หลังจากจบศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลกที่ประเทศไทย ห่างไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ แฟนบอลลูกหนังชาวไทยก็ได้ทำหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ในชื่อว่า “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012” ซึ่งเป็นศึกชิงความเป็นเจ้าของภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยครั้งนี้มีเจ้าภาพร่วม 2 ประเทศคือ ไทย และ มาเลเซีย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเอ มีพี่เบิ่มอย่าง “ไทย” เป็นเจ้าภาพ และ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ พม่า อยู่ร่วมสาย ส่วนกลุ่มบี ประกอบไปด้วย มาเลเซีย (เจ้าภาพ) อินโดนีเซีย สิงคโปร ลาว

                ทีมช้างศึกของไทย จะปักหลักแข่งในกรุงเทพ ทั้งหมด 3 นัด โดยนัดแรกวันที่ 24 พ.ย. 55 พบกับ ฟิลิปปินส์ 27 พ.ย. 55 พบกับ พม่า และ 30 พ.ย. 55 พบกับ เวียดนาม ทุกนัดที่ทีมชาติไทยลงสนามจะเล่นที่สนามราชมัคลากีฬาสถานครับ ส่วนเรื่องของบัตรเข้าชมเกม คงจะไม่ลำบากเหมือนฟุตซอลครั้งที่ผ่านมาแน่ เพราะสามารถหาซื้อได้หน้าสนาม และสามารถจองผ่าน www.thaiticketmajor.com ได้อีกช่องทาง

                ส่วนเรื่องผลงานของทีมชาติไทยชุดลุยศึกซูซูกิ คัพ ที่ผ่านมาเรียกได้ว่า ไม่ค่อยจะราบรื่นเท่าไรนัก มีเรื่องให้ วินเฟรด เชเฟอร์ ให้ปวดหัวกุมขมับตลอด ไล่ตั้งแต่ การเข้าแคมป์ฝึกซ้อม การไม่มารายงานตัวของนักเตะบางสโมสร และเรื่องของการแข่งแมตซิอุ่นเครื่องที่สมาคมลอยแพ ละเลย ไม่ค่อยใส่ใจ

                ด้านความพร้อมของทีมชาติไทย ก่อนหน้านี้ได้มีแมตซ์อุ่นเครื่อง กับ มาเลเซีย ภูฎาน และ บังคลาเทศ และเป็นทีมชาติไทยที่เอาชนะไปด้วยสกอร์เกมศูนย์ ได้แก่ 2-0 5-0 และ 5-0 ตามลำดับ และจากผลงานการอุ่นเครื่องที่ผ่านมาถึงตรงนี้ ผมคิดว่า “วินนี่” วินเฟรด เชเฟอร์ น่าจะมีนักเตะในดวงใจแล้ว ทั้งหมด 22 คนที่จะต้องส่งรายชื่อให้ทางสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน แต่ก็คงต้องกุมขมับกับการเลื่อกผู้เล่นในแนวรุกที่ต่างโดนอาการบาดเจ็บรบกวนนิดๆ ทั้งสุรชาติ สารีพิมพ์ ธีรศิลป์ แดงดา ชาตรี ฉิมทะเล และ กีรติ เขียวสมบัติ

                สุดท้ายอยากจะฝากถึงแฟนบอลชาวไทยให้ช่วยเชียร์ทีมชาติไทยกันเยอะๆ เพราะยังไงรายการระดับนี้เรามองถึงตำแหน่งแชมป์อยู่แล้วไม่มีทางเลือกอื่น หลังจากทีมฟุตบอลชุดใหญ่ห่างหายจากความสำเร็จไปนาน หากคว้าแชมป์รายการนี้มาครองได้เท่ากับเป็นการกลับมาจุดประแสความเป็นเจ้ามหาอำนาจด้านลูกหนังแถบนี้อีกครั้ง และหวังว่าผลงานของทีมชาติไทยชุดนี้คงจะไม่น้อยหน้าไปกว่าทีมฟุตซอลนะครับ ที่ยังอุตสาห์เข้ารอบที่สองในศึกฟุตซอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้ ยังไงก็เอาใจช่วยครับ

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2555 21:18:43 น.		0 comments
Counter : 876 Pageviews.
Share Tweet