Group Blog |
มะเดื่อฝรั่ง FICUS CARICA ประวัติ-ประโยชน์ มะเดื่อฝรั่ง FICUS CARICA มะเดื่อ หรือ มะเดื่อฝรั่ง หรือ มะเดื่อญี่ปุ่น (ชื่อวิทยาศาสตร์: Ficus carica)เป็นไม้ยืนต้นที่แยกดอกแยกต้นเจริญได้ดีในที่สูงถึง 6 เมตร หรือ 19 ฟุต อยู่ในสกุล Ficus วงศ์ Moraceae เป็นพืชพื้นเมืองในแถบตะวันออกกลาง เป็นพืชคนละชนิดกับมะเดื่ออุทุมพรหรือมะเดื่อชุมพร(F. racemosa) ที่เป็นไม้พื้นเมืองในอินเดียและศรีลังกา มะเดื่อเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางลำต้นเป็นปุ่มแตกกิ่งก้านออก ใบเดี่ยว ด้านหนึ่งหยาบ อีกด้านหนึ่งมีขนอ่อน ลำต้นมียางสีขาว ผลออกเป็นกระจุกกลมแป้นหรือรูปไข่ เปลือกบาง ผลอ่อนสีเขียว พอสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแดงหรือชมพูแล้วแต่พันธุ์ เนื้อในสีแดงเข้ม สุกแล้วมีกลิ่นหอม การปลูกเป็นการค้าเริ่มที่เอเชียตะวันตกแล้วจึงแพร่หลายสู่ซีเรีย ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน[3] ปัจจุบันปลูกมากในยุโรปใต้ สหรัฐ ตุรกี ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ มาดากัสการ์ ในอดีตประเทศไทยจะนำเข้ามะเดื่อในรูปผลแห้ง เริ่มนำต้นเข้ามาปลูกครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2524ที่ดอยอ่างขาง โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ มูลนิธิโครงการหลวง เพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น เป็นผลไม้ต่างถิ่นชนิดหนึ่งมีคุณค่าทางอาหารสูงอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลก ประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่ง มะเดื่อเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานเพราะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยลดปริมาณการใช้อินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน มะเดื่อเป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักเพราะมีเส้นใยสูง มะเดื่อเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูงมีคอเลสเตอรอลและไขมันน้อยมาก ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูงโรคตับ จึงรับประทานได้ ช่วยคงความอ่อนเยาว์และชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย มะเดื่อมีแคลเซียม เหล็ก และฟอสฟอรัสสูงจึงช่วยเสริมสร้าง ซ่อมแซม และเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ ในประเทศอินเดียนิยมใช้ใบมะเดื่อมารับประทานเป็นอาหาร ประโยชน์มะเดื่อ เปลือกของมะเดื่อสามารถนำมาใช้แทนน้ำตาลได้
ประโยชน์ของมะเดื่อ นอกจากจะใช้รับประทานเป็นผลไม้สดแล้วยังสามารถนำมาใช้ทำขนมได้อีกด้วย เช่น พาย แยม อบแห้ง ผลไม้กวน พุดดิง เค้กไอศกรีม ใช้ผสมในชาไข่มุก ใส่ขนมแทนลูกเกด ผลแห้งนำไปคั่วแล้วนำมาป่นใช้แทนกาแฟเป็นต้น ขอบคุณข้อมูล |
รักทำให้เกิดรอยยิ้ม
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] คนง่ายสบาย นิ่งๆๆเงียบ ๆๆ ชอบความเป็นตัวเอง |