happy memories
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2563
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
13 ตุลาคม 2563
 
All Blogs
 
๑๓ ตุลาคม น้อมรำลึกวันคล้ายวันสวรรคต ในหลวงรัชกาลที่ ๙





พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า

“ผู้ที่จะเป็นผู้สร้างพระบรมรูปของพ่อเรานั้น ต้องเป็นอาจารย์สันติเท่านั้น”


















วันที่เศร้าที่สุดของคนไทยเวียนกลับมาอีกครั้ง ถึงวันนี้ก็สี่ปีมาแล้ว แต่ความรู้สึกหัวใจสลายไม่เคยจางจากความรู้สึก แล้วยิ่งวันนี้ ทั้งได้เห็น ได้อ่านและฟังเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ท่าน ความรู้สึกไม่ต่างจากวันแรกที่ทราบข่าวเสด็จสวรรคต น้ำตาก็ยังไหลเหมือนเดิม ปีนี้ในหลวงพระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายสักการะ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ ปราสาทพระเทพบิดร พระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นผลงานปั้นของ อาจารย์สันติ พิเชฐชัยกุล ประติมากรมือทอง ผู้คว้ารางวัลศิลปะการปั้นบนเวทีการประกวดระดับโลกมากมาย เป็นศิลปินในดวงใจอีกท่านหนึ่ง เมื่อสองปีก่อนก็ได้ข่าวว่าอาจารย์กำลังปั้นพระบรมรูป ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เพิ่งจะทราบว่าผลงานของท่านได้รับเกียรติอย่างสูงสุด พระบรมรูปได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ในปราสาทพระเทพบิดร เห็นพระบรมรูปแล้วขนลุกเลยค่ะ อาจารย์ปั้นได้เหมือนเหลือเกิน ทั้งสีพระพักตร์และแววพระเนตร ขออนุญาตเป็นตัวแทนคนไทยกราบขอบคุณอาจารย์ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

วันนี้...๑๓ ตุลาคม เป็นวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร..พระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้...ตราบนิรันดร์







ประทับใจข้อเขียนของ คุณเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ กวี นักเขียนและคอลัมนิสต์ชื่อดัง ตอนนี้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา ท่านบรรยายความรู้สึกหลังจากทราบข่าวร้าย ขออนุญาตนำมาให้อ่านกันค่ะ

หกโมงเช้าของวันที่ ๑๓ ตุลาคมตามเวลาอเมริกาฝั่งตะวันออก จะเป็นวันที่จดจำไปชั่วชีวิต เพราะในขณะที่กำลังนอนหลับสบายอยู่นั้น มีสายโทรเข้าจากโปรแกรมไลน์ปลุกให้ลุกขึ้นรับ นาทีนั้นรู้สึกโมโหที่โดนปลุกแต่เช้าตรู่ ซึ่งปกติแล้วไม่ค่อยมีใครโทรมาหาจากเมืองไทยเท่าไหร่นัก ยังไม่ทันจะพูดอะไร เพื่อนผู้โทรมาเอ่ยเพียงสั้น ๆ ว่า

“ในหลวง...”

จากนั้นก็สะอื้นไห้ราวจะขาดใจ ดิฉันตัวเย็นวาบทำอะไรไม่ถูกได้แต่นิ่งฟังเสียงสะอื้นของชายอกสามศอกคนหนึ่งแล้วน้ำตาก็ไหลพรูจนมองไม่เห็นอะไรเบื้องหน้า นอกจากวันที่พ่อแม่จากไป วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ร้องไห้มากที่สุดและยาวนานที่สุด พยายามจะไม่ร้องไห้ แต่น้ำตาไม่เคยหยุดไหล ตั้งแต่เกิดมาจนป่านนี้เพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า "หัวใจสลาย" อย่างแท้จริง

คืนวันที่ ๑๓ ตุลาคมตรงกับช่วงบ่ายวันที่ ๑๔ ตุลาคมตามเวลาในประเทศไทย ดิฉันรอส่งเสด็จพระองค์สู่สวรรคาลัย เวลาในเมืองดิฉันนั้นเกือบจะตีห้าแล้วแต่ยังรอส่งเสด็จเป็นหนสุดท้ายถวายความรักและภักดีข้ามทะเลนับพันไมล์ พร้อมกับคนไทยทุกคนบนแผ่นดินไทย

ลูก ๆ ของพ่อแต่งชุดดำหลั่งไหลไป “ส่ง” พ่อด้วยความอาดูรพูนเทวษ ฟ้าหม่นครื้มราวอุ้มน้ำตาฟ้าไว้เต็มอก สองฝั่งถนนปราศจากเสียงตะโกน "ทรงพระเจริญ" มีแต่ความเงียบและเสียงร้องไห้ของประชาชนที่มาส่ง "พ่อ" แว่วมาถึงอเมริกา

ไม่ใช่เพียงคนไทยบนผืนแผ่นดินไทยเท่านั้นหรอกที่ทุกข์แสนสาหัส คนไทยทั่วทุกมุมโลกต่างก็สะอึกสะอื้นและเสียขวัญไม่แตกต่างกัน เมื่อสิ้นร่มโพธิสมภารอันยึดเหนี่ยวหัวใจของเราไว้กับแผ่นดินเกิด แม้จะไม่สามารถกลับไปกราบสักการะพระบรมศพได้ที่เมืองไทย แต่ขอก้มกราบพ่อหลวงด้วยดวงใจอันแหลกสลายจากแดนไกลก็ยังดี

คนไทยบางส่วนไปถวายความจงรักภักดีต่อในหลวงที่จัตุรัสภูมิพลอดุลยเดช รัฐแมสซาชูเซตส์ บางคนก้มกราบกับพื้นดินแล้วทรุดซบหน้าร้องไห้อยู่กับพื้นเป็นเวลานานด้วยความเศร้าท่วมท้นล้นหัวใจ ดิฉันเข้าใจความทุกข์นั้นอย่างที่สุด นี่คงที่สุดแล้วของความเศร้าทั้งมวล ไม่มีใครรู้หรอกว่าในใจคนไกลบ้านแต่ละคนนั้นโดดเดี่ยวขนาดไหน และความโดดเดี่ยวประเภทนี้เยียวยาไม่ได้ เพราะไม่มีที่ไหนเหมือนแผ่นดินเกิด

ในหลวงคือศูนย์รวมดวงใจของคนไทยทั้งโลกอย่างแท้จริง เมื่อสิ้นพระองค์จึงเหมือนสายใยบางๆ ระหว่างบ้านแห่งที่สองกับแผ่นดินเกิดขาดสะบั้น เหมือนชิ้นส่วนหัวใจขาดหายและไม่มีวันเติมเต็มอีกต่อไป


จาก เพจเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้















...ครบสี่ปี ที่ลูกไทย ต้องไร้พ่อ
ใจมันท้อ ใจมันทุกข์ สุขไม่ไหว
ใส่เสื้อดำ ใจก็ซ้ำ มืดดำไป
ยิ้มยังยาก หากเมื่อใด ใจคำนึง

...โบราณกล่าว คราวไร้พ่อ เหมือนถ่อหัก
มันไร้หลัก ไร้ทิศทาง ร้างที่พึ่ง
ยังหวนไห้ ยังโหยหา ยังตราตรึง
ว่าก่อนนั้น ฉันซาบซึ้ง ถึงบารมี

...ร้องจนท้อ ต่อนี้ไป ไม่มีแล้ว
ร่มโพธิ์แก้ว เกล้าเป็นสุข ทุกวันนี้
เห็นยอดเม รุมาศใหญ่ ใจไม่ดี
หวนคำนึง ถึงนาที ที่ขาดใจ

...โอ้พ่อจ๋า พ่อคืนลับ กลับสวรรค์
จะคิดถึง ลูกทุกวัน เหมือนกันไหม
ลูกกราบพ่อ กราบรูป ธูปเทียนชัย
ระลึกใน พระมหา กรุณาธิคุณ

...เกิดชาตินี้ มีบุญนัก ได้รักพ่อ
หากบุญลูก ผูกพันพอ ขอเกื้อหนุน
ให้ชาติหน้า เกิดใต้ฟ้า ธ เจือจุน
ขอผลบุญ หนุนบรรจบ พบชะตา

...ขอเกิดเป็น ข้าฯรองบาท ทุกชาติไป
ขออาศัย บุญแห่งพ่อ ต่อชาติหน้า
ร่มโพธิ์ใหญ่ ลูกอาศัย แต่ไรมา
ขอกราบลา พ่อคืนฟ้า พ่อภูมิพล...



ข้าพระพุทธเจ้า
นายอาทิตย์ กรรณิการ์
ศิลปินอิสระและครูสอนศิลปะ
ผู้ประพันธ์ และผู้วาดภาพ
จาก เพจ Arthit Kannikar








นับเป็นเกียรติภูมิ และความภาคภูมิใจที่สุดของชีวิตอีกครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ อาจารย์สันติ พิเชฐชัยกุล จัดสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์ประดิษฐานบนปราสาทพระเทพบิดรในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง เคียงข้างพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ ถึงรัชกาลที่ ๘




ความรู้สึกของอาจารย์ท่วมท้นจนบรรยายความรู้สึกใด ๆ ไม่ถูก มีเพียงแต่ความศรัทธาและตั้งมั่นในใจอย่างแรงกล้าว่า

“จะทุ่มเทกำลังใจ กำลังกาย ในการปั้นพระบรมรูปในหลวงรัชกาลที่ ๙ อย่างเต็มกำลัง อย่างสุดความสามารถ สุดฝีมือ และจะไม่ทำให้พระองค์ทรงผิดหวัง”




ผ่านมาถึง ๒ ปี ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้จาก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ พระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ จึงเสร็จสมบูรณ์ และวิจิตรงดงามยิ่งนัก

โดยพระบรมรูปมีความสูงจากพระบาทถึงพระเศียร ขนาด ๑๗๒ เซนติเมตร ความสูงฐานพระบรมรูปขนาด ๗ เซนติเมตร ความสูงรวมขนาด ๑๗๙ เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง ๕๐ เซนติเมตร น้ำหนักรวม ๑๕๖ กิโลกรัม หล่อด้วยโลหะบรอนซ์ ซึ่งเป็นวัสดุผสมระหว่างทองแดงกับโลหะผสมอื่น ๆ และมีทองแดงอยู่ร้อยละ ๖๐-๙๘ ที่เหลือเป็นโลหะผสมอื่น ๆ 





นับเป็นเกียรติประวัติของศิลปินคนหนึ่งของประเทศไทย และของโลก ที่มีผลงานและรางวัลในระดับโลกอันมากมาย และด้วยผลงานการสร้าง พระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ เป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิต เป็นโอกาสที่หาที่ใดไม่ได้อีกแล้วในชีวิตนี้ เป็นจารึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญและความภาคภูมิใจของ ตระกูล “พิเชฐชัยกุล” ที่จะถูกบันทึกและจารึกไว้ในใจตลอดไปจนชั่วลูกชั่วหลาน




“รูปปั้นของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชิ้นงานศิลปะ แต่เป็นการเก็บบันทึกเรื่องราวความทรงจำในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระองค์ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้เก็บไว้เป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำ ทำให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ว่า ครั้งหนึ่งเรามีพระมหากษัตริย์ไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก มหาราชซึ่งมีความห่วงใย และปลดปล่อยความทุกข์ยากในใจของพสกนิกรไทยมาตลอดนับแต่ทรงครองราชย์มาอย่างยาวนานถึง ๗๐ ปี”




พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้าง พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์ประดิษฐานบนปราสาทพระเทพบิดรในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง เคียงข้างพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ ถึงรัชกาลที่ ๘ โดยเมื่อวันจักรีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพิธีประดิษฐานและสมโภชพระบรมรูปในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไว้ที่ปราสาทพระเทพบิดรแห่งนี้ ซึ่งเป็นประจำทุกปีในวันที่ ๖ เมษายน ตรงกับวันจักรี และวันที่ ๕ พฤษภาคม วันฉัตรมงคล หรือวันสำคัญต่าง ๆ ปราสาทพระเทพบิดรจะเปิดให้พสกนิกรเข้าถวายบังคมพระบรมรูปล้นเกล้าฯ ทุกรัชกาล เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบชั่วนิรันดร์




ในวันที่  ๖ เมษายน ๒๕๖๓ ในเวลา ๑๘.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จฯ ลงยังหน้าพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เพื่อทรงประกอบพิธีบวงสรวง พระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเคลื่อนริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมรูปจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อประกอบพิธีประดิษฐานและสมโภช ณ ปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง



     
ประติมากรเอกระดับโลกนักปั้นแห่งจิตวิญญาณ อ.ดร.สันติ พิเชฐชัยกุล คือศิลปินที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงไว้วางพระราชหฤทัยให้เป็นผู้ปั้นพระบรมรูปในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นพระบรมรูปทรงยืนสง่างาม มีความสูงจากพระบาทถึงพระเศียร ๑๗๙ เซนติเมตร ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ พระหัตถ์ซ้ายทรงถือพระแสงกระบี่หล่อด้วยโลหะบรอนซ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ มาทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระบรมรูปในหลวงรัชกาลที่ ๙ เมื่อวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๒ บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม




อ.ดร.สันติ พิเชฐชัยกุล กล่าวว่า ผลงานพระบรมรูปในหลวง รัชกาลที่ ๙ เป็นการทำงานศิลปะให้ดีที่สุดเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณทรงไว้วางพระราชหฤทัยให้ตนได้ใช้ความรู้ความสามารถทางด้านศิลปะปั้นพระบรมรูปรัชกาลที่ ๙ ตนอยากตอบแทนบุญคุณพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ทรงก่อตั้งโรงเรียนศิลปะให้เกิดขึ้นทั่วประเทศไทย ทรงส่งเสริมการเรียนการสอนศิลปะ สร้างครูบาอาจารย์ด้านศิลปะ ทำให้ตนเองได้ร่ำเรียนและมีวิชาชีพเป็นศิลปิน ได้ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมจนทุกวันนี้ อยากแสดงความกตัญญูที่มีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จากบทบาทหน้าที่ประติมากรของตนเอง 


 
     
“ รู้สึกปลาบปลื้มใจที่ได้ถวายงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เข้าเฝ้าฯ ๒ ครั้ง พระจริยวัตรงดงาม ไม่ถือพระองค์ ทรงตรวจงานเมื่อนำต้นแบบให้ทอดพระเนตร พร้อมพระราชทานคำแนะนำในการปรับปรุงแก้ไขพระพักตร์ ช่วยให้พระบรมรูปรัชกาลที่ ๙ เกิดความสง่างาม เหมือนจริง รับสั่งต้องเป็นคนนี้ที่จะปั้นพ่อของเราเท่านั้น " อ.ดร.สันติ เผยความรู้สึก




ประติมากรเอกระดับโลก บอกว่า แม้จะผ่านงานปั้นมามากมาย ทั้งหุ่นรูปเหมือนบุคคล หุ่นรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ หุ่นปั้นพระพุทธเจ้า แต่การปั้นพระบรมรูปรัชกาลที่ ๙ ยากที่สุด รู้ว่านี่คือพ่อหลวงของปวงชน พระพักตร์จึงทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา บุคลิกภาพสง่างาม ตั้งใจปั้น ส่วนพระเนตรมองลงต่ำ พระศอก้มลง เปรียบเหมือนทรงรับการถวายบังคมของพสกนิกรที่เข้ามาในปราสาทพระเทพบิดร อีกขั้นตอนที่ยากไม่แพ้กัน ด้วยพระบรมรูปทรงชุดครุยเต็มยศ มีลวดลายพุ่มทรงข้าวบิณฑ์และเหรียญประดับ เราทำลวดลายหล่อขึ้นรูปทีละชิ้น ๆ แล้วนำมาร้อยเรียงประกอบให้พอดีกัน แม้แต่กระบี่ที่ทรงถือใส่รายละเอียดครบถ้วน มีตัวอักษรที่อ่านได้ชัดเจน



     
“ ผมเริ่มปั้นขึ้นรูปด้วยดินวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๐ จนพระบรมรูปในหลวง รัชกาลที่ ๙ เสร็จกลางเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๒ เป็นเวลา ๒ ปีที่ผมหยุดงานทุกอย่างเพื่อทำรูปปั้นพ่อ ใช้วิชาความรู้บวกกับประสบการณ์ทำงานทำให้ดีที่สุด โดยมีเพื่อน รุ่นน้อง และลูกศิษย์ร่วมด้วยช่วยกัน ทุกคนมาด้วยใจ ในหลวง ร.๙ ทรงเป็นพ่อของทุกคน และพ่อสอนว่าสามัคคีคือพลัง ผมนำทุกคำสอนพ่อมาปั้นพระองค์ท่าน ตลอดจนใช้ในการดำเนินชีวิต สำหรับเสียงชื่นชม เมื่อผลงานปรากฏออกมาไม่ได้หลงตัวเอง รู้สึกขอบคุณและมีความสุขเมื่อคนเห็นรูปปั้นแล้วนึกถึงพระองค์ท่าน ถือเป็นเกียรติประวัติของครอบครัว ครูบาอาจารย์ และสถานศึกษา" อ.ดร.สันติ กล่าว




ศิลปินประติมากรมือหนึ่งกล่าวว่า การปั้นพระบรมรูปรัชกาลที่ ๙ เป็นประติมากรรมชิ้นสำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต พระบรมรูปเก็บรักษาความดีงามของพระองค์เอาไว้ ทั้งยังเป็นตัวแทนพระองค์ท่าน เพื่อให้คนรุ่นหลังได้น้อมรำลึกและจดจำคำสอนของพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ทรงรักและห่วงประชาชนตลอด ๗๐ ปีครองราชย์ อยากให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในหลวง ร.๙ และร่วมทำความดีเพื่อบ้านเมือง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น สืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว




รับรางวัล "คนดีศรีแผ่นดิน ตามรอยธรรมราชา" ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๒
เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ที่วัดบวรนิเวศน์ฯ

     
ในท้ายนี้ ประติมากรผู้จงรักภักดีกล่าวว่า ไม่เคยคิดว่าจะได้มีโอกาสแบบนี้ เป็นแค่ความฝันที่ไม่อาจจะฝันได้ แต่ก็เป็นจริงไปแล้ว ตอนเด็กวัย ๖ ขวบ พ่อแม่พานั่งรถโดยสารจากอำเภอชุมพวงบ้านเกิดมากราบรูปปั้นย่าโมในเมืองโคราช เมื่อเห็นก็ประทับใจและเกิดความชอบรูปปั้นย่าโม มารู้ทีหลังว่าเป็นฝีมือการปั้นของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี อยากจะปั้นเป็นและอยากเก่งเหมือนท่าน กระทั่งเข้าเรียนศิลปกรรมฯ เทคโนฯ โคราช ตอนหัดเรียนปั้นมีโอกาสปั้นตามรูปปั้นเหมือนจริงหุ่นปูนพลาสเตอร์ของอาจารย์ศิลป์ ตนแค่อยากจะปั้นให้พอเป็นมืออาชีพเลี้ยงตัวเองได้ แต่ไม่นึกไม่ฝันวันนี้จะได้สร้างผลงานประติมากรรมรูปปั้นชิ้นที่สำคัญในชีวิต และนำไปประดิษฐานในปราสาทพระเทพบิดร วางไว้เคียงข้างกับผลงานปั้นของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ซึ่งเป็นไอดอลของตนเอง











คลิกชมนิทรรศการที่อาจารย์เคยจัดแสดงที่เวิร์ดเทรดเมื่อปลายปี ๒๕๕๗
บล็อกมือแห่งนักปั้นฝัน

ประวัติและผลงานของอาจารย์
suntiworldartthai.com


youtube.com




youtube.com




ประวัติและผลงานของอาจารย์สันติ


พระบรมรูป พระบรมฉายาลักษณ์ ภาพและข้อมูลจาก
thaipost.net
nationtv.tv
suntiworldartthai.com
เพจ Sunti Pichetchaiyakul อ. สันติ พิเชฐชัยกุล























บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่
กรอบจากคุณ ebaemi และคุณ KungHangGerman

Free TextEditor





Create Date : 13 ตุลาคม 2563
Last Update : 11 ตุลาคม 2566 21:02:42 น. 0 comments
Counter : 2820 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสองแผ่นดิน, คุณnonnoiGiwGiw, คุณSleepless Sea, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณเริงฤดีนะ, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณปรศุราม, คุณThe Kop Civil, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณtoor36, คุณkatoy, คุณเนินน้ำ, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณหอมกร, คุณInsignia_Museum, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณnewyorknurse, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณmcayenne94, คุณRinsa Yoyolive


haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.