พ่อฉันเป็นช่างตัดเสื้อ : พระพุทธรูปที่เดสร้าง พระพุทธชินราชจำลอง พ.ศ. ๒๕๑๔ ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว ของวัดวังทองวราราม จ.พิษณุโลก ภาพจากแผ่นพับโฆษณาเช่าพระของวัด นวมประพาส เหล่าราษฎร์เกษมศรี สองพันห้าร้อยสิบเก้าเช้าผุดผ่อง ที่สิบสองมีนาคมสมดิถี พระภูมินทร์พร้อมองค์ราชินี อีกเจ้าฟ้าพระนามมีจุฬาภรณ์ พระเสด็จเมืองสองแควแลรุ่งโรจน์ ฟ้ามาโปรดหมู่สุโขสโมสร ชาววังทองได้รองรับบาทบวร เกียรติขจรพระบุญญาบารมี วัดวังทองวรารามงามสถาน พระภูบาลบำเพ็ญบุญหนุนดิถี งานตัดหวายลูกนิมิตประสิทธี เป็นศักดิ์ศรีวังทองผ่องนภา พระราชทาน ภ.ป.ร. ก่อประดิษฐ์ ลายวิจิตรหน้าบันทรงคุณค่า มีอักษรจารึกเตือนประชา จงรักษาสามัคคีดีชาติไทย เป็นคำสอนเตือนใจไทยทั้งชาติ อย่าประมาทจงรักษาพาผ่องใส สามัคคีดีเลิศเกิดคุณใหญ่ องค์จอมไตรตรัสว่าเลิศประเสริฐคน ทรงปลูกต้นประดู่เหลืองเนื่องโอกาส อนุสรณ์พระประพาสราชกุศล ต้นไม้งามอร่ามหล้าพายืนชนม์ เป็นมงคลร่มเงาชาววังทอง จึงเสด็จโบสถ์เก่าตามเล่าขาน ทอดพระเนตรพระประธานงามผุดผ่อง สามหมื่นบาทพระราชทานตามครรลอง ซื้อสิ่งของซ่อมโบสถ์ใหม่ให้งามตา ทรงเยี่ยมเยียนประชาชนล้นขนัด แน่นลานวัดชายหญิงทั่วทิศา เพื่อเฝ้าชมบารมีองค์ราชา เป็นบุญตาพาใจได้สำราญ ฯ พิษณุ เมืองพระงาม ร้อยกรองถวายพระเกียรติคุณ จากหนังสือ "พระบารมีปกเกล้าฯ ชาวพิษณุโลก" ก่อนจะคุยถึงพระที่เดสร้าง บล็อกที่แล้วลืมเล่าไปว่า เมื่อก่อนวัดวังทองฯ ชื่อวัดตลาดชุม เดเป็นคนเสนอให้เปลี่ยนชื่อใหม่ โดยนำชื่ออำเภอต่อด้วยคำว่า “วราราม” ที่แปลว่า “สวยงาม” พอได้ชื่อแล้วก็ต้องไปขออนุญาตกรมการศาสนาและกระทรวงมหาดไทย กระทรวงฯ บอกว่าชื่อใหม่ของวัดโก้เกินไป เดต้องไปขอกรมการศาสนามาช่วยสนับสนุน และกำนันเคยทำเรื่องเสนอให้วัดเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง กระทรวงฯ​ จึงอนุญาตให้วัดปลี่ยนชื่อได้ ต่อมาวัดได้รับคัดเลือกให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างประจำปี ๒๕๑๓ และเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี ๒๕๒๙ วัดวังทองฯ เป็นวัดเก่าแก่มาก มีมาตั้งแต่สมัยปลายสุโขทัยต้นอยุธยา แต่เดิมมีเพียงโบสถ์เก่า ๆ หลังเดียว มาเป็นคนวังทอง เดเลยมีโอกาสเข้าไปช่วยวัดสร้างสิ่งก่อสร้างหลายอย่าง เช่น กุฏิพระ, หอระฆัง, โบสถ์ เป็นต้น และเป็นครั้งแรกที่เดสร้างพระ ทั้งพระประธาน พระพุทธรูปบูชา และเหรียญพระ รายได้นำมาสร้างโบสถ์วัดวังทองฯ พระประธานเป็นพระพุทธชินราชจำลอง ขนาดหน้าตัก ๘๐ นิ้ว ส่วนพระพุทธรูปบูชาสร้าง ๒ ครั้ง รุ่นที่ระลึกสร้างอุโบสถและหล่อพระประธาน สร้างเมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๑๔ และ รุ่นทูลเกล้าฯ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในงานผูกพัทธสีมา สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๙ ทั้งสองรุ่นมีสองขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว (ราคาองค์ละ ๗๕๐ บาท) และ ๙ นิ้ว (ราคาองค์ละ ๓,๕๐๐ บาท) ออกแบบโดย ช่างบรรพต เคลือบแก้ว มีพุทธลักษณะงดงามอย่างยิ่ง หล่อด้วยวิธีเทดินไทย ในพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปบูชาเกิดปาฏหาริย์ ขณะที่ สมเด็จพระวันรัต กำลังจุดเทียนชัย ได้เกิดนิมิตเป็นม่านมุกและฉัตรพรรณรังษีขึ้นเหนือบริเวณโบสถ์ที่ทำพิธี ต่อหน้าผู้ที่อยู่บริเวณโดยรอบ ซึ่งนสพ.ไทยรัฐ, พิมพ์ไทย, และบางกอกไทม์ได้เสนอข่าวนี้โดยละเอียดเมื่อต้นเดือนมีนาคม ๒๕๑๔ ตอนที่สร้างพระประธานมีปาฏิหาร์ยอีกหลายอย่าง อย่างนึงที่จำได้ เดเล่าให้ฟังว่า ใช้รถบรรทุกขนพระจากกรุงเทพฯ ขึ้นไปที่วัด ตอนนั้นเป็นเดือนต.ค. ช่วงฝนชุกพอดี แต่มีฉัตรติดไว้หลายคันรอบรถและเหนือองค์พระด้วย เลยเอาผ้าใบคลุมกันฝนไม่ได้ วันนั้นฝนตกไปตลอดทาง (สามร้อยกว่ากิโลฯ) แต่ไม่เปียกองค์พระเลย เรียกว่าฝนตกรอบรถ บางทีตกดักหน้ารถก็มี แต่องค์พระแห้งสนิท ปีพ.ศ. ๒๕๑๘ หนึ่งปีก่อนที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จะเสด็จฯ มาทรงตัดลูกนิมิตที่วัด เดสร้างพระพุทธรูปบูชาครั้งที่ ๒ เพื่อเป็นที่ระลึกในงานนี้ เป็นพระพุทธชินราชขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว เนื้อนวโลหะกะไหล่ทอง ใช้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ บาท “กะไหล่ทอง” เป็นกรรมวิธีการเคลือบองค์พระด้วยทองคำ โดยตะไบทองคำให้เป็นผงผสมกับน้ำประสานทองทาลงบนองค์พระ แล้วใช้ไฟเป่าให้ทองคำละลายติดกับองค์พระ พระจะมีความหนาเหมือนพระหล่อจากทองคำจริง ๆ ซึ่งต่างจากพระชุบทอง สมัยโบราณเรียกกรรมวิธีนี้ว่า “เปียกทอง” ตอนนั้นราคาทองบาทละ ๔๐๐ ใช้ทอง ๑๐ บาท ค่าใช้จ่ายประมาณหมื่นกว่า ๆ ถ้าเทียบราคาทองในปัจจุบันที่ราคาบาทละ ๓๐,๐๐๐ บาท ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นเป็นสิบเท่าเลย เดส่งพระที่สร้างครั้งแรกเข้าประกวดพระบูชาที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ ๒๓ มี.ค. ๒๕๑๔ มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนมากได้ร่วมตัดสิน พระของวัดวังทอง ฯ ได้รับรางวัลชนะเลิศ และได้รับการยกย่องชมเชยว่าเป็นพระพุทธรูปแบบพระพุทธชินราชที่มีพุทธลักษณะครบถ้วนทุกประการ ต้องยกความดีให้ช่างบรรพต เคลือบแก้ว (ช่างเกษร) ช่างหล่อพระที่ฝีมือดีระดับต้น ๆ ของประเทศ ท่านเป็นลูกบุญธรรมของช่างฟุ้ง อ้นเจริญ เจ้าของโรงหล่อแถว อ.บางกอกน้อย แต่เดิม อ.โต เป็นช่างประจำโรงหล่อ แต่ต่อมาลาออกไป ช่างบรรพตต้องเข้ามารับหน้าที่แทนทั้งที่ไม่ได้เรียนวิชาปั้นมาก่อน ใช้วิธีครูพักลักจำจาก อาจารย์โต ขำเดช ช่างบรรพตเริ่มงานตั้งแต่อายุเพียง ๑๔-๑๕ ปี ครั้งหนึ่งมีคนจากจังหวัดนครศรีธรรมราชว่าจ้างให้ปั้นพระ ช่างฟุ้งส่งลูกบุญธรรมไปทำงานนี้ พอผู้จ้างเห็นว่าเป็นเด็กก็ไล่กลับ ช่างบรรพตเลยบอกว่า “ผมมาถึงนี่แล้ว ทำไมไม่ให้ผมลองทำดูก่อนละ ถ้าทำแล้วไม่ชอบใจค่อยไล่กลับก็ได้” แล้วช่างบรรพตก็แสดงฝีมือปั้นพระอันยอดเยี่ยมจนผู้ว่าจ้างประทับใจมาก พาไปเลี้ยงโต๊ะจีนแบบจัดเต็มเลย สมัยนั้นค่าจ้างปั้นพระพุทธรูปบูชาขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว ราคา ๑๐๐ บาท แต่โรงหล่อของช่างฟุ้งคิดแพงกว่าเท่านึง เดเพิ่มค่าแรงให้อีก ๕๐ บาท เป็น ๒๕๐ บาท และบอกให้สร้างพระให้งามและประณีตที่สุด เมื่อช่างได้ค่าแรงเพิ่มขึ้นก็มีกำลังใจ ร่วมมือร่วมใจกันสร้างพระของวัดวังทองออกมาได้อย่างงดงามที่สุด สำหรับพระพุทธรูปบูชาของวัดวังทองฯ​ ช่างบรรพตได้ไปปั้นขึ้นหุ่นพระขนาดหน้าตัก ๕ นิ้วต่อหน้าองค์พระพุทธชินราชองค์จริง ในพระวิหารหลวงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เดและช่างบรรพตช่วยกันดูและติชมจนเสร็จ จากพระพุทธรูป ๕ นิ้ว นำมาขยายแบบและสร้างเป็นพระพุทธรูปประธานในโบสถ์วัดวังทองในภายหลัง หนังสือ "พระบารมีปกเกล้า ชาวพิษณุโลก" รวบรวมเหตุการณ์เสด็จพระราชดำเนินไปจังหวัดพิษณุโลกทั้ง ๑๓ ครั้ง เดส่งภาพพระบรมฉายาลักษณ์วันที่เสด็จฯ ตัดลูกนิมิต คนทำหนังสือเลยส่งหนังสือมาแทนคำขอบคุณ เสียดายที่พระบรมฉายาลักษณ์บนปกไม่ค่อยชัด อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ พระฉายาลักษณ์ และภาพถ่ายวันที่เสด็จฯ มาที่วัดวังทองสแกนมาให้ชมอีกครั้ง คราวนี้มีมีข้อมูลและรายละเอียดดีมากค่ะ วัดวังทองวราราม จ.พิษณุโลก พระพุทธชินราชที่ ในพระวิหารหลวงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก มีพุทธลักษณะงดงามจนหาที่ติมิได้ มีเรื่องเล่าว่าต้องหล่อถึง ๓ ครั้ง ครั้งสุดท้ายมีชีปะขาวที่ชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะเป็นพระอินทร์ทรงแปลงกายลงมาช่วยหล่อองค์พระได้สำเร็จ ภาพจากการ์ดที่ซื้อเก็บไว้นานแล้ว หลังภาพพิมพ์แค่ชื่อบริษัท T.S. CARDS คูหาพระประธานทำด้วยไม้สักทองที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงตรัสชมว่างดงามมาก เป็นเรื่องที่เดภาคภูมิใจมากที่สุดเรื่องหนึ่งเพราะเป็นคนออกแบบเอง โดยไปปรึกษา อ.อวบ สาณะเสน ให้ท่านช่วยเขียนลายให้ ส่วนลายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดตรงกลางเรียกว่าลายประจำยาม หล่อด้วยอลูมีเนียมปิดทอง ตอนนั้นค่าจ้างทำอันละไม่กี่สิบบาท ได้ลายมาแล้ว เดลงมือติดลงบนไม้สักทองตัวเอง พระชินราชวัดวังทอง ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว ภาพจากเพจดิว เมืองเอก พระบูชาพระเครื่อง พระพุทธชินราชวัดวังทองฯ ขนาด ๙ นิ้ว บนโต๊ะหมู่บูชาพระที่บ้าน เป็นพระปิดทอง อายุเกินครึ่งร้อยแล้ว องค์พระเลยหมองไปหน่อย องค์พระประธานขณะหล่อที่โรงหล่อของช่างบรรพต เคลือบแก้ว รถบรรทุกที่ขนพระประธานขึ้นไปที่วัด ปักฉัตรเต็มขนาดนี้ เลยคลุมรถเพื่อกันฝนไม่ได้ ปาฏิหาร์ยมีจริง ระยะทางสามร้อยกว่ากิโลฯ ฝนตกตลอดทางแต่องค์พระไม่เปียกสักนิด แผ่นพับโฆษณาเช่าพระของวัด กรอบนี้งามได้ใจ ออกแบบโดย อ.อวบ สาณะเสน ป้ายวัดพัฒนาตัวอย่างที่เดออกแบบป้ายเอง ตัวอักษรสลักอักษรบนหินอ่อนขนาดกว้างเมตรกว่า ด้านหลังมีประวัติความเป็นมาของวัดวังทองฯ ที่เดเป็นคนเขียนเอง เขียนไว้ ๒ หน้ากระดาษ ทางราชการได้อ่านแล้วถูกใจ เชิญเดไปเลี้ยงข้าว ชมว่าเขียนได้ดี ตอนป้ายหินอ่อนเสร็จ เดเห็นว่าตัวหนังสือมันตื้นไป เลยไปซื้อที่เจียรหินให้พระที่วัดช่วยเจียรให้ตัวหนังสือมีความลึกขึ้น เดช่วยวัดมายี่สิบกว่าปี แต่ไม่คิดจะสลักชื่อตัวเองไว้เป็นหลักฐานเลย จดหมายน้อยที่ส่งมาด้วย หนังสือ "บันทึกของพ่อ" ชีวประวัติและผลงานของช่างบรรพรต เคลือบแก้ว หนา ๑๗๖ หน้า รวบรวมสัดส่วน ลวดลาย ของพระพุทธรูปสำคัญที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยทุกยุคสมัย ภาพจากเพจหนังสือศิลปะ บีจีจากคุณยายกุ๊กไก่ ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ ebaemi และคุณ Hawaii_Havaii   Create Date : 12 มีนาคม 2566 0 comments Last Update : 12 มีนาคม 2566 22:10:48 น. Counter : 950 Pageviews. Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณSweet_pills, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณ**mp5**, คุณeternalyrs, คุณปรศุราม, คุณkae+aoe, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณnewyorknurse, คุณปัญญา Dh, คุณRain_sk, คุณดอยสะเก็ด, คุณtuk-tuk@korat, คุณอุ้มสี, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณเริงฤดีนะ, คุณสองแผ่นดิน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณทนายอ้วน, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณเนินน้ำ, คุณChow Tu Tu, คุณกิ่งฟ้า, คุณดาวริมทะเล, คุณJohnV, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณข้าน้อยคาราวะ, คุณLittleMissLuna, คุณmariabamboo, คุณtanjira, คุณTurtle Came to See Me, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณทูน่าค่ะ, คุณkatoy