ความเดิมตอนที่แล้วเราได้ทราบเกี่ยวกับ เอสพี( SP )( click) ไปแล้ว..... มาบล็อกนี้เจ๊หลีขอเสนอเรื่องของ โอวาเล็ต Ovalett.... ซึ่งมึคุณสมบัติคล้ายคลึงกันกับเอสพีแต่คนเป็นผลิตภัณฑ์ของคนละบริษัท ค่ะ


โอวาเล็ต มีลักษณะเป็นครีมสีส้ม มีคุณสมบัติช่วยประสานส่วนผสมของ ส ปั น จ์ เ ค้ ก ให้เข้ากัน ทำให้ตีส่วนผสมได้สะดวก ง่ายและรวดเร็วขึ้น ทำให้เนื้อเค้กอยู่ตัวไม่ยุบง่าย เนื้อเค้กนุ่มละเอียด และสม่ำเสมอแม้เก็บไว้หลายวัน


เนื้อเค้กที่ใช้โอวาเล็ต จะมีคุณภาพดี ไม่แห้ง

โอวาเล็ตเป็นผลิตภัณฑ์ อีมัลซิไฟเออร์ ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทออสเตรเลียน บาเกลส์ ประเทศออสเตรเลีย
( เจ๊หลีสงสัยจัง ทำไม๊ ทำไม เท่าที่สังเกต มาคนที่อยู่ ไกลบ้านหรือต่างประเทศกลับตามหา หรือหา เอสพี หรือโอวาเล็ต น๊อ..... เค้าทำขายเมืองไทยกันอย่างเดียว อ่ะป่าว แต่เจ๊หลีเคยเห็นคนทำบล็อกที่เป็นแม่บ้านชาวสิงคโปร์ก็มีหาซื้อได้นี่นา



ซึ่ ง มี คุ ณ ส ม บั ติ คือ ช่วยประสานส่วนผสมทุกอย่างในสปันจ์เค้กให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน (Cake Emulsifier) ทำให้ตีเค้กสะดวก รวดเร็ว และง่ายขึ้นสามารถทำให้เนื้อเค้กคงอยู่ได้โดยไม่ยุบ นอกจากนั้นสามารถตีเค้กสปันจ์ ได้ในขั้นตอนเดียว ซึ่งจากเค้กสปันจ์บางสูตรเราจะเห็นว่าตีรวมจับเวลาทั้งแป้งและของเหลวรวมกัน จะเห็นได้ว่าต้องมี Cake Emulsifier พวกนี้อยู่ในสูตรนั้น ๆ ด้วย(Cake Stabilizer) เนื้อเค้กนุ่ม ละเอียดและสม่ำเสนอ แม้เก็บเค้กไว้หลายวันเนื้อเค้กยังมีคุณภาพสด ไม่แห้ง




สำ ห รั บ ก า ร ทำ เ ค้ ก ส ปั น จ์ ที่ใช้ อบ .........ถ้าใช้โอวาเล็ต จะนุ่มฟูดี แถมปริมาตรที่ได้จะมากกว่า เค้กที่ทำจากเอสพี ........ ส่วนเอสพีใช้สำหรับเค้กประเภทที่นึ่งจะดีกว่า จะให้ขนมที่ทำออกมาสำเร็จแล้วมีคุณภาพที่ดีตามต้องการ เช่น ปุยฝ้าย เป็นต้น (อันนี้คือความคิดส่วนตัวนะคะ)




โอวาเล็ต มีคุณสมบัติช่วยในการตีขึ้นฟูที่ดีมาก และช่วยให้ส่วนผสมเค้กที่ตีขึ้นแล้วมีความคงตัว สามารถตั้งทิ้งไว้ก่อนเข้าเตาอบได้เป็นเวลานานโดยไม่เกิดปัญหา หากยังไม่พร้อมอบ ....แต่ราคาของโอวาเล็ตจะมีราคาแพงกว่าเอสพีนะคะ




โ อ ว า เ ล็ ต ช่วยลดความยุ่งยากในขั้นตอนการทำเค้กไข่ หรือเค้กสปันจ์ ลงไปได้อย่างมาก เพียงตีส่วนผสมไข่ไก่กับน้ำเย็นธรรมดาให้เข้ากัน เติมส่วนผสมของแห้งอันได้แก่ น้ำตาลทราย ผงฟู อื่น ๆ ลงไป เติมโอวาเล็ตแล้วตีด้วยความเร็วสูง นาน 3-6 นาทีจนขึ้นฟูดี กรณีที่ในสูตร มีเนยสดละลายอยู่ด้วย ให้ลดความเร็วลงก่อนแล้วค่อย ๆ เติมเนยสดละลายลงไป ตีต่อด้วยความเร็วปานกลางอีก 2-5 นาที จะได้เนื้อเค้กละเอียดสม่ำเสมอดียิ่งขึ้น เมื่อตีได้ที่ดีแล้วเทลงใส่พิมพ์ แล้วนำเข้าอบ หรือกรณีเตาอบไม่ว่างให้ตั้งรอพักไว้ ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการยุบตัวของเนื้อเค้กแต่อย่างใด




วิ ธี ก า ร ตี ส ปั น จ์ เ ค้ ก โ ด ย ใ ช้ โ อ ว า เ ล็ ต นำแป้ง น้ำตาลทราย น้ำ ไข่ หรือทุกอย่างในส่วนผสม สามารถ ตีรวมกันได้เลย ในลักษณะนี้เรียกกันว่าตีแบบขั้นตอนเดียว จับเวลาเอา ตีด้วยหัวตีตะกร้อ ความเร็วต่ำ 1 นาทีให้ส่วนผสมเข้ากันดีก่อน แล้วตีด้วยความเร็วสูงสุดของเครื่อง จับเวลา 5 นาที หรือจนส่วนผสมขึ้นฟู อยู่ตัวดี (สังเกตุส่วนผสมเป็นหลักก็ได้ค่ะ) จากนั้นตีตัดฟองอากาศ อีก 1 นาที จะทำให้เค้กเนื้อละเอียดขึ้น




ป ริ ม า ณ ที่ ใ ช้ โ ด ย ทั่ ว ไ ป แนะนำให้ใช้โอวาเล็ต ใน 3.5-7.5% ของน้ำหนักแป้งเค้ก เช่น แป้งเค้ก 100 กรัม ใช้โอวาเล็ต 3.5-7.5 กรัม โดยไม่ต้องปรับสูตรตัวอื่น ๆ ในกรณีใช้แป้งเค้กผสมสำเร็จ ให้ลดปริมาณโอวาเล็ตลงได้ เนื่องจากในแป้งเค้กผสมสำเร็จนั้นมีส่วนประกอบของสารอื่นอยู่ด้วยซึ่งช่วยอีกทางหนึ่ง


เจ๊หลีขอขอบคุณภาพประกอบ..... จาก นิตยสาร Foodnews และ รายละเอียดข้อมูลจากหนังสือ BJC Specialties บริษัทเบอร์ลี่ยุคเกอร์




หลังจากนี้เจ๊หลีจะนำเสนอตัวอื่น อีก หลายตัว เลย ค่ะ เช่น แพตโก้ 3 หรือ อีซี 25 เค