space
space
space
 
มิถุนายน 2560
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
space
space
10 มิถุนายน 2560
space
space
space

Harbin --> Manchuria 【满洲里】Inner Mongolia Part 1



Trip Harbin (哈尔滨)-->  Manzhouli满洲里[ 25/5 – 30/5/2017] 


:: Harbin --> Hailar --> Manzhouli --> Harbin

:: By Trans - Manchurian Railway ..

:: เดินทาง โดย สองสาวเจ้าเก่า :: Oil & Aope # 端午节


“Manzhouli / Manchuria/ หม่านโจวหลี่ หรือ แมนจูเรีย (Маньчжу́рия)”ตั้งอยู่ในดินแดนแมนจูเรียและมองโกลเลียใน..ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง Hulunbiur .. ถือเป็นเมืองท่าทางบกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน.. ชายแดนอาณาเขตติดต่อกับประเทศรัสเซีย ..

** 满洲里原称“霍勒津布拉格”,蒙语意“旺盛的泉水”。1901年因东清铁路的修建而得俄语名“满洲里亚”,音译成汉语变成了“满洲里”。满洲里是一座拥有百年历史的口岸城市,融合中俄蒙三国风情,被誉为“东亚之窗”。** (baidu.com)

[ ชื่อเดิม“ Huolejin Bulage (ฮั่ว เล่อจิน ปู้ ลา เก๋อ) ”ซึ่งในภาษามองโกเลียแปลว่า “น้ำที่ไม่มีวันเหือดแห้ง”.. เมื่อปี 1901 มีการซ่อมแซมเส้นทางรถไฟ Chinese Eastern Railway .. จึงได้ชื่อว่า “Manchuria ya” หรือที่เราคุ้นเคยกันว่า “ แมนจูเรีย ” .. เมื่อทับศัพท์ภาษาจีนจึงกลายเป็น“ Manzhouli ” หรือ “ หม่านโจวหลี่ ” .. หม่านโจวหลี่มีประวัติศาสตร์ไม่ค่อยยาวนานนัก (พอๆกับฮาร์บินเลย) คือราวๆร้อยกว่าปี ..เป็นเมืองท่าที่สำคัญของจีน .. รวมเอาความเป็น China, Russia และ Mongolia เข้าด้วยกัน .. จนได้รับขนานนามว่า “ หน้าต่างของเอเชียตะวันออก” ] .. (แปลเอง .. ถูกบ้างผิดบ้างขออภัย)


ภาพจาก ::  //www.asiabriefing.com


ภาพจาก :: //www.chinadaily.com.cn

:: ดูจากแผนที่แล้ว ก็เห็นว่า .. จากหม่านโจวหลี่ เข้ารัสเซีย น่าจะไปโผล่ที่เมือง ชิตะ (Chita) .. (ตอนนั่งทรานส์-ไซบีเรีย เมื่อปีที่เเล้ว .. ก็ได้ผ่านเมืองชิตะมาแล้ว) .. อยู่ไม่ไกลทะเลสาบไบคาลด้วยนะ .. แล้วทริปนี้เราก็ได้นั่ง ทรานส์-เเมนจูเลีย .. คือจากฮาร์บิน ถึงหม่านโจวหลี่ นี่ล่ะ .. 

การเดินทาง (ต่อจากทริป Hailar)

Link:  Harbin --> Hailar 【呼伦贝尔】Inner Mongolia

:
Hailar (海拉尔)--> Manzhouli(满洲里)

:: จากเมือง Hailar (海拉尔) เราจะเดินทางต่อไปยังเมือง Manzhouli(满洲里).. เมืองชายแดน จีน-รัสเซีย ที่อยู่ในฝั่งมองโกเลียใน ของประเทศจีน.. ห่างจากเมือง Hailar ประมาณ 190 km. .. เป็นจุดหมายปลายทางของเราในทริปนี้ ..



:: การเดินทาง .. สามารถเดินทางได้โดยรถไฟ , รถโดยสารประจำทางระหว่างเมือง และโดยรถยนต์(เหมาคัน หรือ หารเฉลี่ยเหมาคัน) ..เราเลือกการเดินทางด้วยรถไฟเพราะเท่าที่สังเกตการทำถนนในเมือง Hailar รวมถึงเส้นที่จะไป หม่านโจวหลี่ด้วยนั้นเราก็ได้เห็นว่าเค้ากำลังซ่อมทางกันอยุ่ และการถามจากหลายๆคนที่เมือง Hailar เค้าก็บอกว่า .. การเดินทางด้วยรถไฟและรถยนต์นั้น เวลาแทบจะไม่ต่างกันเลยเพราะตอนนี้เค้ากำลังซ่อมถนน หลายๆช่วงก็เรียกได้ว่าเดินทางได้ไม่สะดวกอย่างแรง ..ไปรถไฟน่ะดีสุดแล้ว !! แถมได้ชมวิวทิวทัศน์ ..มีห้องน้ำให้เข้าสะดวกสบาย .. อันนี้จริงนะ ถูกต้องเลย ..



:: รถไฟขบวน K 275 (ตู้นั่ง)  .. ออกจาก Hailar (海拉尔)วันที่ 28/5 เวลา 11:53 น. ถึง สถานี Manzhouli(满洲里) เวลา 14:00 น. .. (สถานีรถไฟหม่านโจวหลี่ นี่เล็กมากๆเลยนะ)


:: ค่าตั๋วรถไฟ 28.5 Yuan (143 บาท) .. ใช้เวลาเดินทางราวๆ 2 ชั่วโมงเท่านั้น 

ที่พัก

:: ที่พักของเรา.. พักกับ YHA China (อีกแล้ว55555).. คือเราว่ามันโอเค ทำเลดีราคาถูก ข้อมูลการท่องเที่ยว รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ค่อนข้างมีครบ ..และส่วนใหญ่ที่พักในเครือ YHA ของจีนมักจะตั้งอยู่ในทำเลที่พิกัดใช้ได้ อยู่ในย่านตัวเมืองหรือไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก .. และมีที่พักให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋าของผู้เข้าพักเองแหละ.. ที่สำคัญคือ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ..

::
“满洲里伏尔加河畔国际青年旅舍” ( Manzhouli Volga River International Youth Hostel )




::
เลือกห้องพักแบบมาตรฐาน สไตล์มองโกเลีย เตียงคู่ ..คืนละ 44 Yuan (220 บาท)* 2 คืน = 88 Yuan (440 บาท) / คน / คืน ..

:: ที่พักเราอยุ่ในตัวเมืองบนถนน 五道街 (Wu Dao Jie) ..ซึ่งเป็นถนนใหญ่เส้นหลัก เข้าสู่ตัวเมือง ..แต่ไม่ได้อยู่ในใจกลางของจุดที่เป็นศูนย์กลาง หรือย่านการค้า ..การจะเข้ามาเที่ยวย่านศูนย์กลางเมือง ต้องเดินเข้ามาประมาณ 5-10 นาที .. แต่ที่นี่ติดถนนใหญ่ มีป้ายรถเมล์อยู่ด้านหน้า ไปไหนมาไหนก็ถือว่าไม่ลำบาก.. ใครอยากมาเที่ยวที่นี่ ก็สามารถหาดูที่พักที่รับต่างชาติที่อยู่ในย่านการค้าที่คึกคักๆกว่านี้ได้ ..



** ตึกสวยนี้อยู่หน้าที่พักเราอีกที .. 

Day 1 [ 2
8/5/2017 ] 

:: Hailar (ไห่ ลา เอ๋อร์) -- > Manzhouli Cityหม่าน โจว หลี่

:: เมื่อเราเดินทางถึงเมือง Manzhouli (หม่านโจว หลี่).. ออกจากสถานีรถไฟแล้วหารถไปที่พักก่อนเลย .. ก็จะมีแท๊กซี่มารุมๆๆๆเหมือนที่อื่นๆตามปกติทั่วไป .. ที่พักห่างจากสถานีรถไฟ 4.3 km.. นั่งรถราวๆ 10 นาทีก็ถึงที่พัก .. ค่าแท๊กซี่ 9 หยวน ..


:: วันนี้แท๊กซี่ที่เรียกเป็นคุณป้า ท่าทางทะมัดทะแมงและคุยเก่งมากกกกกก .. แลดูจะถูกชะตากันดีกับพวกเรา ..พอรู้ว่าเราเป็นคนไทยเท่านั้นแหละ บริการดีมากๆเลย .. สุดท้ายเราเจรจากับคุณป้าเรื่องเหมารถแกเที่ยววันนึง .. แกก็คิดราคาที่ 350 Yuan ตลอดวัน .. พร้อมมีเส้นทาง ที่ครอบคลุมกับระยะเวลาที่เรามีสองวัน ..(นัดเวลากันเรียบร้อย .. สำหรับวันเดย์ทริปวันพรุ่งนี้)

**   เบอร์คุณป้าแท็กซี่ ใจดี นิสัยน่ารัก : 13514701345 (庞姐姐) **

:: ป้าแท๊กซี่น่ารัก .. ขับไปคุยไป พาดูนั่นนี่ตลอดทาง ..ประหนึ่งเหมือนได้เช่ารถเที่ยวชมเมืองระยะสั้นยังไงก้ไม่รู้ ฮ่าๆๆๆ .. แต่ก็ดีนะมันทำให้เราพอรู้คร่าวๆว่า พรุ่งนี้เราจะไปไหนบ้าง ...



:: ถึงที่พัก .. เช็คอิน เก็บเป๋า ปลดสัมภาระ .. สะพายกล้อง แล้วก็หนีออกจากโรงแรมกันเลย .. ก่อนออก แอบถามพนักงานที่ล๊อบบี้ว่า ตลาดกลางคืนหรือพวกถนนคนเดิน พิกัดอยู่แถวไหน ..(กลายเป็นสิ่งที่เวลาไปไหนก็ต้องถามคนพื้นที่แบบนี้ตลอด ฮ่าๆ ..เพราะอยากซึมซับและศึกษาชาวเมือง ดูวิถีชีวิตของคนพื้นถิ่น ว่าเค้าทำอะไร ที่ไหนยังไงกัน ...)

:: ช่วงที่เรามานี่อากาศดี ฟ้าโปร่ง เเต่ลมแรงมากกกกก ... ช่วงเย็นๆอากาศถือว่าค่อนข้างหนาวเลยล่ะ ..ดีที่ติดเอาเสื้อกันหนาวมาด้วย .. เหอๆๆๆๆ




:: เวลาตอนนั้นประมาณบ่ายสามโมง .. ฟ้าใส แดดเปรี้ยงแต่อากาศสบายๆไม่ร้อน .. เราก็วางแผนว่าวันนี้คงจะเดินเล่นชมเมืองหม่านโจวหลี่ไปเรื่อยๆ .. เพราะดูเวลาที่พระอาทิตย์จะตกแล้ว ก็ราวๆสองทุ่ม ..ฟ้าจะยังสว่างให้เราเดินเล่นถ่ายรูปไปอีกนาน .. เริ่มเดินตั้งแต่ถนนใหญ่หน้าที่พัก 五道街 (Wu Dao Jie) .. เดินตามเส้นนี้แวะถ่ายรูปดูนั่นนี่ไปเรื่อยๆ .. (ดูรูปยาวไปๆๆๆๆ)











เดินไป แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน .. เวลากลางวันยาวนานค่ะ ..











:: ตัวเมืองจะมีถนนสายหลักที่ชื่อ Wu Dao Jie (五道街).. มีความยาวตลอดสายราวๆ 3-4 km .. ผังเมืองแลดูจะเดินได้ไม่ยาก .. แบ่งเป็นแยกๆ มีถนนย่อยๆอยู่ไม่กี่สาย .. มีป้ายบอกชัดเจน .. เดินเล่นเต็มๆวันสักสองวันก็น่าจะทั่วเเล้ว .. พวกเรามีเวลาแค่สองวัน ก็ไม่ถึงกับเดินทั่ว .. 



:: วันนี้หลังจากออกจากที่พัก เดินเล่นไปตามถนนสายหลักอยู่พักใหญ่ .. ก็ตัดสินใจสุ่มโดดขึ้นรถเมล์สาย 1 .. ณ ตอนนั้นดูที่ป้ายรถเมล์ มีรถวิ่งแค่ไม่กี่สาย ประมาณสามสี่สายเอง .. แต่สาย 1 นี่ดูจะเหลือป้ายอีกเยอะ .. เราก็ไม่รู้ว่ามันจะพาเราวิ่งไปถึงไหน ฮ่าๆๆๆๆๆ ... " ขึ้นก่อนงงทีหลัง " วลีนี้ใช้ได้กับทุกที่ที่ไป ฮ่าๆๆ .. 

:: รถเมล์ที่นี่ก็แปลกๆค่ะ .. เป็นระบบมีกระเป๋ารถเมล์ .. รถเมล์ขนาดเล็ก สั้นกว่ารถเมล์จีนทั่วๆไปที่เคยเจอมาส่วนใหญ่ .. อาจเป็นเพราะเมืองเล็ก คนน้อย .. ขึ้นรถตรงประตูกลาง (ไม่ใช่ขึ้นทางประตูหน้าเเล้วหยอดเหรียญแบบทั่วๆไปนะ) .. ค่ารถเมล์ขึ้นกับระยะทางที่เราจะไปค่ะ .. พอโดดขึ้นรถปุ้บ เป๋ารถเมล์ถาม [ " จะลงที่ไหน ? ".. สองคนไทยนี่มองหน้ากัน เเล้วตอบกลับไปว่า .. " ไม่รู้จะลงไหน .. สุดสายเท่าไหร่ ! " .. เป๋าเมล์ตอบ " 4 Yuan " .. " OK .. จ่ายตัง คนละ สี่หยวน " .. แล้วนางก็พูดชื่อสถานที่อะไรสักอย่าง .. ฟังเเล้วก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันคือที่ไหน ! 5555+] .. ดีที่นั่งตรงกลางประตูทางขึ้นลงพอดี อยู่ตรงกระเป๋ารถเมล์เลยก็ว่าเหอะ .. นั่งมาพักนึง เริ่มเงิบเล็กๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ .. ก็ตั้งเเต่หลุดจากตัวเมืองบนถนนหลัก 
Wu Dao Jie (五道街)ในเมืองออกมา .. รถเมล์ก็วิ่งตรงดิ่งๆๆๆ ออกนอกเมืองเรยจ้าาาาาา .. วิวสองข้างทางสวยค่ะ .. และก็แปลกมากในเวลาเดียวกัน !! 

:: มันแปลกตรงที่ .. พอหลุดจากเมือง สวยๆ อลังการๆ ปุ๊บ .. เจอทุ่งหญ้าเรยค่ะ ฮ่าๆๆ .. คือ เหมือนจู่ๆก็หลุดมาอีกโลกหนึ่ง ในระยะเวลาสั้นๆ ได้เห็นวิวที่ต่างไปจากเมื่อสักครู่มาก .. สองคนเราเริ่มคุยกันว่า มันเริ่มออกมาไกลเมืองมากขึ้นๆๆเรื่อยๆละนะ .. เเล้วเวลาก็เริ่มเย็นลงๆๆ กลัวจะหารถกลับเข้าเมืองลำบาก .. ว่าเเล้วก็บอกเจ๊กระเป๋ารถเมล์ (ขณะนั้นผู้คนบนรถเมล์ก็พากันมองสองสาวต่างด้าวกันทั้งคัน .. เค้ารู้กันนะว่าเรามาเที่ยว เพราะแต่ละคนก็สะพายกล้องกัน .. ภาษาจีนที่เค้าพูดกัน สำเนียงฟังแปล่งๆ แต่ก็ดีที่พูดภาษาจีนกลางกันโดยส่วนมาก .. และโชคดีที่เราก็พอจะฟังออกและพอจะเข้าใจได้บ้าง) .. 

:: ได้ยินเป๋ารถเมล์พูดว่า " ป้ายหน้าเป็นเมืองใหม่ (新区)" .. อิชั้นนี่หูผึ่งงง ตานี่ลุกวาววว .. กรูรอดแล้ววววว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ... สองเราบอกเจ้แกไปว่า เครๆเราจะลงกันตรงนี้แหละ .. เจีเค้าคืนค่ารถมาให้เราคนละ 1 Yuan ค่ะ .. สรุปคือ เรานั่งรถกันมา คนละสามหยวน .. แพงนะเนี่ย .. ลงรถได้ก็ข้ามถนนไปอีกฝั่งนึงทันที เพื่อรอขึ้นรถเมล์สายเดิมกลับเข้าเมือง .. (ตอนนั้นก็เริ่มส่องๆดู เห็นป้าย 猛犸象公园 หรือ สวนแมมมอธ .. ซึ่งเป็นหนึ่งในที่ๆเราจะไปกันในวันพรุ่งนี้ .. เราก็เลยไม่ได้เข้าไปเดินในโซนเมืองใหม่ เพราะพรุ่งนี้ก็ได้มาค่ะ) .. แปบนึงรถเมล์สาย 1 ก็วิ่งมาพอดี .. โดดขึ้นรถอย่างไม่รีรอ ฮ่าๆๆๆๆ 

:: ระหว่างทางที่นั่งอยู่บนรถเมล์ ก็คิดๆนะว่า คนที่นี่เค้าทำอาชีพอะไรกันบ้าง .. โซนนอกเมืองนี่ เราเห็นมีพวกโรงงาน แต่ก็ไม่ใหญ่ กระจายอยู่ตามพื้นที่ราบของทุ่งหญ้า .. ไม่ใช่โรงงานแออัดเเบบทั่วๆไป .. อารมณ์ประมาณว่า ทุ่งหญ้าอยู่ดีดี แล้วก็มีโรงงานโผล่มาตรงกลาง .. ไม่มีอะไรรอบข้าง นอกจากทุ่งหญ้าๆๆๆๆ .. สวย แปลก น่าสนใจ .. เกิดคำถามในใจหลายๆอย่าง .. ผ่านมาถึงโซนที่มีโรงงานไม้แปรรูปเยอะๆ ก็เลยถึงบางอ้อ...ว่าที่นี่เค้าประกอบอาชีพทำโรงงานไม้แปรรูปกันนี่เอง ..



** คุณป้าเเท๊กซี่เล่าให้ฟังภายหลังว่า " ที่หม่านโจวหลี่ จะนำเข้าไม้ซุง ไม้ท่อน พวกตระกูลไม้สนเป็นส่วนใหญ่ .. นำเข้ามาจากทางฝั่งรัสเซีย .. แล้วมาเข้าโรงงานแปรรูปไม้ที่หม่านโจวหลี่ .. กลายเป็นอาชีพหลักส่วนนึงของผู้คนที่นี่ " 



:: ตลอดการเดินชมเมืองในวันนี้ .. เราก็ได้เห็นทั้งสถาปัตยกรรมซึ่งมีความเป็นรัสเซียมากๆ มีให้เห็นอยู่ทั่วทั้งเมือง .. ป้าย ร้านค้าต่างๆมีทั้งภาษา จีน รัสเซีย และมองโกเลีย รวมอยู่ด้วยกัน ..ซึ่งถือว่าเป็นอีกความพิเศษหนึ่งซึ่งหาดูได้ยากในเมืองจีน .. ที่เราจะได้เห็น วัฒนธรรมรวมกัน .. ทั้งผู้คน ภาษา และเชื้อชาติ ..


:: ก่อนหน้านี้เราเคยไปเมืองที่มีหลายวัฒนธรรมรวมกันในประเทศจีน .. อาทิเช่นเมือง 绥芬河(Suifenheซึ่งเป็นชายแดนจีน-รัสเซีย(ฝั่งวลาดิวอสต้อค) ..เราก็ได้เห็นป้ายที่มีภาษาจีน และรัสเซีย รวมอยู่ด้วยกัน , เมืองซินเจียงหรือ อูรุมฉี (新疆 / 乌鲁木齐)เราก็จะได้เห็นภาษาจีนรวมอยู่กับภาษาซินเจียงหรือคาซัค , หรือว่าจะเป็นที่ ทิเบต (西藏)เราก็จะได้เห็นภาษาจีนรวมอยู่กับภาษาทิเบต อะไรทำนองนี้ .. เป็นความน่าสนใจสำหรับเรามากๆ

:: กลับเข้ามาในเมืองตอนเย็น .. เริ่มหิว .. วันนี้เพื่อนเราดูร้านไว้ร้านนึง .. ร้านที่มีรีวิวค่อนข้างดี เราก็เดินตามหากันอยู่พักนึง .. แล้วก็เจอ ..  " 喀秋莎西餐厅 (kā qiū shā) " ร้านนี้อาหารอร่อยมากกก .. เราชอบเมนูปลาของร้านนี้มากๆ รสชาติเหมือนได้กินที่ไบคาลเลย เลิฟฟฟฟ .. แอบส่องดูเชฟ เป็นคนรัสเซีย .. คนรัสเซียเองก็มากินเยอะ คนเเน่นร้านเลยทีเดียว ..







** มื้อนี้สั่งกันจัดหนักจัดเต็มมากกก .. โดยที่ไม่รู้เลยว่า จานมันจะใหญ่มหึมาขนาดนี้ ฮ่าๆๆๆ .. แต่อร่อยยทุกจาน .. ราคาพอรับไหว .. ไม่ได้มาบ่อยๆ กินให้เต็มที่ .. อาหารรัสเซียนี่เราชอบพวกที่เป็นเมนูปลามากๆ ทำได้อร่อยจริงๆ .. แล้วมื้อนี้ก็ไม่ลืมที่จะสั่งเมนูประจำบ้านของคนรัสเซียมาชิม “ 红汤 (หง ทัง) หรือ ซุปที่มีสีแดงของซอสมะเขือเทศ ใส่ผัก มันฝรั่ง เนื้อ ” เป็นอาหารที่คนรัสเซียจะต้องมีในมื้ออาหาร .. 







:: จบศึกมื้อเย็น ได้เวลาออกมาเดินย่อย อิอิ .. บรรยากาศตอนเย็นนี่ดีมากๆเลย .. ทีแรกคิดว่าจะได้เจอต่างชาติ หรือเจ้าถิ่นแบบ มองโกลๆ รัสเซียๆ บ้างมั้ย .. เพราะช่วงกลางวันเจอแต่คนจีน ! .. พอตกเย็นเท่านั้นเเหละ .. ราวกับว่าอยู่เเถววลาดิวอสต้อคเลยทีเดียว .. ครอบครัวพี่หมี เดินกันให้ขวักไขว่ ..



















** ในเมืองจะมีรถที่ข้ามมาจากฝั่งรัสเซียเยอะมากๆ .. ทั้งรถตู้ รถเล็ก รถใหญ่ รวมไปถึงรถบัสด้วย .. ส่วนใหญ่ก็คล้ายจะข้ามมาเพื่อซื้อขายสินค้า .. เห็นแต่ละคันนี่ก็บรรทุกไม่ใช่น้อย ..




** เวลาวันนี้ผ่านไปอย่างสโลไลฟ์สุดๆ .. แบบนี้สิ ถึงเรียกว่ามาเที่ยวพักผ่อน .. ผจญภัย .. เรียนรู้ .. ท่องโลกกว้าง .. ไม่ต้องเป็นการเที่ยวที่เพอร์เปกต์เป๊ะๆ .. แต่เป็นการเที่ยวที่มีความทรงจำดีดี .. ขอบคุณเพื่อนร่วมทางสำหรับวันนี้ .. เดินกลับที่พักหนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อน .. เเต่พอเห็นบรรยากาศตรงหน้า .. เเสงไฟจากตึกสวยราวคฤหาสน์ .. อากาศเย็นๆลมพัดสบายๆ เริ่มรู้สึกหนาว .. พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่ดวงใหญ่มากๆๆๆ .. ลอยต่ำเสมอระดับสายตา .. สะกดเราให้ยืนนิ่ง ขยี้ตาเบาๆ เเล้วพยายามบันทึกภาพสุดท้ายในคืนนั้นไว้ด้วยกล้องจากมือถือ .. มีพี่ชายท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า " ตลอดเวลาสามปี ที่พี่ชายท่านนั้นได้มาทำงานประจำอยู่ที่เมืองนี้ .. ท่านไม่เคยได้เห็นพระจันทร์ แห่ง หม่านโจวหลี่ " .. แต่ในคืนนี้ .. เราโชคดี ที่เราได้เห็นพระจันทร์ ^^ 


เรื่องราวในฮาร์บิน : Harbin [ตู้เย็นแลนด์]



Create Date : 10 มิถุนายน 2560
Last Update : 20 มิถุนายน 2560 14:24:57 น. 1 comments
Counter : 3698 Pageviews.

 
You are so amazing. Pls write more. Love and support you


โดย: Perfect IP: 49.228.233.129 วันที่: 11 มิถุนายน 2560 เวลา:0:35:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

IsnowBeer
Location :
Heilongjiang, Harbin China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




- เราเป็นอดีตนักศึกษาไทยในฮาร์บินค่ะ【2013-2018】
- เรียนหลักสูตรภาษาจีน@Harbin Engineering University (4 เทอม) ด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัว【2013-2015】
- หลังจากเรียนภาษาไปได้ 2 ปี เลยขอทุนการศึกษาของมณฑลเฮยหลงเจียง เพื่อศึกษาต่อระดับป.โท@Heilongjiang University เรียนคณะการจัดการการท่องเที่ยว【2015-2018】
- หลังจากจบป.โท ได้ Work Permit & Visa ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในฮาร์บิน (ทำที่ฮาร์บินประมาณครึ่งปีได้ เเล้วกลับมาทำต่อที่ไทยแบบ WFH)
- ระหว่างใช้ชีวิตอยู่ฮาร์บินก็มีไปทำ Part-time บ้าง / ช่วยเพื่อนๆ คนจีนบ้าง / หลักๆ เน้นท่องเที่ยวพร้อมศึกษาเรียนรู้ไปในตัว

ด้วยความรักและหลงใหลในเมืองนี้เอามากๆ..อีกทั้ง ฮาร์บินยังเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง .. ที่ทำให้เรามีเพื่อนฝูง, ครูบาอาจารย์, ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ, รวมถึงเจ้านายเเละเพื่อนร่วมงานที่เราเคารพรัก เป็นจำนวนที่ไม่น้อยกว่าที่เรามีในเมืองไทยเลย !!!

บล็อคนี้กำลังอยู่ในช่วงกลับมาเขียนเรียงร้อยเรื่องราวใหม่อีกครั้ง (หลังจากหยุดเขียนไปนาน)
เพื่อที่จะแบ่งปันประสบการณ์ชีวิต เเละประสบการณ์ท่องเที่ยวในช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ค่ะ..

ปัจจุบันเราใช้ชีวิตอยู่เมืองไทย เเต่ก่อนหน้าโควิด ก็ไปๆ มาๆ ไทย-ฮาร์บิน รวมถึงเมืองอื่นๆในจีนด้วยบางโอกาส .. เเต่ฮาร์บินยังคงเป็นบ้านหลังที่สองของเราเสมอ

ต้องการติดต่อเป็นการส่วนตัว รบกวนแอ๊ด :
Wechat ID : Oil_Angkhana

space
space
[Add IsnowBeer's blog to your web]
space
space
space
space
space