Group Blog
Diary ลูกผู้ชาย
สรรสาระ จาก Heathen Chemistry
วิจารณ์แหลก แต่ไม่แดกดัน
Song 4 You
<<
เมษายน 2548
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
16 เมษายน 2548
Diary ของลูกผู้ชาย สุดมันจากการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ ตอนที่ 4
All Blogs
Diary ของลูกผู้ชาย สุดมันจากการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ ตอนที่ 7
Diary ของลูกผู้ชาย สุดมันจากการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ ตอนที่ 6
Diary ของลูกผู้ชาย สุดมันจากการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ ตอนที่ 5
Diary ของลูกผู้ชาย สุดมันจากการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ ตอนที่ 4
Diary ของลูกผู้ชาย สุดมันจากการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ ตอนที่ 3
Diary ของลูกผู้ชาย สุดมันจากการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ (ตอนที่ 2)
Diary ของลูกผู้ชาย สุดมันจากการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ ตอนที่ 1
Diary ของลูกผู้ชาย สุดมันจากการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ ตอนที่ 4
ตอนที่ 4 ---- It's a long time ----
เมื่อเข้าสู่ตอนกลางวัน ก็มากินข้าวเหมือนเดิม ซึ่งอยากจะบอกไว้ที่นี่ว่าเข้าค่ายที่ภาคสนามโปรดอย่าเรื่องมากการกิน เพราะว่าถ้าคุณเรื่องมากเเล้วอาจจะไม่มีอะไรกิน กับข้าวที่นี่ถ้าไม่เค็มจัดก็เปรี้ยวจัด ไม่ก็จืดไปเลย ฉะนั้นทนกินกันไปก่อนนะครับ เมื่อกินข้าวกันเสร็จเเล้วก็ปล่อยให้พักกันก่อนตามอัธยาศัยประมาณ 45 นาที ก็นั่งคุยกับเพื่อนไปเรื่อยๆ เเล้วใจก็คิดไปว่า "ทำไมว้า กว่าจะผ่านไปได้เเต่ละวัน เวลาของที่นี่มันช่างนานจริงๆ รอเเล้วรอเล่าอยากกลับบ้านเหลือเกิน ป่านนี้อยู่บ้านคงสบายไปแล้ว ฯลฯ" เมื่อคุยเสร็จเเล้วก็นอนพักเพราะว่าเมื่อคืนจะนอนได้เล่นเอาไปตี 1 ครึ่ง นอนพักไปได้ไม่เท่าไหร่ก็มีเสียงเรียกนกหวีดจากครูฝึกมากระตุ้นประสาทให้ตื่นตัว "เฮ้...." เสียงผมมันออกไปเอ็งตามสัญชาตญาณเลย ไม่รู้เป็นไง จากนั้นครูฝึกก็เรียกมารวมกัน ณ ที่รวมพลเเล้วก็ให้ไปที่สนามทดสอบกำลังใจ 10 สถานี ซึ่งก่อนฝึกครูฝึกบอกว่าใครไม่อยากจะฝึกก็ให้วิ่งผ่านไป ใครจะฝึกก็เข้าต่อคิว ผมก็เข้ามันทั้ง 10 สถานีเลย ตั้งเเต่ปีนกำเเพง เเล้วลงด้วยเชือก ข้ามสะพานอกไก่ ปีนกำเเพง 6 ฟุต ฯลฯ มีบางคนเหมือนกันที่มันอู้ก็วิ่งผ่านไปโดยสบายๆ ไม่ต้องฝึก จากนั้นเมื่อผ่านมาเสร็จก็พบกับครูโอ๋ ซึ่งดักรอไว้ที่สถานีสุดท้ายอยู่เเล้ว ทางครูโอ๋ก็ให้เวลา 1 นาที ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดครึ่งท่อน ผมก็ถึงกับตะลึงเลย เพราะที่พี่เเกเรียกมันห่างจากองพันตั้งกว่า 50 เมตร ให้สับสปีดยังไงก็คงไม่ทันหรอก ว่าเเล้วพี่เเกก็ปล่อยเเถวเเล้วก็รอ ผมก็สบายหน่อยเพราะเตนท์มันอยู่ใกล้ ส่วนคนที่อยู่ประมาณเตนท์ A หรือ B ก็สับขากันสุดชีวิตไม่รู้จะทำลายสถิติโลกการวิ่งได้หรือเปล่า เมื่อเปลี่ยนเสร็จครูโอ๋ก็บอกว่า "ช้าจังนะ เฮ้ย" จากนั้นก็รอประมาณ 30 วิก็มากันครบ(เหลือเชื่อจริงๆ) เเล้วก็ปล่อยเเถวเพื่อไปรวมพลที่สถานี 34 เพื่อรับคำชี้เเจงในการเดินขึ้นเขาชนไก่ เมื่อรู้เท่านั้นเเหละผมถึงกับเข่าอ่อนไปเลยเพราะที่ผ่านมาเมื่อเช้าเดินจากกองพันไปสถานี 31 เมื่อตอนตี 5 เเละเดินกลับเมื่อตอนกลางวันไปเเล้ว
ยังต้องเดินย้อนกลับไปอีก 2 กิโลเพื่อไปที่ปากทางขึ้นเขาอีก เฮ้อ........ เเต่ก็มีครูฝึกพูดว่า "ใครจะไม่ขึ้นเขาบ้าง ให้มาตรงนี้" คนออกมาเพียบ ตอนนี้ทำให้ผมลังเลใจมาก ว่าจะไปหรือไม่ไปดี เพราะใจนึงคิดไว้ว่า เมื่อตอนปีที่เเล้วพูดเอาไว้ก่อนออกจากค่ายตอนปี 2 ว่า "ถ้าปีหน้าตูไม่ได้ขึ้น ตูไม่กลับเฟ้ย" ถ้าไม่ขึ้นก็ผิดสัญญาเเละสาบานตอนนั้นสิ เเต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า "ขามันไม่ไหวเเล้ว คงไปไม่ถึงเเน่" เเต่ในที่สุดก็ตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องไปให้ได้ เพราะพูดเอาไว้เเล้วนี่หว่า เมื่อเดินไป ผมเดินเป็นคนเเรกๆเลย เเต่เมื่อถึงปากทางที่ขึ้นเขาเเล้วทำไมเริ่มอยู่หลังๆหว่า เเล้วเมื่อเดินเเล้วไปได้ 1 โค้งก็ถึงกับตะลึง เพราะว่าทางชันมากๆ ขาก็ปวดเเล้ว เเละป้ายเขียนเอาไว้ว่า 200 ม. เท่านั้นเอง (ระยะทางทั้งหมด 2000 ม.) ว่าเเล้วก็เดินไปเรื่อยๆจนกลายเป็นคนสุดท้ายเเล้วเหลืออยู่คนเดียว เดินไปพักไปตามประสาคนเมื่อยเหนื่อยเเละเริ่มไม่ไหว เมื่อผ่านไปสัก 800 ม. ก็เริ่มพบคนหยุดนั่งเเล้ว 1 กลุ่ม ไปเรื่อยๆก็เจอมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเดินไปถึง 1000 ม. ผมรู้สึกเหนื่อยเเละเมื่อย ไม่อยากไปต่อมากๆ เหมือนกับตัวเองโดนอะไรลากขาตอนเดินอย่างนั้นเลย เเต่ก็ยังเดินต่อเพราะคำพูดเมื่อปีที่เเล้ว จนไปถึง 1400 ม. (ใช้เวลานานมากๆกว่าจะผ่าน 400 ม. นี้ได้) คนอื่นที่ไปถึงก่อนเริ่มเดินลงมากันเเล้ว ผมก็ยังขึ้นต่อ ไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็ถึงในระยะที่ 2000 ม. จนได้ เมื่อถึงเเล้วครูฝึกบอกว่า "เฮ้ย......เขาให้ลงกันหมดเเล้วเอ็งเพิ่งมาถึงเหรอ" ผมก็ตอบ "ครับ" จากนั้นก็เกิดอาการโลกมืดชั่วขณะ ตาเหลือง ขาหมดเเรง ต้องให้เพื่อนพยุงลงมาระยะกว่า 1400 ม. เพราะรถพยาบาลอยู่ในระยะ 600 ม. เท่านั้น เมื่อมาถึงรถครูฝึกก็บอกให้นั่งพักเเละขึ้นรถ HUMVEE ลงจากเขา ทุกคนมองกันเป็นตาเดียว เพราะผมเป็นคนเดียวที่ได้ลงรถ จากนั้นครูฝึกก็ให้ขึ้นรถพยาบาลกลับกองพัน เมื่อถึงกองพันเเล้วครูฝึกก็ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ กินข้าวก่อนใครเพื่อน (ส่วนคนที่ไม่สบายออกมาตอนเเรกได้อาบก่อนเเล้ว) จากนั้นก็ได้เข้าที่รวมพลเพื่อที่จะกินข้าวเเละไปสู่การฟังบรรยายการปฏิบัติตนหลังจากจบปี 3 เเล้ว เเถมยังมีการปลุกอุดมการณ์รักชาติบรรยายคั่น เเล้วก็เจอผู้พันผวนคนเดิม เฮอๆๆ จากนั้นก็เดินกลับกองพัน คราวนี้เข้านอนอย่างไว เเล้วก็หลับไว้ด้วย
Create Date : 16 เมษายน 2548
Last Update : 16 เมษายน 2548 0:19:44 น.
4 comments
Counter : 382 Pageviews.
Share
Tweet
เจอครูโอ๋ หรอ หุหุ เหมือนกานเยย แต่ไอ้ขึ้นเขา ชนไก่ ขอบอกๆ ถึง 1 ใน 10 อะ (วิ่งขึ้นไปเอาแรงบ้าวิ่งมาจากไหนไม่รู้) แต่เข้า รด มันส์ดีนะจาบอกให้
โดย: Aukung (
AuKuNg
) วันที่: 16 เมษายน 2548 เวลา:0:45:52 น.
ไม่ได้ขึ้นเขาอ่ะครับ เสียดาย
เป็นภูมิแพ้ ครูฝึกไม่ให้ขึ้น -_-''
โดย:
นายFee
วันที่: 16 เมษายน 2548 เวลา:1:37:41 น.
ไม่เคยขึ้น ไม่เคยนอนในป่า ทำไหมปีเรามันถึงโชคดีอย่างนี้วะ
โดย:
Gas Turbine is my dream
วันที่: 18 เมษายน 2548 เวลา:23:39:46 น.
คุณโชคดีนะคะที่ได้นอนอ่ะ.....*-*....เราไม่ได้นอนเลยอ่ะ.....คุณโชคดีด้วยที่ได้พัก เราไม่ได้พักเลย หรือ ได้พักบ้างก็แค่ ไม่เกิน 20 นาทีเท่านั้น เอะอะ อารายก็รวมพลๆๆ เฮ้ๆๆๆๆอ่ะคะ......ส่วนขึ้นเขานี่ไม่พลาดอยู่แล้วคะ...อาจจะซาดิสไปนิ๊ดส์ นึงเท่านั้นนะคะ......ชอบคะ ซาดิส ช๊อบชอบ อารายที่ท้ามายขอให้บอก ถ้ามีโอกาส...เจอกันแน่คับ
โดย: Dekpasta (
*-*topiw*-*
) วันที่: 28 กรกฎาคม 2548 เวลา:20:24:50 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Heathen Chemistry
Location :
ปทุมธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
So Gallagher
Gas Turbine is my dream
ซินเด๋อเหลอหลา
espoir
หัวใจสีม่วง
ใสบาบา
*_ดอกไม้ไหวที่ปลายฟ้า_*
blueberry_cpie
* ค น พ เ น จ ร *
-S n o w G i r l-
note-d
Redkiller1980
Mint@da{-"-}
cottonbook
atihasita
bank09
asita
ladydunce
Webmaster - BlogGang
[Add Heathen Chemistry's blog to your web]
Links
Board Thaidarkside
Oasis official website
Embrace offcial website
Board thaiware
Brit-pop fan Webboard
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.