เมษายน 2553

 
 
 
 
1
2
4
5
7
8
10
11
13
15
16
17
19
20
21
22
23
24
26
27
28
30
 
 
All Blog
บทที่ 52 ผลไม้ต้องห้าม (i) (คำเตือน: เรท Y)
หลังจากที่วิทกลับมาถึงห้องพักในค่ำวันนั้น ไม่นานต่อมาเสียงโทรศัพท์ก็ัดังขึ้น ...

"ฮัลโล" วิทยกหูตอบไป

"ฮัลโลวิท นี่เจฟนะ"

"ว่าไงเจฟ มีอะไรหรือเปล่า"

"อ๋อ แค่จะเช็คว่านายถึงบ้านเรียบร้อยหรือยัง ... การเดินทางเป็นยังไงบ้าง"

"ก็ดี เหนื่อยนิดหน่อย ... ขอบใจนะที่โทรมา"

"ไม่เป็นไร ... เออ เราลืมบอกไปว่าอาทิตย์ที่จะถึง เรามีธุระจะต้องกลับบ้านซักพักนึง ... ระหว่างนั้นคงไม่ค่อยสะดวกที่จะคุยกัน"

"อ้าว ... แล้วตกลงว่านายยังจะมามั้ยวันเสาร์หน้า"

"มาิสิ ... เราจะนั่งรถไฟไปจากที่บ้าน"

"โอเค ยังไงนายช่วยส่งรายละเอียดมาทาง email ก็แล้วกันนะ"

********************************************************************************

สุดสัปดาห์ถัดมา วิทจึงไปรอรับเจฟที่สถานีรถไฟในตอนบ่ายแก่ของวันเสาร์ ...

"นายอยากไปไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า" วิทถาม หลังจากที่ทักทายกันเรียบร้อยแล้้ว

"เราเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก ... ตามใจนายก็แล้วกัน"

วิทพาเจฟเดิมข้ามถนนวงแหวนหน้าสถานีรถไฟ เดินผ่านสะพานข้ามคูเมือง ซึ่งเชื่อมกับถนนสายบันเทิงที่มุ่งหน้าไปยังปราสาทใจกลางเมือง ... เขาพาเจฟเดินลัดเลาำะไปตามถนนสายเล็กที่คดเคี้ยวไปมา จนไปถึงโบสถ์สำคัญประจำเมืองอายุหลายร้อยปี ...

หลังจากที่วิทเล่าให้เจฟฟังคร่าวๆถึงประวัติ ความสำคัญ และิสิ่งที่น่าสนใจของโบสถ์แห่งนี้เท่าที่เขาไปค้นคว้ามา ... แต่เจฟกลับตอบมาด้วยประโยคที่ว่า

"มีอยู่ครั้งนึง เราเคยไปเล่นคอนเสิร์ตที่โบสถ์คล้ายๆแบบนี้แหละ" ...

ทั้งสองใช้เวลาอยู่ในโบสถ์นานพอสมควร วิทจึงชวนเจฟออกมาเพื่อเดินไปขึ้นรถเมล์กลับที่พัก

"ลืมบอกไป ... เราจองดินเนอร์ไว้แล้วสำหรับตอนเย็น แต่ไม่ต้องซื้อตั๋ว" วิทพูดเหมือนจะแซวเจฟกลายๆ

"ที่มหา'ลัยเหรอ?"

"เดี๋ยวก็รู้เองแหละน่า"

********************************************************************************

อาหารมื้อเย็นวันนั้นจัดที่แฟลตของวิทเอง ... โต๊ะกินข้าวริมหน้าต่างถูกปูด้วยผ้าปูโต๊ะสีน้ำเงินเข้มเข้ากับสีของผ้าม่าน มีแจกันแก้วคริสตอลประดับด้วยดอกไอริสสีน้ำเงินอมม่วงวางอยู่ตรงกลาง ข้างๆเป็นเชิงเทียนแก้วที่ปักเทียนสีขาวไว้เล่มหนึ่ง ... มีแผ่นรองจานสีน้ำเงินขอบทองพิมพ์ลาย fleurs-de-lis ที่มุมทั้งสี่ด้าน พร้อมกับช้อน ส้อม มีด และแก้วน้ำคริสตอลจัดเตรียมไว้สำหรับสองที่ ...

"นายหิวหรือยัง?"

เจฟมองไปที่โต๊ะที่จัดไว้ด้วยแววตาทึ่ง "นายไม่ต้องทำถึงขนาดนี้เลย"

"ปกติเราก็กินมื้อเย็นแบบนี้แหละ" วิทตอบไปส่งๆ "แต่ถึงโต๊ะัจะดูดี แต่อาหารก็ธรรมดานะ"

และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะเมนูอาหารวันนั้น ซึ่งแม้จะเป็นคอร์ส 3 จาน แต่ก็มีเพียงแค่ซุปมินีสโตรนีกระป๋องยี่ห้อที่มีตราแผ่นดินของควีนอลิซาเบธประทับอยู่ ลาซานย่าแช่แข็งที่อุ่นด้วยเตาอบ และของหวานเป็นฟรุตสลัดกับไอศครีม ที่เสริฟมาในจาน-ชามขอบทองประดับลายดอกกุหลาบสีน้ำเงิน ... และที่วิทไ่ม่ลืมคือน้ำแร่ "Perrier" ซึ่งเป็นน้ำแร่ฝรั่งเศสยี่ห้อโปรดของเจฟ แต่โดยส่วนตัวเขารู้สึกว่ารสชาติไม่ต่างอะไรจากน้ำโซดาทั่วๆไป ...

และเมื่อทุกอย่างพร้อม วิทจึงจุดเทียนและปิดไฟดวงใหญ่กลางห้อง ทำให้ทั้งห้องตกอยู่ภายใต้ความสลัวของแสงเทียน ท่ามกลางเสียงเพลงวอลซ์ของโชแปงคลอเบาๆอยู่ในบรรยากาศ ...

********************************************************************************

หลังจากที่อาหารหมดจานไปนานแล้ว ตามด้วยกาแฟดีแคฟฯอีกคนละแก้ว และช็อกโกแล็ตหลังอาหารสอดไส้มินต์ ... เทียนดับไปนานแล้ว พร้อมกับไฟกลางห้องที่กลับมาสว่างอีกครั้งหนึ่ง ทั้งสองยังคงนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะ จนกระทั่งเครื่องเล่น cd มุมห้องเล่นเพลงของโชแปงวนมาเป็นรอบที่ 3 ...

"นายง่วงหรือยัง" วิทถามเมื่อเห็นเจฟเงียบไป

"ก็นิดหน่อย ... แล้วเราจะนอนกันยังไง"

วิทมองไปที่เตียงเดี่ยวมุมห้อง "สมัยเรียนปริญญาตรี เราเคยมีเพื่อนมาค้างด้วยที่หอพักมหา'ลัย ก็นอนด้วยกันบนเตียงขนาดนั้นแหละ ... อ้อ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ"

เจฟดูไม่คัดค้านอะไร และขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ และกลับมาอีกครั้งในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้น ดูสบายๆแปลกตา ต่างจากการแต่งกายตามปกติของเจฟ ...

วิทจัดให้เจฟนอนด้านในติดผนัง ในขณะที่เขานอนด้านนอก ... วิทลุกไปปิดสวิทซ์ไฟ ทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความมืด และเมื่อกลับมาล้มตัวลงนอน พบว่าีมีแขนของเจฟรองอยู่ใต้คอเขาอยู่ คล้ายจะโอบแบบหลวมๆ

"นายโอเคมั้ย" เจฟถามเบาๆ

"อือ"

วิทไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร แต่ในความมืดและความเงียบนั้น วิทได้ยินเสียงหัวใจของเขาและของเจฟเต้นแรงกว่าปกติ ...

"ไม่รู้เป็นอะไร ... แต่ว่าเรานอนไม่หลับ" วิทกระซิบ

"เราก็เหมือนกัน" เจฟตอบกลับมาเบาๆ ... หลังจบประโยคนั้น เจฟพลิกตัวขึ้นมาอยู่บนร่างของวิท และประกบจูบลงไปบนริมฝีปากของวิทแบบไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ...

"จูบแรก" วิทนึกในใจ ... ณ เวลานั้น เจฟและวิทได้แต่ปล่อยกายและใจไปตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ ...

********************************************************************************

วิทตื่นขึ้นมาตอนเช้าในอ้อมกอดของเจฟ ดอกไอริสในแจกันดูเหมือนจะชูช่อรับแสงแดดอ่อนๆของฤดูใบไม้ผลิที่ทอแสงบางๆผ่านผ้าม่านสีน้ำเงินริมหน้าต่าง ... ตอนตื่นนอนแบบนี้เจฟดูต่างไปราวกับเป็นคนละคน เส้นผมที่ค่อนข้างยุ่งแบบคนเพิ่งตื่นนอน และเมื่อไม่ได้สวมแว่นตาที่ถอดวางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งข้างเตียง ทำให้เจฟดูเป็นธรรมชาติและเป็นกันเองมากขึ้น จนแทบไม่มีมาด "นักศึกษา Oxbridge" หลงเหลืออยู่ ...

"เอ่อ ... เรื่องเมื่อคืนนี้น่ะ ..." วิทไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี "นายแน่ใจแล้วหรือ?"

เจฟกอดวิทแน่นขึ้น พร้อมกับเอนตัวมาจูบวิทอีกครั้งหนึ่งแทนคำตอบ

"ตกลงว่าเราเป็นแฟนกันใช่มั้ย?" วิทถามเพื่อให้แน่ใจ

"ใช่สิ เราเป็นแฟนกัน" เจฟตอบด้วยน้ำเีสียงมั่นอกมั่นใจ "นายไม่เสียใจใช่มั้ยกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน"

"ไม่หรอก ... เราเต็มใจ"

"รู้มั้ยว่าเราอยากหยุดเวลาตอนนี้ไว้ ... แต่ว่าตอนสายเราจะต้องกลับแล้ว" เจฟบอก

"ตอนสายเลยเหรอ" วิทเสียดาย

"เราไม่อยากให้ที่บ้านถามอะไรมาก เพราะที่มานี่ที่บ้านก็ไม่รู้ ... เราบอกแค่ว่าไปธุระเกี่ยวกับคอนเสิร์ต ต้องค้างคืนแล้วจะกลับตอนสายๆ"

"แล้วเราจะได้เจอกันอีกมั้ย ..." วิทถามลอยๆ

"แน่นอน ... ไว้เรามีเวลาว่างคราวหน้า ค่อยนัดเจอกัน"

วิทเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของประโยคที่ว่า "Parting is such sweet sorrow." จากเรื่องโรมีโอและจูเลียต ก็ในเวลานี้เอง ... การจากกันแม้จะขมขื่น แต่ความหวังที่จะได้พบกันอีกยังคงเป็นความหวานชื่นที่ช่วยปลอบประโลมใจ ใ้ห้รอคอยถึงโอกาสหน้าที่จะได้พบกันอีก ...

วิทไปส่งเจฟที่สถานีรถไฟในตอนสายของวันนั้น แต่ครั้งนี้เขารู้สึกว่าหัวใจได้หลุดลอยไปพร้อมๆกับขบวนรถไฟที่ค่อยๆแล่นห่างออกไปจากสถานีจนลับตา ...

สงวนลิขสิทธิ์บทความ ห้ามเผยแพร่ ทำซ้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร



Create Date : 09 เมษายน 2553
Last Update : 9 เมษายน 2553 18:43:05 น.
Counter : 489 Pageviews.

3 comments
  
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ !!!

Love at Firstsign and Your First Kiss.

I think already. It 'll happen lol.

AD disease is began... OMG !!!
โดย: Tommy IP: 125.27.135.48 วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:21:58:58 น.
  
wowwwwwwwww,but I'm late
โดย: pat IP: 183.89.35.124 วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:30:38 น.
  

กีซเบาๆ เขินสุดตับ 55
โดย: mecon (m_econ ) วันที่: 9 มกราคม 2554 เวลา:23:53:44 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Historicus
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



คุณพ่อลูกสอง (ตัว)
"Have mercy, O Lord, and strengthen all broken wings." Kahlil Gibran

free counters



Waltz in B minor, Op. 69, No. 2 by Frédéric Chopin