Aids Diary 1-4....แก้ว
@โลกจะสุขสบายนั้นเป็นได้หลายทาง ต้องหลบสิ่งกีดขวางหนทางให้พ้นไป
จะสบความสุขสันต์สำคัญที่ใจ สุขและทุกข์อย่างไรเพราะใจตนเอง

@ ฝ่าลู่ทางชีวิตต้องคิดเฝ้าย้อมใจ โลกมืดมนเพียงใดหัวใจอย่าคร้ามเกรง
ตั้งหน้าชื่นเอาไว้ย้อมใจด้วยเพลง ไยนึกกลัวหวาดเกรงยิ้มสู้

@ คนเป็นคนจะจนหรือมี ร้ายหรือดีคงมีหวังอยู่
ยามปวงมารมาพาลลบหลู่ ยิ้มละมัยใจสู้หมู่มวลเภทภัย

@ ใฝ่กระทำความดีให้มีจิตโสภา สร้างแต่ความเมตตาหาความสุขสันต์ไป
จะสบความสุขสันต์สำคัญที่ใจ เฝ้าแต่ยิ้มสู้ไปแล้วใจชื่นบาน

(“ยิ้มสู้” เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๖ ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า จักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย)



หนังสือเล่มนี้ เป็นบันทึกเรื่องราวชีวิตจริงของแก้ว สาวน้อยผู้เกิดมาในครอบครัวอบอุ่น ผลการเรียนดีจนจบปริญญาโท ยังไม่ทันรับปริญญาด้วยซ้ำก็ได้งานดีๆ ทำ เธอจึงต้องไปตรวจร่างกายตามระเบียบของบริษัท แต่แล้ววันนั้นกลับเป็นวันที่สำคัญที่สุดของชีวิต “ผลเลือดที่เธอได้รับมีเชื้อ HIV” เธอไม่เชื่อเพราะไม่ใช่คนที่มีพฤติกรรมทางเพศเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ และไม่เสพยาเสพติด จึงขอให้แพทย์ตรวจอีกครั้ง ... ผลออกมาเหมือนเดิม

“จากชีวิตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ จากคุณหนูที่ไม่เคยมีเรื่องทุกข์ร้อน จากมหาบัณฑิตจบใหม่ที่กำลังมีอนาคตที่ดี กลายเป็นผู้ป่วยโรคร้ายแรง โรคที่สังคมหวาดกลัว เป็นคนตกงาน เป็นผู้ติดเชื้อ HIV ที่กำลังจะพัฒนาเป็นผู้ป่วย AIDS เป็นคนที่กำลังจะตาย ทั้งหมดนี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงจนยากที่จะรับไหวจริงๆ”

หนังสือเล่มนี้ อาจจะแปลกประหลาด ต่างไปจากหนังสือที่ตีแผ่ชีวิตของผู้ติดเชื้อทั่วไป ที่มักจะเศร้า รันทด น้ำตาท่วมจอ แต่ในนี้มีทั้งเสียงหัวเราะและคราบน้ำตาปนๆ กัน เป็นไดอารี่ที่อ่านสนุกเหมือนกำลังอ่านนิยายที่แต่งขึ้นมา แต่สิ่งที่แย่ที่สุดในหนังสือ คือ มันดันเป็นเรื่องจริง



ชีวิตของแก้ว ได้รับการถ่ายทอดเข้าสู่การรับรู้ของสาธารณชน สื่อมวลชนแขนงวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ ตลอดจนหนังสือพิมพ์ก็ได้ให้ความสนใจและเชิญแก้วไปบอกเล่าเรื่องราวของเธอผ่านสื่อเหล่านั้น

...ผู้หญิงคนหนึ่งได้เลือกแล้วที่จะอยู่อย่างมีความสุข ไม่เพ้อฝันถึงปาฏิหาริย์ มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน หิวก็กิน ง่วงก็นอน อารมณ์ดีก็หัวเราะ อารมณ์ไม่ดีก็ร้องไห้ กระโปรงคับก็ตกใจ มองดูเมฆ มองดูท้องฟ้า มองดูปลาในอ่าง ด้วยความรัก ความจริงใจ จากหัวใจแท้จริง ด้วยรู้ว่า ป่วยการที่จะโป้ปดหลอกลวงตัวเองต่อไป เพราะอีกไม่นาน เธอก็ต้องไปตามทาง ที่ทุกคนกลัวจะต้องไป เพียงแต่ก่อนหน้าแป๊บนึงเอง

โลกก็ยังหมุนเวียนเหมือนเดิม ฝนตั้งเค้าแล้วก็ตกมา ตอนเช้าพระอาทิตย์ขึ้น เย็นก็กลับไปนอนพักผ่อน ให้หมู่ดวงดาวทำหน้าที่แทน จะทุกข์แค่ไหน แม้จะร้องไห้จนน้ำตาท่วมดาว โลกก็ยังดำเนินไปตามวิถีของมัน แล้วจะมีความทุกข์ไปทำไมกัน เพราะไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นใดก็ตาม เราก็ยังมีทางเลือกดีๆอีกมากมายในการดำเนินชีวิตต่อไป เรายังมีสิทธิที่จะมีความสุขกับปัจจุบันขณะ มีสิทธิที่จะทำอะไรดีๆ ให้กับผู้อื่นได้ มีสิทธิที่จะยิ้ม หัวเราะและมีชีวิตที่เข้มแข็งเป็นสุข



“ทุกวันนี้ เราก็ยังเขียนไดอารี่ในอินเตอร์เน็ต เขียนหนังสือเพื่อบอกเล่าชีวิตของตนเอง เพียงเพื่อหวังให้คนได้เข้าใจผู้ติดเชื้อว่า เขาทุกข์ เขาทนแค่ไหน เขาคิดอะไร ดูแลตัวเองอย่างไร เราไม่ได้ต้องการให้ใครเห็นเราเป็นฮีโร่ ไม่ได้ต้องการให้ใครเข้าใจว่าเป็นเอดส์แล้วก็ความสุขดีนี่หว่า หรือเป็นเอดส์แล้วดัง มีเพื่อนเยอะดี เราอยากให้มองตามความเป็นจริงมากกว่าว่า เป็นเอดส์มันไม่ได้ตายวันนี้พรุ่งนี้ มันไม่ได้แปลว่า ชีวิตจะบัดซบ ตกต่ำ หาความสุขไม่ได้อีกเลย หรือสภาพต้องน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนที่เห็นในโทรทัศน์ คนเป็นเอดส์ก็ยังเป็นคนธรรมดา แค่เป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา อายุไม่ยืน มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครๆกลัว เพียงแค่ไม่สนุกนักหรอกที่ต้องเป็นคนป่วย” (แก้ว-ปกหลัง)

ยังมีปัญหาอีกมากมายที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถหาคำตอบได้ หลายๆคนฝากความหวังในชีวิตไว้กับวิทยาศาสตร์ หลายๆ คนเฝ้ารอปาฏิหาริย์ที่จะเกิดขึ้น บางทีสักวันหนึ่งเมื่อเรามีปัญญา มีความรู้ความเข้าใจโลกและชีวิตมากพอ เราอาจพบว่าปาฏิหาริย์ที่เฝ้ารอที่แท้จริงอาจหลบซ่อนอยู่ภายในตัวของเราเอง และปาฏิหาริย์จะปรากฏขึ้น เมื่อเราคิดและปฏิบัติต่อโลกและชีวิตได้อย่างถูกต้องเหมาะสม




ปัจจุบันนี้องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้โรคเอดส์เป็นปัญหาความมั่นคงของทุกประเทศทั่วโลก มีการระดมทุนจากทั่วโลกเพื่อนำมาแก้ปัญหาโรคเอดส์ สำหรับประเทศไทย ในการประชุมนานาชาติเรื่องโรคเอดส์ ครั้งที่ 15 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2547 ซึ่งไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ เราได้รับคำชมเชยว่า ประสบผลสำเร็จในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเอสด์ได้อย่างมีประสิทธิผล นอกเหนือไปจากสัมฤทธิผลในการแก้ไขปัญหาของผู้ติดเชื้อ ด้วยการผลิตยาต้านไวรัสราคาถูกในประเทศไทย ตลอดจนมาตรการในการสนับสนุนดูแลผู้ติดเชื้อในด้านอื่นๆ

แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาโรคเอดส์เป็นปัญหาระยะยาว ปัญหานี้จะอยู่กับประเทศไทยไปอีกสามสี่สิบปีเป็นอย่างน้อย สงครามกับโรคเอดส์เป็นสงครามที่ยังไม่สิ้น เราอาจชนะในบางสมรภูมิ แต่เรายังไม่ชนะสงคราม


ความเห็น
หนังสือเล่มนี้เริ่มต้นจาก เพื่อนเอาเล่มหนึ่งมาให้อ่าน แล้วเราก็อ่านแบบรวดเดียวจบ ทั้งๆที่เคยหยิบๆจับมาก่อนที่ร้านหนังสือ แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจ พอได้อ่านก็ติดใจ เลยตามเล่มต่อๆ มา มาตลอด ชอบในหลายๆ ตอน อย่างตอนที่เล่าถึงความผูกพันกับย่า ความซนของน้องหมา ความสุขในการใช้ชีวิตเรียบง่าย นอนดูปลา อ่านหนังสือ ฯลฯ

ความรู้สึกตอนอ่าน เป็นอย่างที่รีวิวจริงๆนะ ไม่เหมือนหนังสือของผู้ป่วยด้วยโรคร้ายแรงส่วนใหญ่เขียน คือไม่ได้เศร้า รันทด หดหู่มากมาย เศร้าน่ะมีบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะออกไปทางตรงข้าม คือ อ่านแล้วสบายใจ อ่านแล้วคนอ่านกลับได้กำลังใจซะด้วยซ้ำ (ไม่ได้อ่านผิดหรอก...ได้กำลังใจจากผู้ป่วย HIV นี่แหละ)



ปล.เขินนิดหน่อยที่รีวิวหนังสือค่อนข้างเก่า แต่เอาเป็นว่าใครกำลังท้อ กำลังทุกข์ วิตกกังวล ขอรีวิวหนังสือเล่มนี้มาเป็นกำลังใจแล้วกันค่ะ



Create Date : 24 กรกฎาคม 2550
Last Update : 30 กรกฎาคม 2550 20:16:46 น.
Counter : 989 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กำจาย
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ผู้หญิงตัวกลม ที่ไม่ค่อยชอบเที่ยว การผจญภัยในชีวิตจริงเลยไม่ค่อยมี ต้องอาศัยผจญภัยตามหน้าหนังสือ อยากเก็บข้อความที่ชอบในหนังสือมาใส่ในบล๊อค เลยมาลองสร้างบล๊อคดู
กรกฏาคม 2550

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
24 กรกฏาคม 2550