ฟุตบอล เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ศึกถ้วยใหญ่แห่งแผ่นดินเอเชีย กลับมาทำการแข่งขันอีกครั้ง โดยในปีนี้ มี 2 สโมสรจากไทยเข้าร่วมการแข่งขันด้วย ได้แก่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปในฐานะแชมป์ฟุตบอลลีก และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปในฐานะแชมป์บอลถ้วย เอฟเอคัพ โดยต่างกันที่ เมืองทองนั้นจะได้เข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มเลยอัตโนมัติ ส่วน “แชมป์เซราะกราว” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องเล่นตั้งแต่รอบคัดเลือก และเล่นเพียงนัดเดียวเพื่อตัดสินหาทีมเข้ารอบแบ่งกลุ่มต่อไป

                บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถูกจับฉลากพบกับทีม บริสเบน โรอาห์ ทีมดังจากแดนจิงโจ้ ออสเตรเลีย ซึ่งมีดีดรีเป็นแชมป์บอลถ้วยเหมือนกัน แต่ยังถือว่าโชคดี เพราะเกมการแข่งขันคู่นี้จะเล่นที่ สนาม ไอ โมบาย สเตเดียม บ้านของบุรีรัมย์ ทั้งที่การจับฉลากครั้งแรกเตะที่บ้านของ บริสเบน โรอาห์ แต่สนามของเขาไม่ผ่านการประเมินจากทีมงานเอเอฟซี จึงต้องโยกมาเตะที่บุรีรัมย์ ในที่สุด และกำหนดแข่งขันในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เวลา18.00 น. และหากบุรีรัมย์ ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มไปได้ รอบต่อไปจะอยู่ในกลุ่มอี เอฟซี โซล (เกาหลีใต้) เวกัลตะ เซนได (ญี่ปุ่น) และ เจียงซู เซนตี้ (จีน)

                ด้านความพร้อมของทีม “แชมป์เซราะกราว”  สภาพทีมค่อนข้างพร้อมหลังจากเสริมทีมซื้อนักเตะต่างชาติผีเท้าดีเพื่อมาเล่นรายการนี้อย่าง ออสมาร์ อิบาเนซ (รองกัปตันทีม), โกรัน เยอร์โควิช, อาเรียล ซานตาน่า และ ไค ฮิราโนะ ประกอบกับ นักเตะไทยคุณภาพดีในทีมทั้ง ธีราทร บุญมาทัน, จิรวัฒน์ มัครมย์, สุรัตน์ สุขะ และบรรดานักเตะที่เป็นลูกครึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ชาริล ชัปปุยส์ กับ เดนนิส บูเชนิ่ง ทั้งหมดพร้อมลงช่วยบุรีรัมย์ ให้เอาชนะทีมจากแดนจิงโจ้ให้ได้ ทั้งนี้นายใหญ่ของทีม อย่างคุณเนวิน ชิดชอบ ประกาศ จะเอาชนะให้ได้สถานเดียว เพื่อเป็นของขวัญวัน วาเลนไทน์ ให้กับคนบุรีรัมย์ 

แม้จะได้เล่นในสนามของตัวเอง แต่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดจะประมาท บริสเบน โรอาห์ ไม่ได้เป็นอันขาด เพราะเท้าที่ดูรายชื่อนักเตะของ บริสเบน โรอาห์ แล้ว ทีเด็ดส่วนใหญ่จะอยู่ที่ผู้เล่นต่างชาติเช่น โทมัส บรอยเชอร์ กองกลางชาวเยอรมัน ที่เคยค้าแข้งกับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค, เบซาตร์ เบริช่าร์ กองหน้าทีมชาติอัลแบเนีย ที่เคยเล่นให้กับ ฮัมบูร์ก เอสวี, เอ็นริเก้ เดอ ซิลวา แนวรุกชาวบราซิล ผู้เคยผ่านการเล่นให้กับ แอตเลนติโก มิเนโร่ สโมสรดังในแดนกาแฟช่วงปี 2004-2009 และ ทีเด็ดอยู่ที่ สเตฟาน ไนจ์แลนด์ หัวหอกชาวฮอลแลนด์ ที่ยืมมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ที่กองหลังบุรีรัมย์จะต้องระวังให้ดี เพราะนักเตะรายหลังนั้นเล่นลูกกลางอากาศได้ดีมาก

                สุดท้ายไม่ว่าจะยังไง ก็ขอเอาใจช่วยเชียร์ “แชมป์เซราะกราว” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้เอาชนะ บริสเบน โรอาห์ เข้ารอบแบ่งกลุ่มในศึก เอเอฟซี แชมป์เปี้ยสลีก ให้ได้ งานนี้ผู้เล่นคนที่ 12 อาจจะไม่ใช้แค่คนบุรีรัมย์ แต่เป็นคนไทยทั่วประเทศที่เอาใจช่วยลุ้นเพื่อศักดิ์ศรีของประเทศไทย

หวังว่าผลงานของสโมสรบุรีรัมย์ จะไม่ซ้ำรอยกับ ผลงานของทีมชาติไทยนะครับ อิอิ

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2556 23:47:48 น.		1 comments
Counter : 1321 Pageviews.
Share Tweet