สิงหาคม 2548
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
30 สิงหาคม 2548

เพ็ญพิศวาส โดย บอนนี่

พระจันทร์ในคืนวันเพ็ญทอแสงจากฟากฟ้า ผ่านอากาศหนาวเย็นและความมืดมิดของรัตติกาลสมัยลงมากระทบพื้นผิวดินเบื้องล่าง เนรมิตโลกซีกหนึ่งให้มีแสงสีเหลืองนวลเย็นสบายตา
สรรพชีวิตหลากหลายสีสันบนพื้นพิภพได้อาศัยแสงจากพระจันทร์ดวงนี้กำหนดห้วงเวลาหยุดหรือโลดแล่นไปในยามราตรี แตกต่างกันไปตามวิสัยแลความเป็นไปของสถานะ การโคจรจากฟากหนึ่งไปสู่อีกฟากหนึ่งของขอบฟ้าเสมือนหนึ่งมัคคุเทศก์แห่งกาลนำพาธุรกรรมของเวไนยสัตว์ไปสู่วัตถุประสงค์ตามความมุ่งหมายแห่งตน

บ้านหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอวดศักดาท้าแสงจันทร์อยู่ในความมืดหลังหนึ่ง มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลกว่าหลังอื่น ๆ ในละแวก ขอบรั้วทั้งสี่ด้านสูงพ้นศีรษะ ยาวจนสุดคะเนด้วยสายตาเปล่า ทำหน้าที่ปกปักษ์รักษาอาณาเขตของบ้านหลังนี้มิให้คนแปลกหน้ากล้ำกรายเข้ามาได้โดยง่าย

ไม่มีการปกป้องใด ๆ ที่ปราศจากการท้าทาย

ที่บริเวณขอบรั้วด้านหน้า ปรากฏเงาตะคุ่ม ๆ ของร่าง ๆ หนึ่งขึ้นอย่างไร้การคาดหมาย
เท้าที่ก้าวสั้น ๆ แต่ซอยสลับถี่ ๆ เงาศีรษะที่ผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่ภายใต้เงาของต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกเป็นแนวอยู่ริมรั้ว จากต้นหนึ่งสู่อีกต้นหนึ่งมุ่งสู่เป้าหมายที่เป็นทางเข้าประตูหน้าของตัวบ้านซึ่งอยู่อีกไม่ไกลนับจากนี้แล้ว

มองจากภายนอกเวลานี้ บ้านทั้งหลังดูมืดสนิทราวกับเป็นวัตถุทึบแสงขนาดใหญ่ที่มีใครบางคนเอามาตั้งไว้กลางสนามหญ้า
ถ้าแสงไฟฟ้าเป็นเครื่องหมายของยันต์กันภัยจากโจรผู้ร้ายในยามวิกาล บ้านหลังนี้ดูเหมือนจะละเลยยันต์ที่ว่านั้น หรือนี่จะเป็นการท้าทาย เชื้อเชิญ ให้ผู้ที่ประสงค์จะแสวงหาประโยชน์จากความมืดได้เข้ามาทดสอบ ลิ้มลอง และกอบโกยได้อย่างสะดวกใจ

กระไรหนอ บ้านหลังใหญ่ปานคฤหาสน์ที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลเพียงนี้ กลับไม่มีผู้ดูแลความปลอดภัยอยู่เลย ทั้งยังไม่ประสงค์จะให้มีแสงไฟเป็นเพื่อนในยามนิทรา แสงไฟที่พอมองเห็นลิบ ๆ กลับเป็นของเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างไกลออกไป.. ไกลเสียเหลือเกิน ไกลจนราวกับว่า มันเป็นเพียงดาวดวงหนึ่งที่ขึ้นมาจากขอบฟ้าด้านล่าง

อาศัยแสงสลัว ๆ ของดวงจันทร์เพ็ญเป็นเครื่องนำทาง ร่างในชุดรัดรูปสีดำสวมหมวกไหมพรมสีเดียวกันซึ่งคลุมตั้งแต่ส่วนบนสุดของศีรษะลงมาจรดลำคอเว้นเพียงส่วนที่ต้องการมองเห็นรอบ ๆ ดวงตาก็พรางตัวเข้ามาถึงส่วนที่เป็นประตูหน้าของบ้านได้สำเร็จแล้ว

ขณะนั่งอยู่บนส้นเท้าของตัวเอง หูข้างหนึ่งแนบสนิทกับบานประตู ลูกตาทั้งสองก็จ้องเขม็งอยู่ที่รูกุญแจที่อยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งคืบอย่างไม่กระพริบ
วัตถุที่ทำด้วยโลหะสีเงินแวววาวเส้นเล็ก ๆ สองเส้นถูกสอดเข้าไปในรูกุญแจและกำลังถูกบิดไปบิดมารอบทิศทาง โดยมีนิ้วมือที่ห่อหุ้มด้วยถุงมือหนังสีดำทั้งสองข้างทำหน้าที่กำกับไปมา ราวกับผู้เชี่ยวชาญที่กำลังใช้อุปกรณ์ถักทองานฝีมือด้วยไหมพรมอยู่ฉะนั้น

คลิ..คลิ๊ก!

เดือยโลหะที่ทำหน้าที่ขัดบานประตูมิให้เปิดออกเลื่อนตัวหลุดไปแล้ว คันโยกประตูในมือทำงานได้อย่างปกติอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อว่า บ้านราคาหลายสิบล้านบาทหลังนี้ถูกพันธนาการไว้ด้วยอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ ราคาเพียงไม่กี่ร้อยบาท!

ร่างที่ยองนั่งอยู่เมื่อครู่ลุกขึ้นยืนเต็มตัว มองเห็นเป็นเงาดำทะมึนอยู่ในความมืด ราวกับยมฑูตผุดขึ้นมาจากขุมนรกใต้พื้นระเบียงหินอ่อนมายืนอยู่หน้าประตูทางเข้าบ้านอย่างนั้น

ประตูไม้สักบานใหญ่ถูกแง้มออกช้า ๆ พอให้ร่างในชุดดำสามารถสอดตัวลอดผ่านเข้าไปด้านในได้ก่อนที่มันจะถูกปิดกลับดังเดิม การรุกล้ำอย่างอุกอาจได้กระทำอย่างเสร็จสิ้นโดยมิได้ทิ้งร่องรอยที่ผิดสังเกตเอาไว้ให้ติดตามตรวจสอบมากนัก

เป็นไปอย่างที่คาดคิด ภายในบ้านกลับดำมืดยิ่งกว่าภายนอกมากมายนัก หน้าต่างทุกบานถูกผ้าม่านสีเข้มบดบังทางเข้าของแสงสว่างเอาไว้อย่างสนิท

ไฟฉายขนาดเท่ากลักไม้ขีดในมือถูกจุดให้สว่างไสวขึ้นมา มันถูกฉายไปรอบ ๆ ห้องโถงใหญ่เป็นวงกว้าง เฟอร์นิเจอร์รับแขกลายหลุยส์ของฝรั่งเศสขนาดใหญ่ตระหง่านขึ้นมาในลำแสงทางขวามือ ลวดลายวิจิตรพิสดารทั้งงานไม้และฝีมือการประดิษฐ์บ่งบอกถึงรสนิยมอันเลอเลิศของเจ้าของได้เป็นอย่างดี
ถัดไปทางขวาเป็นตู้โชว์กระจกขนาดใหญ่ สร้างขึ้นด้วยศิลปกรรมวิคตอเรียนในคริสต์ศตวรรษที่สิบเก้าแท้ ๆ ภายในตู้เรียงรายด้วยเครื่องแก้วเรืองแสงรูปร่างงดงามจำนวนมากมายหลายชิ้น
แสงสว่างจากไฟฉายที่สาดไปกระทบ ยังไม่อาจเจิดจ้าเท่ากับแสงจากเครื่องแก้วเนื้อดีในตู้ที่สะท้อนกลับมาได้เลย

ไฟฉายในมือกลอกผ่านเครื่องแก้วในตู้ไปอย่างไม่แยแส ดูท่าว่า มูลค่าของทรัพย์สินในตู้ยังไม่อาจดึงดูดความสนใจของผู้มาเยี่ยมเยียนในยามวิกาลผู้นี้ได้..
หรือว่ามูลค่าของสิ่งของเหล่านี้น้อยเกินกว่าที่มันต้องการ
หรือว่า มันดักดานเสียจนไม่รู้ค่าของสิ่งของเหล่านั้น
หรือคิดดูอีกที..
มันอาจไม่ได้เข้ามาเพื่อวัตถุประสงค์อันสืบเนื่องมาจากมูลค่า

เมื่อแสงไฟถูกฉายกวาดไปทางซ้าย ก็พบห้องทำงานกระจกใส ภายในห้องประกอบด้วยอุปกรณ์สื่อสารที่ทันสมัยหลายชนิดและชั้นวางหนังสือที่กินบริเวณไปจนสุดสองฟากผนัง
เลยห้องทำงานกระจกใสลึกขึ้นไปทางซ้าย..
ร่างในชุดดำขยับเดินขึ้นหน้าไปสองก้าวอย่างช้า ๆ ตามโถงทางเดินเพื่อให้แสงไฟสามารถสาดเข้าไปยังส่วนที่อยู่เลยห้องทำงานไปได้ สิ่งที่ปรากฏอยู่ในลำแสงเป็นโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ทำด้วยไม้ขลิบขอบเป็นสีทองพร้อมเก้าอี้ตัดขอบทองเข้าชุดกันเรียงรายอยู่โดยรอบ ตั้งเป็นระเบียบอยู่ในห้องส่วนตัวของมันโดยเฉพาะ ที่กลางโต๊ะมีดอกไม้สดหลากสีหลายชนิดจัดเป็นช่ออยู่ในแจกันแก้ว
ลวดลายของโต๊ะอาหารและชุดเก้าอี้ สอดรับกับเฟอร์นิเจอร์รับแขกและตู้โชว์ที่อยู่อีกมุมหนึ่งของบ้านได้อย่างกลมกลืน งานฝีมือที่แกะสลักบนแผ่นไม้โอ๊คได้อย่างงดงามตามแบบฉบับของศิลปกรรมในราชสำนักของฝรั่งเศสในยุคสมัยหนึ่งนั้นได้มาปรากฏพร้อมกัน ณ ที่แห่งนี้แล้ว ไม่น่าจะใช่ฝีมือของนายช่างคนไทย และไม่เชื่อว่าจะมีช่างฝีมือชาติไหน ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันสามารถรังสรรค์ผลงานออกมาได้งดงามและอ่อนช้อยเช่นนี้ด้วย

ดูจากการจัดบ้านและขนาดของเครื่องเรือนเครื่องใช้แล้ว บ้านนี้น่าจะมีผู้อาศัยอยู่จำนวนไม่น้อย
โต๊ะอาหารขนาด 8 ที่นั่ง ตู้เย็น 2 ตู้ และทีวี 3 เครื่องที่อยู่ในห้องรับแขก ห้องอาหารและห้องนั่งเล่น น่าจะบอกปริมาณคนอาศัยได้โดยคร่าว
นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่า เจ้าของบ้านต้องเป็นผู้ที่มีฐานะทางการเงินที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน คำว่ามหาเศรษฐี หรือผู้มีอันจะกินอย่างเหลือเฟือ ไม่น่าจะเป็นสรรพนามที่เกินเลยสำหรับใช้เรียกผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้

ร่างในชุดดำเดินผ่านห้องรับประทานอาหารไปสู่จุดสิ้นสุดของอาคารในด้านนี้แล้ว แสงไฟฉายให้เห็นโถงบันไดขนาดใหญ่ทางด้านซ้ายมือทอดขึ้นไปสู่ชั้นที่สองของตัวบ้าน

ร่างในชุดดำเอื้อมมือไปเกาะราวบันไดทองเหลืองขัดมันวาววับไว้อย่างมั่นคงแล้วค่อย ๆ ก้าวเท้าไปตามขั้นบันไดที่ปูด้วยพรมหนานุ่มสีแดงลายจุดเหลืองทอดเป็นทางขึ้นไปสู่ชานพักก่อนที่จะหักศอกเลี้ยวซ้ายไปสู่ส่วนบนของตัวบ้าน

ทุกก้าว ๆ ขึ้นไปทีละขั้น ๆ เต็มไปด้วยความระมัดระวัง ยังคงไม่มีแสงไฟฟ้าใด ๆ ในบริเวณโถงบันไดนี้ ทั้ง ๆ ที่ข้างกำแพงมีไฟกิ่งเล็ก ๆ ประดับเป็นระยะ ๆ บนฝ้าเพดานก็ยังมีโคมไฟระย้าหรือชานเดอเลียพวงใหญ่ห้อยอยู่เหนือโถงชานพัก
ฤาเจ้าของบ้านจะกำหนดให้ยามค่ำคืนนี้เป็นยามพักผ่อนของอุปกรณ์กำเนิดแสงทุกชนิดด้วยกระมัง!

พอพ้นบันไดทางขึ้นมายังส่วนที่เป็นชั้นที่สองของตัวบ้าน แสงจากไฟฉายขนาดเล็กก็เริ่มทำงานเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง
โถงนั่งเล่นขนาดใหญ่ปรากฏให้เห็นตรงเบื้องหน้า ทีวีจอยักษ์ขนาดห้าสิบนิ้วตั้งอยู่ทางด้านขวาของโถง เครื่องเสียงสเตริโอพร้อมลำโพงหลายตัว ตั้งอยู่กลางห้องโถงรายล้อมเก้าอี้โซฟาหลายขนาดที่วางอยู่ตรงข้ามกับจอทีวี ราวกับเป็นโรงหนังขนาดย่อมภายในบ้าน
อีกครั้ง..ที่เครื่องเรือนบ่งบอกจำนวนของผู้ใช้ว่าน่าจะมีด้วยกันหลายคน

ณ เวลานี้ พวกเขาพากันไปอยู่ที่ไหนกันหมดหนอ

ขนาดของห้องโถงยังใหญ่โตพอที่จะบรรจุตู้หนังสือขนาดมหึมา และโซฟาอีกหนึ่งชุดในมุมที่เป็นส่วนตัวไม่รบกวนการดูทีวี มุมที่เหลือทางด้านซ้ายสุดของห้องยังเป็นที่ตั้งของเคาน์เตอร์บาร์ลายไม้มะฮอกกานีขนาดย่อมมีเก้าอี้หมุนอยู่หน้าเคาน์เตอร์สามตัว

ร่างในชุดดำรู้สึกถึงความแห้งผากในลำคอขึ้นมาในทันทีที่แสงไฟส่องให้เห็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หลากชนิดที่อัดแน่นอยู่ในตู้ลอยด้านหลังเคาน์เตอร์
เครื่องดื่มมากมายหลายชนิดในบรรจุขวดที่แปลกตาไปจากที่เห็นตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป ยืนแออัดยัดเยียดอยู่ภายในตู้ละลานตาไปหมด แม้ทุกขวดจะอยู่ในท่วงท่าสงบนิ่งแต่กลิ่นของพวกมันกลับออกมาอาละวาดกันยกใหญ่ ชักจูงจมูกให้แถเข้าไปหาโดยเร็ว
แสงไฟหยุดนิ่งอยู่ที่เคาน์เตอร์นั้นครู่หนึ่งก่อนที่จะฉายผ่านไปอย่างลังเล

ดูประหนึ่งว่า.. สิ่งเย้ายวนทั้งหลายที่แสงไฟสาดไปกระทบแล้วนั้น จะยังไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใด สะดุดตา สะกิดใจให้แขกผู้มาเยือนในยามวิกาลผู้นี้เยี่ยมกายเข้าไปสัมผัสอย่างใกล้ชิดได้เลยสักนิด

แสงไฟจากไฟฉายยังคงเดินทางต่อไปจนมาบรรจบครบรอบตรงหน้าโถงบันไดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่มันจะเลื้อยผ่านห้องโถงใหญ่ไปตามทางเดินแคบ ๆ ทางด้านขวาที่สองฟากเป็นผนังทึบ ห้องนอนจำนวน 4 ห้องเรียงรายอยู่สองฟากของผนังไปจนถึงสุดทางเดินซึ่งเป็นส่วนหน้าของอาคารหลังนี้

ร่างในชุดดำพาตัวเองเดินไปตามลำแสงที่ส่องนำทาง เปิดประตูทีละห้อง ๆ เริ่มจากห้องที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดก่อน สาดแสงไฟเข้าไปสำรวจดูด้านในแล้วก็ปล่อยประตูให้แง้มค้างเอาไว้ ไม่ปรากฏว่ามีห้องใดเลยที่มีคนอาศัยอยู่ และก็ไม่ปรากฏว่า เจ้าของร่างลึกลับนี้ สนใจที่จะย่างกรายเข้าไปด้านในห้องเหล่านั้นแม้สักก้าวหนึ่ง

ถึงเวลานี้.. ยังไม่ปรากฏว่ามีสิ่งมีชีวิตใด ๆ อาศัยอยู่และคอยปกป้องทรัพย์สินอันมีค่าเหล่านี้

มาถึงห้องสุดท้ายของโถงทางเดินแล้ว หากผ่านจากห้องนี้ไป การสำรวจบ้านหลังนี้ก็จะจบสิ้นลง ถ้ายังไม่มีอะไรให้ประทับใจ การปฏิบัติการในคืนนี้อาจกลายเป็นความว่างเปล่า

ลูกบิดในมือขยับไปมาไม่ได้ดังใจเหมือนห้องที่ผ่าน ๆ มา..
แสดงว่า ภายในห้องนี้อาจมีคนอยู่ หรือมิฉะนั้น มันก็ต้องเป็นห้องที่เก็บทรัพย์สินอันมีค่าเอาไว้จึงไม่ต้องการให้ใครเข้าไปโดยง่าย
ทรัพย์สินที่ว่า อาจจะมีค่ามากกว่าประดาข้าวของเครื่องใช้ราคาแพงทั้งหลายทั้งปวงที่เจ้าของร่างลึกลับได้พานพบมาแล้วทั้งหมดก็เป็นได้

ร่างประเปรียวในชุดสีดำย่อตัวลงอีกครั้ง โลหะแวววาวขนาดเข็มเย็บผ้าเล่มใหญ่ถูกล้วงออกมาจากกระเป๋าที่เข็มขัดอีกครั้งหนึ่ง แสงจากไฟฉายที่กระทบตัวมันทำให้เกิดแสงสะท้อนปรากฏเป็นลูกไฟวิ่งอยู่บนฝ้าเพดาน

วิชาโจรกรรมโดยผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ถูกนำมาใช้อีกครั้ง นิ้วมือทั้งสองข้างขยับขึ้นขยับลงอยู่รอบ ๆ รูกุญแจของลูกบิดทรงกลม
ครู่หนึ่ง..
“ได้ที่แล้ว” เหล็กสองชิ้นในมือถูกปักไว้แน่นในรูกุญแจ มีแต่คนที่จับมันไว้เท่านั้นที่รู้สึกได้ว่า มันกำลังทำงานได้ผล แล้วนิ้วมือทั้งสองข้างก็บิดมันไปตามเข็มนาฬิกาพร้อม ๆ กัน

คลิ..คลิ๊ก!

เสียงปุ่มล็อคถูกปลดออก ลูกบิดในมือขยับได้อย่างอิสระแล้ว

ประตูห้องถูกแง้มออกอย่างระมัดระวังกว่าที่ผ่าน ๆ มา ร่างในชุดดำตระหนักดีว่า ขณะนี้ ตนกำลังเผชิญกับความท้าทายยิ่งกว่าที่ผ่านมา เพราะในห้องนี้อาจมีใครบางคนอาศัยอยู่ และอาจกำลังอยู่ในอิริยาบถใด ๆ ที่ไม่คาดคิดก็ได้

ไฟฉายในมือถูกใช้อย่างระมัดระวัง แสงไฟถูกกำหนดให้อยู่เฉพาะบริเวณพื้นทางเดินก้าวต่อไปเท่านั้น นิ้วหัวแม่มือข้างที่กำไฟฉายอยู่ ยื่นล้ำออกมาจากตำแหน่งเดิมเพื่อป้องปากไฟฉายไว้หวังให้แสงลอดออกมาเพียงสลัว ๆ
อากาศภายในห้องเย็นเฉียบราวกับในตู้แช่น้ำแข็ง เสียงลมจากเครื่องปรับอากาศเบาเฉียบจนแทบจับไม่ได้ว่าเป็นกระแสลม ความแตกต่างระหว่างเครื่องปรับอากาศชั้นดีและชั้นเลวแยกแยะกันที่ตรงนี้นี่เอง

แผ่วเบาราวกับฝ่าเท้าทั้งสองข้างล่องลอยอยู่เหนือพื้น รองเท้ายางที่สัมผัสกับพื้นห้องที่ปูด้วยแผ่นไม้มิได้สร้างเสียงระคายหูให้ได้ยินเลยแม้แต่น้อย

แสงจากไฟฉายกระทบกับวัตถุขนาดใหญ่ตรงหน้าอย่างยากจะหลีกเลี่ยง เตียงนอนขนาดใหญ่วางขวางอยู่กลางห้อง ร่างในชุดดำห่อกายลงเล็กน้อยเพื่อให้ดูตัวเล็กลงและเตี้ยลง และเพื่อเพิ่มความระมัดระวังอย่างที่สุดในการย่างก้าวต่อไป ซึ่งเป็นไปโดยธรรมชาติของการระแวดระวังภัย

บนเตียงนอนมิได้ว่างเปล่า มีร่างของชายผู้หนึ่งนอนอย่างสงบอยู่บนนั้น เสื้อคอกลมสีขาวกับกางเกงขาสั้นแค่ครึ่งขาอ่อนสีฟ้าดูจะท้าทายความเย็นยะเยือกของอากาศในห้องนี้
คนที่กำลังมองดูซ่อนตัวอยู่ในอาภรณ์ที่มิดชิดตั้งแต่หัวจรดปลายเท้ายังรู้สึกหนาวเหน็บไปถึงเนื้อใน กระไรเลย ชายผู้นี้ทำทีเหมือนกำลังนอนอาบแดดอยู่กลางชายหาดอย่างนั้นแหละ

ร่างในชุดดำค่อย ๆ ไต่ตัวไปตามผนังห้องด้านหนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเตียงนอน มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง เรียงกันไปเป็นลำดับไปจนสุดผนัง ขณะที่ย่างกรายผ่าน มือข้างหนึ่งก็สำรวจ ลูบคลำ หาปุ่มจับหรือวัตถุที่ใช้ดึงออกมาได้
ประตู และลิ้นชักทุกบาน ทุกช่อง ถูกแง้มออกมา เพียงพอให้แสงไฟลอดผ่านเข้าไปและให้มือข้างหนึ่งสามารถล้วงเข้าไปสำรวจดูสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายในได้

“เสื้อผ้าผู้ชายทั้งนั้น”
ร่างในชุดดำบอกกับตัวเองก่อนจะรามือจากตู้ใบแรกสุด มีอะไรที่น่าสนใจในตู้เสื้อผ้าของผู้ชายงั้นหรือ นักย่องเบาทุกระดับชั้น รังเกียจที่จะค้นหาทรัพย์สินมีค่าจากห้องพักของผู้ชายโสดด้วยกันทั้งนั้น เพราะคนเพศนี้ไม่นิยมสะสมเครื่องประดับราคาแพง หากไม่พบกระเป๋าสตางค์หรือตู้เซฟใบเขื่อง ก็ควรที่ถอยห่างออกไปจากห้องโดยเร็วเสียจะดีกว่า ผู้ชายที่ตื่นมาพบโจรกำลังโจรกรรมบ้านของตัวเองอยู่น่ากลัวพอ ๆ กับพยัคฆ์ร้ายที่หิวโซ เพราะบางทีเขามิได้กำลังคิดปกป้องทรัพย์สินแต่เพียงอย่างเดียวแต่กำลังปกป้องศักดิ์ศรีของความเป็นลูกผู้ชายด้วย ตีนแมวทุกสำนักย่อมรู้กฎธรรมชาติข้อนี้ดี

ยังมีตู้อีกใบอยู่ถัดจากโต๊ะเครื่องแป้งไป มันใหญ่กว่าตู้ใบนี้เสียอีก
หรือจะเป็นตู้เสื้อผ้าใบที่สอง..
คงไม่มีชายโสดคนไหนที่ใช้ตู้เสื้อผ้าสองใบในห้องนอนเดียวกันหรอกนะ และเมื่อหันไปดูเตียงนอนที่มีขนาดใหญ่นั่นก็เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนมีคู่นอนด้วยมากกว่า
เมื่อชำเลืองไปดูบนโต๊ะเครื่องแป้ง มีขวดสารพัดรูปร่างวางอยู่หน้ากระจก เฉพาะน้ำหอมและเครื่องประทินผิวก็มีมากกว่า 20 ชนิดแล้ว ผู้ชายคนเดียวคงไม่(ยอม)สิ้นเปลืองกับมันมากขนาดนี้หรอกนะ

“แล้วคู่นอนของเขาหายไปไหน”

เมื่อห้องนี้มีผู้หญิงอยู่ด้วย ก็ต้องมีเครื่องประดับเก็บอยู่ที่ไหนสักแห่ง มันต้องเป็นเครื่องประดับราคาแพงระยับเสียด้วยหากเปรียบเทียบจากฐานะของเจ้าของบ้าน

“มันต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งในห้องนี้!”

ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งมีแต่ตลับแป้งและอุปกรณ์สำหรับทำผม
มือสีดำเอื้อมไปเปิดประตูตู้ใบใหญ่ที่อยู่ถัดไป ใหญ่แค่ไหนก็ลองนึกภาพดูว่า มันต้องมีถึง 4 ประตูก็แล้วกัน

“โอ้โฮ!”
ผู้หญิงอะไรจะใช้อาภรณ์สิ้นเปลืองมากมายขนาดนี้ ร้านขายเสื้อผ้าร้านหนึ่งอาจไม่มีจำนวนชุดมากมายเท่าที่บรรจุอยู่ในตู้ใบนี้เลยก็ว่าได้ แสดงว่าเธอต้องเป็นคนไฉไลอย่างร้ายกาจและที่สำคัญต้องเป็นคนมือเติบเอาการทีเดียว

“ไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าชุดเสื้อผ้าราคาแพง ๆ เหล่านี้เลยหรือ”
“นี่เป็นตู้ใบสุดท้ายในห้องนี้แล้ว แม่คุณเอาเครื่องประดับราคาแพงไปซ่อนไว้ที่ไหนกัน”

ประตูทั้งสี่บานถูกเปิดอ้าออกจนหมดสิ้น มีแต่เสื้อผ้า..เสื้อผ้า และเสื้อผ้าเต็มตู้ไปหมด
มือทั้งสองข้างแหวกผ่านชุดกระโปรงยาวชุดแล้วชุดเล่า ค้นหาบางสิ่งบางอย่างที่อาจซุกซ่อนอยู่ภายในตู้ใบนี้

ที่มุมสุดของตู้ เจ้าของมือก็ปัดไปกระทบกับของแข็งอย่างหนึ่งเข้า..
มีตู้แข็ง ๆ ขนาดย่อม ๆ ซ่อนอยู่ภายในตู้เสื้อผ้านี้ด้วย มันตั้งอยู่ข้างตู้มีลิ้นชักใบเล็กสำหรับใส่ชุดชั้นในที่อยู่สุดทางของตู้ใหญ่ใบนี้

เหมือนค้นพบหีบมหาสมบัติ

ร่างในชุดดำวางไฟฉายไว้บนตู้โลหะใบนั้น แล้วเอามือทั้งสองข้างคลำไปรอบ ๆ ตู้ ขนาดของมันพอ ๆ กับเตาอบไมโครเวฟแต่หนักกว่ามากนัก เมื่อลองเอามือทั้งสองขยับดูก็พบว่า มันน่าจะหนักมากกว่าสิบห้า กิโลกรัมอย่างแน่นอน สมบัติล้ำค่าอันเป็นที่หมายตาน่าจะซุกอยู่ภายในตู้ใบนี้

“ยกไปทั้งตู้นี้ หรือว่า จะเปิดมันที่นี่ดี”
ร่างในชุดดำชั่งใจอยู่..
การเปิดมันได้และลักของมีค่าที่อยู่ด้านในน่าจะเป็นวิถีทางของโจรมีระดับมากกว่าการใช้กำลังแบกหามออกไป
ถือเป็นการท้าทายความสามารถในการโจรกรรม ถ้าสุดปัญญาที่จะเปิดมันออกจริง ๆ หนทางสุดท้ายค่อยว่ากันอีกที

ด้านหน้าตู้เซฟมีแป้นกดรหัสเป็นตัวเลขเหมือนแป้นบนโทรศัพท์ และมีด้ามจับเป็นคันโยกขนานไปกับพื้นราบ
ร่างในชุดดำเอามือทั้งสองข้างถูกันไปมาเบา ๆ เหมือนกับจะบอกตัวเองว่า ได้เวลาแสดงฝีมือกันอีกแล้วล่ะ
มือทั้งสองเปิดซิปกระเป๋าที่เข็มขัดด้านหน้าออกแล้วหยิบลูกยางกลม ๆ เล็ก ๆ รูปหยดน้ำออกมา จ่อปากที่เป็นส่วนแหลมไปที่แป้นตัวเลขแล้วบีบที่ลำตัวกลม ๆ ของมันสองสามที

ฟู่..ฟู่ด..!

ผงสีเข้มถูกพ่นออกจากส่วนปลายของลูกยางรูปหยดน้ำสองสามครั้ง แล้วแป้นตัวเลขสีขาวก็กลายเป็นสีดำไปในทันที

กระเป๋าที่เข็มขัดถูกเปิดอ้าออกอีกครั้ง นิ้วมือควานเข้าไปหาสิ่งของอีกชิ้นหนึ่งที่อยู่ภายในไปมาก่อนที่จะหยิบมันออกมา
พู่กันขนนุ่มขนาดเท่าลิปสติกถูกชูขึ้นในความมืด ก่อนที่จะถูกทดลองปัดไปปัดมากับมืออีกข้าง

ไฟฉายถูกหยิบมาส่องอีกครั้งหนึ่ง ไปยังแป้นตัวเลขที่บัดนี้กลายเป็นสีถ่านไปแล้ว
พู่กันในมืออีกข้างป้ายไปมาบนแป้นนั้นอย่างบางเบา คนที่รู้วิธีการใช้มันเท่านั้นจึงจะรู้ว่า ต้องไม่ให้น้ำหนักของแปรงทำลายหลักฐานบางอย่างที่ต้องการให้ปรากฏ

เมื่อพู่กันถูกรามือแล้ว ตัวเลขบนแป้นนั้นกลับมาเป็นสีขาวดังเดิมอีกครั้ง
แต่ไม่ใช่ทั้งหมด..!

เมื่อส่องด้วยไฟฉายในระยะประชิด พบว่า มีตัวเลขบางตัวมีสีหม่นกว่าตัวอื่น บางตัวที่ว่านั้นมีรอยคล้ายรอยนิ้วมือกดทับซ้ำ ๆ กันหลาย ๆ ครั้ง

แววตาของจอมโจรกรรมมีประกายของความพึงพอใจฉายออกมา หากไม่มีหน้ากากไหมพรมปิดบังอยู่อาจได้เห็นรอยยิ้มอย่างผู้ชนะปรากฏขึ้น

มีตัวเลขอยู่ 4 ตัวบนแป้นที่มีสีคล้ำกว่าตัวอื่น ๆ เป็นตัวเลขเป้าหมายที่ต้องการค้นหารหัส
นิ้วชี้ข้างขวาทำหน้าที่ค้นหาคำตอบของรหัสอย่างรวดเร็ว ทดลองสลับไปสลับมาระหว่างตัวเลข 4 ตัวบนแป้น ขณะที่มืออีกข้างก็ทิ้งน้ำหนักลงบนด้ามจับเป็นระยะ ๆ

ไม่นานนัก..
รหัสของตู้เซฟก็ถูกค้นพบ มือที่กดด้ามจับเอาไว้สามารถกดลงไปจนสุดทาง

ประตูตู้เซฟถูกเปิดออกแล้ว!

แสงไฟถูกฉายเข้าไปในตู้เซฟ..
ธนบัตรมัดรวม ๆ กันหลายฟ่อนวางซ้อน ๆ กันอยู่ด้านในเต็มตู้ไปหมด มือที่สั่นเทาเอื้อมไปหยิบมันออกมาปึกหนึ่งแล้วกรีดด้วยนิ้ว
ธนบัตรใบละพันล้วน ๆ นับไม่ถูกเหมือนกันว่ามีมูลค่าเท่าไร และร่างในชุดสีดำก็ไม่สนใจด้วยว่า มันจะมีมูลค่าเท่าไร ขอให้มันเป็นธนบัตรจริง ๆ ที่ใช้ได้ตามกฎหมายไทยก็พอแล้ว

ถุงผ้าแบบมีหูรูดถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตหนังที่สวมอยู่ ธนบัตรถูกยัดลงไปในถุงอย่างรวดเร็ว เหมือนเวลาที่ทิ้งสิ่งของลงในถุงขยะ เรามักไม่สนใจหรอกว่ามันจะจัดระเบียบข้างในกันอย่างไร เพราะเราไม่ต้องการจะเห็นมันอีกต่อไป
ในกรณีนี้ก็ใช้วิธีการเดียวกันแต่จุดมุ่งหมายแตกต่างกัน แม้ไม่สนใจว่ามันจะเรียงตัวอย่างไรแต่ก็ยังปรารถนาจะเห็นมันอีกหลาย ๆ ครั้งอย่างแน่นอน

เงินหมดตู้เซฟแล้ว มันผันกายเข้าไปอยู่ในถุงผ้าจนหมดสิ้นแล้ว แต่ภารกิจยังไม่หมดสิ้น
ปากถุงจะยังรูดปิดไม่ได้!

ยังมีลิ้นชักเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านบนสุดของตู้เซฟที่ยังไม่ถูกเปิดออก

มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปในตู้อีกครั้ง ขณะที่อีกข้างทำหน้าที่ส่องไฟนำทางให้

“หนักเอาการทีเดียว!”

ลิ้นชักเล็ก ๆ ที่ทำด้วยเหล็กกล้าขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อยมีน้ำหนักในตัวของมันพอสมควรอยู่แล้ว แต่สิ่งของที่บรรจุอยู่ภายในทำให้น้ำหนักของมันเพิ่มเป็นทวีคูณ..

ร่างในชุดดำต้องระมัดระวังไม่ให้ชักถาดเหล็กออกมาเร็วเกินไป..

มันเป็นจริงอย่างที่เขาคาดหวังเอาไว้!

ในลิ้นชักบรรจุวัตถุสะท้อนแสงที่ส่งประกายแวววาวออกมาทักทายสายตาที่จ้องมองจนละลานตาไปหมด
บรรยากาศในห้องที่ดูอึมครึม มืดมิด ก่อนหน้านี้ กลับกลายเป็นแจ่มจรัส สว่างไสว ไปในบัดดล!

สร้อยคอล้อมเพชร.. ต่างหูเพชร.. แหวนเพชร.. จี้เพชร.. กำไลเพชร.. เข็มกลัดเพชร

ไม่ใช่อย่างละชิ้นละอัน แต่เป็นอย่างละเป็นกำ ๆ มือ!

ถ้าสิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาขณะนี้เป็นของจริง ของที่โยนลงในเจ้าถุงผ้าเมื่อครู่นี้ก็เกือบจะกลายเป็นขยะไร้ค่าอย่างที่เปรียบเปรยไปเสียแล้วจริง ๆ!

เครื่องประดับเพชรล้วน ๆ ถูกลำเลียงผ่านมือทั้งสองข้างไปสู่ถุงผ้าอย่างรวดเร็ว แม้ไม่มีเวลาที่จะชื่นชมความงดงามของมันได้อย่างสาสมใจ แต่เพียงได้เห็นมันแวบผ่านสายตาไปชั่วเหลือบหนึ่งก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจอย่างบอกไม่ถูกแล้ว

เชือกที่ปากถุงถูกรูดจนสุด ร่างในชุดสีดำเหวี่ยงถุงผ้าขึ้นประทับบนบ่า ภารกิจในการโจรกรรมเดินทางมาถึงบทสุดท้ายแล้ว..
เมื่อลอยนวลออกจากบ้านหลังนี้ไปได้ ก็จะไม่มีอำนาจใด ๆ มาขวางกั้นความร่ำรวยอย่างล้นฟ้าได้อีกต่อไป!

ขณะที่กำลังคล้อยผ่าน สายตาของผู้มาเยือนก็อดจับจ้องไปที่เตียงอีกครั้งไม่ได้

“ลาก่อนผู้เป็นเจ้าของบ้าน”

เหมือนจะเป็นคำกล่าวขอบคุณและไว้อาลัยต่อผู้เอื้อเฟื้อในคราวเดียวกัน แสงไฟในมือจับไปที่ร่างอันไร้สติที่นอนสงบนิ่งอยู่บนเตียงอีกครั้ง คราวนี้ไม่อำพรางแสงไว้เช่นครั้งแรก ความรู้สึกกลัวว่าเขาจะตื่นขึ้นมาในตอนนี้แทบไม่เหลืออีกแล้ว
ที่ผ่านมา เขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เป็นคนที่นอนหลับได้อย่างอุตุจริง ๆ

“ไม่มีคุณ ก็จะไม่มีเงินก้อนนี้และไม่มีเครื่องเพชรล้ำค่านี้ด้วย..ขอบคุณจริง ๆ” คำกล่าวขอบคุณที่ก้องออกมาจากใจ

“คุณจะรู้สึกอย่างไรหนอ เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า ทรัพย์สินอันมีค่าที่สุดของคุณหายไปหมด” แสงไฟฉายไปที่ใบหน้าของชายหนุ่ม แล้วนึกจินตนาการอยู่ในใจว่า ใบหน้านั้นจะเปลี่ยนแปรไปอย่างไรเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า

“รูปหล่อไม่เบาเลยนะเนี่ย” แม้ในยามที่หลับตา ก็พอจะดูออกว่า ชายหนุ่มผู้นี้มีดวงตาที่ลึก คมเข้ม มีคิ้วที่ดกดำหนาเป็นแนวตรง จมูกโด่งเป็นสันแบบชาวตะวันตก หนวดเคราครึ้ม ๆ รอบ ๆ ริมฝีปากและใต้คางช่วยขับให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ดูน่าเกรงขามขึ้น

“คุณคงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยล่ะ เวลาที่คุณโกรธจัด ปากคอคงร้ายน่าดู” ปากเรียวบางที่ดูเหมือนกำลังยิ้มน้อย ๆ อย่างมีความสุขในเวลานี้ทำให้นึกถึงว่า เวลาโกรธจัดมันจะสามารถสะบัดไปมาได้อย่างรวดเร็วราวกับปาดมีดโกนได้หรือไม่
นึกอีกที ปากเรียวบางเช่นนี้ เวลาประกบด้วยความเร่าร้อนของไฟราคะ มันจะชอนไชไปได้ลึกล้ำสักเพียงใด

“คุณจะอาละวาดทำลายข้าวของไหมน๊า” ถ้าทำจริง คงยากที่จะมีใครขัดขวางได้
หน้าอกที่ตันไปด้วยกล้ามเนื้อ เวลาหายใจเข้าออกแต่ละที สะท้อนขึ้นลงราวกับคลื่นยักษ์ในทะเลบ้าที่กำลังถาโถมเข้าหาฝั่ง แขนทั้งสองข้างมีเส้นเลือดตึงเป่ง โป่งนูนชัดเจน นิ้วมือยาวใหญ่อย่างกับคราดเหล็กในโรงนา หากคิดจะขยี้ด้วยแรงแค้น.. น่ากลัวร่างไหน ๆ ก็คงแหลกเป็นจุลในพริบตา
แต่หากแปรเปลี่ยนเป็นสัมผัสด้วยความรักและทะนุถนอม.. หญิงใดเลยจะไม่หลอมละลายไปกับรสสัมผัสจากอ้อมแขนอันทรงพลังนี้

“คุณคงเป็นคนขี้ร้อนอย่างร้ายกาจ” แสงไฟจับให้เห็นช่วงขาทั้งสองข้างที่โผล่พ้นจากขอบกางเกงขาสั้น มันทั้งยาวทั้งใหญ่และอุดมไปด้วยขนขยุกขยุยดกดำตั้งแต่ต้นขาอ่อนจนมาสุดข้อเท้า

“หรือนั่นจะเป็นเครื่องนุ่งห่มกันหนาวอย่างดีของคุณ” ไฟฉายในมืออดไม่ได้ที่จะพยายามชอนไชให้ความสว่างไสวเลื้อยลอดเข้าไปในส่วนมืดครึ้มที่อยู่ใต้ขอบขากางเกงตัวนั้น

“ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกนะที่ร้อนรุ่มไปทั้งตัวในสภาวะอากาศที่หนาวเหน็บเช่นนี้”
ร่างในชุดดำวางถุงผ้าลงกับพื้นแล้วเดินไปยังบริเวณที่เป็นหน้าต่างบานใหญ่ ใช้มือทั้งสองแหวกผ้าม่านไปยังด้านข้างทั้งสองฝั่งจนสุด ปล่อยให้แสงจันทร์จากภายนอกสาดส่องเข้ามาด้านใน เตียงซีกหนึ่งกลายเป็นสีเงินเรืองรองไปในทันที

แสงไฟจากไฟฉายถูกดับลงไปแล้ว ภายในห้องมีแสงสว่างใสเย็นนวลตาเข้ามาทดแทน
เมื่อเห็นในสิ่งที่ต้องการเห็น แสงสว่างมากไปกว่านี้ก็เกินความจำเป็นไปเสียแล้ว..

ซิปด้านหน้าของแจ็กเก็ตหนังสีดำถูกรูดลงไปจนสุดทางของมัน มือข้างหนึ่งของคนชุดดำล้วงเข้าใปในอกเสื้อแล้วหยิบแส้หนังที่ถูกม้วนเอาไว้เป็นขดกลม ๆ ออกมา ก่อนจะสะบัดข้อมือเบา ๆ ทีหนึ่ง แส้หนังก็คลายตัวออกเป็นทางยาวคล้ายงูเลื้อยไปตามพื้นห้อง

ท่ามกลางแสงสลัว ปรากฏวัตถุสีเงินแวววาวดีดตัวขึ้นบนฝ่ามืออีกข้างหนึ่งของร่างในชุดดำ

มีดสปริงยาวขนาดฝ่ามืออวดโฉมของมันอยู่ในเงาจันทร์ ปลายมีดคมกริบที่เปล่งประกายแวววับยามต้องแสงจันทร์ดูราวกับเป็นเขี้ยวแก้วของอสรพิษที่พร้อมจะฝังตัวลงไปในผิวหนังของเหยื่อที่มันปองร้าย

ร่างในชุดดำม้วนแส้ไว้กับฝ่ามืออย่างหลวม ๆ แล้วค่อย ๆ ย่องเข้าหาเจ้าของบ้านที่นอนหลับเป็นตายอยู่บนเตียง มืออีกข้างชูมีดสปริงในท่าเตรียมพร้อมที่จะจู่โจมในทุกเมื่อ
เจ้าตัวไม่มีโอกาสรู้เลยว่า เพชฌฆาตอยู่ห่างจากตัวเขาเพียงกระพริบตาเดียวแล้ว!

ความเย็นยะเยือกจากปลายมีดอันแหลมคมที่สัมผัสลำคอกลายเป็นความเจ็บแปลบไปทั่วสรรพางค์กายในเวลาต่อมา ร่างที่นอนสงบนิ่งมาตลอดเวลาอันยาวนาน บัดนี้สะดุ้งเฮือกขึ้นมาเหมือนโดนไฟช็อต

“ถ้าคุณขยับตัวอีกนิดเดียว รับรองว่าพรุ่งนี้เช้าคุณจะไม่ได้ทานอาหารผ่านลำคอนี้แน่นอน” เสียงแปล่ง ๆ ที่พูดผ่านหมวกไหมพรม แม้จะจับความได้ไม่ชัดเจน แต่ชายหนุ่มก็รู้ตัวว่า ต้องปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะเหมาะสมและไม่เจ็บไปกว่านี้

“เอ่อ..อื่อ คุณเป็น..” ทำท่าเหมือนจะตั้งคำถาม

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น..อยู่เฉย ๆ ดีกว่า แล้วคุณจะไม่เจ็บตัว” เสียงคำรามผ่านหน้ากากไหมพรมออกมาครั้งนี้ หนักแน่นเหมือนเป็นคำสั่ง

“ชูมือทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะ” คราวนี้เป็นคำสั่งอย่างชัดเจน

ชายหนุ่มรี ๆ รอ ๆ ที่จะปฏิบัติตาม นึกอยู่ในใจว่า เขาควรทำตามคำสั่งดี หรือว่าลองต่อสู้กันดูสักตั้ง จนคมมีดถูกกดลงไปที่คออีกครั้ง มีเลือดสีแดงซึมออกมาซิบ ๆ

“เร๊ว!” ไม่ต้องรอให้เตือนอีกครั้ง ชายหนุ่มชูแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะในทันที

ร่างในชุดดำกระโดดขึ้นไปนั่งคร่อมบนร่างของชายหนุ่มเจ้าของบ้านอย่างรวดเร็ว เอาเข่าทั้งสองข้างกดทับลงบนต้นแขนทั้งสองของเขาไว้จนขยับไม่ออก ก่อนใช้ปากคาบมีดสปริงเอาไว้ทั้ง ๆ ที่ยังสวมหน้ากากไหมพรมแล้วรวบข้อมือทั้งสองข้างของเหยื่อด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งคลายแส้หนังในมือออกแล้วเอาปลายข้างหนึ่งพันรอบข้อมือทีละข้างอย่างชำนาญ

“โอ๊ย..เบา..า” ชายหนุ่มกัดฟันร้องเสียงหลง เมื่อแส้ที่มัดข้อมือถูกกระตุกให้แน่นที่สุดเป็นครั้งสุดท้าย ปลายแส้ที่ยังเหลือราว 2 ฟุต ถูกดึงไปมัดกับหัวเตียงที่เป็นเหล็กดัดรูปไม้เลื้อย

ร่างกายส่วนบนของชายหนุ่มไม่มีพิษสงอีกต่อไปแล้ว

ร่างในชุดดำผละออกมายืนอยู่ข้างเตียง หายใจแรงและถี่ขึ้นกว่าเดิม สายตาจับจ้องไปที่ร่างบนเตียงไม่กระพริบ
เขายังต้องการอะไรจากเหยื่อผู้นี้อีกนอกเหนือจากทรัพย์สมบัติมูลค่ามหาศาลนั่น

“คุณ..คุณจะทำอะไรผม” ชายหนุ่มละล่ำละลักออกมา มองร่างที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจ

“เดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง” เสียงคำรามต่ำ ๆ ผ่านหน้ากากไหมพรมออกมา น่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งนัก

ร่างในชุดดำใช้มือทั้งสองข้างแหวกเสื้อแจ็คเก็ตออกเหมือนจะฉีกให้มันขาดเป็นสองส่วน..
เนินเนื้อสีขาวก้อนมหึมาดีดตัวออกมาฉลองอิสรภาพหลังถูกจองจำอยู่ภายใต้เสื้อรัดรูปมาเป็นเวลานาน อวดความขาวของมันท้าทายแสงสีนวลของจันทร์เพ็ญว่าอย่าได้ริอ่านมาหาญเทียบ

ที่แท้ร่างในชุดดำเป็นหญิงสคราญวัยกำดัดที่ปกปิดความงามสะพรั่งของเรือนร่างไว้ภายใต้เครื่องหนังสีดำเป็นเงาวับ

เสื้อแจ็กเก็ตถูกเหวี่ยงลงไปกองบนพื้นอย่างไม่ใยดี หลังจากนั้นเพียงอึดใจ.. กางเกงรัดรูปสีดำก็ถูกรูดไปกองอยู่กับพื้นก่อนที่จะสลัดมันออกจากร่าง เช่นเดียวกับถุงเท้าและรองเท้า แต่ละชิ้นแต่ละอัน ถูกเหวี่ยงกระจัดกระจายกันไปตามจุดต่าง ๆ ของห้อง ราวกับต้องการกำจัดพวกมันไปเสียให้พ้น ๆ..

แม้จะยืนอยู่ในความมืด แต่ความขาวโพลนของเรือนร่างก็เปล่งประกายออกมาให้เห็นเส้นโค้งเส้นเว้าได้อย่างชัดเจนราวกับว่าภายใต้ผิวกายนั้น มีองค์ประกอบของสารเรืองแสงประจุอยู่
มิติที่ปรากฏอยู่ภายใต้แสงและเงา ช่างงดงามดุจจินตนาการของสรวงสวรรค์

ชายหนุ่มแม้อยู่ในอาการหวาดผวา ก็ยังอดไม่ได้ที่จะจับจ้องส่วนโค้งส่วนเว้าข้างหน้าอย่างไม่วางตา ถ้าสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้านี้ไม่ใช่นางปีศาจร้าย ก็อาจจะเป็นนางฟ้าจากเบื้องบนมาโปรด

“ฉันจะทำให้ไฟร้อนแรงในตัวคุณดับมอดลงด้วยความร้อนรุ่มในตัวฉัน” พูดจบ หญิงสาวนิรนามก็ทะยานขึ้นไปบนเตียง คุกเข่าคร่อมอยู่บนร่างของชายหนุ่ม เป็นครั้งแรกที่สายตาของคนทั้งสองได้สบกันอย่างใกล้ชิด กลิ่นหอมรัญจวนใจของน้ำหอมชั้นดีคลุกเคล้ากับกลิ่นหอมอบอวลจากโนมเนื้อกายสาวโชยเข้ามาสัมผัสกับจมูกของชายหนุ่ม เขาไม่รั้งรอที่จะสูดลมหายใจเข้าไปให้เต็มปอด เพียงแค่ลมหายใจหนึ่งก็ประหนึ่งว่าได้ดูดดื่มเอาร่างทั้งร่างนั้นมาอยู่ภายในกายของเขาแล้ว

“อุ๊บ!” ชายหนุ่มร้องออกมาเบา ๆ เมื่อรู้สึกว่า กางเกงตัวน้อยของเขากำลังถูกกระชากให้หลุดออกไปจากร่างอย่างรวดเร็ว เสียดายที่เขาช่วยได้เพียงแค่การสะบัดข้อเท้าให้มันหลุดไปให้ไกลโพ้นตัวโดยเร็วที่สุดเท่านั้น

ปฏิบัติการหื่นกระหายของนางแมวป่าบนเรือนร่างของเหยื่ออันโอชะได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อร่างทั้งร่างของนางขึ้นไปนั่งอยู่บนท่อนขาของชายหนุ่ม กงเล็บทั้งสองข้างกางออกแล้วขยุ้มลงบนเป้าหมายอย่างแม่นยำ
ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกขึ้นสุดตัว รู้สึกราวกับว่าชิ้นเนื้อบนร่างกายของเขากำลังถูกดึงทึ้งให้หลุดออกไปจากร่างครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะกำลังคิดจะร้องโอดโอยออกมา หญิงสาวกลับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นรักใคร่ทะนุถนอมด้วยสัมผัสที่ละมุนละไม แต่พอเขาเริ่มเคลิบเคลิ้มและรู้สึกอบอุ่น เธอก็กลับเร่งจังหวะเป็นกระชากลากเลื่อน หากไม่ได้ถูกพันธนาการไว้อย่างแน่นหนาเช่นนี้แล้ว เชื่อว่าร่างของเขาคงไปอยู่ที่ไหนสักแห่งที่ไม่ใช่บนเตียงหนานุ่มนี้

ช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมานที่ต้องตกอยู่ภายใต้บังเหียนของจ็อกกี้สาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้กำลังจะผ่านพ้นไป ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าเส้นชัยของนางโม่งสาวผู้นี้อยู่ที่ไหน แต่สำหรับเขาผู้เป็นม้า มันได้เดินทางมาถึงจุดสุดท้ายของการห้อแล้ว
และเมื่อมันกำลังจะผ่านพ้นไป ความรู้สึกทุกข์ทรมานที่มีมาตลอดเมื่อครู่นี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นความหฤหรรษ์ที่เขาไม่เคยพานพบมาก่อนทั้งชีวิต
……………..
ร่างของนางโจรสาวพลิกกลับมานอนหงายอยู่ข้าง ๆ ตัวของชายหนุ่ม ทั้งสองแข่งกันเป่าลมหายใจออกมาจากปากราวกับเพิ่งผ่านพ้นการวิ่งมาราธอนด้วยระยะทางที่ยาวไกลก่อนที่หญิงสาวจะพลิกตัวเข้ามาหา โอบกอดชายหนุ่มอย่างสุดเสน่หา

“ถอดหน้ากากไหมพรมนี่ออกเสียทีเถอะที่รัก แล้วช่วยแก้มัดให้ผมด้วย” เมื่อชายหนุ่มกล่าวจบ หญิงสาวก็ดึงหมวกไหมพรมที่เปียกชื้นออกจากศีรษะ สะบัดศีรษะไปมาสองสามครั้งเพื่อให้ผมที่ยาวปกไหล่เข้าที่เข้าทาง
ใบหน้าที่หวานเยิ้มปานน้ำผึ้งเดือนห้าปรากฏขึ้นมาแทนที่พร้อมรอยยิ้มยั่วยวนใจ
สวยหยาดเยิ้มปานนี้ ไฉนคิดอ่านเป็นอาชญากร!

“ขอบคุณที่ไม่ลอยนวลไปพร้อมกับทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดของผม” ชายหนุ่มซึ่งยังคงถูกพันธนาการเอาไว้กล่าวด้วยรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจ

“เพราะฉันมาคิดดูแล้วว่า..คุณมีค่ากว่าสิ่งของพวกนั้นมากมายนัก” หญิงสาวกล่าวพร้อมกับยื่นปากมาจุมพิตริมฝีปากของคู่เสน่หาเบา ๆ หนึ่งครั้ง

“วันเพ็ญเดือนหน้า ถึงตาคุณต้องออกไปปีนรั้วเข้ามาบ้างแล้วนะ” ว่าแล้วหญิงสาวก็พลิกตัวขึ้นมาทับร่างของชายหนุ่มอีกครั้งหนึ่ง

***จบ(ด้วยรอยยิ้มของคุณไง)***



Create Date : 30 สิงหาคม 2548
Last Update : 10 มีนาคม 2549 11:41:10 น. 2 comments
Counter : 848 Pageviews.  

 





อิ .. อิ ..

ออก Rate R เล็กๆ ..

เขียนหนังสือเก่งจัง ..

ถ้อย คำ .. ก้อ ..


คุณเขียนเก่ง ..

ตรงที่ให้ ติดตามไปได้เรื่อยๆ ทุกตัวอักษร ..

เหมือนจะให้คนอ่าน วิ่งไล่ตะครุบ ตัวอักษรไปทีละตัวอย่างกระหาย ..

มันจะเกิดอะไรขึ้น ??

มันจะเกิดอะไรขึ้น ??

เดาไปเรื่อยๆ .. คาดไม่ถูก ว่าเหตุการณ์เบื้องหน้าจะเป็นยังไง ..

ตัวหนังสือที่พิมพ์ .. ไม่ผิดแม้แต่ตัวเดียว ..

อักขระที่เลือกมาเขียน .. ก็ สวย ..


เมื่อกี้ อ่านเรื่อง "แม่" ไปได้ นิดหนึ่ง .. แล้วนะคะ ..

ไม่ค่อยกล้าอ่านค่ะ ..

เป็นโรค บ่อน้ำตา ตื้น ..



เดี๋ยวจะแวะไปอ่าน เรื่อง อาบ๊วย กับ แผนล่าสังหาร ค่ะ ..





โดย: foreverlovemom วันที่: 21 พฤษภาคม 2558 เวลา:10:33:10 น.  

 


โดย: *bonny วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:11:29:23 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

*bonny
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




[Add *bonny's blog to your web]