ธันวาคม 2552

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ไหว้พระพุทธบาทสี่รอยที่อ.แม่ริมรอบสองกินข้าวที่ข้าวเม่าข้าวฟ่าง
วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2552 วันนี้บ้านเราพร้อมหน้าพร้อมตากันตื่นแต่เช้าเพราะว่าจะไปเที่ยวเชียงใหม่ กันวันนี้เครื่องบินออกเที่ยงกว่าๆ หลังจากทานข้าวต้มกันก่อนตอนแปดโมงเช้าก็อาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวไปสนามบิน ถึงประมาณสิบโมงกว่าหลังจากโหลดกระเป๋าเรียบร้อยเริ่มหิวกันอีกแล้วเลยไป นั่งกินข้าวกันก่อนที่ร้านS&P ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุดผู้คนจึงเยอะมากมายเป็นพิเศษใครมาที่หลังต้องมายืนรอ คิวอยู่ด้านหน้าของร้าน ทุกอย่างไปเที่ยวช่วงเทศกาลก็คงต้องทำใจหน่อยเพราะคนจะเยอะมากๆ ทุกอย่างต้องรอ ต้องใช้เวลามากกว่าปรกติ

ไปเชียงใหม่เที่ยวนี้ใช้บริการของ Air Asia ยังคงรักษามาตรฐานในเรื่องการรักษาเวลาขึ้นลงตรงเวลาเป๊ะถึงแม้ว่าตอนเวลา นั่งจะอึดอัดบ้าง แต่ถ้าระยะทางไม่นานก็โอเคอยู่ไปถึงสนามบินเชียงใหม่เวลาบ่ายสองโมง รอรับกระเป๋าไม่ช้านักเราเลยเปลี่ยนแผนกันใหม่หมดหลังจากที่ติดต่อรับรถเช่า ที่ติดต่อจองไว้ล่วงหนัาตั้งแต่เดือนที่แล้วขอชมเชยอีกครั้งหนึ่งของการ บริการของพนักงานของmaster car rental ที่เชียงใหม่นี้พนักงานสุภาพและบริการพูดจาดีมาก ขอชมเชยจริงๆ เราเริ่มต้นกันที่ปั๊มปตท.ที่ใกล้ๆกับสนามบินเชียงใหม่ที่นี่



เราออกจากจุดนี้ประมาณบ่ายสองโมงครึ่งมุ่งหน้าจะไปทางอ.แม่ริม คุณแฟนก็จะพาไปออกตรงทางลัดที่ผ่านกองบินเขตทหารที่ข้างๆสนามบินที่สามารถลัดไปออกตรงตลาดต้นพยอมได้แต่ปรากฏว่าครั้งนี้ทหารบอกว่าไม่มีป้ายห้ามผ่าน ก็งง งง อยู่นะก็มาครั้งที่แล้วยังวิ่งผ่านเข้าผ่านออกได้ต้องหลายครั้ง ไม่เป็นไีรเราย้อนกลับมาทางเก่า ซึ่งวันนี้รถก็ติดพอสมควรเลยล่ะ วิ่งทางถนนเลียบคลองชลประทานแล้วเลี้ยวขวาตรงที่มีป้ายบอกว่าไปแม่ริม หลังจากนั้นก็เลี้ยวซ้ายวิ่งตรงมาทางแม่ริมเลยสามแยกแม่ริม ซึ่งถ้าเลี้ยวซ้ายไปอ.สะเมิงแต่เราไม่เลี้ยวขับตรงเลยขึ้นไปเลยมาจากแยกแม่ริมมาประมาณสองร้อยเมตรก็ให้เริ่มจับสังเกตุป้ายบอกทางเข้าได้แล้ว เพราะป้ายวัดจะเป็นสีเหลืองไม่ใหญ่เป็นรูปรอยพระพุทธบาท และจะมีหลายป้ายบอก ใช้ทางเข้าอันนี้แหละ ขับมาเรื่อยๆ คุณแฟนทำเวลาน่าดูเพราะกลัวว่าจะไม่ทันเดี๋ยวจะมืดก่อนตอนขาลงจะลำบาก เพราะทางน่ะดีเป็นปูนหมดแต่แคบและค่อนข้างสูงชันในบางช่วง แต่ถนนที่จะขึ้นนึ้ข้างทางมีความสวยงามและเป็นธรรมชาติมากๆ บางช่วงจะเห็นธารน้ำวิ่งขนานกับแนวถนนบางช่วงก็จะเห็นป่าสักต้นใหญ่ บางช่วงก็จะเป็นหมู่บ้านชาวบ้านที่ความเจริญเข้าถึงหมดแล้วสังเกตุได้ว่าแต่ละหมู่บ้านจะมีไฟฟ้ามีจานรับสัญญานดาวเทียมกันเกือบทุกหมู่บ้านที่รถวิ่งผ่าน ทางที่เป็นทางลาดสูงชันนั้นประมาณสิบหกกิโล
กว่าจะผ่านแต่ละโลได้ก็ลุ้นกันพอสมควร แต่ด้วยฝีมือการขับรถของคุณแฟนพอสี่โมงกว่านิดๆเราก็ขึ้นมาถึงจุดมุ่งหมายที่เป็นหัวใจหลักของการเดินทางในครั้งนี้ค่ะ สาธุ"วัดพระพุทธบาทสี่รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่" แม้ว่าจะสีโมงแล้วแต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆพอสมควร ถ้าช่วงกลางวันคงเยอะกว่านี้ผิดกับครั้งที่แล้วที่เรามาไม่มีคนอื่นๆเลย เจอชาวม้งอยู่สามคนเท่านั้นในครั้งนั้น เรากับแม่เลยพากันขึ้นไปก่อนแล้วให้คุณแฟนเอารองเท้าไปเก็บที่รถดีกว่าจะได้ไม่ต้องคอยกังวลใจว่ารองเท้าดิฉันจะหายไม๊และก็ไม่รู้คุณแฟนอารมณ์ไหนค่ะอากาศก็เย๊น เย็น ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเค้าซื้อไอติมกิน วันนั้นหนาวๆแต่อยากกินไอติม เรากับแม่อยากอยู่ข้างบนนานๆก็เลยขอขึ้นไปก่อน ให้แม่จุดธูปไหว้ก่อน หลังจากนั้นให้เวลาครึ่งชั่วโมงตามอัธยาศัย เราก็เลยเอาพระเครื่องสองสามองค์ที่เราเอาไปด้วยวางบนถาดของที่วัดวางไว้บนรอยพระพุทธบาทแล้วก็เราเอาหนังสือสวดมนต์ไปเองด้วยเลยขอนั่งสวดมนต์อยู่สักพักหนึ่ง ส่วนแม่ก็หามุมนั่งสมาธิพักหนึ่ง



ส่วนมากนักท่องเที่ยวที่เจอก็จะรุ่นๆแม่เราเยอะ ทุกคนมาด้วยความเคารพ ความศรัทธา ความหวัง กันทั้งนั้น



เราก็เช่นกันมาด้วยความศรัทธา ความเชื่อในสิ่งต่างๆ ความรักที่พาแม่มาแม่เราชอบที่นี่มากๆเช่นกัน คนหลายคนน้อยนักที่จะดั้นด้นขึ้นมาถึงที่นี่ได้



จริงๆก็อยากจะนั่งอยู่ตรงนี้ให้นานกว่านี้ให้สมกับระยะทางที่ขึ้นมาแต่เวลามีจำกัดพาแม่ข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งเป็นวัดสร้างใหม่ที่สวยงามมากปานกับวิมาน



นับว่าเป็นวัดที่สวยงามมากจริงๆอลังการอยู่ท่ามกลางภูเขาและยิ่งรู้ว่าหนทางในการเดินทางมันยากลำบากแล้วยิ่งเพิ่มคุณค่าความศรัทธาให้กับวัดแห่งนี้มากยิ่งขึ้น เรามาครั้งที่แล้วได้ปิดทองลูกนิมิตไปกับคุณแฟนแล้วครั้งนี้เลยให้แม่ปิดคนเดียวแม่ยังติดใจทองแผ่นที่นี่ยังซื้อกลับมาใช้ต่อที่บ้านอีกต่างหาก



ภายในวัดสวยงามอลังการจนแทบไม่ยากเชื่อเลยว่าจะตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาล้อมลอบไปด้วยป่าดงพงไพร อยู่บนยอดเขาที่นี่



มองฝั่งไปตรงข้ามนั่นคือวิหารที่สร้างครอบรอยพระพุทธบาทสี่รอยไว้ ใครได้อ่านประวัติและตำนานของรอยพระพุทธบาทสี่รอยแล้วจะยิ่งเพิ่มความศรัทธาให้มากยิ่งขึ้นไปอีกดวย สำหรับคนที่มีความเชื่อและศรัทธานะ



เรื่องต่างๆแต่ละคนย่อมมีความเชื่อความศรัทธาไม่เหมือนกัน ความคิดเห็นย่อมแตกต่างกันเหมือนเราเคยคุยกับคนรู้จักคนหนึ่งแกเรียนจบด็อกเตอร์จากอเมริกาปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนอยู่มหาลัยเแห่งหนึ่งเค้าถามเราว่าจะมีพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ได้อย่างไร เราก็อึ้งๆไปนี่ขนาดเค้าเรียนสูงกว่าเรานะเค้ายังไม่เข้าใจกับเรื่องต่างๆเหล่านี้ คำว่าความเชื่อไง เค้าถึงว่าศาสนาและการเมืองอย่าไปคุยกับคนแปลกหน้า



รู้แต่ว่าแม่เราได้แต่พูดว่า" ดีจังที่ได้มาครั้งนี้เป็นวันเสาร์ที่5 เป็นวันมงคลมาก ตั้งใจจะทำสิ่งไหนก็มาทำสิ่งนั้นให้สำเร็จตั้งแต่วันแรกที่มา และก็ประทับใจกับสถานที่แห่งนี้และขอขอบคุณคุณแฟนเราที่พามาเพราะเราคนเดียวคงพามาไม่ได้ ต้องอาศัยบารมีคุณแฟนถึงมาได้ เพราะถ้าเป็นเราพามาแม่ก็คงไม่กล้ามาด้วยเพราะกลัวว่าจะขับรถพาแม่ตกเขาไปเสียก่อน



ยังพอมีเวลาได้นั่งชื่นชมกับความสวยงามของวัด เห็นมีคนนุ่งขาวห่มขาวเริ่มทยอยกันเข้ามาเรื่อยๆ ไม่ได้ถามแต่คิดเอาเองว่าคงจะมีการสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันที่5 ธันวาคมวันมหามงคลเร็วๆนี้



ช่างเป็นวัดที่สวยงามเสียนี่กระไร อยากนั่งอยู่บนนี้นานๆ



ห้าโมงเย็นแล้วได้เวลาที่ต้องกลับแล้วเดี๋ยวจะมืดเสียก่อนแวะซื้อของตรงลานจอดรถอุดหนุนชาวบ้านเสียหน่อย ของที่นี่ถูกมากก็จะมีจำพวกชาสมุนไพรต่างๆ ท้อดองใส่ในขวดลองซื้อมาดูขวดละสิบบาทถูกดีเผื่อทำปลานึ่งบ๊วยหอบหิ้วกลับมาด้วยซื้อเป็นของฝากได้ที่นี่จะถูกกว่าข้างล่างนะเราว่า

ขับรถลงมาจากดอยถึงพื้นราบประมาณหกโมงครึ่งเริ่มมืดพอดี แหมกะเวลาได้เป๊ะๆ ทุกๆคนต่างหิวโซกันมากตั้งใจเลยพาแม่ไปกินร้านโปรดของเราสองคน "บ้านไร่ยามเย็น" อุแม่เจ้าพอไปถึงที่ลานจอดรถประมาณทุ่มกว่าๆแทบไม่มีที่จอดคนมากันล้านเจ็ดได้แน่นขนัดเห็นเด็กรับรถบอกว่าเฉพาะโต๊ะจองก็ร้อยกว่าๆ ดีใจกับเจ้าของร้านด้วยจังวันนี้ขายดีเป็นพิเศษเพราะเราสองคนรักร้านนี้คุณแฟนเคยมาตั้งนานมาแล้วพอรู้จักเราก็พาเราไป ไปเชียงใหม่ทุกครั้งจะต้องแบ่งเวลาหนึ่งมื้อให้ที่นี่ทุกครั้ง เข้าไปยังข้างในพอมีที่นั่งสั่งทันทีแบบไม่ต้องดูเมนูเพราะว่าเมนูอยู่ในหัวแล้วคิดตั้งแต่ตอนนั่งรถลงมาจากเขาแล้วว่าจะกินอะไร ไปถึงพอเค้ามาจดออเดิอร์ก็สั่งเลย " ออเดิรพ์เมือง คั่วแคผัก เนื้อเค็มทอด(อันนี้ชอบมาก) แกงฮังเล ต้มยำเห็ดออเรนจิ ข้าวเหนียว น้ำมะเกี๋ยง น้ำส้ม " อาหารได้ไม่ช้าเท่าไรนั่งกินไปเห็นคนก็หลั่งไหลมาเรื่อยๆ เริ่มมีคนต้องมายืนเข้าคิวรอส่วนมากจะมากันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เรากลุ่มเล็กสามคนเลยสบายหน่อย มีกลุ่มขับรถมอเตอร์ไซต์Harley Davidson คงจะเป็นก๊วนกันก็มากินกันที่นี่ เห็นรถจอดเรียงรายกันอยู่หลายคันแต่ที่ขำคือมี มอไซด์ฟีโน่ไปจอดต่อท้ายกับเค้า ด้วยเป็นภาพที่น่ารักดี

พอทานข้าวอิ่มท้องกันก็มุ่งหน้าสู่ที่พักคืนแรกเป็นการจองของเราอีกนั่นแหละเห็นว่าอยู่ในเมืองทำเลไม่ไกล ราคาไม่แพงเลยตัดสินใจจองผ่านเว๊บไปในราคาสองพันกว่าบาท มีเตียงเสริม แต่ตอนที่เช็คอินเข้าสู่ที่พักในใบเสร็จที่ให้เราเซ็นมันพันห้าร้อยเองนี่หว่า โอ้เว็บเอเจนซี่มันชารช์เพิ่มทีเป็นพันเลยเหรอเนี่ยะ อันนี้ยังสงสัยและงงๆ ยังหาคำตอบไม่ได้ ไม่เป็นไรน่าแล้วก็แล้วกันไปแต่สองคนแม่กับแฟนช่วยกันรุมประณามว่าเราเสียโง่อีกแล้ว เอากระเป๋าเก็บเสร็จสองทุ่มกว่าเลยพากันไปเดินถนนคนเดินที่อยู่ไม่ไกลจากที่พัก



วันที่ไปตอนกลางคืนอากาศค่อนข้างเย็นเลยเดินสบายไม่ร้อน แต่ผู้คนล้นหลามบางจุดก็ค่อนข้างเบียดเสียด พ่อค้าแม่ค้ามากมาย สินค้ามีให้เลือกซื้อเยอะแยะเดินไปได้บรรยากาศถนนคนเดินจริงๆ เพราะมีแต่คนเดิน มีเสียงดนตรีพื้นเมืองแบบล้านนาสลับเป็นช่วงๆ คนพวกนี้สร้างบรรยากาศให้ที่นี่ได้ไม่เบาเลย เดินกันจนห้าทุ่มเลยกลับเข้าสู่ที่พักแป๊บเดียวต่างคนต่างหลับกันเงียบเลย

เช้ามาดีจังอากาศเย็นๆ ได้รู้สึกถึงความหนาวบ้างเก็บกระเป๋าเรียบร้อยเช็คออกเลย กินอาหารเช้าก่อนที่พักที่นี่เป็นแบบเล็กๆน่ารักดี อยากมีที่สวยๆแล้วทำรีสอร์ตเก๋ๆไว้ให้คนมาพักบ้างก็ดีเนอะ อยู่ตอนแ่แก่ก็คงจะดีทีเดียว มีกิจการรีสอร์ต กับเล่นหุ้นไปโอ้ความคิดเข้าท่าจริงๆ



มีมุมไว้นั่งจิบน้ำชายามบ่ายด้วยน้า



ออกจากที่พักเก้าโมงกว่า ตั้งใจมุ่งหนัาไปดอยสุเทพก่อน วันนี้รถติดมากใช้เวลาชั่วโมงกว่าจากในเมืองไปดอยสุเทพเพราะว่าบังเอิญมีซ้อมรับปริญญาตรงเส้นทางที่เราต้องผ่านไปพอดีเลยใช้เวลาในการเดินทางนานกว่าปรกติ



ชอบเมืองเชียงใหม่ในเมืองเจริญแแบบกรุงเทพแต่รอบๆมีทั้งภูเขาน้ำตกล้อมรอบชอบจนคิดอยากจะมาหาซื้อที่อยู่เชียงใหม่บ้างแล้วล่ะ



เราเลยขึ้นไปพระตำหนักภูพิงค์ก่อนเพราะมีรอบเวลาของการซื้อตั๋วเข้าชมข้างในและอากาศก็ยังไม่ร้อนมากผู้คนยังคงเยอะมากมาย หาที่จอดรถยากหน่อยเข้าไปเลยแวะซื้อน้ำส้มที่นี่ก่อน น้ำส้มสดๆจ้า น้ำส้มที่นี่คุณแฟนชอบมากๆ



ขอถ่ายภาพมุมเดิมที่เคยถ่ายเมื่อครั้งก่อนมาแต่ครั้งนี้อากาศหนาวกว่าครั้งที่แล้วดอกไม้รอบๆตัวยังคงแข่งกันบานอย่างสวยงาม มีแต่เราที่เวลาผ่านไปอายุก็มากขึ้น



คุณแฟนให้แหวนเพชรวงใหม่มาเลยจะแกล้งถ่ายขำๆกะให้รูปโชว์แหวนซะหน่อยเลยโพสออกมาเป็นท่านี้ แหวนเพชรเม็ดไม่ใหญ่ไม่ถึงกะรัตแต่แกบอกว่าเอาไปใส่เล่น แล้วจะไม่รักคุณแฟนได้ไง



อากาศเย็นมีแดดแต่ก็ไม่ร้อน เดินกันสบายๆจะลำบากก็แต่เวลาถ่ายรูปบางมุมจะถ่ายไม่ได้เพราะแสงไม่อำนวย ย้อนแสงอะไรทำนองนี้



ชอบรูปนี้ที่สุด สองแม่ลูก ซาราง เฮ โย คนถ่ายบอกว่าติงต๊องทั้งคู่



เบิกบานใจกับการเดินชมดอกไม้นานพันธุ์



เดินขึ้นสู่ด้านบนมีอ่างเก็บน้ำและมีตำหนักขององค์สมเด็จ ทัศนียภาพสวยงามากๆ มีคนเปิดเพลงประกอบอยู่บนนี้เพื่อสร้างบรรยากาศด้วยนะ



ทุกคนที่ไปต่างถ่ายรูปกันเป็นจุดๆ มุมนั้นก็ดี มุมนี้ก็สวย เบิกบานใจกันทุกคน



เดินกันจนเหนื่อยเหมือนกันก็จะมีจุดแวะพักผ่อนให้ทานอาหาร ดื่มน้ำ ดื่มกาแฟ เห็นป้่ายบอกว่าเป็นร้านของข้าราชบริพารที่นี่



ขอถ่ายมุมเดิมอีกครั้งที่เคยมา ก่อนลาจากสถานที่แห่งนี้มาสองครั้งก็ยังคงความประทับใจเช่นเดิม



ขับรถลงมาตอนเวลาเที่ยงกว่าๆพาแม่ขึ้นไปไหว้พระ ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพผู้คนล้นหลามครั้งนี้พาแม่ใช้บริการรถราง เพื่อที่แม่จะได้ไม่เหนื่อยและเวลาก็มีไม่มากคิดค่าบริการคนละยี่สิบบาท ส่วนคุณแฟนไม่ขึ้นมาด้วยไปวนหาที่จอดรถและรออยู่ข้างล่าง ใช้บริการรถรางคนต่อแถวกันเยอะพอสมควร ผู้พิการที่นั่ง รถวีลแชร์ก็สามารถใช้ลิฟท์นี้ได้เช่นกัน

องค์พระธาตุดอยสุเทพัยงคงบูรณะซ่อมแซมอยู่เหมือนเช่นครั้งที่แล้วที่เรามา มีประชาชนผู้ศรัทธาต่างๆมากมายมากราบสักการะบูชาเพื่อความเป็นศิริมงคลเยอะมากๆ



ลงมาจากพระธาตุดอยสุเทพเราขอวิ่งไปซื้อไส้กรอกวุ้นเส้นที่ตีนบันไดทางขึ้นก่อนคุณแฟนไม่ชอบ แต่เราชอบหิวๆกินอร่อยดีออก หลังจากนั้นมุ่งหน้าลงจากดอยสุเทพไปงานราชพฤกษ์ ทะเลาะกันนิดหน่อยในรถข้อหากินไส้กรอกอยู่คนเดียวแล้วไม่เรียกให้คนอื่นกินขนมปังที่เตรียมมา (เพราะว่าคนอื่นไม่กินไส้กรอกที่เราซื้อมาเพราะบอกว่าไม่อร่อย แต่โมโหที่เราไม่เรียกกินขนมปังที่เตรียมมาเมื่อเช้า ไอ้เราก็นึกว่าไม่หิวนิ เลยโดนรุมประณามว่าเห็นแก่ตัวกินอยู่คนเดียว)

เหมือนรถทุกคันก็จะใจตรงกัน มาเที่ยวงานราชพฤกษ์เหมือนๆกัน รถราติดขนัดหาที่จอดรถยาก คุณแฟนก็เลยใช้บารมีที่พอมีนิดหน่อยขอเข้าไปตรงทางที่เค้าปิดไม่ให้คนทั่วไปเข้าไปได้ เราต่อว่าและขอบคุณเล็กน้อย (ต่อว่าที่เอาเปรียบคนอื่นแต่ก็ดีใจที่ไม่ต้องเดินไกล) ทุกคนมีความเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้นแหละ



ที่นี่เค้าก็แสดงการจัดสวนในแบบต่างๆ มีทั้งของบริษัทเอกชน และหน่วยงานราชการต่างๆ



ภาพนี้เป็นการจัดสวนแบบตุรกี ข้างหลังนั้นเป็นต้นมะกอก เพิ่งเคยเห็นต้นมะกอกของจริงที่นี่เป็นที่แรก



คอนเซ็ปต์เดียวกันกับสวนนงนุช แต่ที่นี่สวนสวยกว่าเพราะว่ามีดอกไม้หลายหลายสีสันกว่าและเดินสบายเพราะอากาศไม่ร้อน



เดินชมสวนนั้น สวนนี้ไปเรื่อยๆมุมไหน สวยดิฉันก็ ถ่ายไปเรื่อยๆ



สถานที่ในนี้จุดที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่น่าจะเป็น หอคำ ที่นี่ซึ่งใครไปใครมาก็คงต้องมีภาพที่นี่กันทุกคน



ภายในที่สวยงาม โดยห้ามจับต้องสิ่งใดๆเด็ดขาด เพราะอาจทำให้สีหลุดติดมือต้องบูรณะซ่อมแซมกันบ่อยๆ



ล้อมรอบด้วยดอกไม้หลากสีสัน



เดินถ่ายรูปกันตามมุมนั้น มุมนี้ ผู้คนหลากหลายมากมาย เบิกบานตาและก็เบิกบานใจ



ดอกไม้เมืองหนาวสีสวยสด เบ่งบานต้อนรับนักท่องเที่ยว



เดินกันตั้งแต่บ่ายโมงจนถึงเกือบห้าโมงเย็นทุกคนเริ่มหิวข้าวกันแล้วออกจากงานขับตรงไปผ่านสี่แยกไปถึงร้าน "ข้าวเม่าข้าวฟ่าง"ตอนสี่โมงสี่สิบห้า



เลือกมาร้านนี้เพราะครั้งที่แล้วคุณแฟนมางานเลี้ยงรุ่นกับเพื่อนๆที่นี่ติดใจบอกว่าบรรยากาศร้านนี้มาก ก่อนมาหาข้อมูลในเน็ตบอกว่าตอนนี้ร้านนี้เป็นร้านที่บรรยากาศดีที่สุดและที่สวยที่สุดในเมืองเชียงใหม่ ต้องไม่พลาดไปลองดู ไปถึงที่ร้านสี่โมงสี่สิบห้าที่กั้นประตูทางเข้าลานจอดรถมีเด็กหนุ่มหนึ่งคนยืนเฝ้าอยู่ บอกว่ายังเข้าไม่ได้ร้านเปิดห้าโมงเย็น เราบอกว่าตอนนี้สี่โมงสี่สิบห้าขอเข้าไปรอก่อนได้ไม๊อีกแค่สิบห้านาที เค้าบอกว่าแต่ร้านยังไม่เปิดเปิดห้าโมง เราบอกแค่สิบห้านาทีเองขอเข้าไปรอได้ไม๊ รอในรถที่ลานจอดรถก็ได้ไม่งั้นจะให้ขับไปรอที่ไหนไม่ใช่คนแถวนี้นะ ด้วยอำนาจในมือเค้าจึงยอมให้พวกเราไปรอที่ลานจอดรถได้ (ไม่ค่อยง้อลูกค้านะ น่าจะอบรมพนักงานใหม่นะคะเปลี่ยนเป็นถ้ามีลูกค้ามาก่อนเวลาก็แจ้งให้ลูกค้าทราบดีๆว่าร้านยังไม่พร้อมแต่พี่ๆเดินเล่นหรือรอที่ลานจอดรถได้นะครับ ไม่ต้องให้ลูกค้ามีความรู้สึกว่าต้องง้อ มึงนะ"



ร้านนี้ตกแต่งเป็นสไตล์ธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยต้นไม้เยอะๆ ปากทางเข้าร้านน่ารักทีเดียว



มีลูกค้ากลุ่มอื่นอีกสองกลุ่มมาถึงพร้อมกัน ได้นั่งโต๊ะที่วิวสวยเชียว เราอยากนั่งโต๊ะนี้ พนักงานถามว่ามากี่คนเราบอกว่าสาม พนักงานบอกว่ามีจอง ก็เลยไม่ได้นั่ง



หลังจากนั้นมีลูกค้ามาหกคนถึงได้นั่ง ขอบอกว่าใครจะไปทานร้านนี้ให้จองก่อนนะคะ เดินดูสำรวจรอบๆ ตอนยังไม่มีลูกค้าโต๊ะจองเต็มไปหมด สงสัยจะฮิตจริงๆ
โต๊ะแต่ละส่วนแต่ละมุม หลากหลายบรรยากาศ



แต่ก็ต้องยอมรับว่าร้านเค้าก็บรรยากาศดีจริงๆ นั่งสบายๆท่ามกลางธรรมชาติ บางมุมก็เหมือนนั่งอยู่ในสวน



เนื้อที่บริเวณกว้างขวาง มีนอกอาคารกับในอาคาร ห้องแอร์ก็มี



อาหารพื้นเมืองมีแต่ก็ไม่เน้นทีเดียว เราลยสั่ง "ออเดิรพ์เมือง ปลาเขื่อนทอดสมุนไพร แกงฮังเล ขาหมูทอด เมี่ยงไก่กรอบ"

เมี่ยงไก่กรอบ ก็คล้ายๆเมี่ยง กินเล่นรองท้อง



ออเดิรพ์เมืองที่นี่จะให้เลือกน้ำพริกสองอย่าง เราเลือกน้ำพริหนุ่ม กับน้ำพริกอ่อง



เราชอบจานนี้ที่สุด ปลาเขื่อนทอดสมุนไพร ปลาเขื่อนถ้าจำไม่ผิดพนักงานบอกว่าเป็นปลาคัง ทอดกรอบนอกนุ่มในพร้อมเครื่องสมุนไพร อร่อยกับน้ำซอสที่เป็นสูตรของทางร้าน



แกงฮังเลก็รสชาติดีอร่อยทีเดียว



สั่งขาหมูเยอรมันทอด มาชิมดูเทียบเคียงกับร้านผาลาดตะวันรอน เพราะเป็นร้านแนวๆเดียวกัน ให้คะแนนสูสีค่ะ



หิ้วไวน์มาด้วยเสียค่าเปิดหนึ่งร้อยบาท ระหว่างเปิดไวน์รอให้ได้ที่ ก็ทานข้าวทานอาหารกันไป เม้าท์กันไปด้านหลังโต๊ะที่นั่งเป็นน้ำตกเล็กๆ ดูผู้คนที่ทยอยมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ



กินไวน์แกล้มขาหมูที่นี่ก็ไม่เลวทีเดียว



สามคนไวน์หมดขวดพอดี แต่ขาหมูทอดกินไม่หมด ห่อกลับเผื่อหิวตอนกลางคืน



ออกจากร้านเกือบสองทุ่มผู้คนเริ่มมากมาย เห็นบางกลุ่มต้องยืนรอคิว ป้ายหน้าร้านปากทางที่เราเข้ามาเมื่อเย็น ขึ้นป้ายเรียบร้อย "ขออภัยร้านเต็ม" โอ้ แม่เจ้าเพิ่งสองทุ่มเองนะเนี่ะ ขายดีจัง พวกเราคุยกันเองนะว่าโชคดีจังที่มากันไว อิ่มกันเสร็จสรรพเรียบร้อย เดินทางเข้าเช็คอินที่พักดีกว่าคืนนี้จอง "เลอ เมอริเดียน"ไว้
ถึงที่โรงแรมเอาไวน์ที่เหลืออีกขวดมาเปิดกินต่อกัน(แบบว่าติดลมอ่ะ) โรงแรมห้าดาวมันก็ดีอย่างนี้แหละแก้วไวน์มีพร้อม ตั้งกฏว่าคืนนี้ไวน์ไม่หมดขวดห้ามใครนอนก่อน ดูถ่ายทอดสดพิธีที่ท้องสนามหลวงไปพลาง เม้าท์กันไปพลาง ไวน์หมด ขาหมูหมด แม่หลับไปก่อน ตามด้วยคุณแฟนที่โซฟา เราหลังเพื่อนทุกงาน



ตื่นเช้ามาลงไปกินอาหารเช้าคนเยอะแยะพอดีว่าที่นี่มีกลุ่มคุณหมอมาสัมมนากันโรงแรมก็เลยดูคนเยอะเป็นพิเศษ หลังจากเช็คเอาท์ออกเราสามคนก็มุ่งหน้าไปกันต่อที่กาดวโรรสเพื่อซื้อของฝากก่อน จะมีบริการที่รับฝากจอดรถอยู่แถวๆนั้นไปตลาดต้นลำไยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเตลาดวโรรสก่อนเพื่อซื้อแค๊บหมูเจ้าประจำก่อน ทอดใหม่ๆ อร่อยอุดหนุนทุกครั้งที่มาเชียงใหม่ แค๊บหมูป้าแขก เป็นแขกที่ขายแค๊บหมู



ซื้อแค๊บหมูแล้วก็ข้ามฝั่งมาตลาดวโรส คุณแฟนต้องเข้าไปเพื่อตบตีแย่งชิงซื้อไส้อั่วจากร้านดำรงค์คนมุงกันแน่นขนัด ซื้อไส้อั่วร้านดำรงค์เค้าจะมีบริการแพ็คลงลังให้ฟรีถ้าซื้อเกินห้าร้อยขึ้นไป ส่วนเราก็แยกตัวไปซื้อสารพัดเห็ดและผักจากร้านพี่ที่อยู่ตรงข้าม

หลังจากนั้นทำภารกิจสุดท้ายคือการพาคนเิกิดปีมะโรงไปไหว้วัดพระสิงห์ก็คือแม่เรานั่นเองที่เกิดปีมะโรง



ที่นี่มาครั้งที่สองเจอกลุ่มนักเรียนนักศึกษามาทัศนศึกษาที่วัดนี้ทั้งสองครั้ง เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจทีเดียว



พาแม่ไปสรงน้ำพระธาตุ ด้านหลังของวัด เครื่องมือล้ำสมัยไม่เบา





ออกมาอย่าลืมแวะซื้อลูกชิ้นลูกโตหน่าวัดพระสิงห์อร่อยทีเดียว กินลูกชิ้นปิ้งรองท้องไม่มีเวลาสำหรับแวะกินมื้อเที่ยงที่ไหน มุ่งตรงสู่สนามบินกลับสู่กรุงเทพให้คุณแฟนกับแม่รอรับกระเป๋าส่วนเราขอตัวไปพบลูกค้าก่อนตอนสามโมงเย็นกลับสู่ชีวิตปรกติ ทำงานและก็ทำงาน สู้ สู้







Create Date : 25 ธันวาคม 2552
Last Update : 25 ธันวาคม 2552 2:00:20 น.
Counter : 3674 Pageviews.

9 comments
  
สวัสดี ในวันคริสมาสต์ และ ขอให้มีความสุขตลอดปีเสือทอง และ ให้เป็นปีแห่งความร่งโรจน์ตลอดปีและตลอดไป

ประทับใจที่ hellojaae ได้พาคุณแม่ไปเที่ยว วัดพระพุทธบาทสี่รอย

สวนราชพฤกษ์ก็สวย ดอยสุเทพก็งาม

ชีวิตเป็นทั้งเป้าหมาย และ วิถี
สวัสดีปีใหม่ 2553 อีกครั้งครับ
โดย: moonfleet วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:11:31:26 น.
  
ยังไม่เึคยไปที่วัดพระพุทธบาทสี่รอยนี่สักทีค่ะ เอาไว้คงได้ไปสักวันหนึ่ง

ไปเดินถนนคนเดินวันไหนหละคะ? เราไปเดินคืน 31 ต.ค.อะค่ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:13:50:25 น.
  
โปรแกรมเที่ยวสนุกสนานดีนะครับ และยังได้ไปวัดไหว้พระ อิ่มบุญอิ่มใจกันด้วย

ขอบคุณที่แวะไปชมภาพถ่ายที่ิ blog ด้วยครับ และกับไอเดียกิ๊บเก๋ที่เล่าให้ฟังก็น่าจะใช้ได้เลย เดี๋ยวเอารูปไปส่งอจ.เจ้าของผลงานแล้วจะเล่าให้ฟังด้วย เพื่อมีแฟชั่นโชว์ครั้งหน้าจะได้เห็นน้องหมาน่ารักๆ ไปเดินแบบกับชุดเสื้อผ้าชุดนั้นบ้าง
โดย: ถปรร วันที่: 10 มกราคม 2553 เวลา:7:00:37 น.
  
โอ้ โหยยย วัดสี่ร้อย สวยงามมาก
เห็นด้วยเลย ที่ไม่น่าเชื่อว่ากลางหุบเขาจะมีวัดสวยยิ่งใหญ่ขนาดนี้ตั้งอยู่
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบ้านนะครับ เป็นบ้านที่ตั้งใจทำมากครับ อยากให้ออกมาสวย ดูดี เพื่อน ๆ แต่ละคนที่ผ่านเข้าไปคงเห็นความตั้งใจจึงทิ้งคอมเม้นท์ไว้เป็นกำลังใจคนทำครับ ไปเยี่ยมกันบ่อย ๆ นะครับ ตอน 3 ก็ใกล้ออกอากาศแล้ว ^ ^
โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:11:20:47 น.
  
เที่ยวเชียงใหม่มากกว่าเราอีกค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:14:43:32 น.
  
เห็นเย็นตาโฟบล็อกก่ิอนหน้านี้แล้วหิวเลยจ้า ของชอบเลย เค้กนิ่มขายออกเพราะน้องสะใภ้ค่ะ คนกำลังท้องอยากกินเค้กเมื่อวานทำรอบสองไปให้เขาทาน ทานเองก็ไม่ไหวจ้า กล่องนึงทำได้สองก้อนเลยนะ เยอะมากๆ
โดย: นิ่ม (Benim ) วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:9:37:09 น.
  
วัดสวยมากๆ
โดย: แคปซูลสีฟ้า วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:19:28:27 น.
  
สวัสดียามเที่ยงค่ะ

ทริปขึ้นเหนือครั้งนี้น่าสนุกนะคะ
ไปกันทั้งครอบครัวเลย

ยุ้ยก้อชอบพาคุณแม่ไปไหว้พระเหมือนกัน
ผู้ใหญ่จะชอบไหว้พระ ทำบุญกันอ่ะนะคะ

ชอบวัดท่ามกลางหุบเขานั่นจัง
ทั้งขลัง ทั้งสวยงาม น่าตามรอยบ้าง

ใกล้มื้อกลางวันแล้ว
enjoy lunch na ka
โดย: nLatte วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:11:47:08 น.
  
เคยไปเที่ยวแล้ว ติดใจความสวยงามมากเลยค่ะ ถ้ามีโอกาศจะกลับไปอีก

เจ้าของบล็อกน่ารักจังเลยค่ะ
โดย: Small town girl วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:0:34:19 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hellojaae
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



เขียนบล๊อกเพราะอยากเขียน อยากแบ่งปัน ใช้วิธีจิ้มดีดจึงมีผิดๆถูกๆ (แม้จะพยายามตรวจทวนทุกครั้ง) เป็นบล๊อกอนุรักษ์รูปแบบเดิมๆคือเขียนไล่เรียงลงมา เพราะทำรูปแบบอื่นไม่เป็น 555 ยังเขียนต่อไปเพราะเห็นว่าก็ยังมีคนหลงๆเข้ามาอ่าน 555 สวัสดีและขอขอบคุณทุกคนค่ะ
Website counter