เป็นคนไม่ค่อยไปเที่ยวไหน แน่นอนว่าสถานที่หนาวที่สุดที่เคยไปย่อมอยู่ในเมืองไทย
และสถานที่นั้นก็คือ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ลองมาดูข้อมูลเกี่ยวกับดอยอินทนนท์
จากวิกิพีเดียกันจ้า เขาบอกไว้ว่า มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ อำเภอจอมทอง อำเภอ
แม่แจ่ม อำเภอแม่วาง แลอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่จ้า อู้ฮู้ช่างมีพื้นที่กว้างใหญ่จริงๆ
เขาบอกว่า มีเนื้อที่ประมาณ 482.4 ตารางกิโลเมตร หรือ 301,500 ไร่ ประกอบไปด้วย
ภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทิวเขาอินทนนท์ หรือที่เรียก
อีกชื่อว่าทิวเขาถนนธงชัยตะวันออก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย มันจึงหนาวสุดไง
ดอยอินทนนท์ เดิมมีชื่อว่า "ดอยหลวงอ่างกา" ชื่อเดียวกับเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่นั่น
ใครเคยไปเดินแล้วยกมือขึ้น ส่วนตัวไปมาสองครั้งประทับใจทั้งสองครั้ง หนาวขนาดไหน
ก็ขนาดคนที่คิดว่าเตรียมตัวมาดีแล้วไม่หน่วหรอกน่า ต้องไปซื้อเสื้อหนาวเพิ่มกันเลยทีเดียว
ที่นั่นก็ช่างรู้ใจมีเสื้อหนาวขายกันด้วย ให้เลือกซื้อหาตามชอบใจทีเดียวเชียว หนาว หนาว
บนดอยอินทนนท์มีเจดีย์ด้วยจ้า เรียกชื่อว่า เจดีย์นภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ สวยงามมาก
เจดีย์นภเมทนีดล องค์สีน้ำตาล มีความสูง 60 เมตร สร้างเมื่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
มีพระชนมพรรษา 60 พรรษา มีซุ้มภาพปั้นด้วยดินเผาด่านเกวียนเป็นศิลปะแบบนูนต่ำ
ภาพทศชาติชาดก ภาพฑรรมชาติของป่าหิมพานต์ และสัตว์ในป่าหิมพานต์ ภายใน
พระสถูปเจดีย์เป็นห้องโถงโล่งประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร แกะสลักจาก
หินแกรนิตฝีมือช่างจากประเทศอินโดนิเซีย ภายในยอดปลีประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
ขึ้นไปกราบถึงเหนื่อยหน่อยก็ได้บุญแล้วจ้า ส่วนผนังห้องโถงจำหลักแสดงพุทธประวัติ
เจดีย์นภพลภูมิสิริ มีรูปลักษณ์ขององค์เจดีย์ประดับโมเสกแก้วสีม่วงอมชมพูตลอดทั้งองค์
ส่วนยอดของเจดีย์เป็นยอดปลีล้อมด้วยกลีบดอกบัวตูม ประดับด้วยโมเสกแก้วสีทอง
เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเช่นกัน ปันขึ้นไปกราบครบสององค์ได้บุญสองครั้ง
ผนังด้านนอกประดับด้วยภาพปั้นดินเผาเป็นเรื่องราวของพระภิกษุณี ภายในประดิษฐาน
พระพุทธรูปปางรำพึง เป็นพระประจำวันศุกร์ อันเป็นวันพระราชสมภาพของสมเด็จ
พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แกะสลักด้วยหินหยกขาวจากประเทศจีน ที่มีขนาดใหญ่
และงามที่สุดองค์หนึ่ง ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ว่า พระพุทธสิริกิติฑีฆายุมงคล มีความหมายว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นสิริมงคลและทรง
เจริญพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ บริเวณโดยรอบองค์เจดีย์
แวดล้อมด้วยสวนดอกไม้เมืองหนาว มีสีสันสวยงาม สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับ
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสักการะเจดีย์คู่มหามงคลบนยอดดอยอินทนนท์แห่งนี้จ้า
อีตอนไปเที่ยวก็ไม่ได้ค้นคว้าข้อมูลเท่าไหร่ พอกลบมาทำบล็อกนี้ต้องค้นข้อมูลมาฝาก
คนที่แวะเข้ามาอ่าน ใครทราบแล้วก็ถือเป็นการทบทวนความรู้ก็แล้วกัน นอกจากพระเจดีย์
ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาดอยอินทนนท์ก็คือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา (อ่างกาหลวง)
ตั้งอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ ภายในเป็นป่าเมฆซึ่งเป็นป่าดิบเขาที่เห็นได้ในบริเวณ
ดอยอินทนนท์ บรรยากาศในอ่างกาหลวงปกคลุมด้วยเมฆที่ลอยพัดผ่านเข้ามาตลอดเวลา
อากาศจึงชื้นและเต็มไปด้วยละอองน้ำ ทำให้ต้นไม้ใหญ่ในป่าดิบเขามีมอสและเฟินขึ้น
หุ้มเต็มต้นจนแลดูราวกับป่าในยุคดึกดำบรรพ์ สองข้างทางจะมีโอกาสได้เห็นพืชที่ชอบ
ความชื้นเช่น มอส เฟิน ฝอยลม ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น โอบล้อมต้นไม้น้อยใหญ่จนดูเหมือน
ต้นไม้ใส่เสื้อเลยทีเดียว เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกานี้เป็นเส้นทางรวมระยะทาง
ประมาณ 300 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินโดยใช้สะพานไม้ เพื่อป้องกันมิให้เหยียบย่ำ
ธรรมชาติอันเปราะบางเสียหาย เส้นทางจะวนกลับมา ณ จุดเริ่มต้น มีป้ายให้ความรู้เรื่อง
ธรรมชาติตลอดเส้นทาง ถึงเคยไปแล้วก็ยังน่าประทับใจอยู่มิรู้ลืม ใครไม่เคยไปลองกันดูจ้า
ขอบคุณข้อมูลย้อนรำลึกถึงความทรงจำ และภาพประกอบที่สวยงามจาก internet จ้า
อินทนนท์เคยขึ้นไปตอนหนาวที่สุดประมาณ 4 องศา
แต่อ่างขาง 0 องศา
หนาวจนหูจะหลุดครับ 555
นอนเต๊นท์ด้วย ลมแรง
นอนไม่หลับเลยล่ะครับ