|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
มาโคร 2:1, 1:1, 1:2, 1:4 ... โอย ปวดหัว
ขาประจำห้องกล้องทั้งหลายคงเคยผ่านตากับคำว่า "เลนส์ตัวนี้ถ่ายมาโครได้ที่ 1:1 แน่ะ" หรือ "ซูมที่ถ่ายมาโครได้ 1:4" ฯลฯ เคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าครับว่าเจ้าตัวเลขพวกนี้มันหมายถึงอะไร
คำจำกัดความของ "การถ่ายภาพมาโคร (macro photography)" ในยุคกล้องฟิล์ม หมายถึง "การถ่ายภาพให้ได้ ขนาดของภาพบนฟิล์มเท่ากับขนาดของวัตถุหรือใหญ่กว่า" นั่นหมายความว่า เลนส์ที่จะเรียกได้ว่าเป็นเลนส์มาโครที่แท้จริง ต้องถ่ายภาพให้ปรากฏบนฟิล์มอย่างน้อยเท่ากับขนาดของวัตถุ ซึ่งจะเรียกว่า เลนส์นั้นมีกำลังขยายเท่ากับ 1:1
ตัวอย่างง่ายๆ ฟิล์ม 35 มม. มีขนาด 24 x 36 มม. เลนส์มาโครที่มีกำลังขยาย 1:1 ต้องถ่ายภาพที่ปรากฏบนฟิล์มนั้นได้เต็มเฟรมพอดี ถ้าถ่ายได้กำลังขยายน้อยกว่านั้นครึ่งนึง คือถ่ายใกล้สุดครอบคลุมพื้นที่ได้ 48 x 72 ซม. ก็จะเป็นกำลังขยาย 1:2 ถ้าครอบคลุมพื้นที่ได้เท่ากับสี่เท่าของขนาดภาพบนฟิล์ม ก็จะเป็นกำลังขยาย 1:4 กำลังขยายจะลดลงเรื่อยๆ ตามการเพิ่มของเลขตัวหลัง
ตัวอย่างเลนส์มาโครที่ถ่ายได้กำลังขยายสูงสุดที่ 1:2 ก็เช่น 55 mm. Micro Nikkor ทุกรุ่น, Olympus ZD 50 mm. f/2, Tamron 90 mm. f/2.5, Vivitar 100 mm. f/3.5, ฯลฯ แต่เนื่องจากตามคำจำกัดความที่ว่าเลนส์มาโครจะต้องมีกำลังขยาย 1:1 ผู้ผลิตจึงต้องผลิตอุปกรณ์เสริมออกมาคู่กันเพื่อให้ได้ กำลังขยายเป็น 1:1 เช่น extension tube, close-up, teleconverter (ตัวหลังนี่นอกจากจะเพิ่มกำลังขยายแล้วยังเพิ่มทางยาวโฟกัสด้วยนะครับ)
ส่วนตัวอย่างเลนส์มาโครที่ถ่ายได้กำลังขยายสูงสุดที่ 1:1 โดยไม่ต้องเพิ่มเติมอุปกรณ์อะไรอีกก็เช่น Olympus ZD 35 mm. f/3.5, Vivitar 55 mm. f/2.8, Vivitar 90 mm. f/2.5, Soligor 55 mm. f/2.8 ฯลฯ
แล้วเลนส์ที่โฆษณาว่า มาโครที่ 1:3, 1:4 ล่ะ?? อันนี้มันไม่เข้าคำจำกัดความของเลนส์มาโครเลยนะครับ เป็นแท็กติกในการโฆษณาขายของเท่านั้นเอง ดูเหมือน Sigma จะชอบให้มีคำว่ามาโคร ติดอยู่บนเลนส์เกือบทุกตัว ทั้งๆ ที่บางครั้งเป็นแค่มาโคร 1:6 ก็เอา ส่วนของบางบริษัทที่พอจะมีความเขินอายอยู่บ้างจะใช้คำว่า close focus แทน
เลนส์ธรรมดาที่ไม่ใช่เลนส์มาโคร ก็ใช้ในการถ่ายภาพมาโครได้นะครับ โดยการใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น close-up, reverse ring หรือ extension tube แต่ก็ต้องยอมแลกด้วยคุณภาพที่ลดลง และความไม่สะดวกที่อาจจะมากขึ้น
แต่อย่าลืมว่า ทั้งหมดนี้เป็นมาตรฐานที่ยึดเอากล้องฟิล์มเป็นหลัก
ถ้าเป็นกล้องดิจิตัลล่ะ??
กล้องระบบ 4/3 มี ccd ขนาดเพียงครึ่งเดียวของฟิล์ม 35 มม. ดังนั้นเลนส์ที่เคยถ่ายภาพได้กำลังขยาย 1:2 บนกล้องฟิล์มจึงมีกำลังขยายเป็น 1:1 เมื่อนำมาใช้บนกล้องระบบ 4/3 ส่วนกล้อง DSLR ยี่ห้ออื่นใช้ ccd ขนาดเท่าหรือใกล้เคียงกับฟิล์ม APS จึงมี crop factor คูณ 1.5 หรือ 1.6
ทีนี้ถ้าอยากรู้ว่าเลนส์ของเรากำลังขยายเป็นกี่เท่า ดูได้ง่ายๆ ครับ มันมีสูตรคำนวณโดยที่ดูจากทางยาวโฟกัสของเลนส์ คูณกับ.... เอ้อ... ช่างเหอะ ก็บอกว่าจะง่ายๆ...
Create Date : 06 พฤษภาคม 2551 |
Last Update : 6 พฤษภาคม 2551 19:19:42 น. |
|
8 comments
|
Counter : 5171 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ha ha yee วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:22:31 น. |
|
โดย: ha ha yee วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:23:08 น. |
|
โดย: ha ha yee วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:23:58 น. |
|
โดย: ha ha yee วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:30:39 น. |
|
โดย: ha ha yee (ha ha yee ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2551 เวลา:6:59:11 น. |
|
โดย: ha ha yee วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:59:24 น. |
|
โดย: snoopy_E-1 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:39:56 น. |
|
| |
|
ha ha yee |
|
|
|
|
ดูว่าได้ความยาวกี่ มม.
ถ้าได้ 36 มม. เท่าความยาวของภาพบนฟิล์ม เลนส์ตัวนั้นก็มีกำลังขยาย 1:1