happy memories
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2562
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
18 ตุลาคม 2562
 
All Blogs
 
พระมหากรุณาธิคุณจารึกในใจไทยชั่วกาล...




พระบรมสาทิสลักษณ์จาก เพจ Sun Burst Gallery




ยังไม่พ้นเดือนตุลาคม ขออัพบล็อกถวายอาลัยต่ออีก อัญเชิญพระบรมสาทิสลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผลงานของ คุณเบิร์ด อาทิตย์ กรรณิการ์ เจ้าของเพจ Arthit Kannikar มาให้ชมค่ะ คุณเบิร์ดเป็นศิลปินวาดภาพเหมือนฝีมือเยี่ยม วาดพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ได้งดงามมาก ๆ และเมื่อวันที่ ๑๓ ที่ผ่านมา ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ได้ปาฐกถาเทิดพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ศาลาศิริราช ๑๐๐ ปี เสียดายที่ไม่ได้ไปฟังด้วยตัวเอง โชคดีมีคนโพสเนื้อหาที่ท่านพูดไว้ เอามาให้เพื่อน ๆ อ่านกันค่ะ













...น้ำตาพราก กระชากไทย ให้ไหวหวั่น
ร่มโพธิ์นั้น ท่านคุ้มใจ ไทยทั้งผอง
เคยสิ้นทุกข์ อยู่ร่มสุข ดั่งยุคทอง
สิ้นเรืองรอง จึ่งร้องร่ำ ช้ำทุกชน

...โอ้พ่อหลวง ของปวงข้าฯ คราสิ้นแล้ว
ดุจดวงแก้ว แห่งดวงใจ ไทยทุกหน
แตกสลาย กลายเป็นเสี่ยง เพียงบัดดล
ทุกกมล พลันยลแยบ แปลบหัวใจ

...ธ ทรงธรรม นำสร้าง ทางเจริญ
ทรงดำเนิน กรณี-ยกิจสมัย
ทศพิศ-ราชธรรม นำปวงไทย
ให้ร่มเย็น เป็นสุขใจ แต่ไรมา

...เจ็ดสิบปี ที่สละ พระวรกาย
อุปสรรค หนักมากมาย ในเบื้องหน้า
ดุจโซ่ตรวน ทรงประชวร เพราะประชา
ทรงแบกทับ ทรงรับมา ภาระตน

...ธ ทรงงาน เพื่ออำนวย ช่วยชาวไทย
ให้พอกิน พอใช้ ในทุกหน
ให้วิชา "พอเพียง" ไว้เลี้ยงชน
ให้ผู้คน ยลย่าง อย่างยั่งยืน

...แต่นี้ไทย ไร้แสงทอง ส่องชีวี
ไร้ผู้สร้าง ทางความดี ที่เคยชื่น
มือไม้สั่น พลันอดสู ดูกล้ำกลืน
ผวาตื่น เหมือนเทียนดับ ลับนิรันดร์

...เช่นสายฝน ป่นโปรย โรยดินแห้ง
ให้สิ้นแล้ง สิ้นทุกข์ เกิดสุขสรรค์
เห็นพายุ ที่พัดผ่าน สิ้นกาลพลัน
แสงตะวัน ก็สิ้นลับ ดับแสงทอง

...โอ้ดวงใจ หทัยราษฐ์ ชาติเสียสูญ
ให้อาดูร ทุกดวงใจ ไทยเศร้าหมอง
กี่คืนค่ำ ต้องร้องร่ำ น้ำตานอง
เพราะไร้สิ้น แผ่นดินทอง ของภูมี

...ขอเป็นข้าฯ รองพระบาท ทุกชาติไป
จะหาใคร เทียมองค์ได้ ในภพนี้
ห้าธันวา จะล้ำค่า กว่าทุกปี
ส่งเสด็จ พระภูมี คืนพิมาน


ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า นายอาทิตย์ กรรณิการ์
จาก เพจ Arthit Kannikar






๑๓ ตุลาคม วันคล้ายวันสวรรคต

"พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร "

ใต้ร่มพระบารมีแห่งการครองราชย์ด้วยทศพิธราชธรรม

น้อมศิระกรานกราบแทบพระยุคลบาท ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ตราบนิจนิรันดร์


ข้าพระพุทธเจ้า บล็อกเกอร์ไฮกุและครอบครัว





Sprinkles of grievous rain
On that day three years ago
Still, touch the tears in my heart
Again, my heart and soul
Drown in devastation.

สายฝนแสนเศร้าโปรยปราย
ในวันนั้นเมื่อสามปีที่แล้ว
กระเซ็นต้องน้ำตาในหัวใจอยู่ไม่วาย
ความอาดูรท่วมท้น
จิตวิญญาณฉันอีกครา

haiku










































๑๐



๑๑



๑๒



๑๓



๑๔



๑๕



๑๖



๑๗



๑๘



๑๙



๒๐



๒๑



๒๒



๒๓



๒๔



๒๕



๒๖



๒๗



๒๘



๒๕



๒๖



๒๗



๒๘



๒๙


คุณเบิร์ดตอนวัยละอ่อนอยู่


๓๐



๓๑



๓๒




พระบรมสาทิสลักษณ์และภาพจาก
เพจ Arthit Kannikar
เพจ Sun Burst Gallery







ดร.สุเมธ'ยก ๒๗ ‘คำสอนพ่อ' ถ่ายทอดให้ประชาชนปฏิบัติ



เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๒ ในช่วงบ่าย ที่ศาลาศิริราช ๑๐๐ ปี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ปาฐกถาเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหัวข้อ "ตามรอยพ่อ" โดยมีคณะผู้บริหาร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พร้อมด้วยประชาชนทั่วไปร่วมรับฟัง

ดร.สุเมธ กล่าวความตอนหนึ่งว่า
“เชื่อว่าใครก็ตามคงยากที่จะลืมความรู้สึกนั้นได้ คือความรู้สึกที่ไม่นึกคิด ไม่คาดฝัน ภายหลังพระองค์เสด็จสวรรคต ผมตั้งสติอยู่หลายวัน พอตั้งสติได้ ก็มานึกถึงคำสั่งเสียของพระองค์ที่พระราชทานให้ผมในครั้งสุดท้ายที่ผมได้เข้าเฝ้าฯ ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นคำ ๓ คำที่เหมือนกันว่า "สุเมธ งานยังไม่เสร็จนะ งานยังไม่เสร็จ งานยังไม่เสร็จ สุเมธ" ทรงไม่หวงพระวรกายจนวาระสุดท้าย
.
ทั้งนี้ เมื่อย้อนดูบทเรียนที่พระองค์ได้พระราชทานไว้มีเยอะเหลือเกิน แต่ไม่มีใครจดบันทึกอย่างสนใจ เพราะส่วนใหญ่จะบันทึกถึงเนื้องาน ไม่ค่อยจดบันทึกรับสั่งซึ่งนั่นคือคำสอนทั้งสิ้น ผมภายหลังถวายงานได้ ๗ - ๘ ปี รับรู้ว่าคนรุ่นใหม่นับวันจะมาเรื่อย ๆ คนรุ่นเก่าค่อย ๆ จากไป จึงพยายามบันทึกคำสอนของพระองค์ ซึ่งเดิมทีเคยรวบรวมไว้ ๑๔ ข้อ ภายหลังมี นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี มาเพิ่มให้ในการบรรยายอีก ๔ - ๕ ข้อ และสุดท้ายที่ผ่านวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ซึ่งถือว่าได้จบบทเรียนแล้ว ผมจึงทบทวนความจำสรุปลงเอยได้ ๒๗ ข้อ แบ่งเป็น ๓ หมวด ได้แก่

หลักธรรม

หลักคิด

และหลักปฏิบัติ


เพื่อจะเดินตามรอยในหลวง รัชกาลที่ ๙ ดังนี้

#หลักธรรม คือต้องเป็นคนดี เพราะให้เก่งยังไงหากไม่มีความดีแล้ว จะทำลายชาติบ้านเมือง ยิ่งเก่งจึงยิ่งทำลาย ฉะนั้นหลักธรรมเสมือนฐานราก พระองค์จึงเริ่มสอนที่ความดีก่อน

๑. ซื่อสัตย์ สุจริต และจริงใจต่อกัน ผมถวายงานมา ๓๕ ปี ไม่เคยมีวันใดที่พระองค์จะรับสั่งด้วยอารมณ์ และพระหัตถ์สั่น (แต่)สาปแช่งถึง ๓ ครั้งว่า "ใครทุจริตคอรัปชั่นขอให้มีอันเป็นไป" เพราะตราบใดการคอรัปชั่นยังไม่หมดไป บ้านเมืองก็เจริญได้ยาก

๒. อ่อนน้อมถ่อมตน พระองค์สอนถึงกริยามารยาท แม้พระองค์จะอยู่สูงสุดแต่เวลาเสด็จฯเยี่ยมราษฎรก็จะลงมานั่งพับเพียบกับดินกับทราย ผมเคยตามเสด็จใส่กางเกงตัวใหม่ไป ดูโก้ว่าจะได้ออกทีวี แต่พอไปนั่งอย่างนั้นกางเกงทะลุเลย หลังจากนั้นจึงต้องใส่กางเกงตัวเก่าไปตลอด

๓. ความเพียร พระองค์ทรงทำให้ดูหมดเลย ไม่ใช่ทำเพราะกล้องทีวีจับ แต่ทำมา ๗๐ ปี ที่ไปตรากตรำอยู่ต่างจังหวัด ๘ เดือนต่อปี ตั้งแต่เชียงใหม่ สกลนคร หัวหิน นราธิวาส จนทำให้กระดูกสันหลังของพระองค์ทรุดต้องเข้าโรงพยาบาล จริง ๆ ผมก็ทรุด แต่โชคดีว่าไม่ต้องผ่าตัด

“๓๕ ปีที่ตามเสด็จฯ พระองค์ไม่ทรงปริพระโอษฐ์แม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าสภาพอากาศร้อน ฝน เส้นทางจะทุรกันดารอย่างไร ทรงมีความเพียรอย่างมาก ทำให้ผู้ติดตามมีความเพียรและไม่ปริปากบ่นไปด้วย ทรงมีศิลปะการสอนสูงเลย"

๔. รู้รักสามัคคี ทำอะไรจะต้องรู้รักสามัคคี อย่าเก่งคนเดียว เหมือนโรงพยาบาลศิริราชที่ก่อสร้างอาคารใหญ่โตได้ ก็มาจากความร่วมมือร่วมใจที่จะสร้างประโยชน์ถาวรยั่งยืนให้ประเทศ

๕. ทำเรื่อย ๆ ทำแบบบสังฆทาน คือไม่ต้องมีใครมาบอกมากล่าว แต่ว่าทำเรื่อย ๆ ทำทุกสิ่งที่เป็นประโยชน์ ซึ่งพระองค์ทำให้ไม่เลือกหน้า ไม่ว่าคนต่างด้าว หรือใครก็ทำให้หมด ทรงเป็นยิ่งกว่าพระ ที่ให้ด้วยความเต็มพระทัยทุกครั้ง

๖. มีความสุขในการทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น ย้อนไปตอนก่อตั้งสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เมื่อปี ๒๕๒๔ ผมมีโอกาสได้ถวายงานพระองค์ครั้งแรก ทรงมีรับสั่งว่า "ขอบใจนะที่จะช่วยฉันทำงาน มาช่วยฉันทำงานไม่มีอะไรจะให้ นอกจากความสุขร่วมกันที่จะทำให้กับผู้อื่น" ตอนนั้นผมฟังแล้วก็ตกใจ เพราะเข้าใจว่าความสุขคือของเราเอง ที่ได้จากการซื้อของแบรนด์เนม กระทั่งมาเข้าใจภายหลังว่า ทุกสิ่งที่ทรงทำให้ผู้อื่นมีความสุข เป็นการทำบนความเหนื่อยขอพระองค์แต่เป็นความสุขของพระองค์ รวมถึง หลักคิด พระองค์ทรงสอนว่าอย่าวู่วามในการลงมือทำ เพราะอาจสร้างความเสียหายได้

๗. ศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ ทำงานอย่างผู้รู้จริง ซึ่งพระองค์ก่อนทรงงานอะไร ทรงตรองแล้วตรองอีก ดูตั้งแต่สภาพกายภาพธรรมชาติ มนุษย์ เรียกว่าทรงเตรียมข้อมูลเพียบ เมื่อถึงเวลาเสด็จฯ ยังทรงสอบถามข้อมูลกับชาวบ้านว่าข้อมูลของพระองค์จริงไหม ให้ลองวาดแผนที่ให้ดู

๘. จากข้างใน ที่จะต้องพัฒนากับคนที่พร้อมจะพัฒนา ยกตัวอย่างการตัดถนนเส้นใหม่ให้ชาวบ้าน กลายเป็นว่าชาวบ้านเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวก เห็นบ้านโน่นมีโทรทัศน์ก็ไปซื้อบ้าง สุดท้ายเป็นหนี้สิน ไม่มีใครมีรถยนต์ที่จะใช้ประโยชน์จากถนนที่แท้จริง

๙. ทำตามลำดับขั้น ทรงสอนง่าย ๆ ว่าเวลาขึ้นบันได ต้องขึ้นทีละขั้น แม้จะก้าวขึ้นทีละ ๒ - ๓ ขั้นก็ได้ แต่จะเสี่ยงล้มหรือไม่

๑๐. ภูมิสังคม คือทำอะไรต้องเคารพภูมิประเทศและเคารพคน เพราะสภาพพื้นที่และสภาพคนแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน จะใช้มาตรการเดียวแก้ปัญหาเหมือนกันไม่ได้ ฉะนั้นแต่ละโครงการพระราชดำรินั้น ทรงวางให้สอดคล้องกับภูมิสังคมและคน ซึ่งจะต้องศึกษาหมด

๑๑. องค์รวม เวลาดูเพื่อจะพัฒนาอะไร ทรงพิจารณาครบทุกมิติ เช่น โครงการชลประทาน จะทรงพิจารณาว่าใช้น้ำระดับนี้จะเหมาะกับพืชอย่างไร เป็นต้น

๑๒. ประหยัด เรียบง่าย และได้ประโยชน์สูงสุด ยกตัวอย่าง วัดพระรามเก้า ที่เป็นวัดแห่งเดียวที่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงสร้าง เดิมมีงบก่อสร้าง ๑๓๐ ล้านบาท แต่สุดท้ายทรงตัดเลข ๐ ออก เหลือ ๑๓ ล้านบาท โดยทรงมีพระราชประสงค์อยากให้เป็นวัดเล็ก ๆ ที่เรียบง่าย เน้นเผยแพร่ศาสนาหลักคำสอน

๑๓. ขาดทุนคือกำไร บางครั้งการทำงานก็อย่าไปคิดถึงผลกำไร อย่างทรงช่วยเหลือราษฎรยากจนซึ่งในทางเศรษฐกิจมองว่าไม่คุ้มค่า ทรงมีรับสั่งว่าอย่าไปคิดเรื่องขาดทุนกำไร ทรงช่วยเหลือโดยใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างไรให้ขาดทุนน้อยที่สุด

๑๔. ปลูกป่าในใจคน วันนี้มีคนเผาป่ามากมาย เพราะเราให้รัฐดูแลป่า พอพ้นเวลาราชการก็ไม่มีใครดูแล แต่ไม่ได้ให้คนดูแลป่า ฉะนั้นต้องปลูกฝังในหัวใจคน ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าป่าเป็นของเขา อยากลุกขึ้นเฝ้าป่า ๒๔ ชั่วโมง เมื่อนั้นป่าถึงจะอยู่รอด

๑๕. ธรรมชาติ ช่วยธรรมชาติ พระองค์ทรงบรรลุถึงปรากฏการณ์ธรรมชาติ อย่างปัญหาดินถล่มจนนำมาซึ่งโครงการหญ้าแฝกที่ลักษณะทางธรรมชาติจะปล่อยรากลงทางลึก เรื่องนี้มีมา ๑,๐๐๐ ปีไม่มีใครเจอประโยชน์ แต่พระองค์เจอประโยชน์ ก็มอบให้ผมไปบอกชาวบ้านปลูกหญ้าแฝก ตอนแรกชาวบ้านก็ไม่เชื่อ ก็ทรงให้ทำเป็นตัวอย่างให้ชาวบ้านเห็นก่อน เมื่อชาวบ้านเห็นและเข้าใจ เขาถึงอยากพัฒนา

๑๖. ธรรมปราบอธรรม ที่บึงมักกะสัน หลังซอยศูนย์วิจัย ในอดีตเคยมีผักตบชวาหนาแน่นจนเดินผ่านได้ พระองค์ก็ทรงใช้ไม่ไผ่มาวางกันแบ่งผักตบชวาเป็นล็อค ๆ ให้แสงลงไปบ้าง ปรากฏว่าเป็นกระบวนการฟอกโดยธรรมชาติ ที่ผลสุดท้ายได้น้ำสะอาด โดยไม่ต้องเสียค่าไฟอะไรเลย

๑๗. ประโยชน์ส่วนรวม ต้องเอาประโยชน์ส่วนรวมมาเป็นที่ตั้ง ยุคสมัยนี้ที่ประชากรเพิ่ม หากใครมีใครใช้โดยไม่คำนึงถึงทรัพยากรส่วนรวม ก็คงเหลือไม่ถึงรุ่นลูกหลาน

๑๘. การพึ่งตัวเอง ทรงปรับสภาพพระองค์เองให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ทรงไม่เรียกร้องอะไร

๑๙. เศรษฐกิจพอเพียง เดินทางสายกลาง พอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน ข้อนี้เชื่อว่าคนไทยคงเคยได้ยินและรู้ดีอยู่แล้ว

และหลักปฏิบัติ ซึ่งเป็นข้อสำคัญที่จะสำเร็จได้ต้องมีหลักธรรม และหลักคิดที่ดีก่อน

๒๐. เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ที่เราต้องเข้าใจเขาและเขาเข้าใจเราก่อน นี่คือสิ่งที่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงดำเนินในการพัฒนา ส่วนการลงไปเยี่ยมชาวบ้านและมีการสื่อสารสองทาง ทำให้ได้เข้าถึงอย่างแท้จริง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาได้

๒๑. แก้ปัญหาที่จุดเล็ก เพราะการแก้ปัญหาในจุดเล็กสามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาจุดใหญ่ได้

๒๒. ไม่ติดตำรา ทำให้ง่าย ในการทำงานจะมายึดติดและอ้างตำราอย่างเดียวไม่ได้

๒๓. ให้ประชาชนมีส่วนร่วมตลอดเวลา ซึ่งพระองค์ไม่ว่าทรงทำอะไร จะทรงทำประชาพิจารณ์สอบถามชาวบ้านตลอดว่าคิดทำโครงการมาแล้วเอาไหม หากไม่เอาก็ต้องปรับจนเห็นพ้องต้องกันจึงได้ทำ โครงการพระราชดำริจึงเกิดจากความเต็มใจจริง ๆ ถึงจะทำ จะไม่มีการเวนคืนที่ดิน

๒๔. พออยู่พอกิน ทรงสอนไว้เหมือนตาเห็น จากประชากรที่เพิ่มขึ้น ทำให้มนุษย์ก่อสงครามแย่งทรัพยากรกันแล้ว ต่อไปจะแย่งน้ำกัน วันนี้คนมากกว่าของแล้ว ถึงได้ก่อสงครามกันทั่วโลก ไทยเรายังดีเป็น ๑ ใน ๑๐ ประเทศที่ยังอุดมสมบูรณ์ แม้จะมีการตัดไม้ทำลายป่ากันทุกวัน

๒๕. บริการรวมที่จุดเดียว เวลาทรงงานช่วยเหลือราษฎร ทรงคิดว่าทำอย่างไรจะให้บริการประชาชนเบ็ดเสร็จในที่เดียวเลย

๒๖. ร่าเริง รื่นเริง คึกคัก และคึกครื้น จะช่วยทำให้งานสำเร็จ ร่าเริงคือร่าเริงกับตัวเอง รื่นเริงคือรื่นเริงในกลุ่ม ยิ้มหัวเราะให้เพื่อนร่วมงาน ทำงานต้องให้ความรื่นเริง ยิ่งหากมีความคักคึกและคึกครื้นก็จะทำให้มีพลังทำงานอย่างเกิดผลด้วย ฉะนั้นจะทรงบอกว่า “ทำงานต้องสนุกนะ ไม่สนุกเดี๋ยวจะเบื่อ งานจะไม่สำเร็จเอา” จึงทรงมีพระอารมร์ขันทุก ๑-๒ นาทีมาตลอดให้พวกเราได้อารมณ์ขัน

๒๗. ชัยชนะของการพัฒนา ทรงมีพระราชดำริให้ผมไปจดทะเบียนตั้งมูลนิธิชัยพัฒนา ตอนแรกเจ้าหน้าที่รับจดทะเบียน ก็สอบถามตำแหน่งนายกมูลนิธิว่าคือใคร อยู่ที่ไหน เบอร์โทรศัพท์อะไร ผมก็ตอบไม่ได้ กระทั่งเจ้าหน้าที่มาเห็นชื่อพระองค์จนแทบทรุดจากโต๊ะและจดผ่านไป ผมก็นำความไปกราบบังคมทูลว่าเกือบจดทะเบียนไม่ได้ เพราะไม่รู้ที่ตั้งและอาชีพของพระองค์ ทรงรับสั่งว่า ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าสวนจิตรลดาเลขที่เท่าไหร่ แต่ในส่วนอาชีพนั้น ให้ระบุว่าอาชีพทำราชการ อย่างไรก็ตาม การต่อสู้กับความยากจน สิ่งแวดล้อม ก็เหมือนการทำสงครามอย่างหนึ่ง แต่เป็นสงครามที่เอาการพัฒนาเข้าไป จึงมีมูลนิธิชัยพัฒนา

"พระองค์เคยรับสั่งว่าการเป็นพระมหากษัตริย์นั้นเป็น ๒๔ ชั่วโมง คือเป็นตำแหน่งที่บริการประชาชน ๒๔ ชั่วโมง ฉะนั้น ใครที่บอกว่าพระมหากษัตริย์อยู่บนยอดพีระมิด อยู่ที่สูงใช่ไหม พระองค์บอกว่าใช่ แต่เมืองไทยนั้นพีระมิดหัวกลับ พระองค์อยู่ใต้ก้นกรวย ใครมีอะไรก็เทใส่ฉัน เทใส่ฉัน นี่คือสิ่งที่พระองค์รับสั่งไว้ ทรงรับสั่งถึงความน้อยใจ ใครมีอะไรก็เทใส่ฉัน เทใส่ฉัน ทะเลาะเบาะแว้งมาลงเอยถวายฎีกาให้ฉันเดือดร้อนไปด้วย ฉะนั้น หยุดเถอะครับ แล้วหันกลับมาเอาคำสอนทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้มาปฏิบัติ เพื่อตัวเราเองและลูกหลานของเราที่จะรู้รักแผ่นดินนี้ อาศัยกินอยู่ต่อไป" ดร.สุเมธ กล่าวทิ้งท้าย





ภาพและข้อมูลจาก เพจ Anjali Jumnong











บีจีจากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii ไลน์จากคุณญามี่

Free TextEditor





Create Date : 18 ตุลาคม 2562
Last Update : 18 ตุลาคม 2562 9:05:35 น. 0 comments
Counter : 2401 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtoor36, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณRananrin, คุณThe Kop Civil, คุณวลีลักษณา, คุณชีริว, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณmariabamboo, คุณกะว่าก๋า, คุณTui Laksi, คุณtuk-tuk@korat, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณALDI, คุณอุ้มสี, คุณตะลีกีปัส, คุณInsignia_Museum, คุณkae+aoe, คุณmcayenne94, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณnewyorknurse, คุณเนินน้ำ, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณเพรางาย, คุณหอมกร, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณโอพีย์


haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.