สิ่่งที่อยากขอซื้อ
วันเสาร์
ที่มีใครหลายคนเตือนว่า
"ไม่ควรออกไปไหน"
คอนเสิร์ตเกาหลีที่เมืองทอง
งานรับปริญญาที่เกษตร

นี่มันแถวบ้านกรูชัด ๆ
คือ จะไม่เชื่อเค้าก็ไม่ได้นะครับ
อันที่จริงผมกะว่าจะไป TCDC
ห้องสมุดศิลปะที่ Emporium
แต่เห็นเค้าว่า ... จะมีการชุมนุม
ปิดถนนหลายเส้น

ถ้าจะเกิดสิ่งอัศจรรย์ทั้งหมดนี้ขึ้นในวันนี้
ผมก็ขออยู่บ้านละกัน

อากาศน่านอนอย่างยิ่ง
แต่ผมกลับตื่นแต่เช้า
ปลุกปล้ำกับการเปลี่ยน "ใบปัดน้ำฝน" รถเอง

เมื่อก่อนผมก็เปลี่ยนเองนะครับ
แต่ใช้วิธี "ซื้อมาเปลี่ยนทั้งก้าน"
คือเมื่อก่อนผมเปลี่ยนรถผมคนเดียว
คราวนี้ผมเปลี่ยนให้รถของทั้งบ้าน
ซึ่งมี 4 คัน
ก็เลยใช้วิธีเปลี่ยนเฉพาะ "ยางปัดน้ำฝน" เอา

ชั้นตอนมันดูไม่ยาก
แต่สำหรับมือใหม่
ที่ปัดน้ำฝนบางอันช่างถอดยาก
โดนเฉพาะใบปัดน้ำฝนหลัง

เรื่องง่าย ๆ 
แต่เล่นเอามือใหม่เจ็บมือไปบ้างเหมือนกัน

ผมมีโอกาสได้นั่งชุดโซฟาวินเทจ
ที่ซื้อเก็บไว้ตั้งแต่ปลายปี
ตอนมันลดราคาตัวโชว์นี่แหละ
ซื้อมาได้ครบห้องพอดี
ของพวกนี้ถูกห่อพลาสติกไว้อย่างดี
แต่เพิ่งถูกเปิดออกมาจัดเพียงไม่กี่วัน
หลังจากทำบ้านเสร็จ

มันนั่งสบายดีจริง ๆ

แม่ตื่นมาเป็นคนที่สอง
ปกติแม่จะตื่นเช้ากว่านี้
แม่เสนอจะทำของเช้าให้ผมกิน
เวลาเห็นแม่กุลีกุจอทำอาหารให้เรากิน
เราก็อดใจอ่อนไม่ได้

แม้ในภายหลัง
อาหารฝีมือแม่ จะ ..... 

จริง ๆ แม่เป็นคนที่รู้ว่าอะไรอร่อยหรือไม่อร่อย
แต่ด้วยความที่ไม่ใช่คนละเอียด
พิถีพิถันมากนั้น
อาหารของแม่จึงต้อง "วัดดวง"

ผมก็เคยนินทาแม่เรื่องทำอาหารให้ฟังแล้ว

อาหารเช้าเราเป็นแซนวิชแฮมชีส
แบบที่ขายในเซเว่นแหละ
แต่แฮมและชีสของเราอร่อยกว่า
อร่อยกว่าจริง ๆ 

แม่หยิบแซนวิชกับกาแฟ
มานั่งกินที่ชุดโซฟา
ซึ่งไม่มีโต๊ะกลาง
นึกภาพตามนะ
เอาจานพลาสติกอ่อน
รองขนมปัง
แล้วเอาถ้วยกาแฟเซรามิควางบนนั้นอีกที
มือนึงถือจานพลาสติก 
มือนึงหยิบแซนวิช และกาแฟกิน

นี่เป็นท่าโปรดของแม่
เค้าจะไม่นั่งกินข้าวบนโต๊ะอาหารหรอก
แต่เค้าจะนั่งกินข้าวบนเก้าอี้โซฟา
ซึ่งรองด้วยพรม
และไม่มีโต๊ะกลาง
เอามือนึงถือจาน
และอีกมือหนึ่งถือข้อนตักอาหารกิน

"ถ้าเราเป็นเด็ก ๆ 
แล้วทำแบบที่แม่ทำอย่างนี้นะ
เชื่อไหมว่าโดนด่าเช็ดเลย"

แม่หัวเราะยิ้ม ๆ
แต่ก็ยังทำแบบนั้นต่อไป
"แหม ... ชั้นไม่ทำหกหรอก"

แล้วจะดีกว่าไหม
ถ้าเรารู้จักป้องกันไม่ให้มันหก
ด้วยการกินอาหารบนโต๊ะอาหาร
หรือโต๊ะ Island ในครัว

อยากรู้ว่า โซฟาสีครีม
ที่เพิ่งใช้เป็นครั้งแรก
แล้วแม่ทำกาแฟหกใส่เสียเอง
ใครน้า ... ที่จะเป็นคน "เจ็บใจ"

ผมกำลังคิดว่า
จะยึดทีวีที่เปิดดูอยู่ตอนนี้
บริเวณโถงกลางบ้าน
ไว้เป็นทีวีของตัวเอง

ทุกคนมีทีวีส่วนตัว ... ยกเว้นผม

บางทีก็อยากดูข่าวเศรษฐกิจบ้างไรบ้าง

ช่างเถอะ
แม่เริ่มบทสนทนาแบบเดิม ๆ
รู้จักคนนั้นคนนี้ไหม
คนนี้เป็นแฟนนั้น
คนนั้นแย่งแฟนคนนี้
ก็ข่าวดาราที่แม่เสพอยู่ทุกวัน

ก็ดีที่ทำให้แม่ไม่เหงา

แม่เป็นคนแปลก
แม่จะไม่ดูละครไทย
เพราะอะไรก็ไม่รู้
แต่กลับชอบดูละครจีน ญี่ปุ่น เกาหลี
ตามช่องดาวเทียม
ซึ่งมันเก่ามาก

แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น

แม่รู้ข่าวดาราเกือบทุกคน
แต่แม่รู้จักหน้าดาราใหม่ ๆ น้อยมาก
ไม่รู้ว่าคนไหนชื่ออะไร เล่นเรื่องอะไร
ทั้ง ๆ ที่ชอบดูข่าวเม้าท์ดารา
รู้ว่าใครแย่งแฟนใคร
แปลกไหมล่ะ

ส่วนผมเองรู้จักดารา
เพราะก็ดูละครบ้าง
แต่เรื่องข่าวเม้าท์ แทบไม่ได้ดู

ผมก็ไม่เข้าใจนักข่าวบันเทิงพวกนี้นะ
เค้ามีความสุข
กับการเอาเรื่องคนอื่น
มานินทาเสีย ๆ หาย ๆ ได้อย่างไร

ไม่รู้สึกว่า มันเป็น "บาป" บ้างเหรอ

บางคนก็พูดจาให้เกียร์ติดาราดี
แต่กับนักเล่าข่าวบันเทิงบางคน
พูดไป .. จิกหัวดาราไป
ถ้าจิกจริง ๆ ดาราคงแทบหัวล้านไปแล้ว

ผมก็ไม่ค่อยอยากให้แม่ดูรายการพวกนี้หรอก
แต่ก็ดีกว่าให้แม่ดูแต่รายการธรรมะ

รายการธรรมะก็ดี
ถ้าจะไม่มีการขายวัตถุมงคล

มันทำให้ผมเสื่อมศรัทธานิดหน่อย
รูปปั้นปลุกเสกจากอาจารย์คนนู่นคนนี้
ผมไม่ค่อยเชื่อ
และมันไม่ใช่พระพุทธศาสนาที่แท้จริง

เค้าว่าคนแก่มักจะเหมือนเด็ก
ผมว่าจริง

อย่างแรก คือ เอาแต่ใจตัว
ความมีเหตุผลน้อยลง
ความละเอียดรอบคอบน้อยลง
และขี้น้อยใจ

นับวัน
เรื่องที่ผมกับแม่จะคุยกันได้นาน
จะยิ่งน้อยลงทุกที
ผมสงสารแม่นะ
ผมเองก็เหงา
ผมรู้ว่า การที่เราโทรไปหาเพื่อน
แล้วไม่มีใครรับสายเป็นอย่างไร

แต่แม่คงเหงายิ่งกว่า

บางครั้งผมก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก
ด้วยความที่แม่คุยในเรื่องผมไม่สนใจ
ก็เรื่องซุบซิบดารานี่แหละ

แม่พูดเยอะมากจริง
มากจนคุณจะได้ยินเสียงแม่พูดตลอดเวลา
ผมก็ไม่อะไรหรอก
ถ้าสุดท้ายแม่จะไม่ขุดเอาปม
ที่เคยทะเลาะกันออกมาพูด
การสนทนาจำต้องจบ
โดยที่ผมต้อง "รีบเดินหนี" ออกมา
ก่อนที่จะโมโหไปมากกว่า

เช้าวันเสาร์ของผมมมม

อยากให้แม่มีสติในการพูดมากกว่านี้
นี่คือปัญหาหลักของแม่เลย
คือพูดจาไม่ค่อยดูสภาพแวดล้อม
ทิศทางลม และอารมณ์ของคู่สนทนา

จำได้ว่าคราวก่อนไปพัทยากัน
คนกดลิฟท์ให้เป็นพม่า
ผมกับน้องก็ไม่อะไร
แม่ก็ไปล้อเค้า "เบอม่า เบอม่า"
ผมกับน้องก็ปราม "แม่!"
แม่ยังไม่หยุด "เบอม่า เบอม่า" แล้วหัวเราะ

มันจะปาดคอเราตายในลิฟท์มั้ยว่ะ ?

พอออกจากลิฟท์
ผมก็ต้องคุยหน่อย
คือ เวลาพูดเล่นต้องดูบ้าง
บางครั้งการพูดเรื่องเชื้อชาติ
มันก็ค่อนข้างอ่อนไหว
เค้าอาจจะคิดว่าเราดูถูกเค้าก็ได้

เหมือนที่วันนี้ผมเดินลุกหนีจากแม่
ก็เพราะแม่หัวเราะเยาะพวกนักร้องใน MV
บอกว่า "คนพวกนี้ก็ชอบเนอะร้องเพลง"
แล้วก็หัวเราะเยาะ
เหมือนกับที่หัวเราะเยาะ
ตอนที่ผมนั่งเล่นกีต้าร์ร้องเพลงในห้องที่ออฟฟิศ
เหตุการณ์วันนั้นผุดขึ้นในหัวทันที
แม่หันมายิ้มยังไงก็ไม่รู้
คงคิดว่า "คนพวกนี้บ้าเหมือนแกเลย"

อย่างน้อยการเล่นกีตาร์ร้องเพลง
ก็เป็นสิ่งที่ผมทำได้ดี
"แกเล่นได้เด็ดสุดใน common room แล้วหล่ะ"
(หมายถึงชั้นล่าง ของตึกที่คณะ)
เป็นคำชมจากเพื่อน
ที่ทำให้ผมอดภูมิใจไม่ได้

ผมเปรียบเสมือนตู้เพลงเคลื่อนที่
ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเล่นอะไรได้จบเพลงสักที
แต่ผมก็ทำให้เพื่อน ๆ ทุกคนมีความสุข
เวลาไปเที่ยวด้วยกัน

การหัวเราะเยาะของแม่มันน่าโมโห
จนพวกคุณคงคิดไม่ถึง
เหมือนจะหัวเราะเยาะได้ทุกอย่างในโลก
มันเป็น "สิ่งที่อยากขอซื้อ" มากที่สุดจากแม่

ผมเดินไปที่ออฟฟิศอย่างเซ็ง ๆ
สุดท้ายผมก็ทนไม่ไหว

แทนที่จะอยู่กันพร้อมหน้า
อย่างมีความสุดแท้ ๆ

สิ่งที่แก้ง่ายที่สุดคือที่ "ตัวเรา"
ผมไม่หวังจะให้แม่
เลิกหัวเราะเยาะ "โลกใบนี้"
แต่หวังว่าสักวันนึง
ผมจะไม่รู้สึกอะไรเลย
กับ "การหัวเราะเยาะ" ของแม่






Create Date : 04 สิงหาคม 2556
Last Update : 4 สิงหาคม 2556 3:31:02 น.
Counter : 744 Pageviews.

1 comments
  
ก็นั่นมันแม่นี่เนอะ
โดย: yourself วันที่: 17 สิงหาคม 2556 เวลา:16:16:37 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Guynes
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



ผู้ชายเซอร์ ๆ ที่รักดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ ชอบดื่มกาแฟและเบียร์ เคยฝันว่าอยากมีห้องสมุดเป็นของตัวเอง เพราะรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านหนังสือ และจะอ่านแบบไม่กินไม่นอนจนกว่าจะอ่านจบ
สิงหาคม 2556

 
 
 
 
1
6
8
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
28
29
31
 
All Blog