Group Blog All Blog
|
เที่ยวสวิสเองง๊ายง่ายวันที่ 7 เปลี่ยนอารมณ์จากภูขาเป็นเที่ยวปราสาทเก่าชิลยอง สวัสดีค่ะ บล๊อกนี้เป็นวันที่ 7 ของทริปนี้แล้ว..เย้มาครึ่งหนึ่งล่ะ (ก่อนที่ความจำป้าจะเลอะเลือนไปมากกว่านี้ ฮ่า ฮ่า) วันที่ 1 - Zurich - Chur - St.Moritz วันที่ 2 - St.Moritz - Tirano - Lugano วันที่ 3 - Lugano - Verzasca River - Belinzona - Interlaken West วันที่ 4 - Interlaken West - Junfrau - Interlaken West วันที่ 5 - Interlaken West - Gonergrat(Matterhorn) - Zermatt วันที่ 6 - Zermatt วันที่ 7 - Zermatt - Vevey - Montreux(Chillon Castle) - Interlaken West. 29/10/2015 นัดคืนกุญแจกับมาดามเบอร์นาเด็ทแปดโมงเช้า ชีเหมือนนาฬิกาสวิสคือมาตรงเวลามาก ย้ำอีกครั้งการเดินทางในสวิสนั้นง๊าย ง่ายค่ะ อย่างเช้านี้ เราจะไปเมืองเวอเว่ย์ เราใส่จุดหมายปลายทางไปในกูเกิ้ลแมพเลยค่ะ เพราะฉะนั้นเพียงแค่ขอให้มีอินเตอร์เน็ตใช้ มีไอแพดหรือสมาร์ทโฟน บวกเรื่องภาษานิดหน่อยเท่านั้นแหละค่ะ ก็ไม่ต้องง้อทัวร์แล้ว (ซึ่งเราก็ได้ซื้อซิมเน็ตใช้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง) แต่ถ้าทำการบ้านไปดีๆนะคะเราว่าซิมเน็ตหรือไอแพดก็ไม่มีความจำเป็นเลยเพราะรถไฟที่สวิสเข้าใจง่ายมาก
แถบนี้ปลูกองุ่นกันเยอะดีนะคะปลูกกันทั้งเนินเขาเลยแฮะ จากเซอร์แมท(Zermatt)มาลงที่วิซพ์(Visp)แล้วขึ้นขบวนมาลงเวอเว่ย์(Vevey)ใช้เวลาเกือบๆจะสามชั่วโมง จากสถานีรถไฟเราเดินลงมาที่ทะเลสาบเจนีวาบริเวณที่เป็นเหมือนที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจของท่าเรือ เมืองเวอเว่ย์นี้อยู่เลยมองเทรอซ์ขึ้นมาถ้าเลยขึ้นไปอีกก็ไปโลซานได้ เอิ่ม..ถึงแม้ว่ามาสวิสครั้งนี้จะผ่านมาแล้วสักสี่หรือห้าทะเลสาบนี่ล่ะ อารมณ์แต่ละทะเลสาบนี่ไม่เหมือนกันเลย วันที่เราไปม้าหมุนยังไม่เปิด แถวนี้ดูเงียบๆไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก อาจเป็นเพราะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว
เดินเล่นเลาะเลียบทะเลสาบไป อยากจะเอาขนมปังให้เจ้าพวกนี้แต่ก็ไม่กล้า ไม่แน่ใจจะให้ได้หรือเปล่ากลัวเสียค่าปรับฐานให้อาหารสัตว์ (แต่เห็นมีคนให้นะ) ต้นไม้บนทางเดินเลียบทะเลสาบเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแก่จัด อีกไม่นานคงจะร่วงจนหมด หันกลับไปดูด้านหลังมุมนู้นค่ะที่เพิ่งเดินจากมา แล้วจะเดินไปไหนกันล่ะ มาหาคุณลุงชาร์ลี แชปลินค่ะ(Chalie Chaplin) ตั้งใจมาหาลุงเลยนะคะเนี่ยะ หนังของลุงมันคลาสสิกมากๆ ถึงลุงไม่ได้เกิดที่นี่แต่ลุงก็เลือกที่จะตายที่เมืองนี้ เอ้อ...คือทุกคนมาแถวนี้ ต้องพยายามหาท่าทางมาถ่ายรูปคู่กับลุงต่างๆนานา มั่นใจเกินร้อยเชื่อว่ามีมนุษย์โลกรักลุงแกเป็นจำนวนมาก ส่วนส้อมยักษ์ที่ปักในทะเลสาบจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ไปด้วยนั้นปักมาตั้งแต่ปี 1995 เมื่อตอนงานฉลอง 10 ปีพิพิธภัณท์อาหาร
ทะเลสาบเจนีวา มีชื่อในภาษาฝรั่งเศสว่าทะเลสาบเลม็อง (Lac Leman) ฤดูใบไม้ร่วงริมทะเลสาบ ชอบฟอร์มของต้นไม้ต้นนี้ ตอนแรกตั้งใจว่าจะขึ้นเรือจากท่าเรือที่อยู่ใกล้ๆกับม้าหมุนนั่นล่ะค่ะเพื่อไปลงที่ปราสาทชิลยอง แฮ่ แฮ่ อย่างที่เคยบอกไว้ มาเที่ยวครั้งนี้ไม่ได้ทำการบ้านกันมามากค่ะ ทำแค่แผนหลักคร่าวๆ ก็เลยพลาดไปว่าวันนี้ไม่มีเรือวิ่ง เลยต้องเดินย้อนกลับมาที่สถานีรถไฟค่ะ ระหว่างรอรถไฟ ก็มีเสียงตามสายมาพูดอะไรไม่รู้ฟังไม่ออกสักคำ ฮ่า ฮ่า แต่ปฏิกิริยาของคนรอบๆข้างๆที่ก่อนหน้านั้นดูเหมือนจะรอรถไฟขบวนเดียวกับเราเปลี่ยนไป ทุกคนเดินข้ามไปอีกชานชาลาหนึ่ง เราเลยมั่วตามเค้าไป ฮ่า ฮ่า หูตาต้องไวเหมือนกันนะคะเนี่ยะ จาก Vevey มาลงที่ Veytaux-Chillon นั้นใช้เวลาแค่ 12 นาทีค่ะ มาถึงแล้วเดินลอดใต้ทางรถไฟไปอีกฝั่งหนึ่งเลยค่ะ ก็จะเจอทางเดินไปปราสาทซิลยอง เดินเลียบทะเลสาบไป หรือถ้าขี้เกียจเดินจะเดินออกไปหน้าสถานีแล้วต่อรถเมล์ไปป้ายหนึ่งก็ได้ค่ะ แต่เราขอเดินค่ะ ถ้าเลือกขึ้นรถบัสไปไม่ได้ภาพมุมนี้น้า คือเราก็ไปดูมาหลายปราสาทหลายพระราชวังในยุโรป ปราสาทชิลยองนี้เราก็ชอบนะคะเราว่าดูขลังและเรียบง่ายแบบดิบๆดี ก็คงเป็นอย่างนั้นมังคะ ก็บางส่วนของปราสาทสร้างมาตั้งแต่ยุคกลางโน่น ปราสาทชิลยอง (Castle of Chillon) หรือจะเรียกแบบภาษาฝรั่งเศสก็ "ชาโตเดอชิลยอง"(CHateau de Chillon) เดินข้ามสะพานไม้นี้จะมีที่ขายตั๋วอยู่ขวามือ เรามีสวิสพาสก็เอาไปแลกก่อน เขาก็จะให้แผนที่มา
ตรงสะพานนั้นช่างเป็นจุดนิยมของนักท่องเที่ยวค่ะ ตอนเราออกมานั้นต้องถึงกับต่อแถวรอคิวกัน ขอเวลาป้าทำความเข้าใจกับแผนที่ของที่นี่ก่อนนะคะ จะดูทำไมเนี่ยะเพราะป้าไม่เคยดูแผนที่ออกสักที เก่าโบราณสมคำร่ำลือ ที่ปราสาทชิลยองไม่ได้สร้างพร้อมกันทีเดียวทั้งหมด ประมาณว่ามีการสร้างและต่อเติมในยุคหลังก็มี ตรงไหนที่เป็นจุดสำคัญๆก็จะมีการอธิบายเป็นจุดไปตามหมายเลขที่กำกับไว้สำหรับคนที่ยืมหูฟัง นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ยืมหูฟังก็มีตู้อธิบายอัตโนมัติให้ฟังอยู่เหมือนกันนะคะ (ซึ่งนั่นก็เพียงพอสำหรับเราแล้ว) ภาพวาดบนผนัง สี สัน เลอะเลือนจืดจางไปตามกาลเวลาแต่ยังเป็นของเดิมอายุเป็นร้อยปีพันปี ทำให้ทรงคุณค่ามาก
ห้องนี้จัดแสดงหีบโบราณในขนาดและแบบต่างๆกัน อดสงสัยไม่ได้หีบเหล่านี้คงจะเคยเก็บทรัพย์สมบัติล้ำค่ามาหลายยุคหลายสมัยใช่หรือเปล่า
ห้องโถงที่มีหลังคาเหมือนซุ้มโค้งครึ่งวงกลม สถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ ห้องไวน์ใต้ดินพอเดินเข้าไปก็ได้กลิ่นไวน์หอมฟุ้ง จนอดใจไม่ได้ต้องซื้อกลับมาเป็นของที่ระลึกหนึ่งขวด
ป้าขอจัดกับมุมมหาชนกับเขาบ้าง
ปราสาทชิลยองหนึ่งในปราสาทที่สวยที่สุดในสวิส ถึงเวลาต้องเดินทางกลับที่อินเทอลาเคนเวสต์แล้วค่ะ ฝากกระเป๋าใหญ่ไว้ที่โรงแรมเดิมเพื่อความคล่องตัว โชคดีแบบไม่ตั้งใจได้ขึ้นขบวนโกลด้นพาส (Golden Pass) เส้นทางที่หลายคนกล่าวขานว่าวิวสวย นั่งชมวิวกันเพลินไปตลอดทางเลยล่ะค่ะ โชคดีอีกครั้งทางที่พักอัพเกรดจากห้องทวินเตียงคู่ เป็นห้องสี่คน เลยได้พื้นที่ห้องใหญ่กว่าเดิม นอนกรนกันคนละมุมแข่งกันไปเลยค่ะ พบกันใหม่บล๊อกหน้านะคะ ขอบคุณและสวัสดีค่ะ
|
hellojaae
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?] เขียนบล๊อกเพราะอยากเขียน อยากแบ่งปัน ใช้วิธีจิ้มดีดจึงมีผิดๆถูกๆ (แม้จะพยายามตรวจทวนทุกครั้ง) เป็นบล๊อกอนุรักษ์รูปแบบเดิมๆคือเขียนไล่เรียงลงมา เพราะทำรูปแบบอื่นไม่เป็น 555 ยังเขียนต่อไปเพราะเห็นว่าก็ยังมีคนหลงๆเข้ามาอ่าน 555 สวัสดีและขอขอบคุณทุกคนค่ะ Friends Blog
Link |