ห้าม! แช่น้ำผงซักฟอกนานเกินไป :

บ่อยครั้งที่ผ้าปูที่นอนมีคราบสกปรกต่างๆ ติดฝังแน่นอยู่ ซึ่งการซักที่ถูกต้องนำไปแช่น้ำผงซักฟอกประมาณ 5 – 10 นาที เพื่อให้คราบสกปรกอ่อนตัวและง่ายต่อการซัก แต่ห้ามแช่ผ้าปูที่นอนข้ามคืนเด็ดขาด เพราะเป็นการทำลายเนื้อผ้าได้

ให้! ลืมซักคราบหนัก :

ก่อนที่จะนำผ้าปูที่นอนไปซัก คุณควรสำรวจทุกซอกทุกมุมของผ้าปูที่นอนให้ดีก่อนว่ามีจุดไหนบ้างที่สกปรกมากเป็นพิเศษ เมื่อพบแล้วให้ลงมือซักจุดดังกล่าวเป็นจุดแรก เพราะถ้าปล่อยไว้ แล้วไปซักแบบรวมจะทำให้คราบสกปรกหลุดออกไปไม่หมด

ห้าม! ปั่นรวมกับผ้าอื่น :

ห้ามนำผ้าปูที่นอนไปซักรวมกับผ้าอื่นเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้ผ้าไม่สะอาดแล้ว ซิป ตะขอ กระดุมจากเสื้อผ้ายังเป็นตัวการที่ทำลายเนื้อผ้าอีกด้วย ดังนั้นถ้าจะซักผ้าปูที่นอนก็ซักไปเลยอย่างเดียว

ห้าม! ปรับระดับการซักแรงสุด :

ถึงแม้จะมีคราบสกปรกมากขนาดไหนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปรับระดับการซักของเครื่องซักผ้าให้อยู่ในระดับแรงสุด เพราะเนื้อผ้าของผ้าปูที่นอนไม่ได้หนา การซักแบบรุนแรงจะเป็นการทำลายเนื้อผ้าและสูญเสียความอ่อนนุ่มไปเปล่าๆ การซักที่ถูกจึงควรตั้งค่าเครื่องซักผ้าในระดับปานกลางหรือต่ำ จากนั้นจึงใช้น้ำร้อนในการซัก เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ

ห้าม! ปั่นแห้งนานเกินไป :      

ใครหลายคนคิดว่าผ้าปูที่นอนต้องปั่นแห้งนานกว่าปกติเพื่อทำให้ผ้าแห้งทั้งผืน แต่ขอบอกว่าการทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิด เพราะจะทำให้ผ้าหดตัวได้ ทางที่ถูกควรปั่นแห้งแค่ไม่ให้น้ำหยด จากนั้นนำไปตากให้แห้ง

ห้าม! ปั่นแห้งรวมกับผ้าขนหนู :

ผ้าขนหนูเป็นอีกสิ่งที่ห้ามนำมาปั่นรวมกับผ้าปูที่นอน เพราะผ้าปูที่นอนจะแห้งเร็วกว่าผ้าขนหนู หากจำเป็นต้องปั่นรวมให้นำผ้าคอตตอนเนื้อบางมาปั่นไปพร้อมกัน แต่ทางที่ดีที่สุดควรปั่นผ้าปูที่นอนเพียงอย่างเดียวจะดีกว่า

เพื่อการนอนหลับพักผ่อนที่แสนสบาย คุณควรให้ความสำคัญกับการซักผ้าปูที่นอนด้วยนะครับ

ขอบคุณ ผ้าปูที่นอน