Air card
คืออุปกรณ์ใหม่ที่มีไว้สำหรับต่อเชื่อม Notebook
เข้ากับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สายของระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ นั่นคือ
ระบบ EDGE กับ 3G
ปัจจุบันนี้เมืองไทยยังมีแค่ EDGE
โดยผู้ให้บริการ AIS และ DTAC ให้บริการเชื่อมต่อ EDGE ที่ความเร็วสูงสุด
220Kbps แต่การใช้งานจริงจะอยู่ระหว่าง 100-200Kbps
โดยความเร็วขนาด
นี้สามารถใช้ เข้า web ฟังเพลง เล่นเกมส์ chat พร้อมดู webcam ได้สบาย
แต่ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า EDGE
นั้นไม่ต่างจากคลื่นมือถือตรงที่ว่าในบางช่วงเวลาสัญญาณจะอ่อนหรือหายไป
ซึ่งจะทำให้ net เดินสะดุด
ดังนั้นหากนำไปใช้เล่นเกมส์จำพวกที่ว่าห้ามเน็ตเดินสะดุดเลยสักช่วงวินาที
เดียว ทางเราขอแนะนำให้ใช้การเชื่อมต่อแบบสาย Hi-Speed
จะทำให้เล่นเกมส์ได้ stable กว่า
ความเร็วของ EDGE
นั้นยังไม่สามารถใช้ดู TV หรือ Youtube ได้แบบต่อเนื่อง
โดยภาพที่ได้จะสะดุดเป็นช่วงๆ จำเป็นต้องให้ download
เสร็จก่อนค่อยดูทีเดียว ดังนั้นหากต้องการดู TV ด้วย
Air card
จำเป็นจะต้องรอระบบ 3G เท่านั้น ซึ่งระบบ 3G นี้ จะวิ่งที่ความเร็ว
3.6-7.2Mbps และสามารถใช้ดู TV ได้ 3-5 ช่องพร้อมกันแบบสบายๆ ไม่มีติดขัด
ก่อน
ซื้อ Air card ทุกตัวขอแนะนำให้ตรวจสอบ slot ที่ติดมากับ Notebook ก่อน
โดย Air card ในปัจจุบัน จะมีทั้งหมดจำนวน 3 แบบ ซึ่งจะใช้ slot ของ
notebook ที่มีรูปร่างต่างกัน
- แบบแรกคือแบบดั่งเดิมนั่นคือใช้
slot PCMCIA ซึ่งเป็น slot ทั่วไปที่มีอยู่ใน notebook รุ่นก่อนปี 2549
จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดความกว้าง 54 mm
แต่รุ่นนี้จะมีราคาถูกที่สุด
- แบบที่สองจะเรียกว่า Express card
ซึ่งจะคล้ายๆกับแบบแรก แตกต่างกันตรงที่
รูปทรงจะเป็นสี่เหลี่ยมมีรอยหยักเข้าไปทางด้านหลังด้วย
แต่ขนาดความกว้างยังเท่าเดิมคือ 54 mm จะพบเห็นได้ตาม notebook
รุ่นใหม่ๆส่วนมากที่ผลิตหลังปี 2549
- แบบสุดท้าย แบบที่สาม
จะเป็นรุ่นใหม่ที่สุด และมีขนาดเล็กที่สุด ซึ่งจะมีความกว้างอยู่เพียงแค่
34 mm เท่านั้น จะเรียกกว่าเป็น Express card รุ่นใหม่ก็ได้
และรุ่นนี้จะมีราคาแพงกว่าสองรุ่นที่กล่าวมา
ทั้งนี้
ถ้าทีคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง การเลือกใช้ Air card ที่เป็นระบบ USB
จะเหมาะสมที่สุด เพราะจะสามารถนำไปใช้ได้กับคอมทุกเครื่อง ที่มี port USB
นั่นเอง
ข้อดีของการใช้ Air card เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของมือถือ
-
Aircard ไม่มีแบตเตอรี่ในตัว
เนื่องจากใช้ไฟฟ้าจากเครื่องคอมพิวเตอร์มาเลี้ยง
ในขณะที่โทรศัพท์มือถือยังจำเป็นจะต้องใช้แบตเตอรี่
แล้วโดยเฉพาะถ้าเชื่อมต่อกับกับคอมพิวเตอร์ผ่านระบบ Bluetooth
จะกินไฟค่อนข้างมาก
- ถ้ามีการรับสายและโทรออก
โดยปกติโทรศัพท์จะไม่สามารถใช้งาน GPRS/EDGE ได้
และถ้าใช้โทรศัพท์มือถือในการเชื่อมต่อกับกับคอมพิวเตอร์ เวลาใช้งาน
GPRS/EDGE ก็จะไม่สามารถใช้งานในส่วนของรับสายและโทรออกได้เช่นกัน
ทางออกก็คือ จะต้องทำ multi-sim
เพื่อที่สามารถใช้งานได้ทั้งส่วนของรับสายและโทรออกและใช้งาน GPRS/EDGE
ในเวลาพร้อมๆกันนั่นเอง
- นอกจากนั้น Air card
จะให้ความสะดวกสบายมากกว่า เพราะ มีขนาดเล็ก สามารถพกพา ใส่ไว้ใน Notebook
ได้ตลอดเวลา และพร้อมใช้งานทันที ในขณะที่โทรศัพท์มือถือนั้น
จะมีขนาดใหญ่กว่า ต้องเชื่อมต่อผ่านสายดาต้า หรือ Infrared/Bluetooth/Wifi
ก่อนการใช้งาน
ข้อมูลด้านเทคนิคอื่นๆอื่นๆ
-
เครือข่าย AIS มีการทดสอบระบบสัญญาณ 3G ณ ขณะนี้ 2 จุด คือ
ห้างสยามพารากอน และห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยคลื่น 900 MHz
และถ้าเปิดใช้ระบบอย่างสมบูรณ์จะใช้คลื่น 2100 MHz
- เครือข่าย DTAC และ TRUE จะมีการให้บริการ 3G ประมาณกลางปีนี้ ด้วยคลื่น 850 MHz
- เครือข่าย 3G ที่ใช้กันทั่วโลกเป็นคลื่น 850, 1900 และ2100 MHz (เป็นคลื่นที่นิยมใช้กัน)