All Blog
|
บทที่ 1 เรื่องวุ่นๆก่อนไปนอก จังหวัดแห่งหนึ่งในภาคเหนือตอนบน ณ ริมหนองน้ำเชิงเขา ไม่ไกลจากมอเชิงดอย เวลาบ่ายคล้อย ... ด้านหนึ่งของหนองน้ำติดภูเขา ส่วนอีกด้านเป็นถนนลาดยางที่เป็นเหมือนสันเขื่อน ที่ถัดลงไปข้างล่างจะเห็นภูมิทัศน์ของเมืองเหนือ ... ส่วนที่เป็นถนนมีผู้คนเดินเข้า-ออกเป็นระยะๆ หลายคนนั่งทอดอารมณ์อยู่ข้างๆถนน บางคนก็โยนเศษขนมปังลงในน้ำเพื่อเลี้ยงปลา ส่วนบางคนก็มาเดินออกกำลังกาย ... จากระยะไกลมองเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งนั่งคุยกันอยู่ริมหนองน้ำ ... แต่เมื่อเข้าไปใกล้จะเห็นหญิงสาวท่าทางทะมัดทะแมง บุคลิกห้าวๆคล้ายผู้ชาย นั่งอยู่ใกล้ๆกับหนุ่มผิวขาว รูปร่างบาง ท่าทางสำอาง "วิท แกเนี่ยโชคดีเนาะ ... จบแล้วได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก" "แล้วแกล่ะ จบแล้วจะทำอะไร?" "ฉันคงหางานโรงงานทำน่ะ" "คิดแล้วใจหายเนอะ พอเรียนจบแล้วเพื่อนๆต่างแยกย้ายกันไปหมด" "อือ ... ชีวิตมันก็อย่างงี้แหละแก" ******************************************************************************** กรุงเทพฯ วันนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่วิทต้องเข้ามาที่สำนักงานที่เป็นเจ้าของทุน เพื่อมาพบคนที่เรียกว่า "พี่เลี้ยง" ซึ่งจะเป็นคนดูแลเรื่องต่างๆของนักเรียนทุนทุกคนระหว่างที่ยังไม่ได้ไปเมืองนอก ทุกคนดูจะให้ความเคารพพี่เลี้ยงเป็นอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่นักเีรียนทุนวัยกลางคน ที่จบปริญญาโทมาัพักใหญ่ และปัจจุบันเป็นอาจารย์มหา'ลัียที่มีผู้คนนับหน้าถือตา เตรียมไปเรียนต่อเอก ก็ดูเหมือนจะเป็นไปตามนั้น "ระหว่างนี้น้องก็ไปเรียนภาษาก่อนนะ หลักสูตร IELTS แล้วก็สมัครสอบ ถ้าได้คะแนนถึง 5.5 ก็จะได้เอามาสมัคร U" คุณพี่เลี้ยงสาวอายุน่าจะราวๆ 20 ปลายๆว่า "แต่ถ้าน้องมีคะแนน TOEFL เกิน 530 จะให้ทางนี้สมัคร U ให้ก็ได้" ในเวลานั้นคะแนนขั้นต่ำสำหรับสมัครเรียนต่อโทต่างประเทศคือคะแนน TOEFL 550 หรือ IELTS 5.5 ขึ้นไป แต่สำนักงานฯ มีข้อตกลงกับทางมหา'ลัยบางแห่ง เลยใช้คะแนน TOEFL ที่เกิน 530 ในการสมัครเข้าบางสาขาได้ โดยเฉพาะสาขาที่ไม่ใช่ภาษาศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรือกฏหมาย อะไรทำนองนั้น "ครับ ... ผมมีคะแนนสอบ TOEFL ครั้งล่าสุดได้ 53x คงใช้ได้นะครับ" "น้องเตรียมเอกสารมา แล้วพี่จะส่งให้เจ้าหน้าที่อีกคนเค้าจัดการให้" "ขอบคุณมากครับ" ******************************************************************************** ระหว่างนั้นวิทก็ไปสอบวัดระดับ เพื่อเข้าเรียนหลักสูตรเตรียมสอบ IELTS ซึ่งก็สอบได้แค่ระดับกลางๆคือ Intermediate เลยต้องนั่งเรียนระดับนั้นไปก่อน จนกระทั่งเรียนไปได้ 2 คอร์ส ก็กลับไปที่สำนักงานฯ อีกครั้งหนึ่ง "อ้าวน้องมาพอดี พี่กำลังว่าจะโทรไปตาม" "ผมจะเข้ามาขอใบส่งตัวเรียนภาษาคอร์สถัดไปครับ" "น้องไม่ต้องไปเรียนแล้ว ... มี U ตอบรับแล้ว เปิดเรียนปลายเดือนหน้า" ตอนนั้นเป็นปลายเดือนสิงหาฯ และจะต้องไปเรียนโทตอนเดือนกันยาฯ เรียกว่ามีเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ที่ต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ทั้งทำพาสปอร์ต วีซ่า ตรวจร่างกาย ตั๋วเครื่องบิน เอกสารต่างๆ ร้อยแปด "เอ่อ ... ไปปีหน้าไม่ได้เหรอครับ ตอนนี้แทบไม่มีเวลาเตรียมตัวเลย" วิทรวมรวมสติขึ้นมาได้หลังจากที่อึ้งไปพักนึงกับข่าวที่ไม่ทันตั้งตัว "รอคะแนน IELTS ที่เพิ่งสอบไปออกก่อน" "ไม่ได้น้อง ... U รับแล้วก็ต้องไป" "เอ่อ ... U อะไรนะครับ" พี่เลี้ยงไม่ตอบ แต่ส่งจดหมายตอบรับจาก U มาให้ "U of xxxxxxxxxx? อยู่ไหนหว่า ไม่เคยได้ยินชื่อเลย!" วิทแอบคิดในใจ ******************************************************************************** และ 3 สัปดาห์ต่อมาเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายที่สุดในชีวิต ... และราวปาฏิหารย์ที่ทุกอย่างเรียบร้อยลงตัวทันเวลาในวันที่จะขึ้นเครื่องนั่นเอง ในวันสุดท้ายนั้น วิทกลับไปพบพี่เลี้ยงอีกครั้งเพื่อรับเงินค่าเดินทาง และเอกสารบางอย่าง "พอน้องไปถึงที่โน่นแล้วจะมีคนมารับพาไปที่สำนักงานฯที่ลอนดอน" พี่เลี้ยงอธิบาย "แต่ถ้าไม่มีก็นั่งแท็กซี่ไปตามที่อยู่นี้" ... "เอาสติกเิกอร์นี้ติดที่กระเป๋าเวลาเดินออกจากสนามบิน คนที่มารับจะได้เห็น" พี่เลี้ยงว่าพลางยื่นสติกเกอร์ขนาดเท่ากระดาษ A4 สีส้มจัดมาให้ ... "อ้อ ... คะแนน IELTS น้องออกแล้วนะ เพิ่งมาถึงวันนี้เอง" พี่เลี้ยงพูดขึ้นเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ หลังจากที่จัดการอะไรต่างๆที่เกี่ยวกับการเดินทางเสร็จเรียบร้อยแล้ว "น้องเอาไปเลยก็แล้วกัน" วิทรับซองมาเปิดดูและคิดในใจ "ได้ 6.0 แน่ะ ... แต่จะเอาไปทำอะไรล่ะตอนเนี้ย จะบินคืนนี้อยู่แล้ว" "โชคดีนะจ๊ะ" นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายที่พี่เลี้ยงกล่าวกับวิท ก่อนที่เขาจะออกไปขึ้นรถเพื่อไปสนามบิน ... สงวนลิขสิทธิ์บทความ ห้ามเผยแพร่ ทำซ้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร บอกเทคนิคการได้รับคัดเลือกให้ได้รับทุนหน่อยสิค่ะ
โดย: มยุรา IP: 77.198.93.47 วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:58:36 น.
|
Historicus
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] คุณพ่อลูกสอง (ตัว) Waltz in B minor, Op. 69, No. 2 by Frédéric Chopin Friends Blog
Link |