คารวาลัย...พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร (B รียูเนี่ยน ๖) พระบรมฉายาลักษณ์จาก เพจ Matana Parmsopee สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพเมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ ศาลา ๕ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ และระหว่างวันที่ ๒๑-๒๕ มิถุนายน มีกำหนดสวดพระอภิธรรมศพ เวลา ๑๙.๐๐ น. ณ ศาลา ๕ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ ศพจะอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ ส่วนหมายกำหนดการพระราชทานเพลิงศพจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป พระฉายาลักษณ์ และรูปจากสถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่ เป็นนักเขียนสองสายให้เราอ่าน โก้ บางกอก สนุกสนานอ่านกันใหญ่ เป็นวสิษฐ. เดชกุญชร ลึกซ่อนนัย เทหัวใจให้บ้านเมืองเรื่องจริงจัง เป็นศิลปินแห่งชาติองอาจย่ิง เป็นคนจริงคนซื่อสื่อความหวัง ฝากความคิดดำรงทรงพลัง ให้คนหลังคิดเอื้อเพื่อแผ่นดิน วันนี้ท่านลาจากสงบงาม วันนี้ท่านก้าวข้ามความสูญสิ้น วันนี้ท่านเดินทางไกลไม่ยลยิน แต่อนุทินใจเรายังทรงจำ ชมัยภร แสงกระจ่าง ร้อยกรอง จาก เพจ chamaiporn.bangkombang ภาพจาก manager.co.th พลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร อดีตนายตำรวจราชสำนักประจำ และเป็นผู้ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไว้วางพระราชหฤทัย จนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ ก่อนที่จะออกมาดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมตำรวจ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นนักเขียนนวนิยายเกี่ยวกับวงการตำรวจ และอาชญากรรม โดยนำมาจากประสบการณ์จริง จนได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้รับยกย่องว่าเป็นตำรวจตงฉินแห่งกรมตำรวจไทย ยุคปราบปรามคอมมิวนิสต์ พล.ต.อ.วสิษฐ ร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถวัดวังทองวราราม จ.พิษณุโลก พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เกิดเมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๒ ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุดรธานี บิดามารดามีอาชีพเป็นครู จบการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนประจำจังหวัดขอนแก่น "โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน" เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๗ สำเร็จการศึกษาชั้นเตรียมอุดมศึกษาจากจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร รุ่น ลมหวล ศึกษาต่อรัฐศาสตรบัณฑิต ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้เข้าศึกษารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการตำรวจ จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เคยเข้ารับการอบรมหลักสูตรการสืบสวนจากสหรัฐอเมริกา จบหลักสูตรวิชาการป้องกันประเทศ จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.รุ่นที่ ๒๓) สมรสกับ คุณหญิงทัศนา (บุนนาค) เดชกุญชร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ มีบุตร ๒ คน คือ ว่าที่ร้อยตรี ดร. สุทรรศน์ เดชกุญชร และ ร้อยตำรวจตรีหญิงปรีณาภา เดชกุญชร พลตำรวจเอก วสิษฐ มีหลาน ๓ คน ได้แก่ น.ส.ปัญจรัตน์ เดชกุญชร, จ่าเอก ชิษณุวัฒน์ เดชกุญชร และ น.ส.ณัฐพร เดชกุญชร ภาพจาก .twitter.com พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เริ่มรับราชการในตำแหน่งอาจารย์ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๕ ต่อมาได้ลาออกไปสมัครเข้ารับราชการในกรมประมวลราชการแผ่นดิน (ต่อมาคือกรมประมวลข่าวกลาง) แล้วโอนไปรับราชการที่กองตำรวจสันติบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และย้ายไปเป็นนายตำรวจราชสำนักประจำในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. ๒๕๓๒ และในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ - ๒๕๔๓ และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ตั้งแต่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ถึง ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ตำแหน่งสุดท้ายในกรมตำรวจก่อนลาออกไปเป็นรัฐมนตรีเป็น รองอธิบดีกรมตำรวจ ฝ่ายกิจการพิเศษ ภาพจาก youtube.com ผลงานเขียนของ วสิษฐ เดชกุญชร ที่มีชื่อเสียง เป็นนิยายที่เขียนจากประสบการณ์ในราชการตำรวจ มีตัวเอกเป็นตำรวจที่มีอุดมการณ์ เขียนโดยใช้ชื่อจริง และเคยใช้นามปากกา "'โก้ บางกอก" นิยายหลายเรื่องมีผู้นำไปสร้างภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ โดยเฉพาะนวนิยายชุดองค์กรลับต่อต้านผู้ก่อการร้าย ที่มีตัวเอกชื่อ "ธนุส นิราลัย" กับ "ลำเพา สายสัทกุล" (สารวัตรเถื่อน, แม่ลาวเลือด, หักลิ้นช้าง, อวสานสายลับ, บ่วงบาศ, ประกาศิตอสูร) ดงเย็น, จันทน์หอม, ลว.สุดท้าย, สารวัตรเถื่อน, แม่ลาวเลือด, หักลิ้นช้าง, อวสานสายลับ, บ่วงบาศ, ประกาศิตอสูร, สารวัตรใหญ่, สันติบาล, เลือดเข้าตา, เบี้ยล่าง, พรมแดน ผลงานตีพิมพ์ล่าสุด หนังสือรวมเรื่องสั้น " สัพเพเหระคดี เล่ม ๑ และ ๒ โดย Cruditas Publishing ภาพจาก mqdc.com เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นจตุตถดิเรกคุณาภรณ์ (จ.ภ.) เหรียญพิทักษ์เสรีชน (ส.ร.๒) ประเภทที่ ๒ เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.) เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ ๙ (ภ.ป.ร.๔) เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ ๙ (ร.จ.ง.๙) ภาพจาก บล็อกไทยสปริง ภาพจาก เพจ Matana Parmsopee จากความคิดสมัยเด็กที่อยากจะแก้แค้นตำรวจที่เคยจับขังคุก ๑ คืน อย่างไร้เหตุผล ทำให้ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร มุ่งมั่นจะเป็นตำรวจให้จงได้ และท่านก็สามารถเข้ารับราชการที่กรมตำรวจได้สมดังใจ ก่อนจะได้ลัดฟ้าไปทำงานที่สำนักงานองค์กรสนธิสัญญาป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ซีโต้) และเลือกกลับมาประจำการที่สถานีภูธรในภาคอีสาน เพราะอยากจะรู้ว่า "อะไรทำให้คนอีสานเป็นคอมมิวนิสต์" (ในช่วง พ.ศ. ๒๕๐๓ บ้านเมืองกำลังเผชิญปัญหาคอมมิวนิสต์) การไปประจำที่ภูธรครั้งนั้น ทำให้นายตำรวจจากเมืองกรุงได้ปะทะกับผู้ก่อการร้ายเป็นครั้งแรก และเป็นดั่งรอยต่อสำคัญทางความคิดว่า จะอยู่ต่อ หรือจะลาออกจากอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพื่อไปทำงานอื่นซึ่งมีคนทาบทามเข้ามาแล้ว "...แต่ผมไม่ไป ผมตัดสินใจอยู่ต่อ แล้วผมก็อยู่เรื่อยมาจนกระทั่งเกษียณ" นายตำรวจ ผู้ซึ่งได้ทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา บอก และหลังจากนั้นท่านก็ถูกย้ายไปประจำตามภาคต่าง ๆ แม้กระทั่งถูกส่งตัวไปเรียนที่เอฟบีไอ พอกลับมาก็ได้ไปช่วยฝึกชาวบ้านรบกับคอมมิวนิสต์ เพื่อให้ชาวบ้านรู้จักพัฒนาตัวเอง ในครั้งหนึ่ง ท่านมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระเจ้าอยู่หัว โดยไม่ได้คาดฝัน ซึ่งในหลวงก็รับสั่งให้ตามเสด็จฯ ทำให้ พล.ต.อ.วสิษฐ ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นนายตำรวจราชสำนักประจำ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ จนถึง พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็นระยะเวลา ๑๒ ปีเต็ม ภาพจาก manager.co.th สิ่งหนึ่งที่นายตำรวจตงฉินได้จากการปฏิบัติหน้าที่ตามเสด็จฯ ในหลวง ก็คือ "ธรรมะ" ซึ่งเป็นสิ่งที่ พล.ต.อ.วสิษฐ ศึกษาและปฏิบัติตามพระองค์ท่านจนติดเป็นนิสัย พล.ต.อ. บอกว่า ธรรมะทำให้เราสามารถจะมองชีวิตในความเป็นจริง คนเรามักตะเกียกตะกายหาสิ่งที่ตัวเองนึกว่าเป็นความสุข ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่หานี้คือทุกข์ ได้มาชั่วครู่ชั่วยาม นอกจากเป็นนายตำรวจตงฉิน ผู้ยึดในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์แล้ว อีกด้านหนึ่งของชีวิต พล.ต.อ.วสิษฐ ก็ยังเป็นนักเขียนที่สร้างสรรค์ผลงานมาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาในรั้วจามจุรี โดยเฉพาะงานเขียนนวนิยายที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ เป็นงานเขียนประจำของท่านไปแล้ว ซึ่งจากผลงานของท่านก็ทำให้ท่านได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๑ และแม้จะย่างเข้าสู่วัย ๘๓ ปี แต่ท่านก็ยังมีความคิดจะเขียนนวนิยายอีกสักเล่ม ภาพจาก matichonbook.com ในฐานะที่เป็นอดีตตำรวจ และเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง พล.ต.อ.วสิษฐ ยอมรับว่า รู้สึกหนักใจที่สังคมไทยกำลังเกิดปัญหาซึ่งแทรกซึมอย่างฝังลึก เพราะคุณธรรมของสังคมไทยอ่อนลง หันไปหาวัตถุนิยมกันมากขึ้น ความเห็นแก่ตัวมากขึ้นกว่าสมัยก่อน ความเกรงอกเกรงใจก็น้อยลง "เราเหมือนกับสอนลูกสอนหลานเรื่องของการให้เสรีภาพ สอนให้รู้จักสิทธิ แต่ลืมสอนเรื่องหน้าที่ เดี๋ยวนี้ผมรู้สึกว่าการอบรมเรื่องหน้าที่น้อยลง แล้วคนตื่นตัวมากเรื่องการสงวนสิทธิ ป้องกันสิทธิ แต่ถึงตอนทำหน้าที่ไม่ทำ กับปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้าจะให้ตอบ ผมก็ต้องบอก แก้ที่ตัวเอง" นายตำรวจตงฉิน สะท้อนภาพสังคมไทยในปัจจุบันอย่างเป็นห่วง ภาพจาก twitter.com พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตนายตำรวจราชสำนักประจำ เป็นรองอธิบดีกรมตำรวจ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นอกจากนั้นท่านยังเป็นนักเขียนที่มีผลงานนวนิยายหลายต่อหลายเล่ม รวมไปถึงมีบทบาทในการให้ความเห็นและเคลื่อนไหวต่อสู้กับความไม่ชอบธรรมในวงการการเมืองและการบริหารประเทศ ซึ่งท่านถือเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ “ผมหวังว่าคนที่เขาได้อ่านเรื่องหรือได้ฟังผมพูดเขาจะเข้าใจว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ เขาอาจจะไม่มีความสามารถที่จะไปต่อสู้กับพฤติกรรมของนักการเมืองหรือข้าราชการเลวๆ แต่อย่างน้อยที่สุดเขาจะได้รู้ว่าสิ่งที่คนพวกนี้ทำมันผิดอย่างไร ผมถือว่าเป็นหน้าที่สำหรับบ้านเมือง หน้าที่ต่อพระมหากษัตริย์ เมื่อทำไปแล้วผมพร้อมที่จะรับผลกระทบเหล่านี้ ตราบใดที่ผมมีกำลังวังชาทำได้อยู่ผมก็จะทำ” สำหรับท่านแล้ว ธรรมะและการยึดมั่นในศีลธรรม ทำให้รับสิ่งที่เข้ามากระทบได้ทุกอย่างโดยไม่หวั่นไหว การถวายงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดเวลากว่า ๑๑ ปีที่ผ่านมา ทำให้ท่านได้เห็นว่าบ้านเรามีพระมหากษัตริย์ที่ทรงอุทิศพระวรกายให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งทำให้ท่านตัดสินใจที่จะเดินตามรอยพระยุคลบาทมาจนทุกวันนี้ และตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากให้บ้านเมืองอยู่ด้วยความสงบสุข ภาพจาก matichon.co.th ข้อมูลจาก mqdc.com wikipedia.org กระทู้ "พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ตำรวจตงฉินฯ" RIP...พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ราชองครักษ์ในรัชกาลที่ ๙ ฉายา “ตำรวจตงฉินแห่งกรมตำรวจไทย” อดีตหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ ผู้ตามเสด็จฯ ถวายความปลอดภัย และเผยแพร่พระราชกรณียกิจของในหลวงรรัชกาลท่ ๙ บล็อกเกอร์ไฮกุกราบคารวะคุณงามความดีของท่าน ขอดวงวิญญาณท่านไปสู่สุขคติในสัมปรายภพ และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวเดชกุญชรด้วยค่ะ บีจีจากคุณจอมแก่นแสนซน กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii Free TextEditor   Create Date : 23 มิถุนายน 2561 0 comments Last Update : 19 มีนาคม 2562 22:55:52 น. Counter : 2047 Pageviews. Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณmoresaw, คุณmambymam, คุณTui Laksi, คุณJinnyTent, คุณโอพีย์, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณInsignia_Museum, คุณtuk-tuk@korat, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณล้งเล้งลัลล้า, คุณหงต้าหยา, คุณอุ้มสี, คุณALDI, คุณเริงฤดีนะ, คุณสาวไกด์ใจซื่อ