ธันวาคม 2558

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
เที่ยวสวิสเองง๊ายง่ายวันแรกซุริก-คูร์-เซนต์มอริตส์

สวัสดีค่ะ

มาชวนไปเที่ยวด้วยกันอีกแล้วค่ะ บล๊อกนี้พาไปเที่ยวประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไปแบบสไตล์ลุงกับป้าเดินช้าๆไปชิลล์ๆ 15 วัน ไปเฉพาะที่ๆอยากไป อยากรู้ว่าไปเที่ยวไหนบ้างตามมาได้เลยค่ะ จะลอกไว้เป็นการบ้านก็ยินดีเลยนะคะ

22/10/2558

ไม่ว่าไปสนามบินสุวรรณภูมิครั้งไหนก็เจอนักท่องเที่ยวนักเดินทางมากมายทุกครั้งค่ะ วันนั้นยิ่งมากเป็นพิเศษเพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว เที่ยวบินตรงลงซูริก TG970 เครื่องออก 00.40 ค่ะ

 

23/10/2558

มาถึงสนามบินซูริกตอน 7.25 ตอนผ่านตม.เขาให้เราพิมพ์มือใหม่ (จำไม่ได้ว่านิ้วหัวแม่มือหรือนิ้วชี้)อาจเกี่ยวกับตอนขอวีซ่าที่สวิสเราไม่ได้พิมพ์มือใหม่เพราะเพิ่งพิมพ์ตอนไปสเปนเดือนพ.ค แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

ออกจากสนามบินข้ามฝั่งมาที่สถานีรถไฟ ลงไปชั้นล่างเพื่อส่งกระเป๋าล่วงหน้าไปที่สถานีอินเทอร์ลาเก้น(เวสต์)อีก 2 วันไปรับ ส่งแบบธรรมดาค่ะคิดค่าบริการใบละ 12 CHF กลัวเดินมาที่นี่ไม่ถูกให้มาตามป้าย Gepack

จากกระเป๋าใบใหญ่คนละใบกับเป้ ต่อจากนี้ 2 คืนเหลือเพียงเป้คนละใบกับกระเป๋าอีก 1 ใบค่ะคล่องตัวดีกว่าสามารถเริ่มเที่ยวได้เลย

กลับขึ้นมาด้านบนใหม่อีกรอบค่ะ ไปซื้อซิมก่อนอันนี้คุณแฟนเธอหาข้อมูลมาแล้วว่ามีโปรโมชั่นอะไรบ้าง เป็นซิมเติมเงินใช้เน็ตได้อย่างเดียว โทรออกไม่ได้ (เพราะเราใช้โทรกลับผ่านไลน์อยู่แล้ว) ไม่อั้นใช้ได้ 10 วัน พอครบ10วันเราก็ซื้ออันใหม่มาใส่ราคา 20 CHF

ส่วนค่าใช้จ่ายการเดินทางจ่ายครั้งเดียวทีเดียวค่ะ เราสองคนซื้อสวิสพาสไปจากเมืองไทยเลย เพราะตอนนั้นคำนวณแล้วถูกว่า รวมถึงซื้อโวชเชอร์จากบริษัทนี้ไปขึ้นยอดเขาต่างๆ เท่าที่ถามๆดู เราซื้อได้ถูกกว่าแฮะ อย่างขึ้นจุงเฟราเราซื้อ 100 CHF

สามารถใช้ตั๋วนี้ได้เลยเพียงแค่กรอกเอกสารให้ครบถ้วนเท่านั้น (ง่ายสุดๆ) จริงๆแล้วมันเป็น E-Ticketแล้วแต่เราซื้อกระชั้นชิดเปลี่ยนไม่ทันค่ะ

การเดินทางวันนี้เราจะเริ่มจากซูริกไปแวะเที่ยวที่เมืองคูร์ (Chur) ไปแวะเที่ยวที่ Muottas Muragl และเมืองรีสอร์ทติดทะเลสาบเซนต์มอริตส์ (St.Moritz)

การเดินทางในสวิตเซอร์แลนด์สะดวกสบายและง่ายมากๆค่ะ เราใช้กูเกิ้ลแมพค่ะดูคร่าวๆได้ว่าต้องไปลงสถานีไหนอย่างไร แต่จะดูเวลารถไฟให้เวลาตรงเป๊ะๆ เราใช้อีกแอพพลิเคชั่นหนึ่งค่ะ

 แค่เพียงขึ้นรถไฟเป็น อ่านภาษาอังกฤษพอรู้เรื่องไม่ถึงกับต้องแม่นมาก ก็เดินทางไปไหนๆได้ทั่วล่ะค่ะ แป๊บเดียวเราก็ออกจากสถานีรถไฟที่ซูริกแอร์พอร์ทมาถึงสถานี Zurich HB นั่นไง นั่นไง ยัยนางฟ้าตัวอ้วนที่ใครๆต่างพูดถึงเมื่อมาสถานีนี้ครั้งแรก สถานีนี้เป็นชุมทางรถไฟที่ใหญ่จริงๆเลยค่ะ

มีรถไฟสองชั้นด้วย แต่เราไม่ชอบนั่งชั้นสองค่ะ เราว่ามันมึนๆกว่านั่งชั้นล่างอะค่ะ ไม่รู้คิดไปเองไหม

 

ลุงกับป้าขึ้นรถไฟอีกขบวนแล้วค่ะ แอบเม้ากันใหญ่ หัวเราะกันคิกคัก คิกคัก ง่ายจัง นึกว่าจะหลงบ้างเอ๋อบ้าง เดินทางที่นี่ง่ายกว่าที่คิดมากๆ  

นั่งรถไฟไปชั่วโมงนิดๆ ระหว่างทางก็วางแผนเปิดดูแอพว่าจะเที่ยวที่คูร์ถึงกี่โมงเพื่อจะได้ขึ้นรถไฟเที่ยวกี่โมง พรุ่งนี้จะไปไหนบ้าง เพราะมาเที่ยวแบบวางโปรแกรมไว้คร่าวๆเท่านั้นค่ะ 

ตอนที่เรามาถึงสถานี Chur รถไฟสายท่องเที่ยว

"กลาเซีย เอ็กซเพรส"(Glacier Express)กำลังจอดรอผู้โดยสารบางส่วนอยู่เลยค่ะ รายละเอียดของขบวนนี้ขอไม่พูดนะคะเดี๋ยวยาวเกิ๊น

คุณแฟนถามว่าแล้วเมืองนี้เขามาเที่ยวอะไรกัน เท่าที่ทราบเบื้องต้นก็รู้แต่เพียงว่าต้องไปเดินเที่ยวย่านใจกลางเมืองเก่าอะไรประมาณนั้น (รู้แค่นั้นจริงๆ)

ก็เลยเดินจากสถานีรถไฟมาเที่ยวย่านใจกลางเมืองเก่า ใช้เวลาจากสถานีเดินมาสัก 10 นาทีค่ะมาเจอสวนสาธารณะมีอนุเสาวรีย์ของบุคคลสำคัญตัดกับต้นไม้ที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีเหลืองสวย

เมืองคูร์(Chur)มีย่านเมืองเก่าที่สวยงามแบบเรียบง่าย

มีหอระฆังและโบสถ์เก่าอยู่ตรงจัตุรัส

 

 ย่าน Arcas Square รอบๆย่านนี้มีทั้งร้านค้า ร้านกาแฟแต่ไม่มากนัก

ไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่ เงียบดีไปอีกแบบ

เป็นเมืองที่เล็กๆและออกเงียบๆ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนักค่ะ 

 จากใจกลางเมืองเก่าเดินมาที่สถานีรถไฟไม่ไกลมากค่ะ

 ติดกันก็มีย่านช้อปปิ้งแบบทันสมัย 

เดินผ่านย่านช้อปปิ้งตรงไปก็เจอสถานีรถไฟคูร์ เราขึ้นรถไฟต่อไป เพื่อไปเที่ยวสถานที่ต่อไป 

ระหว่างทางก็นั่งชื่นชมทัศนียภาพอันสวยงามตลอดทาง 

ชอบวิธีการเลี้ยงลูกแบบฝรั่งค่ะ อยากปีน ปีนไป คุณแม่ยืนดูอยู่ห่างๆ

ขึ้นรถไฟขบวนแบบธรรมดานี่ดีนะคะ หน้าต่างกระจกสามารถเลื่อนลงเพื่อถ่ายรูปได้ แต่ต้องไม่ลืมปิดด้วยนะคะ 

 

 ผ่านเมืองอะไรบ้างจำไม่ได้แล้วค่ะ (ตรงที่นั่งจะมีแผนที่บอก) รู้แต่ว่าชอบเจ้ารถไฟสีแดงนี้จริงๆค่ะ วิ่งเลาะลัดแล่นไปรอบสวิตเซอร์แลนด์ 

เรามาลงที่สถานี Samedan แล้วขึ้นอีกขบวนมาลงที่สถานี Punt Muragl แล้วเดินไปอีกประมาณ 200 เมตร

ต่อรถราง (Funicular Railway)ขึ้นไปข้างบนค่ะโดยเสียค่าโดยสารประมาณ พันกว่าบาท (ไปกลับ)มีรถออกทุกๆครึ่งชั่วโมงค่ะ เราไปถามว่าสวิสพาสมีส่วนลดไหมพนักงานว่าไม่มีค่ะ

 เพื่อแลกกับวิวนี้ล่ะคะสองลุงกับป้าถึงยอมขึ้นมา ภาพจริงๆสวยมากค่ะ เป็นวิวพาโนรามาที่สวยงามมากภาพหนึ่ง

บอกได้คำเดียวว่าวิวตรงหน้าช่างงามมากๆ 

เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาไฮกิ้งกันค่ะ มีเป็นเก้าอี้ซุ้มๆให้นั่งรับแดด และโต๊ะเก้าอี้ให้นั่ง ถ้าใครไม่อยากเที่ยวเมืองเก่าที่คูร์มาใช้เวลาให้เต็มที่บนนี้ก็ดีนะคะ (อยู่นานๆให้คุ้มค่าตั่วขึ้นมา)

มองไปเห็นทะเลสาบอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่สวยงาม 

หรือถ้าใครมีโอกาสเลือกที่จะพักค้างคืนที่โรงแรมบนนี้ รอคอยชมพระอาทิตย์ตกดินก็เคงจะน่าประทับใจไม่น้อย เขาว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยอีกแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์

นั่งชื่นชมดื่มด่ำกับวิวแบบพาโนรามาที่สวยงาม 

ขนาดว่าเที่ยวแบบช้าๆไม่รีบแล้ว เรายังว่าทำไมเวลามันเดินเร็วมาก ต้องลงแล้วเพราะไม่งั้นกลัวจะมืดเสียก่อนที่จะชมทะเลสาบ

ลืมบอกไปว่าไปช่วงเดือนนี้ต้นสนเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นเหลืองทั้งภูเขาสวยงามมาก ออกจากสถานีเราเลือกที่จะเดินข้ามฝั่งไปเพื่อขึ้นรถไฟ มองไปบนยอดภูเขาซ้ายมือ นั่นล่ะค่ะที่เราเพื่งลงมา 

เช็คเวลาจากแอพพลิเคชั่นแล้วเดี๋ยวจะมีรถไฟผ่านสถานี Punt Muragl Staz (คนละสถานีกับตอนขามา) แต่เอ...เดินมาดูเหมือนไม่น่าจะมีสถานีรถไฟเลย ทั้งๆที่ป้ายก็มีบอก แต่ก็แอบไม่แน่ใจ 

มองย้อนกลับไปอีกทีบนยอดเขาที่เพิ่งลงมา 

เฮ้ย...เดินมาถึงสถานี Punt Muragl Staz ไม่มีอะไรเลยค่ะ ว่างเปล่ามีป้ายปักอยู่อันหนึ่งกับตารางเวลา(ฮ่าฮ่าแอบกังวล แต่ไม่เป็นไรกะว่าถ้าไม่จอดก็ย้อนกลับไปสถานีเดิม)

เย้..เป๊ะมากเลยค่ะ พอถึงเวลาที่กำหนดไว้ รถไฟก็มาจอด สถานีนี้เป็นสถานีที่ถ้าคนจะลงก็ต้องกดรีเควสส่วนคนจะขึ้นคนขับคงเห็นน่ะค่ะว่ามีคนจะขึ้น

นั่งมาแค่สองสถานีก็ถึงสถานีเซนต์มอรีสแล้วค่ะ เดินทะลุออกมาก็เจอทะเลสาบแล้วค่ะ ปรึกษากันกับคุณแฟนว่าจะเอาอย่างไรดี จะเดินไปหรือจะขึ้นรถบัสไป ตกลงกันว่าเดินเที่ยวเลาะริมทะเลสาบไปทีเดียว พอถึงที่พัก ก็ค่อยว่ากันอีกที

โรงแรมที่เห็นข้างหน้าทำเลดีมากทีเดียวใกล้สถานีรถไฟมาก ตอนแรกเราว่าจะจอง (คืนละ 220 CHFแต่ไม่ผ่านการอนุมัติฮ่าฮ่า)คือไปถึงก็จะมืดและจะนอนอย่างเดียวแล้วเราเลยเน้นที่พักแบบราคาประหยัดค่ะ

ทะเลสาบเซนต์มอรีสตั้งอยุ่ในหุบเขาเอนกาดีน(Engadine) ที่นี่เป็นเมืองที่มีน้ำแร่ธรรมชาติที่เชื่อว่าสามารถบำบัดรักษาโรคได้สารพัดจึงกลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียงทางด้านสปาและบำบัดโรค

ต้นสนที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองตัดกับภูเขาที่บนยอดยังมีหิมะปกคลุมเป็นภาพที่สวยงามมากจริงๆ

เราเดินเลาะเลียบทะเลสาบเซนต์มอรีสจากสถานีรถไฟมาถึงอีกด้านหนึ่ง

 อากาศเย็นๆเดินสบายๆ โอ้ว..ชิลล์มาก

 

 

 

เดินผ่านโบสถ์คาธอลิก St.Karl Borromaus (น่าจะใช่นะคะ เดาเอาจากคำว่า Katholishe Kirche สะกดต่างจากภาษาอังกฤษแต่เดาว่าน่าจะความหมายใกล้เคียง)

Chesa Albris Bed & Breakfast ที่พักของเราในคืนนี้ราคา  110 CHF รวมอาหารเช้า มีทั้งหมด 3 ห้องค่ะ ห้องน้ำ 2 ห้องถ้ามากัน 6 คนแจ๋วเลยค่ะ (เหมาหมด) ห้องน้ำสะอาดมาก อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบ และห่างจากป้ายรถเมล์เพียง 100 เมตร

 ห้องพักกว้างขวางพอควรค่ะ ความสะอาดก็ไม่ถึงกับมาตรฐานโรงแรม

แต่ก็ถือว่าสะอาดดีค่ะมาไม่เจอใครเลยแต่เขาเอากุญแจกับชื่อเราแปะไว้หน้าประตูให้แล้ว

ที่มุมห้องมีอ่างล้างมือให้ด้วย

 ห้องที่ใช้รับประทานอาหารเช้าอยู่ชั้นเดียวกัน

ทั้งชั้นนี้มี 3 ห้องถ้ามากัน 6 คนเท่ากับคุณเหมาที่นี่ 

 มีเครื่องดื่มและของกินเล่นในตู้เย็น ใครทานอะไรก็ติ๊กเครื่องหมายไว้ที่หน้าตู้เย็นแล้วจ่ายสตางค์ที่หลังค่ะ

 วิวจากหน้าห้องที่พักค่ะ

คืนนี้ออกไปไหนไม่ไหวแล้วค่ะ หมดแรง

พบกันใหม่บล๊อกหน้านะคะ วันที่สองขึ้นรถไฟและรถบัสไปลูกาโน่ค่ะ

ขอบคุณที่ร่วมติดตามนะคะ

สวัสดีค่ะ

 




Create Date : 09 ธันวาคม 2558
Last Update : 22 ธันวาคม 2558 21:15:05 น.
Counter : 7419 Pageviews.

0 comments

hellojaae
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



เขียนบล๊อกเพราะอยากเขียน อยากแบ่งปัน ใช้วิธีจิ้มดีดจึงมีผิดๆถูกๆ (แม้จะพยายามตรวจทวนทุกครั้ง) เป็นบล๊อกอนุรักษ์รูปแบบเดิมๆคือเขียนไล่เรียงลงมา เพราะทำรูปแบบอื่นไม่เป็น 555 ยังเขียนต่อไปเพราะเห็นว่าก็ยังมีคนหลงๆเข้ามาอ่าน 555 สวัสดีและขอขอบคุณทุกคนค่ะ
Website counter