"I'll Be Your Butterfly"{Thinks Before Eat }
 
พฤศจิกายน 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
21 พฤศจิกายน 2554

ภาคพี่..ภาคน้อง [Fic_SJ&Shinee]

First Day (SHINee Part 1)

กรุณาอ่าน SJ Part1

ก่อนเพื่อความเข้าใจค่ะ ><

หลังเลิกเรียน

“เดินเร็วๆ หน่อยสิ!! ขาสั้นกันจริงพวกนายเนี่ย!!” ฮีชอลหยุดยืนเท้าสะเอวมองเจ้าเด็กเตี้ยสองคนที่ซอยขาถี่ยิบตามมา หอบหายใจฮั่กๆ

“เมื่อไหร่เจ๊จะเลิกว่าพวกผมเตี้ยสักทีล่ะ” ดงเฮค้อนมองอย่างอนๆ

“ต๊าย!! เถียงคำไม่ตกฟาก สูงให้เท่าลูกชายชั้นก่อนเถอะแล้วค่อยมาเถียง”

“เจ๊พูดถึงคิบอมหรอ หึ ทำไมใครๆ ถึงชอบเค้าละฮะ ผมไม่เห็นชอบเลย”

“นายไม่ชอบก็เรื่องของนายสิ ชั้นก็ไม่ได้อยากได้ปลาบู่มาเป็นสะใภ้หรอกนะ”

“พี่ฮีชอลอ่ะ!! อ๊ะ!! พี่แทมิน!!” ดงเฮโบกมือหยอยๆ เมื่อเห็นลูกพี่ลูกน้องตัวผอมเดินตรงเข้ามาหา

“ไง พวกนายคือดงเฮกับฮยอกแจหรอ? เปลี่ยนไปเยอะนะเรา” แทมินย่อตัวลงนั่งยองๆ ทักทายญาติผู้น้องที่เห็นกันตั้งแต่แบเบาะ

“หล่อขึ้นใช่มั้ยละฮะ แต่พี่ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ” ด๊องแด๊งยื่นมืออวบไปลูบแก้มอมชมพูของแทมิน คนเป็นพี่หลับตาอมยิ้มรับสัมผัสจั๊กจี๋

“ฮะฮะ ขอบใจ เข้าใจพูดนะเรา ยังงี้ต้องพาไปเลี้ยงไอติม”
พอพี่ชายที่ไม่ค่อยจะยอมควักกระเป๋าเลี้ยงน้องเปิดโอกาส ฮีชอลได้ทีรีบมัดมือชก

“ขอเป็นพวกเชอร์เบตนะ จะได้ไม่อ้วน”
ความเรื่องมากทำให้แฝดคนน้องนิ่วหน้า

“หู่ย ไม่เอาอ่ะ เด็กกำลังโต ต้องกินนมเนยเข้าไปเยอะๆ ถ้าเจเจ๊ไม่กินก็ไม่ต้องกินสิ พี่แทมินเลี้ยงพวกผมต่างหาก”

“ฮึ”

เพราะอาการเสียเลือดของฮยอกแจทำให้เจ้าตัวที่ผิวซีดอยู่แล้วยิ่งดูขาวเป็นกระดาษดูน่าเป็นห่วง แทมินเลยตัดสินใจให้เด็กๆ เลือกซื้อรสที่ชอบกลับมาทานที่บ้านแทน

“แล้วเป็นยังไงกันบ้าง ไปโรงเรียนใหม่วันแรก”

“สนุกมากเลยฮะ ตอนนี้ผมกำลังต่อสู้กับหัวหน้าฝูงตัวเดิมอยู่ สงสัยเค้าจะกลัวผม ไม่กล้าเถียงผมเลยล่ะฮะ อีกหน่อยผมคงได้เป็นหัวหน้าฝูงคนใหม่แล้วใช่มั้ยฮะ พี่แทมิน”

“หัวหน้าฝูง???” แทมินทำหน้างุนงงไม่ต่างจากคิบอมตอนได้ยินครั้งแรก จนเป็นหน้าที่ของฮยอกแจช่วยอธิบายอีกเช่นเคย

“ดงเฮเค้าหมายถึงหัวหน้าห้องน่ะฮะ” แทมินส่งเสียงเออออไปตามจินตนาการของเด็กประถม

“แล้วใครเป็นหัวหน้าฝูงห้องเราล่ะดงเฮ?”

“เค้าชื่อคิบอมฮะ เป็นคู่ต่อสู้ที่สูสีกับผมเลยนะ ตาก็ดุยังงี้ ทำหน้าบูดตลอด วันๆ ไม่เห็นสนใจฝูงเอาแต่อ่านอะไรไม่รู้ตัวหนังสือเป็นพรืด เป็นหัวหน้าฝูงที่ไม่ดีเลยใช่มั้ยล่ะฮะ ผมพูดด้วยก็ไม่พูดด้วย เอาแต่อมไว้จนแก้มป่องออกมาเท่านี้แน่ะ” คนน่ารักทำท่าอมลมประกอบ มืออวบพยายามดึงพวกแก้มของตัวเองให้ยืดออกมา

“คิบอม...แก้มป่อง หรือว่าจะเป็น...?”

“ก็บอมมีของพี่คีย์ไง ฮยอง” ฮีชอลแทรกขึ้นหลังจากฟาดไอศกรีมเชอร์เบตในถ้วยจนเกลี้ยงเกลา

“อ่อ น้องพี่คีย์น่ะหรอ”
ท่าทางของพี่คนโตทที่ดูจะรู้จักกับครอบครัวคู่แข่งชิงอนาเขตทำให้ดงเฮต้องรีบท้วง

“พี่แทมิน พี่กับพี่ฮีชอลเป็นพันธมิตรกับหัวหน้าฝูงหน้าโหดด้วยหรอ แบบนี้ดงเฮก็เสียเปรียบน่ะสิฮะ ไม่ได้นะฮะ พี่เป็นพี่ชายผมพี่ต้องเข้าข้างผมสิ ใช่มั้ย ไก่ต๊อก บอกพี่แทมินให้มาอยู่ข้างเราสิ” ดงเฮเขย่าแขนคู่แฝดที่กำลังถือช้อนไอศกรีมอย่างอ่อนแรงจนตัวโงนเงน ดวงตาระโหยมองมาอย่างขอความช่วยเหลือเมื่อดงเฮยังตื้อไม่หยุด

“อ่ะ..พี่ชาย..”
แทมินกลัวว่าจะเกิดการทำร้ายกันเองของแฝดพิสดารคู่นี้ เลยต้องรีบตอบรับไป ยังกับเวลาเลือกตั้งแล้วไม่รู้จะกาเบอร์อะไรเลยต้องขีดๆ ไปงั้นเลย

“อืมๆ...พี่อยู่ข้างเราก็ได้”

“เย้ๆ!! ได้พวกเข้าฝูงมาอีกหนึ่งแล้ว ดงเฮชนะนายแน่ คิบอม” ตัวเล็กกำช้อนไอศกรีมแน่นก่อนจะทุบลงกับโต๊ะ แววตาประกาศชัยชนะอย่างมุ่งมั่นเต็มที่ แทมินมองเด็กน้อยผู้มีพลังแรงกล้าแล้วก็นึกขำ บ้านเราจะไม่สงบก็คราวนี้แหละมั้ง...


กริ๊ง~!! แทมินเอาผ้าขนหนูผืนเล็กขยี้ผมขณะเดินไปรับโทรศัพท์ในห้องรับแขก ดึกขนาดนี้ใครโทรมากันนะ?

“ยอพอเซโย”

“แทมินกลับถึงบ้านแล้วหรอ? รับน้องๆ เรียบร้อยมั้ย?” เสียงแหบติดจะแหลมเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี ทำเอาคนรับทิ้งตัวลงนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่บนโซฟา

“มาถึงตั้งแต่หัวค่ำแล้วล่ะครับ เพิ่งหลับปุ๋ยกันไปเอง พี่จงฮยอนเสร็จงานแล้วหรอครับ?”

“ใช่ พอเทรนเด็กใหม่เสร็จ พี่ก็ต้องรีบไปรับคยูฮยอนน่ะ คุณแม่พี่จะไปงานเลี้ยงรุ่นต่อ พี่เลยต้องมาอยู่ดูแลเจ้าเปี๊ยก”

แค่เสียงที่ส่งมาตามสายก็ทำให้สายฝนหนาวเย็นข้างนอกกลับอบอุ่นได้อย่างน่าประหลาด พี่จะรู้บ้างมั้ยครับ ว่าเพียงแค่เราถามสารทุกข์สุขดิบซึ่งกันและกันแบบนี้ มันก็ทำให้หัวใจผมพองโตจนคับอกไปหมด

“แล้วพี่ทานอะไรแล้วรึยังครับ?”

“ก็กินรามยอนในบ้านนี่แหละ ฝนตกแบบนี้คงจะไม่หยุดง่ายๆ ไม่อยากออกไปตากฝน ว่าแต่เราเถอะ เห็นพี่อนยูบอกว่าพาน้องไปเลี้ยงไอติม โดนฝนบ้างรึเปล่า?” แทมินหัวเราะแหะๆ เพราะตัวเองปฏิเสธตอนอนยูจะมาส่ง กลัวว่าเจ้าเด็กเจี๊ยวจ้าวจะไปรบกวนโสตประสาตรุ่นพี่ เลยกลับกลายเป็นว่าต้องพากันวิ่งฝ่าฝนกลับบ้านซะอย่างนั้น

“นิดหน่อยครับ ก็น้องพี่เล่นร้องไห้แต่เช้านี่นา ฝนเลยตกไม่หยุดทั้งวันแบบนี้”

“น้องของแทมินมาแกล้งน้องพี่จนร้องไห้ต่างหากล่ะ พี่ต่างหากต้องลงโทษเรานะ” เสียงดุไม่จริงจังเรียกคงจะรอยยิ้มบนใบหน้าหวานได้ไม่หุบ หากไม่มีเสียงใครคนหนึ่งแทรกเข้ามาในโทรศัพท์

[จงฮยอน ผ้าเช็ดตัวอยู่ไหน?] เสียงที่เขาจำได้ดี เพราะไม่ว่าเมื่อไรก็มักจะวนเวียนอยู่รอบตัวพี่ชายคนสนิทเสมอ

“อยู่ในตู้หน้าห้องน้ำ หยิบเอาเลย”

“ใครมาค้างที่บ้านหรอครับ?”ถึงจะรู้ดีแก่ใจแต่ก็ไม่วายคิดเข้าข้างตัวเอง ใจมันเลยยังสั่งให้ถามออกไป

“อื้อ พอดีฝนมันตก มินโฮมันกลัวกลับบ้านไม่ทันดูบอลเลยจะค้างที่นี่” ดวงตากลมโตวูบไหวทันทีที่ชื่อนั้นถูกเรียกด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยนจากปากคนปลายสาย น้ำเสียงที่ผมหวงแหน น้ำเสียงที่เคยเรียกชื่อผมด้วยโทนเสียงเดียวกัน พี่กลับแบ่งปันให้ใครแกคน อย่างนั้นหรือ?

“อ่อครับ” เจ็บมั้ยล่ะ? แทมิน ตอกย้ำพอหรือยัง ต้องให้ปวดใจอีกสักกี่ครั้งกันถึงจะทำใจยอมรับสักที ว่าที่ข้างๆกายพี่จงฮยอน ไม่ใช่ของนายอีกต่อไปแล้ว...

[จงฮยอน หาไม่เจอว่ะ]

“เออๆ ตาถั่วจริง งั้นพี่ขอไปจัดการแขกผู้มีเกียรติก่อนนะ แทมินก็รีบนอนล่ะ โดนฝนเดี๋ยวเป็นไข้ น้องๆ จะแย่เอา”

“ครับ” ยิ่งเจ็บยิ่งช้ำต่อไปเกินจะทนเมื่อคนที่พี่จงฮยอนเลือกจะหยุดการติดต่อคือตัวเอง

“ราตรีสวัสตร์นะ แทมิน ฝันดีครับ”

“ราตรีสวัสดิ์ครับพี่จงฮยอน”
...เมื่อไหร่จะพอสักที ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนแบบนี้ อยากจะจบมันสักที…


ณ บ้านของ คีย์ ซองมิน และคิบอม

“ซองมิน!! คิบอม!! รีบลงมากินข้าวได้แล้ว!!”

“ครับพี่คีย์” เสียงน้อยเจื้อยแจ้วประสานกันเป็นดังน้ำหล่อเลี้ยงให้พี่ชายคนสวยยิ้มได้แม้จะเหน็ดเหนื่อยจากงานมาทั้งวัน

ฝีเท้าเล็กวิ่งตึงตังลงมาจากชั้นบน ต่างคนต่างปีนป่ายขึ้นนั่งประจำเก้าอี้ตัวโปรดก่อนจะยกช้อนส้อมรอคอยอาหารสุดอร่อยฝีมือพ่อครัวตัวอย่าง แกงกะหรี่ญี่ปุ่นส่งกลิ่มหอมโชยเตะจมูกถูกตักลงใส่จานเล็ก ก่อนมื้ออาหารอันอบอวลไปด้วยรอยยิ้มจะเริ่มขึ้น

“พี่คีย์...อาจารย์ของซองมินสั่งให้วาดรูปไปประกวด พี่คีย์ช่วยซองมินหน่อยนะ” น้องชายหน้าตาจิ้มลิ้มร้องอ้อนพี่ชายพ่วงพ่อครัวประจำวันนี้ คีย์อมยิ้มลูบหัวทุยๆ อย่างเอ็นดู

“คราวนี้หัวข้ออะไรล่ะ?”

“My Idol ฮะ” ซองมินตัวน้อยส่งสายตาวิบวับราวกับจะบอกว่าหัวข้อนี้ก็คือพี่ชายคนเก่งคนนี้เท่านั้น

“วาดรูปคนหรอ? อืม...ส่งเมื่อไหร่?” คีย์กลั้วหัวเราะขบขันในปฏิกิริยาจริงจังของน้องชาย

“อีกสองอาทิตย์ครับ”

แผละ!! เสียงของเหลวหกพรวดเรียกให้คนอ้อนพี่ต้องก้มลงมองลงในชามตัวเอง สภาพแกงกะหรี่ราดซอสมะเขือเทศทำให้ซองมินโวยวายใส่อีกคนเสียงดัง

“ทำอะไรน่ะตัวมืด?!!” มือเล็กยกช้อนขึ้นจะตีคนที่ถือหลักฐานเป็นขวดซอสแบบบีบอยู่ในมือ

“อย่ามาเรียกเราแบบนี้นะตัวอวบ ตัวพี่ชอบแย่งพี่คีย์ทำไมล่ะ พี่คีย์ต้องสอนการบ้านตัวน้องนะ”

ใครจะไปรู้ว่าหัวหน้าห้องจอมขรึมประจำห้องป.หนึ่งเอจะทำตัวเป็นน้องหวงพี่เวลาอยู่ในบ้าน สรรพนามที่คนอื่นไม่เคยได้ยินถูกนำมาใช้ระหว่างพี่น้อง ซองมินและคิบอม เวลาทะเลาะแย่งพี่ชายกันให้วุ่นวาย แม้เวลาอยู่โรงเรียนจะดูเป็นพี่น้องที่ดูแลซึ่งกันและกัน แต่เวลากลับมาบ้านแล้วมีพี่ใหญ่ดูแลทั้งคู่ก็มักจะทำตัวเป็นมักเน่เสมอ

“แก้มป่องก็เรียนเก่งอยู่แล้วทำไมต้องให้พี่คีย์สอนด้วยล่ะ ตัวมินอยากจะวาดพี่คีย์ให้สวยๆ นะถึงต้องให้พี่คีย์สอนน่ะ”
“ตัวพี่รู้หรอว่า ไอดอล หมายถึงอะไรถึงจะมาวาดพี่คีย์น่ะ” คิบอมยื่นส้อมมาเกือบจิ้มจมูกซองมิน

“ตัวน้องอย่าทำท่าเหมือนมินๆ ไม่รู้เรื่องสิ มินๆ เรียนมาก่อนตัวมืดตั้งสองปีนะ พี่คีย์ทำอาหารเก่ง ทำข้าวกล่องกับขนมให้มินๆ กับบอมๆ ตั้งเยอะ พี่คีย์ถึงเป็นไอดอลไม่ถูกหรือไงล่ะ?” รู้สึกนิยามไอดอลของซองมินช่างสมตัวซะจริง

“ตัวพี่มั่วพี่คีย์เป็นไอดอลของคิบอมต่างหาก อย่ามาแย่งนะ เพราะไอดอลต้องสอนการบ้านเก่งต่างหาก” ของคิบอมก็ดูจะมั่วๆ ไม่แพ้กัน

“พอก่อนนะ ทั้งสองคน พี่คีย์จะช่วยมินจังวาดรูปวันเสาร์นี้ ส่วนคิบอมพี่คีย์จะสอนวันอาทิตย์นะ เพราะงั้น เลิกทะเลาะกันได้แล้วนะ” พี่ชายหน้าสวยรีบไกล่เกลี่ย ก่อนที่จะเกิดสงครามย่อมๆ บนโต๊ะอาหาร เพราะตอนนี้ เจ้าน้องเล็กก็ถือซอสตั้งท่าจะบีบใส่หน้าคนพี่ ส่วนซองมินก็เตรียมจะหยิบถ้วยขิงดองเทราดหัวน้องอยู่รอมร่อ

“ฮึ พี่มินขี้โกง บอมขอพี่คีย์ก่อนแท้ๆ” คิบอมโยนขวดซอสใส่ซองมินก่อนจะเชิดหน้าใส่

“อะไรกันน่ะ เป็นน้องต้องเสียสละให้พี่สิ” ซองมินโยนขวดคืน ก่อนจะสาวทิชชู่บนโต๊ะมาขยำแล้วปาใส่หัวน้องจนคีย์ต้องปรามอีกรอบ

“พอแล้วๆ ทั้งคู่เลย ไม่งั้นพี่จะไม่สอนแล้วนะ”
พอได้ยินเสียงประกาศิต สองพี่น้องก็หันหน้าหนี ปากทั้งคู่รั้นขึ้นจนพี่คนโตต้องถอนหายใจ ก่อนจะหันไปถามไถ่น้องสุดท้องเพื่อให้เหตุการ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ

“แล้วเราล่ะคิบอม เป็นไงบ้าง? ไม่เห็นเล่าให้พี่ฟังเลยว่าได้เป็นหัวหน้าห้อง” ตอนไปพบคุณครูประจำชั้นเมื่อเช้า ก็ได้รับคำชมใหญ่ว่าคิบอมเก่งอย่างนู้นอย่างนี้ เพื่อนๆ เลยพร้อมใจกันยกให้เป็นหัวหน้าห้อง แต่กับคีย์แล้ว เด็กดื้อชอบตีกับซองมินคนนี้ต่างหากที่เป็นคิบอมตัวจริง ยังไม่ทันที่คิบอมจะเลิกแก้มแดงเพราะถูก “ไอดอล” ของตัวเองชม ซองมินก็ชิงฟ้องขึ้นก่อน

“มีคนมาประกาศชิงตำแหน่งเจ้ามืดซะแล้วนะพี่คีย์” ซองมินพูดขึ้นเสียงดังพลางหันไปยักคิ้วให้น้องชายที่นั่งทำหน้าบู้ทู่

“หือ? มีคนกล้าหือกับคิบอมของพี่ด้วยหรอ?” ก็หน้าโหดซะแบบนี้ ยังกับนักเลง เคยนึกสงสัยอยู่ว่าถ้าสักวันโดนเรียกเข้าห้องฝ่ายปกครองคงไม่แปลกใจ พอคิบอมอ้าปากจะตอบ ซองมินก็ไม่เปิดโอกาส

“เด็กเข้าใหม่เป็นญาติของฮีชอลครับ ชื่อลีดงเฮ มีฝาแฝดอีกคนชื่อฮยอกแจ หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเชียว แต่นิสัยห้าวซะจนน้องเราไปไม่ถูกเลย เค้าเรียกคิบอมว่าหัวหน้าฝูงด้วยล่ะพี่คีย์” คำเล่าของซองมินทำคิบอมอารมณ์เสียที่ถูกเปิดเผยเรื่องเสียหน้า

“ฮะฮะฮะ จริงดิ เด็กที่สอบเข้ามากลางคันแบบนี้แสดงว่าเก่งทีเดียวนา คิบอมเจอดีเข้าแล้วสิ”

“ใช่ครับ เห็นฮีชอลเล่าว่า ทั้งสองคนพูดภาษาญี่ปุ่นได้ด้วย” ซองมินนำคำเพื่อนรักมาบอกกล่าวอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยทีเดียว

“โห้!! ไว้พาพี่ไปเจอหน่อยสิ พี่อยากเห็นจัง” คีย์ทำหน้าตื่นเต้นจนน้องทั้งสองคนยิ่งมีอารมณ์ร่วม

“ผมไม่เห็นจะสนเลยตำแหน่งหัวน่งหัวหน้าอะไรเนี่ย? วุ่นวายจะตาย แล้วเจ้าเด็กใหม่นั่นก็ต๊องๆ ด้วย” ปากบอกว่าไม่สน แต่ก็ยินยอมทำงานแต่โดยดี แถมตอนเรียนยังแอบมองเจ้าเด็กใหม่น่าหวานที่ว่าไม่วางตาเชียวนะบอมน้อย

“พูดแบบนี้อย่าไปชอบเค้าเข้าล่ะ น้องรัก” ได้ทีก็ขอโอกาสแขวะนิดข่วนหน่อยนะเจ้ากระต่ายน้อย

“เรื่องนี้มันไม่เกินวัยป.หนึ่งไปหรอซองมิน?” คีย์หัวเราะหึหึ ถามเพราะอยากรู้เรื่องรักๆ ครั้งแรกของน้องตอนอายุหกขวบ

“ไม่หรอกครับพี่คีย์ บอมๆ มันแก่แดดจะตาย ดูหน้าสิไปถึงป.หกแล้วมั้ง” ซ้ำเติมน้องคือความสำราญของซองมิน

“ใช่ครับ ขนาดเด็กป.หนึ่งยังข้ามไปจีบพี่ป.สามได้เลยใช่มั้ยฮะ ฮยอง” คิบอมยิ้มกริ่มก่อนจะขอแซวคืนบ้าง เล่นเอาซองมินค้อนขวับ

“คิบอม!!”

“ใครหรอ คิบอม?” ยิ่งคีย์ทำหน้าตาอยากรู้ น้องเล็กยิ่งกระตือรือร้นจะบอก

“เพื่อนผม เจ้าคยูฮยอน เค้าชอบพี่ซองมินครับ” คิบอมยิ้มร้าย ทำเอาซองมินพูดไม่ออก แก้มขาวขึ้นสีแดงเป็นมะเขือเทศ คิ้วขมวดมุ่นขุ่นเคืองเจ้าน้องคนนี้เหลือเกิน

“อารายก๊าน น้องพี่เนื้อหอมขนาดนี้เชียว คยูฮยอน...เจ้าเด็กขี้แยที่ร้องไห้แล้วฝนจะตกน่ะหรอ?” คีย์ตบมือพลางหัวเราะเสียงดังอยากชอบใจ เจ้าเด็กขี้กลัวนั่นน่ะนะ เขายังจำภาพตอนไปงานเลี้ยงผู้ปกครองของคิบอมแล้วเจอเจ้าเด็กนั่นยืนร้องไห้เพราะโดนแซวเรื่องหน้าตาเหมือนลูกหมาได้อยู่เลย

“นั่นแหละฮะ”

“เจ้าเด็กหน้าขาวนั่นน่ารำคาญจะตาย ตามชั้นอยู่นั่นแหละ พอว่าก็เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมไป ฮึ” ซองมินบ่นอุบอิบ หลบหน้าหลบตาให้พ้นสายตาแซวๆ ของพี่คีย์กับคิบอม

“อย่าแพ้ทางเด็กแล้วกัน ซองมิน ฮะฮะ” แซวคิบอมไปแล้วขอแซวซองมินบ้างจะได้เท่าเทียม เห็นหน้ารั้นๆ ของน้องแล้วอยากแกล้งจริงจริ๊ง เราเป็นพี่ชายโรคจิตหรือเปล่านะ?

“ฮยอง!!” ซองมินร้องเสียงดัง ว่าแล้วก็เชิดหน้าใส่พี่ชาย ทั้งที่ตอนแรกยังชื่นชมอยู่เลย ตอนนี้กลับงอนซะแล้ว

หลังมื้ออาหารเสร็จสิ้น ซองมินก็ช่วยคีย์เก็บจานไปล้าง ส่วนคิบอมก็ช่วยเช็ดโต๊ะจนเรียบร้อย ตามด้วยศึกแย่งชิงรีโมตระหว่างพี่สองขาวดำกันอยู่สักพัก ก็ได้เวลาต้อนเด็กอายุต่ำกว่าสิบขวบเข้านอน คีย์นั่งเฝ้าจนแน่ใจว่าน้องผู้น่ารักทั้งสองเข้าสู่นิทราเรียบร้อยจึงได้จุมพิตบนหน้าผากทั้งคู่เพื่ออวยพรให้ฝันดี

“เฮ้อ!! โตกันขนาดนี้แล้วหรอ น้องพี่” คีย์พึมพำอย่างสุขใจ แม้การเลี้ยงดูเด็กเล็กแทนพ่อแม่ที่ไปทำงานต่างประเทศจะเป็นงานที่ไม่ง่ายนัก แต่คีย์ก็เต็มใจและยินดีกับมัน เขามีความสุขเสมอที่เห็นน้องๆ เติบโตขึ้นเป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตดี ร่างกายแข็งแรง สดใส อะไรก็ไม่สำคัญเท่ารอยยิ้มของทั่งคู่

ร่างบางค่อยๆ ย่องออกจากห้องนอนเล็ก กลับมาที่ห้องทำงานของตัวเองที่อยู่ติดกัน หน้าจอ tablet โชว์รายงานว่ามีเมล์เข้ามาที่แอดเดรสที่เขาสร้างไว้สำหรับงานโดยเฉพาะ

Inbox (1)


“หือ?” คีย์กดเข้าไปอ่านด้วยความสงสัย เวลานี้ไม่น่าจะมีคนส่งเมล์เรื่องงานเข้ามา เพราะเพิ่งประชุมสรุปกันไปเมื่อเย็น และกว่าจะเริ่มปรึกษากันอีกครั้งก็อีกตั้งสองอาทิตย์ หรือจะเป็นเมล์ลูกค้า?


Topic: ติดต่องานออกแบบชุดละครเวที

สวัสดีครับ ผมเป็นคนจากคณะละคร Shinee กำลังหาดีไซเนอร์มาออกแบบชุดให้กับละครเรื่องใหม่ เกี่ยวกับรายละเอียดหากคุณ คิม คีย์ คิบอม สนใจกรุณาติดต่อกลับที่ Email ข้างต้นหรือที่เบอร์ 08x-xxx-xxxx ด้วยนะครับ
หวังว่าคงได้ร่วมงานกัน

ลี จินกิ (Onew)
Director of Shinee Stageplay



“...ลี จินกิ...?”



ณ บ้านตระกูลเชว

“อ่ะ ซีวอน เกมที่นายอยากได้” มินโฮที่เพิ่งกลับมาจากบ้านจงฮยอนโยนแผ่นเกมออกใหม่ที่ดั้นด้นไปซื้อถึงร้านสาขาใหญ่ให้เจ้าน้องชายจนติดฝนต้องค้างบ้านเพื่อน ผมก็รักน้องเหมือนกันนะครับ

“เย้!! ขอบคุณฮะ พี่มินโฮ อย่าบอกมะม๊านะ” เด็กน้อยที่สูงกว่าเพื่อนที่อายุเท่ากันรับกล่องสี่เหลี่ยมแบนๆ มาพลิกดูแล้วยิ้มกว้างจนแก้มบุ๋ม

“อืม แล้วเมื่อวานเป็นไงบ้างไปเรียนวันแรก?” ซีวอนทิ้งตัวลงบนโซฟาดูน้องตั้งหน้าตั้งตาเปิดเกม ดูน่าตื่นเต้นซะเหลือเกิน

“ก็เหมือนเดิมฮะ....ฮยอง!!...ผมเจอคนน่ารักด้วยนะ” ซีวอนคลิกเลือกๆ อะไรอยู่สักพัก แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องอยากเล่าให้พี่ชายฟัง

“หือ? นอกจากน้องฮีชอลที่นายชมนักชมหนาว่าสวยยังงั้นยังงี้ แล้วยังมีใครอีกรึ?”

“เป็นเพื่อนที่เข้ามาใหม่ฮะพี่ ชื่อลีฮยอกแจ ตัวข๊าวขาวยังกับสำลีเลยนะ ปากก็แด๊งแดงยังกับเชอร์รีบนไอติมซันเดย์แน่ะ ยิ่งเวลาอายนะ แก้มขาวๆ นั่นนะ ทั้งแดง ทั้งนิ่ม กลิ่นก็หอมเหมือนลูกพีชเลย”

“นายรู้ได้ไง? นี่อย่าบอกนะว่าไปขโมยหอมแก้มเค้ามา” เอานิสัยตัวเองไปตัดสินน้องซะงั้น ก็เขาบอกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นนี่ครับ ไอ้เราเองก็ผลไม้จากต้นเดียวกันซะด้วย

“ก็ผมอยากรู้นี่นาว่า ไอ้ที่มันเนียนๆ เหมือนเนื้อไอศกรีม ดูนุ่มๆ เหมือนสายไหม กลิ่นจะเหมือนลูกพีชที่มะม๊าซื้อมาให้กินรึเปล่า” มือก็กดจอยสติ๊กไปอย่างเมามัน ปากก็เล่าไปเรื่อยๆ

“แล้วเค้าไม่ว่าอะไรหรอไง?” ถามไปเรื่อยเปื่อย มือหนาก็หยิบนิตยสารบนโต๊ะมาเปิดผ่านตา

“ผมเลยต้องเปลี่ยนเสื้อพละกลับมาบ้านไงฮะ” ซีวอนชี้ไปยังเสื้อนักเรียนสีขาวที่มีเรื่องเปื้อนเป็นดวงจางๆ ท่าจะผ่านการซักมาแล้ว ปกติถ้าซักไม่ออกแบบนี้แม่บ้านจะจับทิ้ง แต่เจ้าตัวเล็กของบ้านขอมาเก็บไว้

“ทำไมล่ะ?”มินโฮละสายตาจากนางแบบชุดว่ายน้ำมาขมวดคิ้วถาม

“ก็พอผมหอมเค้า หน้าเค้าก็แดงไปทั้งหน้าเลยนะพี่มินโฮ แล้วจู่ๆ เลือดกำเดาก็พุ่งจู๊ดออกมาใส่ผมเลยอ่ะ” มือเล็กกดหยุดเกมแล้วหันมาเล่าซะจนพี่ชายอินอย่างกับอยู่ในเหตุการณ์ ท่าประกอบด้วยมือไม้ยกขึ้นๆ ลงๆ ของซีวอน เรียกเสียงหัวเราะจากพี่ชายได้ตลอด ก็ดูสิ ทำท่าซะจริงจังขนาดนั้น ไม่เหนื่อยบ้างหรือไงนะ

“ฮะฮะฮะ สมน้ำหน้านายจริงๆ ไปทำยังงั้นกับเด็กผู้หญิงมันไม่ดีนะรู้มั้ย ไว้โตค่อยทำสิ” มินโฮตบหัวน้องอย่างชอบใจ ไอ้นี่มันเสือร้ายเหมือนพี่ ชอบว่ะ ฮะฮะฮะ

“เค้าไม่ใช่เด็กผู้หญิงนะฮะ เป็นผู้ชาย เป็นฝาแฝดด้วย” ซีวอนทำหน้ามุ่ยที่พี่ชายสรุปเอาเองแบบนั้น

“แล้วนายบอกน่ารัก?” อ้าว หลงเข้าใจผิดว่าเจ้านี่หัดสนใจเด็กผู้หญิงกับเขามั่งแล้ว

“ก็เค้าน่ารักจริงๆ อ่ะ ตัวเล็กๆ แฝดเค้าก็น่ารักนะ แต่ห้าวมาก ผมไม่ชอบเลย ฮยอกแจดีกว่าดูเรียบร้อย” มักเน่ของบ้านก็ยังยืนยันถึงความน่ารักไม่เป็นรองใครของคนพี่

“แล้วฮีชอลล่ะ?” มินโฮถามยิ้มๆ ถึงคนที่เจ้าตัวพร่ำเพ้อมาตั้งแต่เจอหน้าพี่ทูนหัวของเพื่อนสนิทครั้งแรก พอชมให้คิบอมฟังจนเจ้านั่นรำคาญคอยหนีตลอด เลยมากรอกหูพี่ชายต่อที่บ้าน

“หึ คนนั้นเค้าชอบพี่นี่นา ผมไม่สนแล้ว” ท่าทางปลาบปลื้มหายไป หน้าหงิกเข้ามาแทน เปลี่ยนอารมณ์ไวจริงๆ
“ไม่สนใจแน่หรอ? เห็นแต่ก่อนเอาแต่ พี่ชอลลี่ๆ” แต่ก่อนบ้าน้องของคีย์น้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ แล้วจะมาเลิกกันง่ายๆรึ?

“ไม่รู้แหละ ผมงอนพี่เค้าไม่ชอบผมแล้วนี่ ผมสนใจแต่ฮยอกแจดีกว่าตั้งเยอะ” ก็พอจะรู้มาบ้างว่าปากน้องตัวเองไม่ตรงกับใจ เจอหน้าเค้าทีไรก็มีการปะทะฝีปากกันทุกครั้ง แล้วแบบนี้จะไปมีอะไรคืบหน้า เท่าที่รู้มาตัวฮีชอลเองก็ดูจะปลื้มตัวเองเอามากๆ ด้วย

“เออๆ เอาเถอะ” มินโฮชอบมองซีวอนที่ปกติชอบทำเก๊กหล่อตลอดเวลาทำหน้างอนเอาแต่ใจใส่เวลาน้องฮีชอลเข้ามาทักพี่แต่เถียงกับน้อง พอเห็นหน้าหล่อปนน่ารักนั่นบึ้งใส่ตัวเองทีไรทำไมรู้สึกว่าน้องตัวเองน่ารักนักนะ ผมเป็นโรคบ้าน้องตัวเองใช่มั้ยครัยเนี่ย?
.
.
.

“คีย์ ทำอะไรอยู่?” นายแบบยอดนิยมควบทายาทบริษัทโมเดลลิ่งยักษ์ใหญ่กำลังต่อสายถึงใครคนหนึ่งอีกฝั่งมุมเมือง

[ทำข้าวเย็นให้น้อง นายมีอะไร?] เสียงห้าวดูอู้อี้ ท่าทางจะกำลังหนีบโทรศัพท์ไว้กับไหล่ มีเสียงฉู่ฉ่าดังลอดเข้ามาเป็นระยะ

“หอมเชียว ทำอะไรกินกันอ่ะ? อยากไปกินด้วย” ถามไปก็จินตนาการถึงภาพคนตัวเล็กสวมผ้ากันเปื้อนสีชมพูลายคิขุยืนทำอาหารอยู่หน้าเตาอย่างคล่องแคล่ว อยากเห็นจังน้อ

[พูดยังกับมายืนอยู่ในบ้าน อย่ามานอกเรื่อง โทรมามีอะไร?] ปลายสายดุใส่จนคนโทรหัวเราะเสียงดัง

“จะโทรมาถามว่าพรุ่งนี้ว่างมั้ย?”

[ทำไม? แม่นายจะสั่งแก้แบบชุดหรอ? ซองมินเอาแครอทลูกเต๋าบนโต๊ะให้พี่ที…ใช่ๆ อันนั้นแหละ...เราจะเอาไส้กรอกูปปลาหมึกด้วยมั้ย?] ทั้งที่รู้ว่าร่างบางถามน้อง แต่ก็อดอมยิ้มทำหน้ามึนโมเมไม่ได้

“ชั้นเอานะ ทำมาให้หน่อย แล้วเราไปเดทกัน”

[ชั้นไม่ว่าง] ปฏิเสธไม่เกรงใจใครนี่แหละถึงจะสมเป็นคีย์

“เย็นชาจังนะ ทำอะไรล่ะ ถึงไม่ว่าง?” ทั้งที่พอจะรู้ว่าเสาร์อาทิตย์พี่ชายน้องสองยุ่งแค่ไหนแต่ก็ยังอยากจะลองเสี่ยง

[พรุ่งนี้ต้องพาซองมินไปเรียนเปียโน อ๊ะ!! ซองมินบอกคิบอมเอาเทนมเทใส่แก้วก่อน กินจากกล่องแบบนั้นได้ไง]

“พอไปส่งแล้วค่อยไปก็ได้นี่” อีกฝั่งดูยุ่งวุ่นวาย แต่ปลายสายก็ยังคงดึงดันจะคุยต่อ หึ ผมรู้ว่าคีย์สามารถอยู่แล้ว

[ต้องตามไปเฝ้าคิบอมแข่งบอลด้วย]

“งั้นชั้นตามไปด้วย”

[ว่างนักหรอไง? นายน่ะ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นไปดูซีวอนแข่งสักครั้ง]

“ว่างเสมอเพื่อเธอไง” พอพูดจบก็พอจะจินตนาการถึงหน้าคนฟังได้ว่ากำลังกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย

[ไร้สาระ ถ้าว่างขนาดนั้นก็รีบไปเข้าสปาเลยไป ผิวแย่จนพี่ makeup artist แทบจะกลบริ้วรอยนายไม่ไหวแล้วนะ เป็นนายแบบหัดดูแลตัวเองซะบ้าง] เสียงบ่นหึ่งๆ ลอดมาทางปลายสายพร้อมเสียงจานกระทบช้อนดังก๊องแก๊ง ท่าทางจะตักใส่จานแล้วเรียบร้อย ได้ยินก็นึกหิวขึ้นมาทันที อยากชิมฝีมือคีย์จัง ท่าทางต้องไปดูเจ้าซีวอนสักรอบแล้วมั้ง

“เป็นห่วงหรอ?” ถ้าคุณคิดว่าคีย์จะกำลังหน้าแดงหรือลนลานว่าโดนพูดแทงใจล่ะก็...คิดผิดถนัด

[ห่วงว่าชุดชั้นมันจะกร่อยเพราะนายแบบหน้าเห่ยต่างหาก แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ ฝีมือชั้นมันเลิศคงไม่น่ากังวลเท่าไหร่] เสียงตอบอย่างจริงจังและจริงใจ ปากว่าแบบไหนใจก็คิดตามนั้นจริงๆ

“ใจร้ายจัง” มินโฮถอนหายใจที่คนสวยไม่ยอมมีปฏิกิริยาอะไรบ้าง แม้จะรู้จักกันเพราะคีย์ทำงานให้แม่ตนมานาน แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าคนตัวเล็กจะหันมาสนใจตนสักนิด ความจริงแล้วมินโฮก็ไม่ได้สนใจคีย์มากมาย ก็แค่ชอบ อายุก็เท่ากัน ทำงานด้วยกัน คีย์คงรับรู้ข้อนี้ดีว่าร่างสูงไม่ได้จริงจังอะไรเลยยอมคุยไปเถียงไปแม้เขาจะเป็นลูกเจ้านาย สรุปก็คืองานอดิเรกของมินโฮก็คือการหยอดคำหวานใส่คีย์วันละนิดจิตแจ่มใส แม้คนรับจะไม่เคยมีปฏิกิริยาเขินอายก็เถอะ

[รู้ก็ดี แค่นี้นะ คิบอมทำนมหกอีกแล้ว]

ปิ๊ด!! สายตัดไปทั้งที่ยังไม่ได้เอ่ยคำลา มินโฮมองโทรศัพท์ในมือพลางยิ้มอย่างเป็นสุข คีย์เป็นคนมั่นใจเกินไปที่จะยอมลงให้ใครง่ายๆ มินโฮเข้าใจจุดนี้ดีกว่าใคร เขาชอบคีย์ที่ชีวิตวุ่นวายอยู่กับน้องๆ แบบนี้ มันดูมีชีวิตชีวาดี


“หึหึ ตลกจริงๆ ครอบครัวนี้”




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2554
1 comments
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2554 22:16:09 น.
Counter : 531 Pageviews.

 

Directory แวะมาทักทายช่วงค่ำๆครับ Directory

 

โดย: nooblue88 9 ธันวาคม 2554 1:05:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


TheSaEe
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add TheSaEe's blog to your web]