคนดู  เห็นความลังเลสงสัยเกิดขึ้น  ตั้งอยู่

 

ดับไป  จิตเป็นคนดู  ง่ายๆ  อย่างนี้เอง  อย่างนี้เรียกว่า

 

เจริญจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน  แยกสังขาร  แยกจิต

 

สังขารกับจิตออกจากกัน  พอแยกได้แล้วจะไม่มีตัวมีตน

 

                ธัมมานุปัสสนา  อันนี้ละเอียดลึกซึ้ง  มีทั้งรูปทั้งนาม

 

อันนี้แยกได้หลายอัน  แยกได้หลายขันธ์  ก็จะเห็น

 

การทำงานสืบเนื่องกันไป  ไม่ใช่เห็นแต่ตัวอันใดอันหนึ่ง

 

หรือสภาวะอันใดอันหนึ่ง  อย่างเวลาเห็นจะเห็นการ

 

ทำงานของมัน  เช่น  เห็นนิวรณ์  รู้ว่านิวรณ์แต่ละตัว

 

ตัวนี้ทำไมเกิด  ตัวนี้ทำไมไม่เกิด  หรือเห็นโพชฌงค์  โพชฌงค์

 

เกิดได้อย่างไร  เกิดเป็นลำดับได้อย่างไร  เกิดร่วมกันได้

 

อย่างไร  อัศจรรย์นะโพชฌงค์  สนุก

 

                หัดใหม่ๆ  เราก็มีสติ  สติก็คือ  สติปัฏฐานรู้

 

รูปนาม  การที่เห็นรูปนามตามความเป็นจริงเขาเรียกว่า

 

ธรรมวิจยะ  แล้วก็ขยันดู  ดูไปเรื่อย  เห็นรูปนามทำงาน

 

ไปเรื่อย  เรียกวิริยะ  ดูไปมากๆ  มีปีติในธรรม  ไม่ใช่ปีติ

 

ของสมาธิ  เป็นปีติเกิดจากปัญญา  มีปีติเกิดขึ้น  สติระลึก

 

รู้อีก  ก็เห็นปีติสงบลงไป  ดับลงไป  เป็นปัสสัทธิ  แล้วจิต

 

ก็ตั้งมั่นเป็นสมาธิขึ้นมา  นี่เบื้องต้นเห็นเป็นลำดับ

 

                แต่ตอนที่จะแตกหักมันเกิดด้วยกัน  ก็แปลกดี

 

สติก็มี  สมาธิก็มี  ธรรมวิจยะคือตัวปัญญาก็มี  มันจะเห็น

 

ปฏิจจสมุปบาท  เห็นอริยสัจ  รู้ว่าอะไรคือทุกข์  รู้หน้าที่ต่อทุกข์

 

ได้รู้หน้าที่ต่อทุกข์แล้ว  ได้ทำหน้าที่ต่อทุกข์คือการ

 

รู้แล้ว  ก็คือได้ทำแล้วรู้ว่าอะไรเป็นสมุทัย  อะไรเป็นนิโรธ

 

อะไรเป็นมรรค  อะไรเป็นหน้าที่ต่อสมุทัย  ต่อนิโรธ 

 

ต่อมรรค  ได้ทำหน้าที่แล้ว

 

                ค่อยฝึกไป  ก็จะเห็นกระบวนการที่จิตปรุงแต่ง

 

ความเป็นตัวตน  ความเป็นทุกข์  สุดท้ายก็เห็นความดับสนิท

 

ของความเป็นตัวตน  ความเป็นตัวทุกข์  เมื่ออวิชชา

 

ดับลง  อันนี้ยากหน่อย  แต่ไม่ว่าเราจะเริ่มจากกาย  หรือเริ่ม

 

จากเวทนา  เริ่มจากจิตนั้นก็มีจิตเป็นคนดู  จิตตานุปัสสนา

 

ก็เห็นกุศล  -  อกุศลเกิดดับ  จิตเป็นคนดู

 

                สุดท้ายทุกคนจะลงมาที่ธัมมานุปัสสนาทั้งๆ  ที่

 

เราดูกายอยู่นี้ล่ะ  แต่ถึงวันหนึ่งเราก็จะเข้าถึงธรรม  ดูแต่

 

เวทนามาตลอดสุดท้ายวันหนึ่งก็จะเข้ามาถึงธรรม  ดูจิต

 

ก็เข้าไปถึงธรรม  ถึงอะไร  เข้าไปรู้แจ้งแทงตลอดในอริยสัจ

 

สุดท้ายทุกคนจะมารู้อริยสัจ  อริยสัจนี่ลึกซึ้ง  สำคัญ

 

ตราบใดที่อริยสัจยังอยู่  พระพุทธศาสนายังอยู่  อริยสัจ

 

หายไป  พระพุทธศาสนาหายไป

 

“ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนา  หลวงพ่อปราโมทย์  ปาโมชฺโช

 

วันที่  13  มีนาคม  พ.ศ.  2558

 

จากซีดีแสดงธรรม    วัดสวนสันติธรรม  แผ่นที่  58

 

ไฟล์  580313B”

 

จากหนังสือธรรมะโดนใจ

 

บางส่วนจากพระธรรมเทศนา  หลวงพ่อปราโมทย์  ปาโมชฺโช

 

รวบรวมโดย  ลูกศิษย์หลวงพ่อปราโมทย์  ปาโมชฺโช

 

พิมพ์โดย  บริษัท  พรีมา  พับบลิชชิง  จำกัด

 




Create Date : 20 มีนาคม 2560
Last Update : 20 มีนาคม 2560 17:16:32 น. 0 comments
Counter : 297 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นาคสีส้ม
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




วัตถุประสงค์ของ blog นี้ :

เนื่องจากส่วนตัวเป็นคนชอบได้หนังสือธรรมะมาจาก
ที่ต่างๆ และมักชอบซื้อมาอ่านเป็นประจำเสมอ
เลยทำให้หนังสือกองเต็มบ้านมากมาย
เวลาจะนำไปบริจาค ก็มักจะเสียดาย เพราะ
บางครั้ง บางที ก็หยิบเล่มเก่าๆมาอ่านอีกรอบ
เวลาใครมาขอรับบริจาคอะไรต่างๆ
มักจะหวงไว้ ไม่ค่อยส่งต่อหนังสือให้ใคร

จนมาคิดว่า ไม่ควรจะหวงไว้
เพราะเนื้อหาค่อนข้างมีประโยชน์
นำมาปรับใช้ในชีวิตได้เป็นอย่างดี
เลยอยากจะแบ่งปันความสุขให้คนอื่นๆ

เลยจัดทำ blog นี้ขึ้นมาค่ะ
ไว้เก็บรวบรวมเนื้อหาที่ได้อ่านแล้ว
มาเก็บไว้ที่นี่ ส่วนหนังสือก็จะนำไปบริจาค
ให้คนอื่น ได้ใช้ประโยชน์ต่อไปค่ะ

สำหรับเล่มไหนที่เพื่อนๆคิดว่าสนุก
ก็สามารถแนะนำได้นะคะ ^__^
Friends' blogs
[Add นาคสีส้ม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.