อย่างที่บอกไม่เคยเข็ดกับสายนี้ซักที ถึงจะได้รีเกรทเมลมา 2 รอบแล้ว แต่ใจก็ยังอยากได้อยู่ดี

วันนี้เลยปัดฝุ่นชุดสูท แล้วสมัครกาต้าอีกครั้ง หลังจากร้างลามาเป็นเดือนๆ 

รอบนี้ ไปแบบชิวๆ มาก เพราะคิดว่าคงเป็รอบสุดท้ายที่จะได้สมัครแล้วม้าง เพราะถ้าได้เซ็นต์สัญญา

กับอีวีเอ จริงๆ ก็คงต้องตัดใจละ ไม่งั้นถ้าออกก่อนสัญญา ก็ไดนปรับเป็นเงินไม่น้อยเหมือนกันนะ

วันแรก ตื่นสายได้อีก เพราะเมื่อคืนไปโรงเบียร์มา ฮ่าๆๆ บอกแล้วไงว่าชิว เค้าวอคอินกันตั้งแต่ 9 โมง ไอผึ้งไปโน้น 11 โมง นั่งรอชิวๆ 20 นาที ก็ได้ยื่นเรซูเม่ แล้วก็กลับ เออ ดีแหะ ไม่ต้องนั่งรอ คิคิ

หลังจากยื่นเสร็จ ก็ดันได้คอลซะงั้น ให้ไปรอบข้อเขียนวันมะรืน .... ความชิวมันดีแบบนี้นี่เอง

แต่วันนั้นเราได้เพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกตั้ง 3 คน คิคิ แค่นี้ก็คุ้มละเนอะ ^^

มาร่วมชักภาพกับเพื่อนๆ และน้องๆ กันหน่อย นานๆจะเจอตัวเป็นๆที อิอิ

รอบข้อเขียน พอถึงเวลาก็เข้าไปรอในห้อง ไปนั่งดูสไลด์พรีเซ้นเทชั่น ง่วงมาก ณ จุดนั้น ตาจะปิด จากประสบการณ์รอบที่ 4 ของการสมัครกาต้า ทำให้รู้ว่า ข้อสอบตัวเลือกภาษาอังกฤษขอกาต้า เหมือนกันทุกรอบ คิคิ แต่วันนี้ เราดันนั่งแต่งเรียงความนานไปหน่อย เขียนไม่เสร็จด้วยอะ เอ่ะ หรือว่าเสร็จก็ไม่รู้ แต่พยายามตอบทุกคำถาม ไม่มีเว้นว่าง หรือเรียกง่ายๆอีกอย่างว่า แถ นั้นเอง ฮ่าๆๆพอทำเสร็จก็ออกมานั่งรอข้างนอก ประมาณ 40 นาทีได้ ปรากฎว่า ผ่าน !!!

นั่งรอจนไม่มีไรทำ ถ่ายรูปเล่นดีกะ เพื่อนใหม่เราชื่อ กวางตุ้ง เป็นเพื่อนที่น่ารักมากๆ พูดเก่งสุดๆ รอบนี้เป็นครั้งแรกของตุ้ง สู้ๆ นะแก ^^ คราวหน้าเอาใหม่นะ

รอบกรุ๊ป รอบนี้กรรมการให้ผ่านเยอะมาก ตั้ง 28 คนได้ม้างไม่แน่ใจ กรรมการเลยให่แบ่งเป็น 4 กลุ่ม เพราะคนเยอะจริงๆ ปกติมีแค่ 2 กลุ่มเอง หัวข้อกลุ่มเราก็ไม่ยากมากมาย ให้คิดเมนูอาหารในชั้นประหยัด ในเทศกาลคริสมาส อิอิ ก็แถๆกันไป สรุป ผ่าน !!! ไปไฟนอลแล้ววว เย้ๆ

**ขอบใจตุ้งมากนะ ที่นั่งรอเราจนถึงรอบสุดท้ายเลย ถึงแม้ว่าเราจะเพิ่งรู้จักกันเมื่อวันวอคอิน แกน่ารักได้โล่อะ**

รอบสัมภาษณ์เดี่ยว เข้าไฟนอลเป็นรอบที่ 3 แล้วสินะ สำหรับการสมัครกาต้าทั้งหมด 4 ครั้ง ถือว่าเป็นสถิติที่น่าจดจำจริงๆ ก็แอบภูมิใจเล็กๆนะ ว่าอย่างน้อยเราก็น่าจะถูกสเป็คสายนี้บ้างละม้างง ไม่งั้นเค้าคงไม่เลือกเราเข้าไฟนอล ติดๆ กันแบบนี้ สัมภาษณ์รอบนี้ เรารู้สึกว่าเราเตรียมตัวดีกว่าครั้งก่อนๆ เรานั่งเขียนเรียงความในสิ่งที่อยากจะพรีเซนต์ให้กรรมการฟัง เหมือนตอนสอบข้อเขียน เน้นๆเลยนะเล่ายังไงก็ได้ให้เห็นภาพ ให้กรรมการนึกภาพตามไปด้วย หลังจากออกห้องสัมภาษณ์ รู้สึกโล่งจนบอกไม่ถูก เหมือนได้ทำเต็มที่จนไม่ได้คิดเสียดาย หรือเสียใจอะไรเลย กรรมการน่ารักมากๆ แนะนำหนังสือ กับเคล็ดลับการฝึกภาษาอังกฤษให้เราด้วย...ขอบคุณนะค่ะ 

ปล ขอบใจเมิงมากลินดา ซึ้ง น้ำตาจะไหล ><"

ณ จุดนี้ ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง เราก็เต็มที่แล้ว ไม่เสียใจเลยซักนิด ถ้าพลาด ก็จะพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ เพื่ออาชีพนี้ ... cabin crew