happy memories
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
4 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
หนามชีวิต

อัพบล๊อคป้าโจ๊วอีกรอบ อีกสักสองบล๊อคก็จบแล้ว ว่าจะอัพให้เสร็จไวๆแต่ไม่มีเวลาพิมพ์อ่ะ เพลง "หนามชีวิต" เป็นเพลงของป้าโจ๊วที่เราชอบมากที่สุดเพลงนึง แต่งได้เพราะแล้วก็เศร้ามาก ประวัติของเพลงมีความเกี่ยวข้องกับท่านโดยตรง มีคนเขียนถึงเพลงนี้ไว้หลายเวอร์ชั่น รวบรวมมาให้อ่านกันค่ะ




หนามชีวิต




หนามชีวิต
คำร้อง ชาลี อินทรวิจิตร
ทำนอง สมาน กาญจนะผลิน

เกิดมาขื่นขม ระทม อุรา
ตรมน้ำตา ตรมน้ำตา ตรมน้ำตา โศกาทุกวัน
จะสุขอย่างไร จะสุขอย่างไร กันนั่น
สุขเพียง ในฝัน หรือไร

เปรียบดังชีวิต นั้นมีขวากหนาม
ทรมาน ทรกรรม ทรกรรม ฉันจนช้ำใจ
กว่าเราจะตาย กว่าเราจะตาย มิรู้เมื่อไหร่
โอ้ไฉน ชีวิตคอยเป็นนายเรา

มีแต่น้ำตา มาปลอบหัวใจ
ให้คลาย ความช้ำ ทุกค่ำเช้า
เหมือนหนามชีวิต กรีดใจ เป็นเป้า
ให้เราอับเฉา ระทม

หวั่นไหววาบหวามหนาม ชีวิตเอย
ควรพิเปรย ความรักเอย ความรักเอย มิเคยภิรมย์
สุขเพียง ชั่วคืน ชื่นเพียง ชั่วคราว ร้าว ราน เหลือข่ม
โศรกตรม แทบล้ม ประดาตายเอย





หนามชีวิตกับอิสรภาพ


คุณเพ็ญศรีได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำลหุโทษเช้าวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕o๔ ภายหลังการถูกจองจำครั้งที่สองเป็นเวลาสองปีเศษ ดูเหมือนว่า ชีวิตของคุณเพ็ญศรีจะมีงานรองรับอยู่นับแต่นาทีแรกที่ก้าวเท้าออกจากเรือนจำ เพราะคุณถาวร สุวรรณ และคุณปรีชา พิบูลย์เวช สองนักจัดรายการละครวิทยุ เจ้าของคณะละคร “สุปรีดา” ขับรถไปรอรับเธออยู่หน้าเรือนจำ

คุณถาวร สุวรรณ และคุณปรีชา พิบูลย์เวชรับคุณเพ็ญศรีไปอัดเสียงที่ช่อง ๔ บางขุนพรหมทันที เพื่อจะไปอัดเพลง “หนามชีวิต” ที่คุณชาลี อินทรวิจิตร กับคุณสมาน กาญจนะผลินแต่งเนื้อร้องและทำนอง เพื่อใช้เป็นเพลงประกอบละครเรื่อง “หนามชีวิต” ของคณะสุปรีดาที่จะออกอากาศทางสถานีวิทยุท.ท.ท. คุณเพ็ญศรีไม่ได้แสดงอาการแปลกใจอะไร เธอขึ้นรถไปกับชายหนุ่มทั้งสองอย่างสงบ เมื่อไปถึงก็มีการตระเตรียม ต่อเพลง ฝึกซ้อมกัน เธอก็สามารถทำได้อย่างเยือกเย็น ราวกับไม่ได้เพิ่งออกมาจากเรือนจำเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น

เรื่องหนามชีวิตเป็นบทประพันธ์ละครวิทยุเรื่องแรกของถาวร สุวรรณ ซึ่งว่าด้วยชีวิตของครอบครัวคนจนที่มีชีวิตขมขื่นเกินพรรณนา โดยมีนางเอกเป็นตัวชูโรง เพลงหนามชีวิตได้รับการแต่งขึ้น เพื่อใช้เป็นเพลงนำและประกอบละครเรื่องนี้ ผู้แต่งซึ่งรักและสนิทกับคุณเพ็ญศรีรู้ดีในขณะแต่งว่า เพลงนี้แต่งขึ้นเพื่อให้คุณเพ็ญศรี ผู้มีชีวิตขมขื่นไม่ต่างจากนางเอก เขาจึงบรรจงใส่อารมณ์ทั้งหมดลงไปอย่างสุดฝีมือ

คุณเพ็ญศรีรักษาระดับความมั่นคงของจิตใจไว้ได้อย่างงดงามน่าชมเชย

เกิดมาขื่นขมระทมอุรา
ตรมน้ำตา ตรมน้ำตา ตรมน้ำตาโศกาทุกวัน


ทันทีที่เริ่มอัดเสียงจริงและคุณเพ็ญศรีเริ่มเปล่งเสียงออกมานั้น สะกดคนทั้งห้องให้เงียบกริบ มนต์เสน่ห์จากเสียงอันเต็มไปด้วยอารมณ์ของเธอยังตรึงทุกคนได้เหมือนเดิม

จะสุขอย่างไร จะสุขอย่างไรกัน...


ดูเหมือนว่าน้ำเสียงของเธอจะเครือลงกว่าเดิมเล็กน้อย ทันใดนั้น เธอก็ร้องไห้ออกมาโฮลั่น ทุกคนในห้องอัดเงียบกริบ คุณเพ็ญศรีก้มลงจนตัวงอ ความเข้มแข็งเยือกเย็นที่เห็นอยู่ภายนอกอ่อนรูปลงมาเป็นน้ำตาทะลักทลาย

นานกว่าเธอจะหยุดน้ำตาแห่งความขมขื่นตลอดระยะเวลาสามสี่ปีลงได้ ไม่มีใครสักคนในห้องอัดเสียงกล้าทำอะไร ทุกคนรู้ดีว่าเธอสมควรแก่การร่ำไห้ และที่จริงควรจะยิ่งกว่านี้ด้วยซ้ำไป

วันนั้น การอัดเสียงเพลงหนามชีวิตจบลงด้วยดี คุณเพ็ญศรีตั้งสติได้ในเวลาต่อมา และอัดเสียงจนสำเร็จเรียบร้อย แม้จะดูเหมือนว่าเสียงจะเครือลงไปสักนิด ละครเรื่องหนามชีวิต ออกอากาศทางสถานีวิทยุ ท.ท.ท. ทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์ กลายเป็นละครยอดนิยมที่มีคนฟังทั่วทุกหัวระแหง เสียงเพลงหนามชีวิตของ “เพ็ญศรี พุ่มชูศรี” สะท้านสะเทือนเข้าไปในจิตใจของคนไทยทุกบ้านทุกเรือน ละครที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะออกอากาศทั้งหมด ๖o ตอน ต้องขยายออกเป็น ๙๕ ตอนจนได้

เมื่อย้อนถามถึงอดีตของ “หนามชีวิต” คุณเพ็ญศรีตอบสั้นๆว่า
“ร้องไห้โฮเลย...ตอนนั้นมันนึกถึงคุณสุวัฒน์...”
ไม่มีน้ำตาพระจันทร์สำหรับการสงสารตัวเองแม้สักหยด เพราะอุทิศให้เขาไปแล้ว







บันทึกประวัติศาสตร์ จากหนังสือแม่ไม้เพลงไทย


ครูชาลี อินทรวิจิตรบันทึกไว้ว่า

"ในการร้องที่ทีวีช่อง ๔ บางขุนพรหม เมื่อร้องถึงท่าอนที่ ๔ เธอซบพื้นร้องไห้สะอึกสะอื้น เพราะคิดถึงสุวัฒน์ สามีซึ่งกำลังติดคุกอยู่ ตอนนั้นพวกเราที่เห็นภาพต่างหดหู่ใจสงสารไปตามๆกัน เธอเสียใจจริงๆ ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่อีกนาน..."

เพลง "หนามชีวิต" ตอนที่คุณเพ็ญศรีร้องนั้นอายุ ๓๒ ปี ใช้เทคนิคการร้องได้อย่างที่คิด เช่น เมื่อขยี้คำร้องท้ายวรรคด้วยลมหายใจยาวเป็นพิเศษ ตรึงอารมณ์คนฟังได้ตั้งแต่วรรคแรก

"เกิดมาขื่นขมระทมอุรา..." หรือในท่อนที่สอง "เปรียบดังชีวิตนั้นมีขวากหนาม ทรมาน...ทรกรรม...ทรกรรมฉันจน ช้ำใจ กว่าเราจะตาย...กว่าเราจะตานไม่รู้เมื่อไหร่ โอ้ไฉน...ชีวิตคอยเป็นนายเรา..."

ตรง "กว่าเราจะตาย..." แผ่วเสียงอย่างได้อารมณ์ของความหมายเพลง และก็เน้นแต่พองามในวลีแรก พอวลีซ้ำก็ร้องเรียบ ๆ ธรรมดา ไม่เน้น นี่คือศิลปะการใส่อารมณ์พอดี ๆ ไม่มากจนเกินงาม

ท่อนที่ ๔ สุดท้ายจบเพลง ชาลี อินทรวิจิตรเขียนเนื้อร้องไว้อย่างวิจิตรกินใจ หวั่นไหววาบหวามหนามชีวิตเอย ครวญพิเปรย...ความรักเอย...ความรักเอย มิเคยภิรมย์ สุขเพียงชั่วคืน ชื่นเพียงชั่วคราว...ร้าวรานเหลือข่ม โศกตรม...แทบล้มประดาตายเอย..." คำว่า "สุขเพียงชั่วคืน" ดิ่งลึกในอารมณ์ พอมาดิ่งซ้ำ...ตรง "โศกตรม...แทบล้มประดาตายเอย..." หัวใจแทบแหลกสลายตามคนร้องไป

นาทีที่จรดปากกาเขียนอยู่นี่ ขอสารภาพว่า ผมร้องไห้จริงๆ ตอนฟังเพลงนั้น...แค่สะเทือนใจ

นี่คือตำนานรักอันยิ่งใหญ่ สมควรสร้างเป็นภาพยนตร์หรือละคร เปี่ยมด้วยเนื้อหาทั้งความรัก สังคมการเมือง ประวัติศาสตร์ ศิลปว้ฒนธรรมครบถ้วน สุดคลาสสิคทั้งการแต่งการร้อง

(ย่อความจากคอลัมน์ของ วัฒน์ วัลยางกูร น.ส.พ.ข่าวสด
ฉบับวันอาทิตย์ที่ ๑o มิย. ๒๕๕o)







หนามชีวิต...ที่เผด็จการลิขิตของ เพ็ญศรี พุ่มชูศรี
จากคอลัมน์ CD-D มีอดีต โดย ศุภาศิริ สุพรรณเภสัช
ในหนังสือพิมพ์มติชนสุขสรรค์


"ป้าโจ๊ว" หรือ คุณเพ็ญศรี พุ่มชูศรี เป็นนักร้องสตรีที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทยในศตวรรษที่ ๒o

เธอและ คุณสุวัฒน์ วรดิลก ผู้สามีซึ่งเป็นนักเขียนแนวหน้า เสียชีวิตไปในเวลาอันใกล้กันเมื่อต้นปีนี้ ท่ามกลางความอาลัยของผู้ที่ชื่นชมงานของศิลปินชั้นครูทั้งสองมานานกว่าครึ่งศตวรรษ

ในระหว่างปี พ.ศ.๒๕o๑ - ๒๕o๓ ป้าโจ๊วและคุณสุวัฒน์ วรดิลก สิ้นอิสรภาพด้วยคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่านักการเมืองฝ่ายตรงข้ามใช้ป้ายสีคุณสุวัฒน์ วรดิลก ซึ่งหาญมาสมัครส.ส.แข่ง

การสาดโคลน ป้ายสีและตามล้างตามเช็ดในวงการเมืองนั้นมีมาแสนนาน เพียงแต่ข้อกล่าวร้ายฝ่ายตรงข้ามจะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์บ้านเมือง และ "สมัยนิยม" ของผู้มีอำนาจ

ในสมัยของเผด็จการทหารโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์ ซึ่งป้าโจ๊วและคุณสุวัฒน์สิ้นอิสรภาพ มีความนิยมป้ายสีใครๆ ซึ่งไม่ใช่พวกของผู้มีอำนาจว่าเป็น "คอมมิวนิสต์" ด้วยเป็นยุคสงครามเย็นที่ใครๆ กำลังหวาดคอมมิวนิสต์

ตรงกันข้าม ๒o กว่าปีก่อนหน้านั้น ในสมัยที่คณะทหารและพลเรือนปฎิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง ใครถูกหาว่าเป็น "พวกเจ้า" ก็จะถูกจับตามอง หรือถูกจำคุก เหล่าข้าราชการและเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงๆ ที่ต้องออกจากประเทศไทย ไปอาศัยอยู่บนแผ่นดินอื่นอยู่ก็มีเป็นจำนวนมาก

เพราะฉะนั้น การสาดโคลนกันที่เห็น ๆ กันอยู่ทุกวันนี้จึงไม่ใช่ของใหม่ เพียงแต่ข้อหาต้องเปลี่ยนไปตามกระแสหรือสมัยนิยมเท่านั้น พวกที่หน้าและหัวใจหนาหน่อยจะมีความสามารถในการตัด-แต่ง-ขริบ-เล็ม หิริ โอตัปปะของตนให้เข้ากับยุคสมัยได้แคล่วคล่อง สิ่งใดที่รู้เต็มอกว่าผิด...ก็น้อมรับและเห็นเป็นถูกได้ สิ่งที่รู้ว่าถูกต้อง...ก็หาว่าเป็นความผิดความเลวได้ เพียงเพื่อให้เข้ากับรสนิยมของกระแสหรือผู้กำลังมีอำนาจในช่วงนั้นๆ

ในช่วงชีวิตที่ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำเป็นเวลาร่วมสองปี ป้าโจ๊วมีหน้าที่ร้องเพลงให้บรรดาเพื่อนๆ ร่วมเรือนจำฟัง ทุกครั้งที่ทางการจัดงาน เช่น งานฉลองปีใหม่หรือสงกรานต์ และป้าโจ๊วมักจะเลือกร้องเพลง "วิหคเหิรลม"

"แสนสุขสมนั่งชมวิหค อยากเป็นนกเหลือเกิน นกหนอนกเจ้าหกเจ้าเหิน ทั้งวันนกเจ้าคงเพลิน เหินลอยละลิ่วล่องลม..."

ท่วงทำนองอันพรายพริ้งของ "วิหคเหินลม" นั้นประพันธ์โดยครูสมาน กาญจนะผลิน ผู้ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๑ ส่วนคำร้องอันแจ่มใสราวกับว่าแต่ละคำไปบนปีกของวิหคที่กำลังเหินลม เป็นฝีมือของครูสุนทรียา ณ เวียงกาญจน์

ป้าโจ๊วบันทึกแผ่นเสียงเพลงนี้ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๔ หรือกว่า ๕o ปีมาแล้ว คนไทยสมัยนั้นร้องเพลงกันทั้งบ้านทั้งเมือง

เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า ในขณะที่ไร้อิสรภาพ เพลงวิหคเหินลมนั้นจับใจนัก เพราะเนื้อร้องตรงกับใจ ด้วยอยาก...เห็นลอยละลิ่วล่องลมไปสู่อิสรภาพข้างนอก

เชื่อว่าคนฟังซึ่งถูกขังร่วมกับป้าโจ๊ว คงมีความรู้สึกเช่นเดียวกันแทบทุกคน

ในช่วงชีวิตการทำงานอันยาวนาน ในฐานะของศิลปินชื่อเสียงของป้าโจ๊วไม่ตก คุณภาพของศิลปินมีอยู่เต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการทำงานบนเวที ร้องกระจายเสียงทางวิทยุ ออกโทรทัศน์หรือแสดงสดในคลับ

เคยได้ยินเรื่องเล่าที่ว่า ครั้งหนึ่งมีการยิงกันในไนท์คลับ ป้าโจ๊วซึ่งกำลังร้องเพลงอยู่ไม่ได้หยุดร้อง เพียงสุ้มเสียงเครือไปนิดเดียวในแวบแรกเพราะตกใจ

ป้าโจ๊วมีวินัยในการทำงาน ไม่ว่าในสถานการณ์อย่างไร ความสุขของคนฟังดูจะเป็นความสำคัญอันดับหนึ่งในหัวใจของศิลปินขนานแท้ แม้เมื่อยามที่ตนเองเปี่ยมด้วยความทุกข์หรือเหนื่อยล้า ก็เก็บงำซ่อนไว้แล้วทำหน้าที่ต่อไปอย่างดีที่สุด ราวกับว่าเต็มใจกัมหน้าก้มตาใช้พรสวรรค์สร้างสุขให้ผู้ฟัง ตามคำสั่งของสวรรค์ผู้ให้มา

เมื่อถูกจำขังอยู่สองปีเศษ ป้าโจ๊วก็ได้รับอิสรภาพ วันที่ออกจากเรือนจำในปี พ.ศ.๒๕o๓ หรือเกือบ ๕o ปีมาแล้ว เจ้าของคณะละครวิทยุรับตัวป้าโจ๊วไปบันทึกแผ่นเสียงเพลง "หนามชวิต" ในทันที

"เกิดมาขื่นขมระทมอุรา...ตรมน้ำตา...ตรมน้ำตา โศกาทุกวัน จะสุขอย่างไรกันนั่น...สุขเพียงในฝันหรือไร..."

เล่ากันว่าทีแรกป้าโจ๊วร้องเพลงและร้องไห้ไปพร้อมๆ กัน แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ ก็ข่มอารมณ์ร้องไปได้ไม่มีที่ติ

สตางค์ที่รับจากการร้องเพลง ก็ได้ไปเป็นค่าอาหารส่งให้สามีซึ่งยังอยู่ในเรือนจำ

ละครวิทยุเรื่อง "หนามชีวิต" ประสบความสำเร็จอย่างสูง คนติดกันทั้งเมือง ต้องเพิ่มความยาวจาก ๖o ตอนเป็น ๙๙ ตอน

ทุกคนในวงการยอมรับว่า เพลงมีส่วนทำให้ละครดังอย่างเหลือเชื่อ ในครั้งที่โทรทัศน์ยังเป็นเพียงความบันเทิงของคนมีเงิน คุณป้าคุณน้าทั้งเมืองไทยในแถบถิ่นที่การส่งกระจายเสียงไปถึง แทบจะเอาแป้งเปียกติดหูไว้กับวิทยุเมื่อถึงเวลาละครจะมา เพื่อไม่ให้พลาดฟังเพลงสีโศกสวยอย่างหนามชีวิต และบทละครอันสุดเศร้า (สำหรับคุณหลานๆ ที่อ่านคอลัมน์นี้ จะต้องบอกไว้ด้วยว่า สมัยโน้นกาวยังไม่เป็นที่นิยมเพราะต้องเสียเงินซื้อ คนส่วนใหญ่ใช้แป้งเปียกแทนกาว เพราะสามารถทำได้เองจากแป้งมันที่นำมาลงให้ผ้าแข็ง)

ในช่วงชีวิตต่อๆ มา อดีตผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์อย่างป้าโจ๊ว ได้รับรางวัลพระราชทานครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งแผ่นเสียงทองคำและดาราทองนักร้องดีเด่น

รวมทั้งได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติในปี พ.ศ.๒๕๓๔ ด้วย

คนที่มีอดีตเปื้อนสีแดงอย่างป้าโจ๊วอีกจำนวนมากมาย ที่กลายเป็นบุคคลมีประโยชน์ต่อบ้านเมืองในปัจจุบัน ไม่ต้องดูอื่นไกล แม้แต่นายกฯจัดตั้งอย่างพลเอกสุรยุทธ์ ซึ่งดูเหมือนจะมีตรารับประกันคุณภาพว่าบริสุทธิ์สดใสไร้มลทิน ก็เป็น "ลูกคอมมิวนิสต์" มาก่อน

เอาจริงเข้า คนไทยจะรังเกียจสีแดงได้อย่างไร ในเมื่อสีแดงในธงไตรรงค์นั้นหมายถึงชาติ ใครๆก็รู้

แฮะ ๆ...อย่างนี้จะไปว่าอีสานได้อย่างไร ที่เป็นสีแดงเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคมที่ผ่านมา





บีจีจากคุณยายกุ๊กไก่ ไลน์จากคุณญามี่

Free TextEditor





Create Date : 04 เมษายน 2551
Last Update : 3 สิงหาคม 2556 19:42:21 น. 35 comments
Counter : 5833 Pageviews.

 


แวะมาเจิมบอกว่า
คุณคือผู้โชคดีได้นกเพนกวินจากบ๊อกเราจ้า
ได้รับที่อยู่ทางหลังไมคืแล้วล่ะ
เพลงนี้ที่บ้านเราก็มีค่ะฟังแล้วชอบ
ขอบคุณที่นำที่มาที่ไปมาฝากค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:15:41 น.  

 
เพลงเก่าๆฟังแล้วเพราะดีเหมือนกันนะคะ ^^


Comment Zuzaa...

Comments for Hi5, Myspace สวยๆ อย่างเยอะ...จัดปัย



โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:14:18:22 น.  

 
ดีนะที่เปิดบล๊อกไฮกุตอนกลางวัน เกือบเคลิ้มหลับแล้วมั๊ยหล่ะ

ช่วงนี้อากาศร้อน แทบไม่อยากอยุ่บ้านเลยอ่ะ ไปทำงานก็ยุ่ง แต่อยู่บ้านก็ร้อนอีก


โดย: กวางตุ้งหวาน วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:15:03:00 น.  

 


วันนี้วันศุกร์...พรุ่งนี้หยุดแว้ววว...

อยากให้เอาเรื่องของป้าโจ๊วมาทำเปนละครจริงๆเลยจ่ะ

ดีจังเลยเข้ามาไม่ผิดหวังเลยค่ะ...


โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:16:50:00 น.  

 
คุณอุ้ม... เย้ยยยย ดีใจจัง ได้เจ้าเพนกวินน่ารัก ขอบคุณมากนะคะที่มาเจิมบล๊อคด้วยข่าวดี เห็นเพื่อนบล๊อคส่งเงินไปร่วมทำบุญเยอะเลย หวังว่าโครงการนี้สำเร็จลงด้วยดี โรงเรียนจะได้มีห้องสมุดที่สมบูรณ์ให้น้องๆได้ใช้ประโยชน์กัน ขอเวลารื้อตู้หนังสือนิดนึง แล้วจะส่งหนังสือไปให้อีกค่ะ

ดอกคูน...ขอบคุณที่แวะมาฟังเพลงนะจ๊ะ

ตุ้ง...555 แสดงว่าเพลงเพราะจริง ไม่งั้นไม่ถึงกะเคลิ้มหรอกน่า ยังไงระวังหลังให้ดี เดี๋ยวเจ้านายย่องมาเหล่ละก็เป็นเรื่องเชียว ที่จริงจะอัพเรื่องอื่นแต่ยังเขียนไม่เสร็จน่ะ พอดีพิมพ์เรื่องของป้าโจ๊วไว้แล้วก็เลยเอามาอัพก่อน

นี่เข้าเดือนเมษาแล้ว มีหวังคงจะร้อนขึ้นเรื่อยๆแหละ ยังไงร้อนตัวก็อย่าร้อนใจเน้อ

ป้าหู้...นึกแล้วว่าคุณป้าต้องชอบบล๊อคนี้แน่ๆ ชีวิตของป้าโจ๊วน่าเอามาทำเป็นละครจริงๆ มีครบรส ที่สำคัญ ต้องเป็นเรื่องที่มีเพลงประกอบละครเพราะสุดๆเลย ค่ะ


โดย: haiku วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:18:47:09 น.  

 
วันนี้หยุดจ้าไฮกุ ไม่ได้ทำงานหรอก ถึงได้มีเวลาเปลี่ยน bg เปลี่ยนสี นู่นนิด นี่หน่อย


งานที่ไฮกุถาม ไม่ใช่ concert หรอกจ้า เฮียเค้าแค่ไปเปิดร้านเสื้อผ้าของ Bao Xi Niao หน่ะ ส่วนใหญ่งานพวกนี้เปิดร้าน ก็ประมาณ 10-20 นาทีหน่ะ แต่คนไปดูกันเยอะเนอะ


โดย: ตุ้ง IP: 58.10.87.31 วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:20:12:08 น.  

 
อ้าว หยุดเหรอ ยังงี้ก็ได้หยุดยาวสามวันติดต่อกันเลยซิ

โห แค่งานเปิดร้านเสื้อนะนั่น คนมหาศาลเลยอ่ะ


โดย: haiku วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:20:50:05 น.  

 
สวัสดีครับคุณไฮกุ


เป็นดอกคูณแม่นแล้วครับ
ทาเหนือเรียกดอกลมแล้งนะครับ
เพราะเค้าออกดอกหน้าแล้งครับ

ตอนนี้ถนนในเชียงใหม่ค่อยๆทยอยบานแบบทีละสายครับ
ชมพูพัธุ์ทิพญย์บานแล้ว
ช่วงนี้ดอกคูณและตะแบกน้ำครับ

พรุ่งนี้เย็นดอกสีม่วงนะครับ
อย่าลืมติดตามชมครับ



โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:22:07:21 น.  

 
มาฟังเพลงเก่าๆให้สบายคลายร้อนซะหน่อย
เสียดายเครื่องเล่นเทปที่บ้านพังไปแล้ว มีเทปคลาสเซ็ทแม่ไม้เพลงไทยอยู่ สองสามตลับ เลยไม่ได้ใช้งานแล้ว


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:22:11:23 น.  

 
อ่านเบื้องหลังของเพลงหนามชีวิตแล้วน้ำตาคลอ

เพลงนี้เศร้าค่ะ เคยได้ยินมานาน ฟังครั้งใดก็รู้สึกไปกับเพลงทุกครั้ง

.
.

เรื่องบล็อก ป๋าทราบมานานแล้วค่ะ และเข้ามาดูมาอ่านมาเม้นท์อยู่เรื่อยๆ

นอกจากนี้ ป๋ายังนำงานเขียนที่เป็นกลอนเปล่า เขียนเพื่อระบายความรู้สึก

เขียนสะสมมาหลายปี มาฝากเก็บไว้ที่บล็อกด้วย และก็ยังเขียนส่งมาให้เรื่อยๆ

ล่าสุดนี้ หลังจากที่คุณพ่อของป๋าเสียเมื่อปลายปีก่อน

ป๋าก็มีบันทึกมาให้อ่านกันตั้งหลายตอนแน่ะค่ะ

หากคุณไฮกุสนใจ เชิญอ่านได้ที่บล็อกนะคะ ....


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:23:06:00 น.  

 
อิ่มเลยครับคุณไฮกุ....

ได้อ่านการเดินทางของชีวิต ที่เต็มไปด้วยความโลดโผนจริงๆ


ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดีที่นำมาเล่าให้ฟังคร้าบ


โดย: TzOzOzN วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:8:04:57 น.  

 
ชอบเพลงนี้นะคะ คนเขียนเพลงสมัยก่อนเขามีวาทะศิลป์ดี
ได้ทั้งเนื้อหา ทั้งศาสตร์และศิลป์รวมอยู่ในบทเพลงนั้น ๆ
แต่ก่อนพ่อเคยเปิดฟังบ่อย ๆค่ะ ก็เลยชอบ

มีความสุขในวันพักผ่อนนะคะ


โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:12:46:50 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า




** ขอให้มีความสุขในช่วงวันหยุดพักผ่อนนะจ้า **


ไม่เคยฟังเลยเนี่ยเป้นครั้งแรกของนัทเลยนะเนี่ย ..


โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:13:27:44 น.  

 


ขอให้มีความสุขมากๆในวันนี้นะคะ


โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:14:25:55 น.  

 
มาแว้ว เมื่อกี๊แวะไปอ่านที่ haiku แปลบทความ beauty and the beast ได้ลงหนังสือด้วยอ่ะ เก่งค่อดๆ


โดย: LEE (lyfah ) วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:16:52:17 น.  

 


สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า




** อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะจ้า **


โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:12:20:10 น.  

 
คุณก๋า...ขอบคุณที่บอกค่า เพิ่งจะรู้ว่าดอกคูนมีอีกชื่อว่าลมแล้ง เข้าใจตั้งชื่อดีจัง ได้คำไปแต่งไฮกุอีกบทแล้ว นึกภาพว่า ถ้าดอกคูน ชมพูพันธุ์ทิพย์ แล้วก็ตะแบกออกดอกพร้อมกันทั้งเมือง เชียงใหม่คงงามน่าดูเลยเนาะ

ไปช้าแค่วันเดียว คุณก๋าอัพบล๊อคใหม่ซะหลายอัน แต่ตามไปดูดอกสีม่วงมาแล้ว สวยจริงๆ ชอบดอกตะแบกรูปสุดท้ายในบล๊อคอ่ะค่ะ

ลุงแอ๊ด&ป้าหู้...ขอบคุณที่แวะมาฟังเพลงนะคะ

ลุงแอ๊ดยังซื้อเทปคาสเซ็ทได้ แสดงว่าเป็นรุ่นค่อนข้างเก่าเลยนะเนี่ย หลังๆนี่ไปดูที่ร้านเห็นมีแต่ที่ทำออกมาเป็นวีซีดี

คุณยุ้ย...เราว่าเป็นเพลงที่เศร้าที่สุดของป้าโจ๊วเลยอ่ะ ยิ่งได้รู้เบื้องหลังก็ยิ่งเศร้า แล้วเพลงนี้ครูชาลีก็ถอดหัวใจเขียนเนื้อเพลงจากชีวิตของป้าโจ๊วเลย

คุณยุ้ยเป็นสาวกตัวจริงเสียงจริงของนายบอมเบย์เลยนะเนี่ย อิจฉาคุณยุ้ยอ่ะ ส่งงานเขียนให้ด้วย แบบนี้เหมือนได้ใกล้ชิดหวานใจเลยน้า ชอบข้อเขียนของแกค่ะ เป็นคนที่มีความคิดดีแถมขยันเขียนด้วย แวะไปบล๊อคคุณยุ้ยประจำอยู่แล้ว ไว้จะค่อยๆทะยอยอ่านงานเขียนเก่าๆค่ะ

คุณตูน...ขอบคุณที่แวะมาอ่านเรื่องราวของป้าโจ๊วนะคะ ถ้าคุณตูนชอบก็ยังมีให้อ่านต่ออีกสักสองบล๊อค ไว้พิมพ์เสร็จแล้วจะอัพให้อ่านต่อค่ะ

ฝากเธอ...เพลงลูกกรุงยุคป้าโจ๊วเพราะๆทั้งนั้น ครูเพลงฝีมือแต่งเพลงเฉียบขาด เสียดายที่เดี๋ยวนี้หาฟังไม่ค่อยได้ ดีที่บท.แม่ไม้เพลงไทยยังผลิตเพลงเก่าๆออกมาเลยยังหาซื้อมาฟังได้

นัท...แวะมาฟังเพลงหลายรอบเลย ขอบคุณนะจ๊ะ

ลี...เพิ่งจะไปบ่นที่บล๊อคว่าคิดถึง แป๊บเดียวก็มาให้เห็นหน้าเลย

แท้งกิ้วหลายๆที่ยังตามไปอ่านบล๊อคเก่าจ๊ะ บทความนั่นแปลไว้นานมากแล้วล่ะ ตอนที่ดูซีรีส์หาข่าวเกี่ยวกับหนังอ่านยากจัด อินเตอร์เนทก็ยังไม่บูมอย่างเดี๋ยวนี้ ต้องขวนขวายหาอ่านจากแมกกาซีนเมืองนอก ไปเจอบทความในเล่มที่เอามาแปล คนเขียนเป็นหนึ่งในทีมงานเขียนบทด้วย ก็เลยได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับซีรีส์เยอะ แปลแล้วลองเสี่ยงดวงส่งไป ไม่คิดว่าจะได้ลง ดีใจสุดๆเลยอ่ะ

ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้วหลงรักจับจิต คนทำฝีมือสุดยอด ที่ชอบมากๆก็คือ บทพูด เขียนได้เพราะแล้วก็ซึ้งมั่กๆ โดยเฉพาะเวลาที่พระเอกพูดกะนางเอก แล้วทุกตอนจะได้ยินพระเอกอ่านบทกวีให้ฟัง ทั้งที่เป็นบทกวีเก่าแล้วก็แต่งใหม่ด้วย ถึงจะรู้ความหมายไม่หมดแต่ก็รู้สึกว่าเพราะสุดๆเลยอ่ะ ดูเรื่องนี้แล้วต้องไปค้นบทกวีปะกิตตอนเรียนมาอ่านอีกหลายรอบ

พูดถึงซีรีส์แล้วนึกได้ เพลงเรื่องนี้เพราะมั่กๆ ได้รางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยมด้วย อัพเพลงไตเติ้ลมาให้ฟัง


พระเอกเรื่องนี้เสียงเพราะ อันนี้เป็นเสียง Ron Pearlman อ่านบทกวีหวานๆของ Lord Byron “She Walks in Beauty” ได้ยินบทนี้ตอนที่พระเอกมองนางเอกตอนส่งเธอกลับไปยังโลกเบื้องบน


คุณนายพูดสองสามคำแต่เราเม้าท์ต่อซะยาวเลย


โดย: haiku วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:17:56:41 น.  

 
สวัสดีจ้าดอกคูณอัพเพลง
สบายหูแล้วค่ะ ไปฟังกัน ^^


โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:20:07:06 น.  

 
ตอนบ่ายแวะเข้ามาอ่าน Beauty and the beast ค่ะ

เคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน

วันนี้เข้ามาเลยถือโอกาสเปิดหูเปิดตา

ประโยคภาษาอังกฤษไพเราะจริงๆ เวลาอ่าน อ่านออกเสียงด้วย อิอิ

ขอบคุณมากนะคะ


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:20:43:12 น.  

 
ดอกคูน...เดี๋ยวแวะไปฟังค่า

คุณยุ้ย...เป็นบทประพันธ์เก่ามากแล้วค่ะ ถ้าชอบดูหนังฝรั่งก็ต้องรู้จักเรื่องนี้ มีคนเอามาสร้างเป็นทั้งหนังหลายเวอร์ชั่น เป็นการ์ตูนก็ดังสุดๆ เวอร์ชั่นที่เราชอบนี่ช่องสามเอามาฉายเมื่อสักยี่สิบปีได้แล้วล่ะ ประโยคภาษาปะกิตเพราะเนอะ แต่ถ้าได้คนแปลไม่เก่งก็เสร็จกัน ต้องชมคนแปลบทเรื่องนี้จริงๆค่ะ ถ่ายทอดภาษาอังกฤษเป็นไทยได้ดีมาก เรายังอัดเทปเสียงภาษาไทยเก็บไว้ด้วยนะ

ตอนที่น้องชายไปเรียนที่เมกาก็ให้ตามหาดีวีดีเรื่องนี้ สุดท้ายซื้อได้ครบทุกตอน ดีใจมั่กๆ



โดย: haiku วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:21:28:43 น.  

 
หวัดดีครับคุณไฮกุ

ดอกที่เห็นคือ กล้วยไม้มอนไข่
ดอกสวยมากนะครับ
ถ่ายรูปมาอาจจะดูเข้มไปสักหน่อย

ไม่มีแรงบันดาลใจนะครับ
วันนี้กลับมาเปิดไฟล์รูป
แล้วก็นั่งลงพิมพ์เลยครับ

ดีใจที่คุณไฮกุชอบนะครับ



โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:21:48:46 น.  

 
อากาศแบบวันนี้ต้องเข้ามาฟังเพลงเก่าๆถึงจะได้อรรถรสที่ดี


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:22:07:02 น.  

 
แค่อ่านเรื่องราวเราก็แทบจะอินด้วยได้ไม่ยากเลยคะ
เพราะฉะนั้นไม่ยากเลยถ้าหากว่าได้ฟังเพลงไปด้วย
คงจะทำให้เรารุ้สึกได้เพิ่มขึ้น ชีวิตคนเรามันก็เป็นซะอย่างนี้
ล่ะคะ ทุกข์ สุข มันอยู่ตรงไหน ...

กว่าที่คนสมัยก่อนเค้าผ่านเรื่องราวมาได้ มันมหาศาลเลยนะคะ
เพราะมันมีอะไรมากมายอยู่ในนั้นเยอะเลย


โดย: JewNid วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:23:22:48 น.  

 




เพลงเศร้าเหลือใจจริงๆ

เพิ่งได้รู้ว่าป้าโจ๊วร้องตอนหลังออกจากคุกก็ที่นี่แหละ

ข้อมูลดีๆ จริงๆ นะนี่ ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันกันนะคะ


อ่า..แหะๆ ที่เราเห็นพระเอกหล่อ เราว่าเป็นที่เค้าเก่งด้วยแหละค่ะ

ที่จริงหน้าตาก็ไม่ได้เด่นอะไรมาก


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:16:45:24 น.  

 
มาชวนไปดื่มกาแฟด้วยกันจ้า


โดย: ณ มน IP: 58.8.93.128 วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:18:36:58 น.  

 
คุณแม่ชอบมากๆ เลยค่ะ

จำได้ว่าเคยเป็นเพลงประกอบละครเรื่อง "หนามชีวิต" ด้วยนะ

ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าคุณรัชนู บุญชูดวง เล่นเป็นนางเอก

ก็สัก 30 ปีมาแล้วเห็นจะได้


มาชวนไปเที่ยวฮอยอันต่อค่ะ ขอบคุณมากๆ ที่ช่วยหาเพลงประกอบละครไปแปะไว้ให้ ทำให้ได้อารมณ์ขึ้นเยอะเลยค่ะ


โดย: ปิ่นเดือน ครูดอย วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:15:10:17 น.  

 
เกิดไม่ทันอ่ะคุณนาย


โดย: LEE (lyfah ) วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:20:44:03 น.  

 

สวัสดีตอนบ่ายแก่ๆของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า




** มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:21:14:11 น.  

 
ขอบคุณสำหรับเว็บ วีดีโอนะคะ คุณไฮกุ

สบายดีมั้ยคะ คิดถึงๆๆค่ะ


โดย: yadegari วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:21:25:09 น.  

 
อ่านแล้วเศร้าจังเลยครับ นึกแปลกใจว่าทำไมคนถึงยกย่องยุคสฤษดิ์จังครับ ทั้งที่ไม่รู้ประวัติศาสตร์อะไรในช่วงนั้นเลยนอกจากยิงเป้า แต่ศิลปินแห่งชาติทั้งสองท่านก็ได้ไปสู่สุขคติแล้ว


โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:8:33:28 น.  

 


...ขาว...อวบบ..หนาดดนี้มาส่งเข้านอนจาหลาบมั้ยค้า...


โดย: น้องมีโอเองค่ะ (fifty-four ) วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:23:38:02 น.  

 
คุณก๋า...เป็นกล้วยไม้เหรอคะ ดอกสวยจริงๆ เพิ่งเคยได้ยินชื่อนี่แหละค่ะ

คุณก๋านี่ฝีมือจริงๆนะ เขียนบทกวีได้แบบพรั่งพรู ไม่มีแรงบันดาลใจก็เขียนได้ ไม่เหมือนเรา หลังๆนี่ไม่ค่อยได้เขียนไฮกุ พออยากเขียนชักจะเขียนไม่ออก

ลุงแอ๊ด...วันก่อนฝนตกทั้งวัน อากาศก็ยังพอสบายหน่อย ฟังเพลงเย็นๆแบบนี้เข้ากะบรรยากาศดี แต่สองวันนี้ร้อนตับแล่บอีกแว้ววววว

คุณนิด...ใช่อย่างคุณนิดว่าเลยค่ะ ยิ่งเป็นประวัติของศิลปินเพลงที่เราชอบมากๆอย่างป้าโจ๊วด้วยแล้ว อ่านแล้วก็ยิ่งอิน เราว่ามันน่าเศร้าที่ท่านกับลุงอู๊ดต้องเข้าคุกโดยที่ไม่ได้ทำความผิดอะไรเลยนี่แหละ

สาวไกด์...โชคดีที่ซื้อหนังสือประวัติป้าโจ๊วเล่มนี้เก็บไว้ อ่านแล้วได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับป้าโจ๊วและลุงอู๊ดค่อนข้างละเอียดเลยค่ะ

ตอนเห็นหน้าพระเอกก็ดูเฉยๆเพราะหนวดเคราเต็มหน้า แต่พอฟังคุณสมบัติที่คุณนิดบรรยายแล้วพี่แกดูหล่อขึ้นมาเลยเชียว

ณ มน...เดี๋ยวตามไปอ่านบล๊อคใหม่จ้า

ครูปิ่น...เพลงนี้เวอร์ชั่นดั้งเดิมก็แต่งเพื่อใช้ในละครเรื่อง “หนามชีวิต” ค่ะ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเอามาสร้างอีก คุณรัชนูเล่นเป็นนางเอกด้วยเหรอคะ ตั้งสามสิบปีแล้ว เธอยังเอาะๆอยู่เลยนะนั่น หลังๆนี่เธอเงียบหายไปเลย ได้ข่าวว่าไม่สบาย ไม่รู้ว่าเป็นไงมั่ง

เห็นวิวฮอยอันในบล๊อคครูแล้วคิดถึงละครเรื่องนี้จัง แดนกะเจนนีเล่นได้น่ารักชะมัด เพลงก็เพราะมั่กๆ ดีที่ในจิ๊กมีคนโหลดเอาไว้เลยเอาไปฝาก

ลี...แหม เพลงเก่าขนาดนั้น เดี๊ยนก็เกิดไม่ทันเหมียนกันแหละ

นัท...ขอบคุณมากที่แวะมาส่งความคิดถึงนะจ๊ะ

คุณแบม...ด้วยความยินดีค่า ถ้าดูหนังแล้วชอบจะแวะมาเม้าท์อีกก็ได้นะจ๊ะ

Bach…ที่ยกย่องยุคสฤษดิ์เพราะไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังล่ะมั้ง (พี่ก็ด้วยแหละ) แต่คิดว่าที่คนจะจำได้ดีในยุคนั้นก็คงเป็นเรื่องยิงเป้านี่แหละ สมัยนี้มีเหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นเยอะ แล้วดูเหมือนกม.ทำอะไรไม่ได้มาก คนก็เลยอยากให้ยิงเป้าพวกผู้ร้ายให้รู้แล้วรู้แร่ดไป

ป้าหู้...ขอบคุณที่ให้เจ้าเหมียวมาแวะส่งเข้านอนนะคะ ชื่อเพราะเชียว ขาวอวบอีกตะหาก


โดย: haiku วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:10:00:51 น.  

 
คุณไฮกุครับ

สวัสดีครับ


ผมเขียนทุกวันเลยครับ
เปิดไฟล์รูป นั่งลง แล้วก็พิมพ์เลยครับ 5555

บางทีอาจจะไม่ใช่กวีหรอกครับ
มันเป็น "เศษอารมณ์" ของผมมั้งครับ







สงสัยต้องเอารูปแปะผนังบ้าน

แล้วเดินไกลๆออกมาถ่ายนะครับ
แต่ถ้ามีโปรแกรม photoshop ก็อาจจะต่อโดยถ่ายรูปเป็นช็อตๆก็ได้นะครับ

อยากเห็นๆๆๆๆครับ




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:12:12:17 น.  

 
เคยรู้สึกว่า เพลงนี้วังเวงว้าเหว่และเศร้าเกินกว่าแองจีจะทนได้

เพิ่งรู้เรื่องราวเบื้องหลังเพราะคุณพี่ไฮกุ นี่ละค่ะ

อ่านแล้ว มึนซึม อึ้งๆ นะ
สงสารจัง


โดย: angy_11 วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:13:09:41 น.  

 
คุณก๋า...นั่นไงล่ะ เพราะเขียนทุกวันก็เลยเขียนได้คล่องอ่ะนะ ไว้เราบังคับตัวเองให้เอาอย่างคุณก๋ามั่งดีกั่ว

กะว่าจะโชว์แผ่นที่ได้ลงนสพ.จีนให้ดู แต่วัดดูแล้ว กระดาษที่เขียนยาวสองเมตรเจ็ดสิบ แล้วมีกรอบด้านข้างออกไปอีกข้างละเกือบฟุตนึง รวมๆแล้วก็สามเมตรกว่าๆ สงสัยต้องวางกะพื้นแล้วถ่ายมาให้ดู รอนิดนึงนะคะ

จี้...แสดงว่าจี้เคยฟังเพลงนี้มาแล้ว เพลงมันเศร้าจริงๆแหละ แค่เนื้อเพลงก็กินใจขนาด ได้รู้เบื้องหลังแล้วยิ่งทำให้เพลงเศร้าขึ้นไปอีกอ่ะนะ



โดย: haiku วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:21:50:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.