All Blog
|
บทที่่ 24 เบอร์ลิน วิทใช้เวลาอีกสองวันต่อมาไปกับการท่องเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ... เมืองนี้เป็นเมืองที่ทันสมัยไม่ต่างจากเมืองหลวงของประเทศอื่นๆ แต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของอารยธรรมเก่าแก่ ทั้งโบสถ์ วัง และอาคารสำคัญต่างๆ รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระัดับโลกหลายแห่ง มารวมกันอยู่ในเมืองนี้ ... ทอมเล่าให้ฟังว่า "ถ้าว่ากันตามภูมิศาสตร์แล้ว เบอร์ลินควรจะอยู่ในเยอรมนีตะวันออก" "จริงเหรอ ... เรานึกว่าเบอร์ิลินอยู่ตรงกลางเลยถูกแบ่งออกเป็นสองซีก" วิทเดาไปตามความรู้ของประวัติศาสตร์ยุโรปที่มีเท่าหางอึ่ง "จะเล่าให้ฟัง ... หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เยอรมนีแพ้สงคราม ... ประเทศนี้เลยถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ..." ระหว่างที่พูด น้ำเสียงและดวงตาของทอมมีแววขมขื่นนิดหนึ่ง "ทางด้านตะวันตก ส่วนที่เป็นเขตปกครองของ สหรัฐฯ สหราชอณาจักร และฝรั่งเศส รวมกันเป็นเยอรมนีตะวันตก ... ส่วนที่เหลือเป็นของรัสเซีย ซึ่งก็คือเยอรมนีตะวันออกนั่นเอง" วิทพยักหน้าเข้าใจ ในขณะที่ทอมเล่าต่อไป "เบอร์ลินซึ่งอยู่ในเขตของรัสเซีย แต่เป็นเมืองที่มีความสำคัญ เลยถูกแบ่งเป็น 4 ส่วนเช่นเดียวกัน" "เบอร์ลินตะวันตกก็เลยอยู่ในใจกลางของเยอรมนีตะวันออก?" วิทเดา "ใช่แล้ว ... ต่อมาเยอรมนีตะวันออกเลยสร้างกำแพงเบอร์ลินขึ้นมาล้อมรอบเบอร์ลินตะวันตกเอาไว้ เพื่อป้องกัีนไม่ให้ชาวตะวันออกหนีเข้าไปในนั้น ... ค่าครองชีพในเบอร์ลินตะวันตกจึงสูงมากเพราะต้องนำเข้าทุกอย่างมาทางเครื่องบิน" ทอมหยุดพักนิดหนึ่งก่อนจะเล่าต่อ "ครอบครัวของเราอยู่ที่ Potsdam ก็เลยต้องกลายเป็นชาวเยอรมันตะวันออกไปโดยปริยาย" ******************************************************************************** ถนนในเบอร์ลินวันนี้ค่อนข้างเงียบ แม้ว่าจะอยู่ใจกลางย่านธุรกิจและห้างสรรพสินค้า มีรถส่วนตัวและรถแท็กซีแล่นผ่านไปมาเป็นครั้งคราว ... วิทเพิ่งสังเกตเห็นยี่ห้อรถที่เอามาทำเป็นแท็กซีในประเทศนี้ "แท็กซีที่นี่ยี่ห้อ'เมอร์เซดีส'เชียวเหรอเนี่ย!" "ใช่ ... มีอะไรเหรอ?" ทอมตอบเหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดา "ที่เมืองไทย รถยี่ห้อนี้แพงมากนะ ... มีแต่คนมีเงินเท่านั้นที่ขับ ไม่มีใครเอามาทำแท็กซีหรอก" วิทตอบ "แต่ที่นี่ผลิตเอง ... ถึงจะแพงกว่ายี่ห้ออื่นบ้าง แต่ก็คงไม่แพงเ่ท่าที่บ้านนายมั้ง" ******************************************************************************** ทอมพาวิทเดินลัดเลาะมาจนถึงถนนกว้างใหญ๋ ที่ตรงปลายถนนมีซุ้มประตูขนาดใหญ่ตั้งอยู่ บนยอดเป็นรูปปั้นเทพีแห่งสันติภาพบนรถเทียมม้า 4 ตัว "นี่คือ Brandenburg gate ... เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเบอร์ลิน" ทอมบอก "ชื่อเหมือนซุ้มประตูที่ Potsdam เลยแฮะ" "ใช่ ... ลองดูตรงเหนือเสา จะเห็นรูปสลักจากเทพนิยายกรีกด้วยนะ" วิทมองตามด้วยความทึ่ง ไม่ไกลจากซุ้มประตูเท่าไหร่ ทอมพาเดินมาจนถึงลานโล่งกว้าง ที่มีผนังปูนสูงท่วมหัวตั้งอยู่ ดูประหลาดเหมือนใครเอาผนังบ้านร้างมาตั้งทิ้งไว้กลางลานตรงนี้ ... "อย่าบอกนะว่านี่คือ ..." วิทอุทาน "กำแพงเบอร์ลิน" ทอมบอก ... วิทเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ที่ผนังนั้นมีคนมาพ่นสีเขียนข้อความและวาดรูปต่างๆเอาไว้ ... แต่หลายปีก่อน ในสมัยที่กำแพงนี้ยังกั้นแบ่งเบอร์ลินออกเป็น 2 ส่วน เช่นเดียวกับส่วนที่เหลือของประเทศนี้ มีผู้คนจำนวนมากที่พยายามหลบหนีข้ามกำแพงไปและต้องเอาชีวิตมาิทิ้งที่นี่ ... ทอมเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของวิท เลยพูดออกมาเบาๆว่า "อดีตมันผ่านไปแล้ว ... คนเรามีชีวิตอยู่กับปัจจุบันจะดีกว่า" ******************************************************************************** เมื่อกลับมาถึงบ้านในตอนค่ำ ... วิทเข้าไปในห้องนอนและพบว่าถังขยะในห้องถูกเคลียร์ไปแล้ว ทั้งๆที่มีแค่เศษกระดาษห่อช็อกโกแล็ทที่กินไว้เมื่อคืนเพียงอย่างเดียว "สงสัยเค้ากลัวมดขึ้นละมั้ง" เขานึกในใจ "เอ ... แต่หนาวๆอย่างนี้ไม่น่าจะมีมดนะ" จนกระทั่งวิทเข้าไปในครัวจึงเห็นว่าฟอยล์ที่ห่อช็อกโกแล็ทชั้นในถูกเอามาล้างจนสะอาดและผึ่งเอาไว้ให้แห้งเพื่อรอไปใส่ถังขยะสำหรับโลหะ ... ส่วนกระดาษห่อชั้นนอกคงไปอยู่ในถังขยะสำหรับกระดาษที่มุมใดมุมหนึ่ีงของบ้านนี้ ... เลยนึกขึ้นได้ว่าที่ทอมมีนิสัยแยกขยะก่อนทิ้งตอนที่อยู่อังกฤษคงได้มาจากที่บ้านนี่เอง ... ในเวลาเดียวกันวิทรู้สึกละอายใจที่นอกจากจะไม่ช่วยแยกขยะแล้ว ยังเป็นภาระให้เจ้าของบ้านอีกต่างหาก สงวนลิขสิทธิ์รูปภาพและบทความ ห้ามเผยแพร่ ทำซ้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร |
Historicus
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] คุณพ่อลูกสอง (ตัว) Waltz in B minor, Op. 69, No. 2 by Frédéric Chopin Friends Blog
Link |