ผู้ที่ควรแก่การยกย่องและเคารพ คือผู้ที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรม มิใช่ผู้ที่ทรงอำนาจ แต่ไร้คุณธรรม "ป๋วย อึ้งภากรณ์"
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
17 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
คิริทัตตชาดก-ชาดกว่าด้วยการเอาอย่าง

วันนี้มาติดตามชาดกกันนะคะ ชาดกเป็นเรื่องราว
ในอดีตชาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อครั้ง
ยังเป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญเพียรเพื่อปรารถนา
พระโพธิญาณอยู่ เรื่องนี้มีคติสอนใจดีค่ะ




ม้าปัณฑวะเดินขาเป๋ เหตุเพราะเดินเลียนแบบคนเลี้ยงที่ขาเป๋

สมัยนั้นมีสหายสองคนเป็นชาวเมืองราชคฤห์ สองสหายนั้น
คนหนึ่งบวชในสำนักพระศาสดาอีกคนหนึ่งบวชในสำนัก
ของพระเทวทัต สหายทั้งสองนั้นย่อมได้พบเห็นกันเสมอ
แม้ไปวิหารก็ยังได้พบเห็นกัน ภิกษุสองสหาย ซึ่งบวช
ต่างสำนักแต่ก็มีเวลาเจอกันเป็นประจำ




ภิกษุที่บวชในสำนักพระศาสดาเมื่อบวชแล้วต้องปฏิบัติ
กิจสงฆ์อยู่เป็นนิจ ต่างจากสหายที่บวชในสำนักพระเทวทัต
ที่ไม่มีกิจใดที่พึงต้องทำ “โอ้โห วันนี้มีอาหารอร่อยๆ ทั้งนั้นเลย
สบายจังเลยไม่ต้องไปบิณฑบาตเหมือนสหายของเรา
พรุ่งนี้ชวนสหายมาฉันด้วยกันก็น่าจะดี”




ภิกษุในสำนักพระศาสดาต่างออกปฏิบัติศาสนกิจเป็นปกติ
“สหายท่านจะเที่ยวบิณฑบาตให้เหงื่อไหลอยู่ทุกวันทำไม
เพียงท่านไปนั่งวิหารตำบลคยาสีสะกับเราเท่านั้น
ก็จะได้บริโภคของดีด้วยรสเลิศต่างๆแล้ว" “จะดีหรือท่าน
เราบวชสำนักนี้ก็ควรจะฉันที่สำนักนี้ ถ้าไม่อย่างนั้น
จะผิดวินัยสงฆ์ รึเปล่าก็ยังไม่รู้”




ภิกษุสำนักพระเทวทัตได้เชิญภิกษุสหายไปยังคยาสีสะ
“เอออย่าคิดมากนะ การที่ท่านได้รับความสะดวกสบาย
ก็จะทำให้ท่านมีสมาธิ(Meditation) เพ่งภาวนาดีขึ้น
ยังไงละ” ภิกษุนั้นถูกพูดบ่อยๆเข้าก็อยากไป นับจากนั้น
ก็ไปคยาสีสะทำการบริโภค และมายังเวฬุวันต่อ เมื่อยังสาย




ภิกษุสำนักพระศาสดาได้มายังคยาสีสะตามคำชวน
ของภิกษุสหาย “จริงๆน่าจะมาได้ตั้งนานแล้วนะ
สบายอย่างที่ท่านว่านั้นแหละอาหารก็อร่อยด้วย”
“เห็นไหมละท่านก็ฉันให้อิ่มแล้วก็ค่อยกลับไปยังเวฬุวัน
ก็ยังได้ไม่มีใครรู้หรอก” เรื่องดังกล่าวภิกษุนั้น
ไม่อาจปกปิดได้ตลอดไป ไม่ช้านักข่าวก็ปรากฏว่า
ภิกษุนั้นไปคยาสีสะบริโภคภัตตาที่เขาอุปัฏฐากพระเทวทัต




เหล่าภิกษุสำนักพระศาสดาเริ่มเห็นพฤติกรรม
ที่ไม่เหมาะสมของภิกษุหนุ่ม “ดูนั่นสิท่านสงสัยภิกษุหนุ่ม
รูปนั้นต้องไปวิหารคยาสีสะแน่ๆเลย เฮ้อไม่ควรเลยจริงๆ
เราต้องเตือนสติเขาก่อนที่เขาจะผิดพลาดมากไปกว่านี้"
นานวันเข้าจากที่เป็นภิกษุหนุ่มที่มุ่งมั่น
ปฏิบัติธรรม ก็กลายเป็นละเลย รักในความสบาย




ภิกษุหนุ่มเริ่มเกียจคร้าน ละความเพียรในการปฏิบัติธรรม
“อุ้ยมัวแต่ลิ้มรสแกงคั่วอยู่ มาสายจนได้ เออหรือว่า
ครั้งนี้เลื่อนไปก่อนดีกินมาซะอิ่มตื้อเลยมีหวังนั่งหลับแน่"
เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ภิกษุอื่นๆเกิดความขัดข้องใจ
จึงไต่ถามความจริงจากภิกษุนั้น “ท่านบริโภคภัต
ที่เขาอุปัฏฐากแก่ท่านเทวทัตจริงหรือ พระเทวทัต
เป็นเสี้ยนหนามต่อพระพุทธเจ้าเป็นผู้ทุศีลท่านบวช
ในศาสนาอันเป็นเครื่องนำออกจากทุกข์เห็นปานนี้แล้ว
บริโภคโภชนะอันเกิดขึ้นแก่พระเทวทัตโดยไม่ชอบธรรมเลย"
“ผมไปคยาสีสะบริโภคจริงแต่พระเทวทัตไม่ได้ให้ภัตแก่ผม”




เหล่าภิกษุทั้งหลายได้พาภิกษุหนุ่มเข้าเฝ้าพระศาสดา
ภิกษุรูปอื่นเห็นพฤติกรรมเปลี่ยนไปของภิกษุหนุ่ม
จึงพาไปเฝ้าพระศาสดายังโรงเฝ้าธรรมสภา “ภิกษุเธอ
อย่ากระทำการหลีกเลี่ยงในเรื่องนี้ พระเทวัตเป็นผู้ไม่มีอาจาระ
เป็นผู้ทุศีลเธอบวชศาสนานี้แล้วควรคบหาศาสนาของเรา
อยู่นั่นแหละยังบริโภคภัตตของพระเทวทัตได้อย่างไรเล่า




พระบรมศาสดาทรงตรัสเล่า คิริทัตตชาดก
แม้ในอดีตเธอก็เคยประพฤติผิดเพราะคบหากับคนพาล
มาแล้ว แล้วพระองค์ก็ทรงตรัสเล่า คิริทัตตชาดก ดังนี้"
ในเมืองพาราณสี พระเจ้าสามะมีม้ามงคลตัวหนึ่งชื่อว่า
ปัณฑวะ มีรูปร่างสวยงามมาก “ กินให้เยอะๆนะ
พ่อมีแต่หญ้าอ่อนๆ ทั้งนั้นเนี่ย” ม้ามงคล ปัณฑวะ




ต่อมาไม่นานคนเลี้ยงม้ามงคลของพระราชาก็ได้
เสียชีวิตลง จากนั้นพระเจ้าสามะก็รับสั่งให้หา
คนเลี้ยงม้ามาใหม่ แล้วก็ได้รับนายคิริทัต
ซึ่งเป็นชายขาเป๋เข้ามาเลี้ยงม้าตัวนี้แทน




“จากนี้เจ้าก็ดูแลม้ามงคลแทนคนเลี้ยงม้าที่เสียไป
ก็แล้วกัน” “พระเจ้าค่ะกระหม่อมจะดูแลอย่างดีเลยพระเจ้าค่ะ"
"ชอบละสิ เดี๋ยวจะแปลงขนให้อย่างงามเลยนะพ่อ ทำงาน
วันแรกต้องสร้างผลงานให้ดีหน่อยอยากได้อะไรก็บอกพ่อนะ”


ม้ามงคลปัณฑวะเดินตามหลังนายคิริทัตทุกวัน เมื่อเห็น
นายคิริทัตเดินขาเป๋ก็เดินขาเป๋ตามก็เลยกลายเป็นม้าขาเป๋ไป
“เดินตามมาเลยพ่อเดี๋ยวจะพาไปเดินเล่น"
“ตั้งแต่เปลี่ยนคนดูแลใหม่รู้สึกว่าเดินลำบากขึ้นนะเนี่ย
เราต้องเดินกระโดกกระเดกๆ อย่างนี้สินะ“


คิริทัตสงสัยในอาการเดินกะเผลกของม้าปัณฑวะ
“อ้าวเป็นอะไรไปละพ่อทำไมเดินกระโพกกะเผลก
อย่างนั้นละ ตายๆๆ สงสัยม้าปัณฑวะเจ็บเท้ารีเปล่าเนี่ย
โอ้ยเราก็ดูแลอย่างดีแล้วนี่นาเป็นอะไรไปละพ่อ”
“เอ๋...จะมาจับขาเราทำไมเนี่ยปล่อยๆ มาจับทำไม”


คิริทัตได้ตรวจหาสาเหตุการเดินผิดปกติของม้าปัณฑวะ
“นิ่งๆสิพ่อดูขาก่อนเจ็บตรงไหนหรือเปล่า เอ ก็ไม่เห็น
เป็นอะไรนี่นาหรือว่ากระดูกจะแตกข้างใน ตายๆ แล้ว
เรื่องใหญ่แน่ๆรีบแจ้งพระเจ้าสามะดีกว่า”
คิริทัตหารู้ได้ว่าสาเหตูที่ม้าปัณฑวะเดินขาเป๋นั้น
เนื่องจากเดินตามหลังตัวเอง เขารีบแจ้งเหตุนี้แก่พระราชา




คิริทัตได้นำความเรื่องม้าปัณฑวะไปกราบทูลต่อพระราชา
“ข้าพระองค์ดูแลม้าปัณฑวะเป็นอย่างดีแล้วพระเจ้าค่ะ
แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดม้ามงคลนี้ถึงเดินขาเป๋ได้
หรือว่าจะเกิดอาการเจ็บป่วย” “หรือเจ้าดูไม่ออก
แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวข้าจะส่งแพทย์ไปดูอาการเอง”


“เอ...ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่นา..แผลก็ไม่มีนี่
กระดูกก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร” “ถ้าอย่างนั้น
ม้าปัณฑวะทำไมถึงเดินขาเป๋ละท่านหมอ
เอ..อย่างนี้ก็ยากเกินที่จะวินิจฉัยจริงๆท่านเอย"
“เป็นไปได้เหรอม้าปัณฑวะเดินขาเป๋เองโดยที่ไม่มี
อาการบาดเจ็บเลย” “หรือนั่นท่านตรวจดีแล้วรึ”
“พระเจ้าค่ะ หม่อมฉันดูทั้งบาดแผลและ
กระดูกข้างในก็ไม่เห็นมีอะไร เป็นเรื่องที่
น่าแปลกมากไม่ได้เจ็บขาแต่เดินกะเผลก"


พระราชาคิดว่า “หรือว่าเจ้าคิริทัต จะดูแลไม่ดี"
“ทหารเรียกอำมาตย์มาพบเราหน่อย" พระเจ้าสามะ
คิดถึงเรื่องที่ทำให้ม้าปัณฑวะเดินขาเป๋ แต่คิดไม่ออก
จึงทรงเรียกอำมาตย์ผู้สอนธรรมมาปรึกษา




เพื่อหาสาเหตุการเดินของม้า “ท่านช่วยเราคิดหน่อยเถิด
ท่านอำมาตย์ เหตุใดม้ามงคลถึงเดินขาเป๋ได้
ไม่ได้เกิดจากอาการเจ็บป่วยแล้ว จะเกิดจาก
สาเหตุใดบ้าง" “ถ้าอย่างนั้นกระหม่อมขออนุญาต
ไปเฝ้าม้าปัณฑวะสักระยะก่อนเถอะพระเจ้าค่ะ
กระหม่อมถึงจะทูลถึงสาเหตุได้"


อำมาตย์ได้สอบถามข้อมูลการเลี้ยงดูม้าปัณฑวะ
“กระผมดูและพระปัณฑวะเป็นอย่างดีแล้วนะครับ
ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม แต่ก็คิดถึงสาเหตุที่
ม้ามงคลเดินขาเป๋ไม่ได้สักที" “ไม่เป็นไรเจ้าก็
เลี้ยงตามที่เจ้าเลี้ยงไปเถิดเราจะเฝ้าดูสาเหตุให้เอง"
อำมาตย์เมื่อได้รับคำสั่งจากพระเจ้าสามะให้หาสาเหตุ
การเดินขาเป๋ของม้ามงคลก็ได้มาเฝ้าดูม้ามงคลอย่างใกล้ชิด


อำมาตย์เฝ้าสังเกตการเลี้ยงดูม้าของนายคิริทัต
“เอ้าฟางอร่อยๆ มาแล้วจ้าทานให้อิ่มเลยนะพ่อ
มีคนมาเฝ้าดูอย่างนี้ต้องประพฤติดีๆหน่อยเรา ”
“อืม...ก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดเพี้ยนไปนี่นา
อาหารก็ให้เหมือนเดิมอาบน้ำแปรงขนก็
เหมือนเดิม คงผิดแปลกไปจากท่าเดินแล้วละมั้ง”


อำมาตย์มาเฝ้า คิริทัต และ ม้ามงคล
หลายวันก็ไม่พบเหตุที่จะทำให้ม้ามงคลเดิน
ขาเป๋ได้ “ใช่สินะ ตั้งแต่ที่เรามาดูคิริทัต
เลี้ยงม้ามงคล ยังไม่เคยเห็นม้ามงคลเดินเลยนี่นา
คิริทัตเจ้าลองเดินพาม้าปัณฑวะเดินไป
สวนทางด้านโน้นสิ เราจะสังเกตดูว่าอะไร
ที่ทำให้ม้ามงคลเดินขาเป๋ได้”




อำมาตย์ให้คิริทัตจูงม้าเดินไปในสวนตามปกติ
คิริทัตจูงม้าปัณฑวะเดินไปในสวนตามปกติ
อย่างที่เคยทำ ม้ามงคลจากที่เคยเป็นม้าสง่า
แต่เมื่อเดินตามคิริทัตแล้วกลับเดิน
กระโพกกะเผลกตามคนเลี้ยง "มาพ่อมาเดิน
ตามเรามาเถิด เราจะพาพ่อไปดูสวน”
“เดินตามคนนี้ทีไรลำบากกายเลยทุกทีเรา"


อำมาตย์ได้สังเกตและทราบในที่สุดว่าเหตุใด
ม้าจึงเดินขาเป๋ เมื่ออำมาตย์เห็นม้ามงคล
เดินกะเผลกเดินตามหลังคิริทัตก็รู้ว่าสาเหตุ
ก็คือคิริทัตนี่เอง "ตอนกินตอนอาบน้ำก็ปกตินะ
แต่เมื่อเดินตามหลังคิริทัตก็มีอาการทันทีสงสัย
คงเป็นเพราะเดินตามหลังคนเลี้ยงสิเนี่ย"
เมื่อรู้เหตุที่ม้าเดินขาเป๋แล้ว อำมาตย์ก็รีบทูล
พระเจ้าสามะทันทีเพื่อถวายหนทางแก้ไข




อำมาตย์ได้กราบทูลถึงสาเหตุที่ม้าปัณฑวะเดินขาเป๋
“ท่านรู้แล้วว่าทำไมม้ามงคลของเราถึงเดินขาเป๋ได้"
“พระเจ้าค่ะหม่อมฉันได้ไปเฝ้าดูคิริทัตเลี้ยงม้า
อยู่หลายวัน เมื่อให้อาหาร อาบน้ำ แปรงขน
ม้าคิริทัตก็ไม่แสดงอาการผิดปกติหรือขาเป๋แต่อย่างใด
จะมีแต่เฉพาะตอนที่เดินตามหลังคิริทัตเท่านั้นพระเจ้าค่ะ
ที่ม้ามงคลตัวนี้เดินกระโพกกะเผลกเหมือนคิริทัตไม่มีผิด"


อำมาตย์ได้บอกพระราชาถึงสาเหตุที่ทำให้ม้าเดินขาเป๋
“ท่านหมายความว่าคิริทัตเหรอที่ทำให้ม้ามงคล
ของเราขาเป๋ใช่พระเจ้าค่ะ ขอเดชะอาการของ
ม้าปัณฑวะเป็นปกติดีแต่ที่เดินขาเป๋เป็นเพราะเดินตาม
คนเลี้ยงที่ขาเป๋พระเจ้าค่ะม้าจะเลียนแบบคนเดิน
คนฝึกดูแลพระเจ้าค่ะเมื่อคิริทัตที่เป็นชายเดินขาเป๋ข้างหน้า
ย่อมเป็นแบบอย่างให้ปัณฑวะเดินเป็นแบบอย่างได้พระเจ้าค่ะ“


คิริทัตหมดหน้าที่ในการดูแลม้าปัณฑวะ
“ถ้าอย่างนั้นเราจะแก้ไขอย่างไรดีละท่าน”
“ไม่ยากหรอกพระเจ้าค่ะ แค่ได้คนเลี้ยงม้าขาดี
ม้าก็จะเป็นปกติเหมือนเดิมเอง ถ้าคนบริบูรณ์สมควร
แก่อันม้านั่นพึงจะมานั่งที่บังเหงียนแล้วจูงรอบไป
สนามม้าไซร้ ม้าก็จะออกอาการขเยกแล้วเลียนแบบ
คนเลี้ยงม้านั่นโดยพลัน" เมื่อเปลี่ยนคนเลี้ยง
ม้าปัณฑวะก็กลับมาเดินเป็นปกติเช่นเดิม


“เราไม่น่าให้คิริทัตมาเลี้ยงตั้งแต่แรกเลยถ้าอย่างนั่น
เจ้าจงไปเปลี่ยนคนเลี้ยงม้าโดยเร็ว ก่อนที่
ม้ามงคลของเราจะติดอาการเดินขาเป๋ไปมากกว่านี้"
“ฮ้า..ท่านรู้สาเหตุที่ทำให้ม้ามงคลเดินขาเป๋แล้วหรือ
เป็นเพราะเหตุใดกันท่าน" "ใช่ เหตุก็เพราะเจ้า
นั้นแหละคิริทัต การที่เจ้าเดินขาเป๋ เลยทำให้ม้าเดิน
ขาเป๋ตามเจ้า" "เป็นเพราะเราหรือนี่"
"รู้อย่างนี้เจ้าก็ออกไปได้แล้ว เราจะหาคนเลี้ยงม้า
คนใหม่มาแทนที่เจ้าแล้ว เจ้าหมดหน้าที่แล้ว ไปซะ"


เมื่อเปลี่ยนคนเลี้ยงม้าแล้วไม่นานม้าก็เดิน
ปกติดีเช่นเดิม พระราชาจึงได้พระราชทาน ลาภ ยศ
ให้แก่อำมาตย์ผู้ให้ถวายคำแนะนำเนื่องจาก
เป็นผู้รู้วิธีทำให้ม้ากลับมาเป็นปกติได้


คิริทัตในครั้งนั้นได้เป็น เทวทัตในครั้งนี้
ม้ามงคลได้เป็น ภิกษุผู้คบพวกผิด
พระราชาได้เป็น พระอานนท์ ส่วนอำมาตย์บัณฑิต
เสวยพระชาติเป็น องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบดีดีจาก
"www.dmc.tv" ธรรมดีดีที่มีให้ดูสดสดทุกวัน




Create Date : 17 มีนาคม 2554
Last Update : 18 มีนาคม 2554 6:42:07 น. 35 comments
Counter : 2410 Pageviews.

 
emo


สาธุ
สาธุ สาธุ
สาธุ สาธุ สาธุ


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:6:34:40 น.  

 
สวัสดีวันฝนตกค่ะ ชอบอ่านได้แง่คิดดีค่ะ ทางนี้ตกตลอดเลย ดูแลสุขภาพเยอะๆนะค่ะ



โดย: ต้นกล้าต้นนี้ วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:7:39:40 น.  

 
หวัดดีจ๊ะ คุณหอมกร อากาศเย็นดีเนอะวันนี้ เนื่องจากฟ้าฝนพรำๆ รักษาสุขภาพนะจ๊ะ เดี๋ยวไม่สบาย


โดย: Summer Flower วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:8:48:01 น.  

 
วันนี้ออกแนวธรรมะไปเลย

emoemoemo


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:10:32:55 น.  

 
สวัสดีค่ะ
แวะมาส่งความอบอุ่นค่ะ ช๊อกโกแลต ร้อนๆ และก็ เลมอน วีสเค๊ก กับ ช๊อค ชีสเค๊กค่ะ




ตามด้วย ส้มตำแครอท ^_^



ลาบไก่ทอด ค่ะ



ตบท้ายด้วย จุ่ม ร้อนๆ ค่ะ


รู้นะ หิวแล้วหล่ะซิ ^_^ เชิญแซ่บค่ะ

ด้วยความยินดีค่ะ ขอบคุณเช่นกันที่เข้าไปเที่ยวทะเลที่บ้านนะคะ


โดย: ภายใต้ วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:10:37:03 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะครับ ภาพประกอบได้บรรยากาศ ดูโรแมนติคมากเลยครับ

ปล.การ์ตูนธรรมะนี้ ผมเคยอ่านสมัยเด็กๆ รูปขาวดำ ไม่สวยเหมือน ของคุณหอมกรเลยครับ


โดย: multiple วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:13:29:46 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทาย

มาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับชาดกครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:15:20:21 น.  

 


พรุ่งนี้ทานอะไรกันดี...


โดย: veerar วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:23:08:48 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณหอมกร

มาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับชาดกค่ะ
ช่วงนี้อากาศหนาว ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:23:13:38 น.  

 
แวะมาทักทายยามดึกค่ะ..
มีความสุขในวันหยุดนะค่ะ


โดย: จิ๊บ (คุณนายเยอรมัน ) วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:2:28:17 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีเช้าวันศุกร์ค่ะคุณหอม


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:7:30:32 น.  

 
สวัสดีเช้าวันศุกร์ค่ะ เช้านี้ฟ้าเปิดแล้ว ได้เห็นพระอาทิตย์ซะที555 ดุแลสุขภาพเยอะนะค่ะ



โดย: ต้นกล้าต้นนี้ วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:8:12:22 น.  

 
แหม คุณหอมกรไปเยี่ยมบ้านทีไรแทบลอยเลยนิ ชมกันทุกวัน ขอบคุณนะคะ

วันนี้หนาวเนอะกทม ดูข่าวเวียตนามหิมะตกหละ


โดย: Summer Flower วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:8:27:19 น.  

 
ความเป็นมา ระหว่างสาว 15 และสาว 30 (มั้ง ) 5555 ลองดูนะคะ ขำๆ

อายุ 15 เวลามีปัญหากับใคร ตบก่อนถามทีหลัง

อายุ 30 ประโยคยอดนิยมคือ ช่างมันเถอะ,ไม่เป็นไรค่ะ

อายุ 15 สาวกแมคโดนัล

อายุ 30 สลัดผักตลอดกาล 55 (ตลอดเลย)

อายุ 15 ฝันว่าสักวันจะเจอหนุ่มหล่อ มีอายุนิดๆ นิสัยดีๆ

อายุ 30 ขอแค่เป็นผู้ชายก็พอ 55 (โดนได้อีก )

อายุ 15 อยากจะออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านกับเพื่อนๆ

อายุ 30 วันทั้งวันคิดถึงแต่ครอบครัว (แน่นอนอ่ะ)

อายุ 15 หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มีแค่แป้งฝุ่น ลิปมัน

อายุ 30 ซื้อตู้เย็นมาอีกหนึ่งตู้ไว้ในห้องนอน เพื่อแช่เครื่องสำอาง (อันนี้ก็ใช่อ่ะ)

อายุ 15 กลัวสิว

อายุ 30 กลัวฝ้า

อายุ 15 ซ่าไม่กลัวตาย

อายุ 30 ตระเวณทำบุญ (555 อันนี้เราก็ด้วยนะ)

อายุ 15 เห็นเพื่อนสำคัญกว่าพ่อแม่

อายุ 30 เห็นพ่อแม่สำคัญกว่าเพื่อน .. สุด สุดเลย

อายุ 15 รอบเอว 24

อายุ 30 รอบเอว...ไม่อยากจะบรรยาย (นั่นดิ)

อายุ 15 ไม่มีหนี้

อายุ 30 กู้ทุกอย่างยกเว้นกับระเบิด... 5555 อืมมม นะ

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ




อันนี้สำหรับคุณผู้ชายค่ะ คุณผู้หญิงก็อ่านได้จ้ะ จะได้รู้ว่า ผู้ชายเค้าคิดกันอย่างนี้เลยนะคะ ^_^


10 วิธีฆ่าเมีย
1.มันอยากกินอะไรซื้อให้มันกิน จนมันคาเรสโตรอลสูง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด เดี๋ยวไม่เกิน 50 ปี มันก็ตายเอง

2.มัน อยากได้เครื่องเพชรก็ซื้อให้มัน พอแสงเพชรมันสะท้อนเข้าตามันมากๆ เข้า เดี๋ยวตามันก็จะบอด พอมันตาบอดแล้วเราก็เอามันไปทิ้งที่ไหนก็ได้ มันหาทางกลับบ้านไม่ถูกแล้ว

3.มันชอบรถก็ซื้อให้มัน ยิ่งแพงๆ ยิ่งดี เครื่องมันแรงดี มันจะได้ขับเร็วๆ ความเสี่ยงสูง

4. มันอยากไปเที่ยวไหนก็พามันไป ต้องมีซักที่แหละที่มันพลาดเดินล้มหัวฟาดพื้นตายได้

5.งานบ้านอย่าไปให้มันทำ เราต้องแย่งมันทำให้หมด ไม่เปิดโอกาสให้มันได้ออกกำลังกาย เดี๋ยวมันก็ไม่แข็งแรง แล้วมันก็ตายเอง
6.ต้องพาเมียไปหาหมอบ่อยๆ ดูดิคนไม่ค่อยไปหาหมอไม่ค่อยเป็นไรหรอก คนที่ไปหาหมอบ่อย เดี๋ยวก็ตายแล้ว

7.เงิน เดือนออกมาเท่าไหร่ให้มันไปให้หมด ใครๆ ก็รู้ว่าเงินน่ะเป็นที่สะสมเชื้อโรคสารพัด เราแกล้งเอาเชื้อโรคให้มันเก็บไว้เดี๋ยวมันก็เป็นโรคตาย เราเองไม่ต้องเก็บเชื้อโรคไว้ สุขภาพแข็งแรง..เย้

8.ปลูกบ้านหลังใหญ่ๆ ให้มันอยู่ กว้างๆ ยิ่งดี เวลาจะเดินจากห้องนั้นไปห้องนี้ทีมันจะได้เหนื่อย เผลอๆ อาจหอบตายระหว่างทางได้

9.เช้า-เย็นกราบมันทุกวัน มันจะได้อายุสั้น

10.รักเมียให้มากๆ ไม่เคยได้ยินเหรอ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ พอมันทุกข์มากๆ มันก็ตรอมใจตาย

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ



โดย: ภายใต้ วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:13:22:39 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

แวะมาทักทายตอนบ่ายๆค่ะคุณหอมกรวันนี้มาแนวชาดกเลยหรือคะ


โดย: แม่น้องแปงแปง วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:13:43:45 น.  

 


กาแฟแบบนี้ไม่มีขายครับ อยากได้ต้องทำเอง สุขสันต์วันหยุดครับ


โดย: veerar วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:23:49:18 น.  

 

แหล่มค่ะช๊อบชอบไปหมดค่ะคุณหอม
หลับฝันดีเน๊าะ..


โดย: อุ้มสี วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:1:14:44 น.  

 


เอาดอกกุหลาบที่บ้านมาฝาก
ถ่ายรูปเอาไว้เมื่อหน้าร้อนที่แล้วค่ะ

สุขสันต์วันหยุดนะคะคุณหอมกร


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:2:34:22 น.  

 
อ่านแล้วชอบมากเลย


โดย: มิลเม วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:8:10:03 น.  

 
สวัสดีวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2554 จ๊ะ และตรงกับวันเกิดของ

พ.ศ. 2355 (ค.ศ. 1813) - เดวิด ลิฟวิงสโตน มิชชันนารีและนักสำรวจชาวสกอต (ถึงแก่กรรม 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2416)
พ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1947) - เกล็นน์ โคลส นักแสดงชาวอเมริกัน
พ.ศ. 2494 (ค.ศ. 1951) - ชรัส เฟื่องอารมย์ นักร้องชาวไทย
พ.ศ. 2498 (ค.ศ. 1955) - บรูซ วิลลิส นักแสดงชาวอเมริกัน และ เยิ่น ต๊ะหัว นักแสดงชาวจีน

และมีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น

พ.ศ. 1821 (ค.ศ. 1279) - ราชวงศ์ซ่งของจีนสิ้นสุดลง หลังจากการรุกรานของจักรวรรดิมองโกล
พ.ศ. 2457 (ค.ศ. 1915) - ดาวพลูโต ดาวเคราะห์แคระที่เคยถูกจัดเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ของระบบสุริยะ ปรากฏในภาพถ่ายเป็นครั้งแรก นับเป็นเวลา 15 ปีก่อนการค้นพบโดย ไคลด์ ทอมบอก์
พ.ศ. 2474 (ค.ศ. 1932) - สะพานฮาร์เบอร์ สิ่งก่อสร้างสำคัญแห่งหนึ่งของซิดนีย์ ออสเตรเลีย เปิดใช้อย่างเป็นทางการ
พ.ศ. 2496 (ค.ศ. 1953) - ถ่ายทอดสดการประกาศผลรางวัลออสการ์ทางโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก
พ.ศ. 2520 (ค.ศ. 1977) - ก่อตั้งห้องสมุดคอลฟิลด์เพื่อคนตาบอด เป็นห้องสมุดสำหรับคนตาบอดในประเทศไทย
พ.ศ. 2525 (ค.ศ. 1982) - กองกำลังอาร์เจนตินา นำโดย อัลเฟรโด แอสทิซ เข้ายึดครองเซาท์จอร์เจียในตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นชนวนสงครามระหว่างอาร์เจนตินากับสหราชอาณาจักร ในสงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์
พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990) - วันสถาปนาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ลำดับที่ 9 ของประเทศไทย
พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009) - การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2552: การอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วันแรกเริ่มต้นขึ้น


โดย: คิตตี้น้อยสีชมพู วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:13:21:52 น.  

 

อนุสาวรีย์วีรชน ปู่ดอก-ปู่ทองแก้ว วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
สร้างกริตเตอร์

แวะมาทักทายยามค่ำๆ วันนี้อยู่พาหุรัดทั้งวัน เพิ่งกลับมาได้สักครู่ใหญ่ กรุงเทพรถติดมากเพราะมีชุมนุมเสื้อแดงและเสื้อเหลือง วันนี้ได้อุปกรณ์ครบแล้วพรุ่งนี้คงยุ่งมากงานงวดเข้ามาแล้ว วันที่๒๓-๒๕ แสดงเวทีกลางและต่อจากนั้นก็แสดงแสงสีเสียงต่อเลย เสร็จจากงานนี้คิวจ่อเลยค่ะ วันที่๑๐เมษา ประกวดรำกลองยาว วันที่๑๓เมษาแสดงพิธีเปิดงานสงกรานต์เมืองอินทร์ ที่อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ว่ากันไป ชีวิตต้องดำเนินต่อไป คุณหอมกรสบายดีนะคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:19:56:38 น.  

 


ผมไม่ได้ขายกาแฟครับ แต่ผมชอบบรรยากาศของการขายกาแฟครับ


โดย: veerar วันที่: 20 มีนาคม 2554 เวลา:0:11:18 น.  

 
สวัสดีวันหยุดค่ะ



โดย: ต้นกล้าต้นนี้ วันที่: 20 มีนาคม 2554 เวลา:6:46:58 น.  

 
กลับมาแล้วจ้า
มาถึงก็พาเข้าครัวเลย

อ้อ...มาอีกทีที่นี่เปลี่ยนแนวแล้วเป็นพาเข้าหาธรรม ดีๆๆๆชอบจ้า


โดย: Maekapomkha วันที่: 20 มีนาคม 2554 เวลา:12:14:05 น.  

 
วันหยุดพี่หอมกรได้ไปเที่ยวไหนอะเปล่าเอ่ย


โดย: น้องผิง วันที่: 20 มีนาคม 2554 เวลา:13:43:15 น.  

 
สวัสดียามเย็นค่ะคุณหอมกร

บล็อกวันนี้มาแนวใหม่

อ่านแล้วมีข้อคิดดี ๆ จังเลยค่ะ


โดย: I_sabai วันที่: 20 มีนาคม 2554 เวลา:17:55:53 น.  

 


สวัสดีคะ แวะมาขอบคุณที่ไปทักทายหน่อยเสมอ ช่วงนี้อาจจะห่างหายไปบ้าง คงไม่ลืมกันเสียก่อนนะ




โดย: หน่อยอิง วันที่: 20 มีนาคม 2554 เวลา:20:13:14 น.  

 


ร้านกาแฟที่คุณเล่าให้ผมฟังมันก็เป็นร้านกาแฟที่เขาการันตีได้ว่าเขาได้เมล็ดกาแฟที่ดีมาจากที่ต่างๆครับ แต่ร้านกาแฟที่ดีที่จะเป็นร้านประจำคุณได้มันอยู่ที่ใจคุณครับ แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบไปห้างเพื่อมานั่งจับกาแฟครับ


โดย: veerar วันที่: 20 มีนาคม 2554 เวลา:23:43:46 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีเช้าวันจันทร์ค่ะคุณหอม


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:6:47:17 น.  

 
สวัสดีเช้าวันทำงานค่ะ



โดย: ต้นกล้าต้นนี้ วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:7:49:29 น.  

 
คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

สวัสดียามเช้าค่ะคุณหอมกร


โดย: เกศสุริยง วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:8:18:06 น.  

 
เที่ยงแล้วจ้า ไปทานข้าวกันเหอะ


โดย: Summer Flower วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:11:59:58 น.  

 

หนูชอบค่ะการ์ตูนสีสวยมีคติสอนใจ


โดย: เจ้าการะเกด วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:12:42:28 น.  

 
สวัสดียามบ่ายๆค่ะคุณหอมกร
ไปได้มาเยี่ยมคุณหอมกรเสียนานเลย
แต่คิดถึงเสมอนะคะ



โดย: Suessapple วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:15:11:55 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีเช้าวันอังคารค่ะคุณหอม


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:7:01:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หอมกร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 64 คน [?]




ทำงานราชการมีจิตใจรักชาติไม่น้อยกว่าใคร จากเดิมทำบล็อกหลากหลายที่ตนเองสนใจ ปัจจุบันเน้นแปะเรื่องราวจากภาพยนตร์ไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการตัดสินใจไปดู
Hello ! Hello ! Hello ! ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมเยียนจ้า
Friends' blogs
[Add หอมกร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.