คุ้มสมุนไพร "ภูมิปัญญาไทย เพื่อสุขภาพและความงามคุณ" บริการ อยู่ไฟ หลังคลอด ถึงบ้าน และจำหน่ายชุด อยู่ไฟ ด้วยตนเอง
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
14 ตุลาคม 2550
 
 
ตัดไขมันหน้าท้อง และแก้ไขหน้าท้องลาย

มีคนไข้มาหาหมอพร้อมกับหน้าท้องห้อยย้อย แถมแตกลายอีกต่างหาก เธอมาให้ดูไขมันครับ และมีอีกคนหนึ่งเป็นผู้ชาย มาพร้อมกับพุงอันมหึมาหากางเกงใส่ยากมาก มาให้หมอดูดไขมันเช่นกัน
หมอเห็นแล้วก็ถึงกับอึ้ง และค่อย ๆ อธิบายให้เค้าเข้าใจว่า อย่างนี้ดูดไขมันอย่างเดียวไม่ได้หรอกครับต้องใช้วิธีผ่าตัดไขมันหน้าท้อง
ทำไมถึงกับต้องตัดไขมันหน้าท้องเชียวหรือหมอ?
ใช่ครับ ต้องตัด แต่ก่อนตัดหมอจะอธิบายให้คุณเข้าใจก่อนนะครับคือ ลักษณะของผู้ที่มีหน้าท้องยื่น หย่อนยาน หรือห้อยย้อยนั้น เนื่องจากส่วนไขมันใต้ผิวหนัง และพังผืดระหว่างกล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อนยาน และที่สำคัญ ไขมันใต้ผิวหนังและพังผืดระหว่างกล้ามเนื้อนี้ จะไม่มีการหดตัว และไม่มีการสูญหายไปไหน ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ ก็จะมีสภาพหย่อนอยู่นั่นเอง ดังนั้นวิธีผ่าตัดไขมันหน้าท้องจงเป็นวิธีที่ดีที่จะจัดการปัญหานี้ได้
นอกจากนี้ การผ่าตัดเอาไขมันหน้าท้องออกจะช่วยให้ทรวดทรงกระชับขึ้นมาอีกครั้ง และแก้ปัญหาหน้าท้องลาย หรือผิวแตกลายสำหรับผู้ที่เคยตั้งครรภ์ และยังแก้ไขแผลเป็นสำหรับผู้ที่มีแผลผ่าตัดเดิมที่อยู่ต่ำกว่าสะดือให้ดูดีขึ้นได้ด้วยครับ สำหรับผู้ที่ผ่านการลดความอ้วนมา แล้วมีปัญหาหน้าท้องหย่อนมาก ๆ ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน

ทีนี้เรามาดูกันว่า ลักษณะของผู้ที่มีปัญหาเรื่องหน้าท้องเป็นแบบใดกันบ้าง เป็นรูปแบบต่าง ๆ ของลักษณะหน้าท้องที่มักมาปรึกษาแพทย์เพื่อผ่าตัดแก้ไข

แบบ A หน้าท้องแบนราบ มักพบในผู้ที่ออกกำลังกายอย่างดี ไม่อ้วนแต่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังหย่อนหรือแตกลาย

แบบ B ไม่ค่อยมีไขมันแต่มีลักษณะท้องป่องเวลายืนและแบนราบเวลานอน เนื่องจากผนังหน้าท้องหย่อน พังผืดระหว่างกล้ามเนื้อยานจนเสียรูป

แบบ C ไขมันสะสมมาก อาจต้องดูดไขมันร่วมด้วย

แบบ D หย่อนยาน ห้อยย่อยมาก มักเกิดจากการลดน้ำหนัก หรือเมื่อมีอายุมากขึ้น แล้วเนื้อเยื่อหย่อนยาน

ลักษณะต่าง ๆ เป็นลักษณะที่ต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดหน้าทอง และก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการผ่าตัดหมอขอบอกก่อนนะว่า จุดประสงค์ของการผ่าตัดอยู่ที่การตัดผิวหนังส่วนเกิน หรือแตกลาย, ตัดไขมันส่วนที่อยู่ใต้สะดือ กระชับพังผืดระหว่างกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ยืดหย่อนยาน

สำหรับผู้ที่ผนังหน้าท้องมีไขมันสะสมมาก บริเวณเหนือสะดือ สะโพก เอว อาจต้องมีการดูดไขมันร่วมด้วย ซึ่งอาจทำไปพร้อม ๆ หรืออาจเว้นระยะ 3 - 6 เดือน ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ว่ามีความเหมาะสมต่อการผ่าตัดหรือไม่

ในผู้ที่อ้วนมาก ๆ การลดน้ำหนักก่อนผ่าตัดมีประโยชน์ทั้งช่วยให้กระชับได้มากขึ้น และลดโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนทั่วไปที่มักเกิดกับคนอ้วนได้ด้วย

หลังผ่าตัดไม่มีข้อห้ามในการตั้งครรภ์อีก แต่ควรจะทอดเวลาให้รอยแผลหายเต็มที่ น่าจะ 1 – 2 ปี แต่ผลของการตั้งครรภ์อีกก็จะทำให้เกิดหย่อนหรือแตกลายอีกตามธรรมชาติ และต้องเสียเวลามาผ่าตัดใหม่ และบางครั้งก็ตัดแต่งหน้าท้องได้ไม่ดีเท่ากับการผ่าตัดครั้งแรก จึงอยากแนะนำให้ผ่าตัดเมื่อมีบุตรเพียงพอแล้ว และในปัจจุบันเราสามารถผ่าตัดไปพร้อม ๆ กับการคลอดบุตรได้ ถ้าการคลอดไม่มีปัญหา ซึ่งขึ้นกับดุจลยพินิจและความพร้อมของทีมแพทย์ด้วยครับ

รอยผ่าตัดมักจะเป็นที่ยอมรับได้ เมื่อเทียบกับความหย่อนยาน และผิวที่แตกลายที่มีอยู่โดยแผลผ่าตัดจะวางไว้ต่ำที่สุดที่จะเป็นไปได้ เพื่อซ่อนไว้ใต้ขอบกางเกงในโค้งตามแนวธรรมชาติของลายผิว ซึ่งระยะแรกอาจมีสีชมพูอมม่วง 3 - 6 เดือน ตามธรรมชาติของแผลใหม่ และจะค่อย ๆ จางลงไปใน 1 - 2 ปี

หมอต้องบอกไว้ก่อนนะว่า การผ่าตัดนี้จะไม่ได้ผลกับผู้ที่มีความอ้วนมาจากอวัยวะภายใน เช่น ไขมันที่สะสมอยู่ตามลำไส้ เป็นต้น ซึ่งมักเป็นกับผู้ชาย เนื่องจากการผ่าตัดนี้ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับอวัยวะภายใน

ทีนี้เรามาดูวิธีผ่าตัดกัน

ผิวหนังส่วนเกิน (ส่วนใหญ่จะแตกลายด้วยที่อยู่ใต้สะดือ รวมทั้งไขมันใต้ผิวหนัง จะถูกตัดออก


ผิวหนังส่วนที่เหลือจะถูกดึงมาชนกัน โดยให้รอยแผลผ่าตัดอยู่ต่ำที่สุด ความหย่อนของผิวหนังเนื่องจากเคยตั้งครรภ์ หรืออ้วนมาก ๆ มาก่อน จะทำให้สามารถดึงผิวหนังมาชนกันได้แทบจะทุกราย ส่วนสะดือที่ถูกปกคลุมจะได้รับการเจาะรูที่ผิวที่มาคลุมทำให้ได้สะดือในตำแหน่งเดิม และตกแต่งเล็กน้อยให้ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งมักจะเรียกกันว่า “ทำสะดือใหม่”


ผนังหน้าท้องที่ยืด หย่อนยาน เนื่องจากการตั้งครรภ์ ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องที่เป็นมัดคู่กันด้านหน้ายื่นห่างจากกันพังผืดที่เชื่อมกล้ามเนื้อนี้ไม่มีความยืดหยุ่น ไม่สามารถฟิตตัวได้เหมือนกล้ามเนื้อ ทำให้ไม่มีทางใดเลยนอกจากการผ่าตัดที่จะกระชับพังผืดส่วนนี้ได้ และเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้สตรีที่มีครรภ์แล้วไม่สามารถกลับไปมีหุ่นเพรียว ๆ ได้อีก


ภายหลังจากการกระชับกล้ามเนื้อที่แยกห่างจากการตั้งครรภ์เข้าด้วยกันทำให้เอวกระชับอีกครั้งหนึ่ง

หมอเคยบอกข้างต้นว่าวิธีการผ่าตัดมี 2 วิธี คือ แบบย่อ (minilipectomy) และแบบเต็ม (Total lipectomy) ซึ่งอาจร่วมกับการดูดไขมันหรือไม่ก็ได้ เรามาดูว่าแพทย์เขาทำกันอย่างไร

การผ่าตัดแบบย่อ
คุณอาจไม่ต้องนอนพักฟืนในโรงพยาบาลก็ได โดยแพทย์อาจใช้ยาชาเฉพาะที่ ซึ่งการผ่าตัดนี้อาจเป็นการผ่าตัดเน้นกระชับเฉพาะส่วนล่าง ต่ำกว่าสะดือ ใช้ได้ดีในผู้ที่ไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อน หรือหย่อนเนื่องจากการลดความอ้วน
มีเฉพาะผิวหนัง และไขมันที่ต้องตัดออก รอยแผลผ่าตัดจะสั้นกว่าแบบเต็ม ไม่ต้องตกแต่งสะดือให้ใหม่ ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง

วิธีนี้ถ้าใช้กับผู้ที่มีพังผืดระหว่างกล้ามเนื้อหน้าท้องยืดยานจะทำให้กระชับได้ เฉพาะส่วนล่างของท้อง ส่วนบนบริเวณลิ้นปี่จะยังป่อง ๆ อยู่ ทำให้ได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร หลังผ่าตัดไม่จำเป็นต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษ สามารถยืดตัวตรงได้

การผ่าตัดแบบเต็ม
คุณต้องพักในโรงพยาบาล 2 - 3 วัน อาจเป็นการดมยาสลบหรือการใช้ยาชาครึ่งตัวก็ได้ เป็นการแก้ปัญหาทั้งหมด ผู้ที่เคยตั้งครรภ์มักต้องใช้วิธีนี้จึงจะได้ผลดี รอยแผลผ่าตัดเหนือหัวเหน่าจะยาวกว่าแบบย่อ และต้องตกแต่งสะดือให้ เนื่องจากผิวหนังเดิมที่อยู่เหนือสะดือจะถูกดึงข้ามสะดือมาที่หัวเหน่า ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2 - 4 ชั่วโมง หลังผ่าตัดต้องเดินตัวงอ ๆ ประมาณ 7 วัน ค่อย ๆ ยืดตัวตรงวันละหน่อยจนยืดตรงได้หลังสัปดาห์แรก การยืดตัวที่ ช้าเกินไปอาจด้วยความกลัวว่าแผลยังไม่หาย จะทำให้มีอาการปวดหลังได้ เนื่องจากอยู่ในอิริยาบถที่ผิดธรรมชาติ

ดังนั้นแพทย์จะให้คุณพยายามยืดตัวให้ได้ หลังจากยืดตัวตรงได้แล้วก็ตัดไหมได้ และกลับไปทำงานตามปกติ สามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้หลัง 2 – 3 สัปดาห์ และออกกำลังได้เต็มที่ประมาณ 2 – 3 เดือน อาจมีอาการชาบริเวณท้องส่วนล่างได้ ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 6 เดือน ครับ


การผ่าตัดไขมันหน้าท้องเป็นการผ่าตัดเพื่อกระชับรูปร่างที่นิยมทำกันทั่วไป เนื่องจากได้ผลแน่นอน คาดคะเนผลได้ ผลข้างเคียงที่พบได้ก็ไม่บ่อยนัก และมักจะแก้ไขได้ เช่น บาดแผลติดเชื้อ แผลแยก เป็นต้น และการผ่าตัดไขมันหน้าท้องสามารถทำร่วมกับการดูดไขมันบริเวณลิ้นปี่, เอว, สะโพก เพื่อช่วยให้รูปร่างกระชับกับหน้าท้องที่แฟบลงได้ดีขึ้น ได้ผลทั้งในผู้ที่มีท้องลาย, ท้องป่อง, ท้องหย่อนที่เกิดจากการตั้งครรภ์หรือลดความอ้วน ในผู้ชายก็สามารถทำได้นะครับ

แต่มีข้อเสียที่ต้องทำความเข้าใจก่อนอย่างเดียวคือ รอยแผลผ่าตัด ซึ่งถึงแม้ว่าจะซ่อนไว้ต่ำที่สุด ต่ำกว่าขอบกางเกงใน เป็นแนวโค้งตามธรรมชาติ และจะจางลงไปเรื่อย ๆ จนจางเต็มที่ในระยะ 1-2 ปี แต่ก็ยังสามารถสังเกตเห็นได้ คุณคงต้องชั่งน้ำหนักในใจว่า การมีรอยผ่าตัดใต้ขอบกางเกงใน แต่หน้าท้องเรียบ กับการไม่มีแผลผ่าตัด แต่หน้าท้องห้อยย้อยหรือแตกลาย คุณจะพอใจอย่างไหนมากกว่ากัน ก็ขึ้นอยู่ที่คุณจะพิจารณาเลือกละครับ

การตัดไขมันหน้าท้อง และแก้ไขหน้าท้องลายเป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นหลังผ่าตัดนานพอสมควร ดังนั้น หากคุณเลือกที่จะผ่าตัดเอาไขมันหน้าท้องออก คุณต้องวางแผนลางานบ้าน และงานออฟฟิศไว้ล่วงหน้าเสียก่อน และคุณควรเลือกโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ทันสมัย มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผลการผ่าตัดก็จะออกมาเป็นที่พอใจครับ

ข้อมูลโดย
โรงพยาบาลยันฮี





Create Date : 14 ตุลาคม 2550
Last Update : 14 ตุลาคม 2550 14:57:57 น. 0 comments
Counter : 1073 Pageviews.
 

Healthy Service
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คุ้มสมุนไพรบริการอยู่ไฟ คุณแม่หลังคลอด
จำหน่าย ชุดอยู่ไฟ และสมุนไพร
สายด่วน 08-5426-7578 (24 ชม. ทุกวัน)http://www.KUMsamunpai.com/


จำนวนผู้เข้าเว็บ Best Free Hit Counters
Maternity Wear
Maternity Wear 234x60 70% off on over 3,000 designer fragrances SkinStore Special Offers Free Shipping
[Add Healthy Service's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com