(Day4 - 17 ก.ย. 2554) Rome - Florence

แพลนของวันนี้ค่ะ :-

Rome (Roma Termini)
-- Eurostar 1 ชม. 35 นาที -->
Florence (Firenze S.M.N.)
-- เดิน 280 ม., 3 นาที -->
Hostel Archi Rossi
-- เดิน 1 กม., 13 นาที -->
Accademia Gallery
-- เดิน 700 ม., 9 นาที -->
Santa Maria Del Fiore Church (Florence Cathedral)
-- เดิน 350 ม., 5 นาที -->
Giotto's Campanile
-- เดิน 350 ม., 5 นาที -->
Piazza della Repubblica
-- เดิน 300 ม., 4 นาที -->
Piazza della Signoria
-- เดิน 400 ม., 5 นาที -->
Ponte Vecchio
-- เดิน 1.4 กม., 17 นาที -->
Hostel Archi Rossi

เช้านี้ไม่ต้องแวะทานอาหารที่ไหน ซื้อเพสตรี้จาก Panella เก็บไว้ตั้งแต่เมื่อคืน

ชิ้นนี้ Fig Tart จำได้แม่นว่าราคา 7 ยูโร.. เพราะเพื่อนร่วมทริปหันมาค้อนตอนจ่ายตังค์ให้
ก็คนมันอยากกิน Fig อ่ะ ^^
เพสตรี้ชิ้นอื่น ราคาอยู่ราวๆ 1.5 – 2.5 ยูโร

แอปเปิ้ลพัฟ.. หม่ำ 2 ชิ้นนี้กับกาแฟก็พอมีพลัง เริ่มวันใหม่ได้แล้ว

ซื้อตั๋วล่วงหน้า Roma Termini - Firenze S.M.N. 08:15 - 09:50 (Eurostar) ออนไลน์ไว้แล้ว
ราคา 45 ยูโร สำหรับ 2 คน ถือว่าถูกมาก

เดินถึง Roma Termini มองหาบอร์ด ดูสิว่าเราต้องขึ้นรถไฟรางไหน
ตื่นเต้นนิดหน่อยนะนี่ เป็นครั้งแรกที่จะได้ขึ้นรถไฟแบบจริงๆจังๆ ในอิตาลี ^^

บนรถไฟจะมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจตั๋ว เราก็แค่ยื่นกระดาษ A4 ที่พริ้นท์มาจากเมืองไทย
ไม่เหมือนที่เยอรมัน เจ้าหน้าที่จะขอดูบัตรเครดิตด้วย

เส้นทางของพวกเราก็ตามนี้ค่ะ นับเฉพาะที่นอนค้างคืน
ไม่นับพวกเดย์ทริปทั้งหลาย

Rome - Florence.. ที่เรากำลังจะเดินทางกันวันนี้
Florence - San Gimignano.. ขานี้ พวกเราเช่ารถขับกันค่ะ
San Gimignana - Cinque Terre.. ต้องกลับมาคืนรถที่ Florence ก่อน แล้วต่อรถไฟฉึกฉัก (Regional Trains)
แถมต้องเปลี่ยนอีก 3 ขบวน -_-"
Cinque Terre - Venice.. นั่ง Regional Trains เพื่อมาต่อ Eurostar ที่ Firenze S.M.N.
Venice - Milan.. ช่วงนี้เดินทางง่ายหน่อย นั่งรถไฟ Eurostar ยาวรวดเดียว

.
.
.

เดินออกมาจากโฮสเทล ตั้งใจจะไปหาซื้อไกด์บุ๊ค Rick Steves' กันเป็นอย่างแรก
หลังจากติดใจ Rick Steves' Rome ที่ยืมอ่านตอนที่พักอยู่ที่ Blue Hostel

เดินผ่าน San Lorenzo Market.. สินค้าที่นี่ก็มีหลายประเภท ส่วนมากเป็นจำพวกเครื่องหนัง
ได้แต่เดินเฉียดๆ ไม่ได้ซื้ออะไรเลย
แต่มาได้ไกด์บุ๊คจากร้านหนังสือแถวนี้แทน ^^

จากที่เห็นในภาพ ด้านหน้าสุด คือ Baptistery
ถัดไปด้านซ้าย คือ Cathedral.. ติดกันด้านขวา สูงที่สุดเลยค่ะ คือ Campanile (หอระฆัง)
ด้านหลังสุด โดมสีส้มๆ เป็นส่วนหนึ่งของ Cathedral

หิวแล้วหาอะไรกินกันแถวๆ นี้ดีกว่าค่ะ

ตั้งโต๊ะกันบนถนนแบบนี้แหละค่ะ ^^

++ Tortellini with Sage and Saffron Sauce ++
จานนี้เกือบจะใช้ได้ แต่เค็มมาก.. สอบตกจ๊ะ

++ Gnocchi with Pesto Sauce ++
อยากเรียกว่าเพสโต้ซอสเลย เรียกว่าโอลีฟออยซอสดีกว่า
น้ำมันมะกอกนองอยู่ก้นชามเยอะมาก.. รู้ว่าน้ำมันมะกอกกินแล้วดีต่อสุขภาพ
แต่จะให้กินเป็นชามๆ แบบนี้ก็ไม่ไหวนะคะ เลี่ยนมาก
มื้อนี้ ผิดหวังที่สุดในทริปเลย ไม่มีความอร่อยเลย -_-“

4 วันแล้วที่อยู่ในอิตาลี.. เพิ่งจะเคยเห็นถ้วยที่ใส่พามีซานชีส
ให้ลูกค้าตักเองแบบไม่งกก็ที่นี่แหละ

ตบท้ายด้วยคาปูชิโน.. แก้ง่วง

ได้ดื่มคาปูชิโนแก้วนั่นแล้วตาสว่างขึ้นมาทันที ^^

.
.
.

เดินผ่านหน้าร้าน Caffe Scudieri เห็นเยลลี่ใส่กล่องไว้สวยงาม น่ากินมาก

เดินมาถึงด้านหน้า Accademia Gallery
ชะงักเล็กน้อย คิวยาวจัง แต่ก็ไม่ยาวขนาด Vatican Museum
ดีนะที่เราซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้แล้ว

เราซื้อตั๋วไว้ รอบ 15:00 น.
ราคา 22 ยูโร บวกค่าจองอีก 8 ยูโร เป็น 30 ยูโร สำหรับ 2 คน
ปล. ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่นี่

ผลงานชิ้นสำคัญที่นี่ก็ David ของพี่ Michelangelo
ห้ามถ่ายรูปอีกตามเคย แต่มีชิ้นก๊อปปี้ตั้งไว้ให้ดูด้านหน้า Palazzo Vecchio
แถมดูฟรีอีกต่างหาก ^^

จุดหมายต่อไป Piazza del Duomo เพื่อไปชมด้านในของ Florence Cathedral ค่ะ

++ ด้านใน Florence Cathedral ++

ออกมาจาก Cathedral ตั้งใจจะไปซื้อตั๋ว “Climbing up the Dome” ราคา 8 ยูโร
แต่มัวเดินเล่นร้านชอคโกแลต Lindt ที่อยู่ติดกันจนเพลิน
เดินกลับมาอีกที เค้าไม่ให้ต่อคิวแล้ว.. แต่จริงๆ ยังไม่หมดเวลานะ
ถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากจะขึ้นไปด้านบน ก็แนะนำว่าให้มาต่อคิวก่อนเวลาปิดอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
เราสองคนก็เลยกินแห้วไปตามระเบียบ

แถวนี้ก็มีรถม้าให้นั่ง (อีกแล้ว)

++ Florence Baptistry ++

ว่าไปแล้ว.. สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของฟลอเรนว์แต่ละแห่งก็อยู่ไม่ไกลกันนัก เดินง่ายค่ะ
จะวุ่นๆ งงๆ หน่อยก็บริเวณ Florence Cathedral นี่แหละ.. ก็รอบๆ มีถนนแยกตั้ง 11 สาย
เดินผ่านตรงนี้ทีไร งงทุกที ^^

เราสองคนก็เลยต้องไปเปลี่ยนแผนซื้อตั๋วขึ้นหอระฆัง (Giotto's Campanile) แทน
ราคา 6 ยูโร
ไม่สูงเท่าไหร่ แค่ต้องเดินขึ้นบันได 414 ขั้นเอง “เอิ๊ก”..
แต่เราว่าวิวจากบนหอระฆัง สวยกว่านะ
เพราะเห็นโดมของ Cathedral ด้วย

แต่ถ้าพูดถึงสถาปัตยกรรมด้านใน โดมสวยกว่าแน่นอน

.
.
.

กว่าจะถึงเดินถึงด้านบน
เล่นเอาลิ้นห้อยเลย ^^
++ Florence Baptistery (ถ่ายจากมุมสูงค่ะ) ++

++ วิวรอบๆ ++

++ Piazza della Repubblica ++

เห็นสถานีรถไฟอยู่ลิบๆ

จักรยานสามล้อคันนี้ ไม่แน่ใจว่าสำหรับบริการนักท่องเที่ยวหรือว่าอย่างไร

บ้านเมืองเค้าสร้างในโทนสีใกล้เคียงกัน สวยดีเหนอะ ^^

++ Santa Croce Church ++
เสียดายไม่ไปดู ภาพเพ้นท์ “The Last Supper” ที่นี่

++ Florence Cathedral: Dome ++

++ Florence Cathedral: Dome (Tilt-Shift Miniatures) ++

แอบส่องนักท่องเที่ยวบนยอดโดมของ Cathedral หน่อย

ปล. ด้านบนหอระฆัง จะมีตะแกรงลวดล้อมอยู่
ไกด์บุ๊คบางเล่มบอกว่า ทำให้ถ่ายรูปไม่สะดวก
แต่เราว่าไม่เป็นปัญหา แต่ละช่องของตะแกรงลวดก็ใหญ่อยู่ ประมาณ 20x20 ซม. ได้

.
.
.

ลงจากหอระฆังแล้ว ไปเดินเล่นกันต่อค่ะ

เดินผ่าน Piazza della Repubblica.. เห็นม้าหมุน แล้วอยากเล่น ^^

เดินต่อไป Piazza della Signoria..

Michelangelo's David ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า Palazzo Vecchio
ชิ้นนี้ก๊อปปี้มาจาก Accademia Gallery

อาคารตรงนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ The Uffizi Gallery
เราจะเข้าชมกันพรุ่งนี้ค่ะ

เดินจากตรงนี้ไป แล้วเลี้ยวขวาก็เห็น Ponte Vecchio แล้วค่ะ

ถึงแล้ว Ponte Vecchio!

“The Corridoio Vasariano” ด้านบนสุดของสะพาน เป็นทางเดินส่วนตัวของครอบครัว Medici
ซึ่งเชื่อมระหว่าง Palazzo Vecchio กับ Palazzo Pitti.. ผ่าน The Uffizi Gallery ด้วย
แหม! ไฮโซซะ

มีทัวร์ขายด้วยนะคะ แต่แพงมาก 95 ยูโร ต่อคนแหนะ -_-“

เดินขึ้นมาบนสะพาน.. ร้านขายทอง จิวเวลรี่ ของที่ระลึกเต็มไปหมด

แสงยามตะวันตกดินวันนี้สีทองเชียว
นึกว่าสะท้อนมาจากร้านขายทองแถวนี้ซะอีก ^^

จากตรงนี้เห็นโดมของ Florence Cathedral ด้วยค่ะ

Ponte Vecchio ก็มี Love padlocks (Love Locks) เหมือนกัน
.. ปี 2006 สภาเมืองฟลอเรนซ์กำจัดพวก Love padlocks ออกไปแล้ว ถึง 5,500 อัน
ตอนนี้ถ้าใครอยากจะล๊อกความรักไว้แถวนี้ ถือว่าผิดกฏหมายนะคะ โดนปรับถึง 50 ยูโรทีเดียว
เค้าบอกว่ามันทำให้เหล็กบนสะพานงอ ขึ้นสนิม และแถมยังหนักสะพานโดยเปล่าประโยชน์อีก

อย่าง N Seoul Tower ที่โซล แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของคนไทย
ก็มี Love padlocks.. ที่นั่นเค้าอนุญาตให้ล๊อกแม่กุญแจ แต่ห้ามโยนลูกกุญแจจาก N Seoul Tower

อยากรู้จริงๆ ว่าใครเริ่มไอเดีย Love padlocks.. บ้างก็ว่าเริ่มที่ Pont des Arts ในปารีส

เดินกลับไปหาเจลาโต้อร่อยๆ ทานกันที่ร้าน Grom (GPS 43.77224,11.255782) ค่ะ
ร้านเจลาโต้ที่อร่อยที่สุดในฟลอเรนซ์ (ปล. ความคิดเห็นส่วนตัวนะ ^^)
ใครสนใจ.. ตามลายแทงในกระทู้ของน้องแพร (+~%Chocolate Republic%~+) ได้เลยค่ะ
ร้านนี้อาจจะหายากนิดนึง แต่ถ้าหาร้าน Bata เจอ ก็ไม่พลาดร้านนี้แน่นอนค่ะ

จริงๆ เราเจอร้านตั้งแต่ก่อนเดินไป Ponte Vecchio แล้วล่ะ แต่คิวยาวมาก.. ไม่อยากรอ
กลับมาอีกที เหลือลูกค้าอยู่ในร้านไม่กี่คน.. ค่อยยังชั่วหน่อย

ปล. ร้านนี้มีสาขาที่โตเกียว กับโอซาก้าด้วยนะคะ

เมนูเจลาโต้ที่ติดอยู่ร้าน มีกรานิต้าขายด้วย
เท่าที่ลอง อร่อยทุกรสค่ะ..
แต่รสที่คนสั่งกันเยอะ เห็นจะเป็น Crema di Grom กับ
Cioccolato Extranior (Dark Chocolate)

ราคาเจลาโต้ (ต่อถ้วย) :-
Piccola (เล็ก) 2.50 ยูโร
Media (กลาง) 3.50 ยูโร
Grande (ใหญ่) 4.50 ยูโร
Maxi (บิ๊กเบิ้ม) 5.50 ยูโร

ถ้วยนี้รส Stracciatella (Colombia chocolate-chips) กับ
Caramello al sale (Caramellota with Himalayan pink salt)
แค่ชื่อรสในเมนูก็กินขาด รสชาติไม่ต้องพูดถึง
ร้านนี้เค้ามีรสชาติประจำเดือนด้วยนะคะ
เดือน ก.ย. ที่เราไปเที่ยว เป็นรส Ricotta e mandorle (Cottage cheese and almonds)

ส่วนขนาดถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นขนาดเล็ก (Piccola) เพราะมีเจลาโต้แค่ 2 รส
ถ้าสั่งขนาดกลาง (Media) สามารถเลือกได้ 3 รสค่ะ..
ถ้าสั่งขนาดใหญ่กว่านี้อีก ก็ได้เพิ่มไปอีกขนาดละ 1 รส
ตอนนั่งเขียนรีวิวอยู่นี่ ก็กลืนน้ำลาย เอื๊อกๆ
อยากกินอีกอ่ะ T-T

เดินผ่าน Florence Cathedral ก่อนกลับไปพักผ่อนที่โฮลเทล
แชะ! เก็บมาอีกสักภาพ

v
v
v

ตอนหน้าจะพาไปเที่ยวหอเอนเมืองปิซากันค่ะ
หอเอนที่ต้องเดินหามุมถ่ายภาพให้มันเอน 55+