เหมือนเดิมค่ะ เราไปชมวิดีโอกันก่อน แล้วค่อยมาชมภาพกันค่ะ (ภาพอยู่ข้างล่างวิดีโอนะคะ)
หลังจากชมสะพานบรู๊คลิน ถ่ายรูปกันจุใจแล้ว เรามุ่งหน้าไป Battery park ที่เป็นที่ที่จะลงเรือไปเทพีเสรีภาพ
จากสถานี Brooklyn bridge สามารถนั่งสาย 4 หรือ 5 ไปที่สถานี bowling green ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้ Battery park.
เวลาขึ้นรถไฟนะคะ เราต้องดูว่าเราจะไปทางไหน uptown หรือ downtown
เรื่อง uptown หรือ downtown ของนิวยอร์กนี่หมายความว่า ดูตามเลข street น่ะค่ะ
(เส้นขวาง) เลขเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คือ อัพทาวน์ เลขลดลงเรื่อย ๆ คือดาวน์ทาวน์ ประมาณว่าถ้าเราอยู่ lower east side แล้วจะไป central park นั่นคือเราจะไป uptown ค่ะ แต่บางทีคำว่า downtown มันจะหมายถึงในเมืองอะไรแบบนี้เหมือนกัน หรือบางคนบอกว่าเขาอยู่ย่านdowntown มันก็แปลได้ว่าเขาอาศัยอยู่ถนนเลข 80 ลงมา อะไรงี้ก็ได้ค่ะ
แต่ถ้าขึ้นรถไฟ เราจะไปทางไหน ให้ดูเลข street เป็นหลักค่ะ
การจะมา battery park ให้มาขึ้นที่สถานี Bowling green พอเรามาถึงก็จัดว่าสายมาก แถวซื้อตั๋วขึ้นเรือยาวมาก เราตัดสินใจไม่ขึ้นกัน เพราะดูแล้วถ้ารอคงไม่ได้ไปเที่ยวที่อื่น
ถ่ายรูปจากฝั่งก็พอเห็น
เราไปกันต่อ ตรง battery park ถ้าใครหิวก็มีร้านรถเข็นเหมือนตรงสะพานบรู๊คลินเช่นกัน
เราไปที่สถานี Cortlandt street (นั่งสาย 1 จาก South ferry มาที่สถานีนี้) สถานีนี้ใกล้สุดแล้วถ้าจะไป 911
บริเวณ Ground zero ตอนนี้ก็จะเป็นน้ำพุค่ะ
ชมวิวกันนิดหน่อยนะคะ
จากนั้นเราเดินไปสถานี Chamber street เพื่อที่จะนั่งรถสาย 1 ไป Central park เอวิตั้งใจจะไปลง 72th street ตรง strawberry field ของ Central park แต่แล้ว
มันเป็นด่วนพิเศษ !!! ไม่จอด ไปแนวๆ Bronx เลย
หลายคนคงได้ยินว่าย่าน bronx เป็นย่านที่ไม่ค่อยปลอดภัยนัก มีคนผิวสีอยู่กันเป็นจำนวนมาก และตอนนี้รถสาย 1 พาเรามาถึงสถานี 207 เลยจ้า สองหมวยนี่รีบลงรีบขึ้นอีกคันกลับมาโดยพลัน เหอเหอ
แล้วเราก็มาถึง central park จนได้ค่ะ
มีรถม้า ที่คนขับโฆษณาว่าถูกมาก เกือบฟรีนะ แต่ไม่ได้ลองหรอกค่ะ ไว้รวยถูกหวยจะมานั่งนะคะ
อากาศดีมาก ๆ ไม่ร้อนไม่หนาว เย็น ๆ กำลังสบาย
มีต้นไม้ใหญ่ที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอยู่ไม่กี่ต้น ตรงนี้คนมานอนเล่นเยอะเลย
นอนบ้าง
ความเขียวท่ามกลางมหานครนิวยอร์ก
เดินไปต่อ เกือบถึง Bethesda Terrace and Fountain
มุมมหาชน
หนังเกือบทุกเรื่องถ้าเป็นนิวยอร์กมันต้องมีสักตอนที่มาที่นี่ Bethesda Fountain
ถ้าเป็น CSI NCIS Forever Mystery of laura น้อยๆต้องมีคนตายที่นี่ จัดว่าผีดุกันเลยทีเดียว (ยังคงติ่งซีรีย์อย่างต่อเนื่อง)
ถ่ายรูปกันเข้าไปค่ะรัวๆ
เราเดินต่อไปนะคะ
เราไปกันต่อตรง Strawberry field ที่เป็นที่ระลึกถึง John lennon จุดนี้จะอยู่ตรงข้ามกับ Dakota apartment ที่ที่เป็นที่อยู่ของเลนนอน และเป็นที่ที่เขาถูกฆาตกรรม ดังนั้นถ้ามาที่ Strawberry field บ่อยครั้งจะเจอคนเล่นเพลงของเลนนอน โดยเฉพาะเพลง imagine
เราใช้เวลาที่ Central park พักใหญ่เลยค่ะ เพราะคุณนายวิกกี้ใส่ส้นเข็มมา (เข้าใจนางหน่อย นางเพิ่งเที่ยว ตปท ครั้งแรก) ก็ดีค่ะ เอวิก็ได้นั่งพัก คุยกันเรื่องชีวิตของแต่ละคน
สักห้าโมงเย็น เราก็ไปกันต่อ เราไปยัง Time square ค่ะ การเดินทางไปง่ายมาก ๆ มีรถผ่านหลายสายแล้วแต่ว่าจะขึ้นจากมุมไหนของ Central park
จริง ๆ เอวิไม่ค่อยหิว คุณนานวิกกี้หิวแฮะ ตัวเล็กนิดเดียวกินมากกว่าเราอีก บอกเลยทริปนี้เอวิกินน้อยมาก ๆ (ยกเว้นญี่ปุ่นนะ)
เจอร้านนี้ พิซซ่า อะไรประมาณนี้ เป็นแบบบริการตัวเอง ไม่ต้องกังวลเรื่องทิป
ร้าน Villa แถวถนน 42
อาหารหลากหลาย เราซื้อเป็นเซ็ท+ซื้อน้ำเพิ่ม 1 ขวด รวมทั้งหมด 25 เหรียญ หารกันสองคน อิ่มและประหยัด
ผู้ชายแถวนี้ หน้าตาละตินทั้งนั้น มีแฟนหรือยังจ๊ะ อิอิ
หมดนี้ 25 เหรียญ ห้ามคิดเป็นเงินไทยเด็ดขาด
อิ่มกันแล้วเราเดินชม Time square กันสักเล็กน้อย เอวิเห็น sephora รีบจูงวิ้กกี้เข้าไปเลย พอนางเห็นเครื่องสำอางก็หายไปเลย หายหมดแรง นางช้อปเยอะมาก นางรวย เอวิไม่ซื้อหละ เพราะถูกกว่าไทยแค่ 100-150 บาทเท่านั้น บางทีเซ็นทรัลลดราคายังถูกกว่าเลย
ระหว่างหันไปๆมาๆ ใน Sephora เอวิไปเจอผู้หญิงหน้าคุ้นคนนึงค่ะ แม่เจ้า นี่มันนักร้องสุดดังสมัยชั้นยังสาวนี่นา นางแต่งหน้าน้อย ตอนแรกคิดว่าไม่ใช่ แต่มีการ์ดเดินตามสองคน นางเดินเข้ามาแป๊บเดียวก็ไป
คำใบ้ : นักร้องเพลงป๊อบ มีลูกแล้ว ไม่อ้วนอย่างที่คิด ไม่สูงมาก
เป็นใครไม่บอกดีกว่าเดี๋ยวหาว่าชั้นมโน 5555
เดินได้แป๊บเดียว วิกกี้หมดพลังซะแล้ว กลับๆ
ระหว่างทางที่เดินเล่น มีคนเปิดเพลง Empire state of mind เลยร้องตามเหมือนคนบ้า อย่างที่ได้ยินในคลิปแหละค่ะ แหม ทำไปได้
เรานั่งรถกลับมาที่สถานี delancy เราก็จะไม่ได้เจอกันแล้วกับวิกกี้ สัญญากับนางว่าถ้าไปมาเก๊าจะไปหา (นางทำงานที่มาเก๊า)
กลับมาที่ bluemoon hotel ไม่มีใครอยู่เลย เดินลงมารีเซฟชั่นว่าจะขอย้ายมานอนเตียงล่าง เขาก็ว่าเต็มแล้ว ไม่เป็นไร เลื้อยขึ้นข้างบนต่อไป
นอนพักได้สักพัก ป้าที่นอนเตียงข้างล่างก็เข้ามา คุยกันไปเรื่อย ๆ ป้าชื่อ Debra มาจากแคลิฟอเนีย เล่าถึงชีวิตที่ผ่านมา เล่าไปเล่ามาก็ร้องไห้ ไอ้เราจะใช้ธรรมมะเข้าแนะนำก็ไม่ได้ ก็รับฟังปลอบใจกันไป
ก่อนนอน ขวดนี้ยังไม่ไมหมด จัดการก่อนไปวิสคอนซินพรุ่งนี้ค่ะ
ไว้เจอกันในตอนต่อไปนะคะ ต้องไปสนามบิน ลากัวเดีย เพื่อบินในประเทศค่ะ ซึ่งสนามบินนี้ไม่มีรถไฟผ่านต้องไปด้วยรถบัสนะคะ
5. วิธีไปสนามบิน ลากัวเดียร์ จาก Manhattan