(20 เม.ย. 53) วันนี้เราจะไปเที่ยว Boppard เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก มีทัศนียภาพที่สวยงาม แต่จุดมุ่งหมายของเราวันนี้คือเราจะไปชิมไวน์กันค่ะ ที่เมืองนี้มี winery หลายแห่ง ไวน์รสชาติดีค่ะ แถมราคายังไม่แพงด้วย
ระหว่างนั่งรถไฟเห็นทุ่งดอกไม้สีเหลืองๆ เราไม่แน่ใจว่าดอกอะไร เดาเอาเองว่าเป็นดอกมัสตาร์ด
เราแวะกันที่ Baudobriga Rheinhotel เพื่อจะชิมไวน์ เจ้าหน้าที่ถามว่าจะชิมไวน์เพื่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อไวน์ หรือว่าจะลอง tasting เฉยๆ เราบอกว่าอยากจะลองรสชาติเฉยๆ ถ้าชิมไวน์ 3 ชนิดราคา 4 ยูโร แต่ถ้าชิมไวน์ 6 ชนิดราคา 7 ยูโร ครั้งแรกเราคิดว่าจะลองแค่ 3 ชนิด แต่พอลองแล้วรสชาติไวน์ที่นี่ดีค่ะ เราเลยขอลองเพิ่มอีก 3 ชนิด รวมเป็น 6 ชนิด ไวน์แต่ละชนิดจะใส่แก้วช๊อตมาให้แบบเต็มๆ แก้วเลย ใส่ก้นมีตัวเลขแปะมา พร้อมกับเอกสารอธิบายไวน์แต่ละชนิด ดีมากๆเลย ชิมเสร็จเราซื้อไวน์กลับมาขวดนึง จริงๆอยากจะซื้อมากกว่านี้แต่หิ้วไม่ไหวแล้ว แถมเริ่มมึนๆแล้วด้วย (ล้อเล่นค่ะ) เดี๋ยวเราจะไปเดินไปขึ้น chair lift กันต่อ ในระหว่างที่เราเดินไปยัง chair lift เราก็ยังได้มีโอกาสเดินชมเมืองไปด้วย
Wine Tasting
ถ่ายจากในโรงแรมที่ไปชิมไวน์
เราไปเดินชมเมืองกันดีกว่าค่ะ (ปล. ใครเข้ามาดูเว็บนี้ ต้องทำใจว่า จขบ. บ้าถ่ายรูปดอกไม้ จนมีลุงคนนึงที่ Boppard แซวว่า "Don't you have those flower in your country?")
ในที่สุดเราก็เดินถึง chair lift แล้วค่ะ เค้าเรียกว่า "Chairlift Boppard" ตั๋ว round-trip ราคา 6.50 ยูโร เที่ยวเดียวราคา 4.20 ยูโร ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการขึ้นสู่ยอดเขา เราว่าถ้าใครมีเวลาซื้อตั๋วเที่ยวเดียวขึ้นไป แล้วเดินลงดีกว่า เราว่าเดินลงน่าจะใช้เวลาแค่ 20 นาที แถมได้แวะชมวิวและถ่ายรูปด้วย ด้านบนมีร้านอาหาร 2 ร้าน รู้สึกว่าจะพักค้างคืนได้ด้วย สามารถนำจักรยานขึ้นไปพร้อมกับ chair lift ได้ (ฟรี) วิวด้านบนสวยมาก เห็นเมือง Boppard ทั้งหมดเลย
ขณะนั่ง chair lift ขึ้นไป
วิวจากด้านบน
ตอนนั่ง chair lift ลงมา คุณสามีบ้าถ่ายรูปจนลืมว่ากระเป๋ากล้องนะไม่ได้คล้องแขนไว้ ทำกระเป๋ากล้องตกกลางทาง ต้องวิ่งขึ้นไปเก็บเอง ไม่รู้ว่าสมใจเค้าหรือเปล่าที่ได้วิ่งขึ้นไปเอง เพราะตอนที่เราซื้อตั๋ว chair lift คุณพี่เค้าบอกว่าไม่ต้องซื้อตั๋วหรอก เดินขึ้น-ลงดีกว่าใกล้นิดเดียว
(21 เม.ย. 53) ปกติเวลาเราไปเที่ยวไหนวันที่จะต้องเดินทางกลับ ตื่นเช้ามาเตรียมตัวเรียบร้อยเราก็จะแพ๊คกระเป๋าทันที แต่วันนี้เรารอจน 13:00 แล้วเช็คดู flight status อีกครั้งเพื่อความแน่นอน ในเวบไซต์ไม่ได้บอกว่าไฟลท์แคนเซิลแต่อย่างใด เราจึงเริ่มจัดกระเป๋า เที่ยวบินของเราจะออกจาก Frankfurt เวลา 22:00 เราไปถึงสนามบินก่อนเวลา 4 ชม. เผื่อเวลาไว้ก่อนกลัวจะมีปัญหา ขนาดนั่งอยู่บนเครื่องแล้วยังกลัวมีปัญหาแล้วไพลอทเลี้ยวหัวกลับมาที่ Frankfurt อีก (ประมาณว่าโรคจิตอ่อนๆไปแล้วกลัวไม่ได้กลับบ้าน)
(22 เม.ย. 53) ไชโย!! ในที่สุดก็ถึงบ้านอันแสนสบายของเราอย่างสวิสดิภาพ มีเตียง มีห้องน้ำเป็นของตัวเอง ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ
- - - - จบทริปนี้แล้วค่ะ - - - -
Create Date : 10 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 10 พฤษภาคม 2553 9:37:20 น. |
|
1 comments
|
Counter : 2222 Pageviews. |
|