อันความรักของแม่ที่มีให้กับลูกนั้น เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ สุดประมาณ จริงใจ และอบอุ่น ไม่มีความรักอันใดในโลกจะมาทดแทนได้ ความรักของแม่ไม่มีประมาณ และไม่มีวันที่สิ้นสุด ตราบจนสิ้นลมหายใจสุดท้ายของชีวิตของท่าน มามา หว่อเหินอ้ายหนี่ ตันซื่อเซื้ยงจ้าย หนี่ปุ๊จ้ายหว่อเตอะเซินเปียนเลอ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
1 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
สก็อตแลนด์ ประเทศเล็กที่ยิ่งใหญ่








ดอกไม้ประจำชาติของสก๊อตแลนด์
เรียกว่าดอก Thistle (ทิซ เซิล)


เฉกเช่นดอกกุหลาบที่เป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศอังกฤษ อย่างเวลาการแข่งขันกีฬา ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล หรือกีฬารักบี้ เราจะเห็นนักกีฬาของประเทศอังกฤษใส่เสื้อที่มีสัญลักษณ์ของดอกกุหลาบแทนประเทศอังกฤษ และนักกีฬาของประเทศสก๊อตแลนด์ใส่เสื้อที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปดอก Thistle ในการแข่งขันรักบี้

ดอก Thistle ได้กลายมาเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศสก๊อตแลนด์ด้วยเหตุที่ปลุกให้ทหารของสก๊อตแลนด์ตื่นจากการหลับไหล มาต่อสู้กับพวก Vikings และพวก Danes ที่ส่งนักรบมารุกรานประเทศสก๊อตแลนด์ทางเรือ พอขึ้นบกก็เดินด้วยเท้าเปล่าไปเหยียบดอก Thistle ที่ขึ้นอยู่เต็มท้องทุ่ง ทหารของทั้ง 2 ประเทศส่งเสียงร้องดวยความเจ็บปวด ดอก Thistle นี้จะมีหนามอยู่ตามขอบใบ และรอบๆกลีบเลี้ยง ตั้งแต่นั้นมาดอก Thistle ก็เลยได้รับการยกย่องให้เป็น ดอกไม้ประจำชาติของสก๊อตแลนด์มาจวบจนปัจจุบัน

สก็อตแลนด์เป็นประเทศที่เล็กก็ด้วยแค่จำนวนประชากรและขนาดพื้นที่ หากแต่เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่่จนน่าทึ่งหากวัดในด้านผลงานที่ผลิตสู่ชาวโลก ผลงานปรัชญาและแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ของชาวสก็อตในยุค Enlightenment ซึ่งนำโดยนักปรัชญาชั้นนำอย่าง เดวิด ฮูม และ อดัม สมิธ นั้นปลุกยุโรปให้ตื่นจากความหลับใหล วอลแตร์ได้กล่าวถึงสก็อตแลนด์ว่า ' We look to Scotland for all our ideas of civilisation ' ทว่า ที่น่าตะลึงคือผลงานการประดิษฐ์และคิดค้นทางวิทยาศาสตร์ของชาวสก็อตดูเหมือนจะยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน นับตั้งแต่การคิดค้นทฤษฏีแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลที่เป็นผลงานทางฟิสิกส์ที่ดีที่สุดนับจากยุคของนิวตัน การค้นคว้าทางด้านเทอร์โมไดนามิคส์ของ ลอร์ดเคลวิน (ภายหลังได้รับเกียรติให้ตั้งใช้ชื่อเป็นหน่วยอุณหภูมิ) และ แรงคิน และการพัฒนาเครื่องจักรไอน้ำของเจมส์ วัตต์ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้สหราชอาณาจักรเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม และกลายเป็นเจ้าอาณานิคมในเวลาต่อมา ผลงานประดิษฐ์โทรศัพท์ โทรทัศน์ เรดาร์ การคิดค้นยาปฎิชีวนะ การพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดสมัยใหม่ การคิดค้นนวัตกรรมทางการเงินและการธนาคาร จนกระทั่งถึงการเป็นหนึ่งในผู้นำทางเทคโนโลยีชีวภาพของการสร้างแกะดอลลี่ในปัจจุบัน

วินสตัน เชอร์ชิล ได้กล่าวถึงสก็อตแลนด์ไว้ว่า ในบรรดาประเทศที่มีขนาดเล็กบนโลกใบนี้ อาจจะมีแค่กรีกโบราณเท่านั้นที่มีการสร้างสรรค์ผลงานสู่มนุษยชาติมากกว่าชาวสก็อต

สก็อตแลนด์นั้นอยู่ส่วนเหนือสุดของสหราชอาณาจักร ด้วยขนาดเพียงหนึ่งในสามและประชากรเพียงหนึ่งในสิบของสหราชอาณาจักร เป็นเรื่องน่าทึ่งมากที่ศูนย์กลางทางการเงินและการท่องเที่ยวอันดับสองและสามของ UK คือเอดินเบอระและกลาสโกว์ ซึ่งทั้งคู่เป็นเมืองในสก็อตแลนด์ และยังมีเมืองอเบอร์ดีนที่เป็นศูนย์กลางการค้าน้ำมันของยุโรปโดยเป็นจุดเชื่อมต่อกับทะเลเหนือ มีเมืองดันดีที่เป็นเมืองทางด้านเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป มีเมืองสเตอร์ลิงที่เป็นเมืองประวัติศาสตร์เก่าแก่และงดงาม และมีไฮแลนด์ที่เป็นดินแดนทะเลสาบภูเขาอันกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยที่สุดในบริเทน

เกี่ยวกับสก็อตแลนด์:



สก็อตแลนด์ เป็นชาติที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าภูมิใจ เป็นหนึ่งในสี่ของชาติที่ประกอบกันขึ้นเป็นสหราชอาณาจักร หลักฐานพบว่าดินแดนแห่งนี้มีผู้อยู่อาศัยครั้งแรกเมื่อราวพันปีก่อน สก็อตแลนด์ถูกกล่าวถึงครั้งแรกโดยบันทึกของชาวโรมันที่ได้ปกครองดินแดนที่เป็นอังกฤษและเวลส์ในปัจจุบัน แต่ไม่สามารถรุกคืบไปถึงสก็อตแลนด์ได้

สก็อตแลนด์มีความสัมพันธ์ที่ยาวนานและซับซ้อนกับอังกฤษ หลายๆท่านคงได้รับรู้เรื่องราวส่วนหนึ่งของสก็อตแลนด์จากภาพยนต์ Braveheart ซึ่งเป็นตอนที่อังกฤษกำลังมีอิทธิพลเหนือสก็อตแลนด์ และจบลงด้วยชัยชนะของโรเบิร์ต เดอะ บรูซ ที่กลายเป็นกษัคริย์สก็อตในเวลาต่อมา รูปปั้นของโรเบิร์ต เดอะ บรูซ ได้รับการประดิษฐสถานไว้หน้าปราสาทเอดินเบอระคู่กับรูปปั้นของ วิลเลียม วอลเลซ วีรบบุรุษผู้กล้าหาญของชาวสก็อต

ขณะที่หลายคนมักจะเข้าใจว่าสก็อตแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษหรือปกครองโดยอังกฤษ แต่ข้อเท็จจริงกลับเป็นว่ากษัตริย์องค์แรกที่ได้ปกครองทั้งอังกฤษและสก็อตแลนด์นั้นกลับกลายเป็นกษัตริย์สก็อต การปกครองทั้งสองประเทศโดยกษัตริย์องค์เดียวกันนี้เรียกว่า Union of Crowns ทว่าทั้งสองประเทศนั้นยังมีรัฐบาลบริหารประเทศเป็นของตนเองอยู่จนกระทั่งในปี 1707 ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจและการเมือง ทั้งสองประเทศจึงได้ตกลงออก Acts of Union เพื่อรวมการบริหารประเทศ



เมืองสำคัญในสก็อตแลนด์

เมืองมรดกโลกและเมืองหลวงของสก็อตแลนด์คือ เมืองเอดินเบอระ ซึ่งเป็นเมืองประวัติศาสตร์อันน่าตื่นตะลึง และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากเป็นอันดับสองรองจากลอนดอน โดยเอดินเบอระนั้นมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านความสวยงาม ด้านเทศกาลเฟสติวัลประจำปี และในด้านความครึกครื้นรวมถึงความมีมิตรไมตรีของชาวเมือง ทว่า เมืองที่ใหญ่ที่สุดในสก็อตแลนด์กลับกลายเป็นเมืองกลาสโกว์ เมืองอุตสาหกรรมและท่าเรือสำคัญที่มีภูมิหลังอันน่าทึ่ง นับแต่ตั้งอดีตอันรุ่งโรจน์ที่กลาสโกว์เป็นศูนย์กลางการต่อเรือ และได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองสำคัญอันดับสองของจักรภพบริเทนต่อจากลอนดอน จนกระทั่งปัจจุบันที่มีสถานะเป็นศูยน์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของสก็อตแลนด์



ขณะที่ เอดินเบอระ และ กลาสโกว์ มีสถานะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การเงิน และอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศ เมืองอเบอร์ดีน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของสก็อตแลนด์นั้นเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะศูนย์กลางการค้าน้ำมันของยุโรป โดยเป็นฐานเชื่อมต่อกับแหล่งน้ำมันทะเลเหนือ นอกจากนี้ เมืองสำคัญๆของสก็อตแลนด์ยังได้แก่ เมืองสเตอร์ลิง ซึ่งเป็นเมืองหลวงโบราณของสก็อตแลนด์ มีปราสาทตั้งตระหง่านแวดล้อมไปด้วยหุบเขาและธรรมชาติอันงดงาม และเป็นสถานที่ประวัติที่สำคัญ คือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่วิลเลียม วอลเลซ ทำสงครามชนะอังกฤษ เมืองดันดี เป็นเมืองเทคโนโลยีที่สำคัญของสก็อตแลนด์ เป็นเมืองขนาดกลางอันสวยงามโอบล้อมด้วยหุบเขา และได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สว่างไสวที่สุดในสก็อตแลนด์ เมืองเซนต์แอนดรูส์ เมืองเล็กที่เงียบสงบ เป็นจุดกำเนิดของกีฬากอล์ฟ เป็นสถานที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในโลก และยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของสก็อตแลนด์อีกด้วย และ เมืองอีเวอร์เนส เมืองสำคัญเมืองเดียวที่อยู่ในพื้นที่ธรรมชาติไฮแลนด์ และได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่เติบโตเร็วที่สุดในยุโรปตะวันตก

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสก็อตแลนด์


ที่ตั้ง:ตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรป

ขนาด:
30,086 ตารางไมล์

ประชากร:
5,062,011 คน

เมืองหลวง:
เอดินเบอระ

ภาษาที่ใช้:
อังกฤษ

สกุลเงิน:ปอนด์ สเตอร์ลิง(GBP) (£)

รหัสโทรศัพท์:
+ 44

เขตเวลา:
GMT

กระแสไฟฟ้าที่ใช้:
240 โวลต์, 50 เฮิร์ซ, ปลั๊ก 3 ขาแบบ UK

สนามบินที่สำคัญ:
สนามบินนานาชาติกลาสโกว์ สนามบินเพรสวิค-กลาสโกว์
สนามบินเอดินเบอระ และสนามบินอเบอร์ดีน

ภูมิอากาศในสก็อตแลนด์

มักจะมีความเข้าใจผิดอยู่เสมอว่าสก็อตแลนด์มีความหนาวเย็นกว่าอังกฤษเป็นอย่างมาก อันที่จริงแล้ว อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีของสก็อตแลนด์นั้นต่ำกว่าลอนดอนเพียงประมาณ 2 องศา อย่างไรก็ตาม บริเวณไฮแลนด์ที่อยู่ทางเหนือของสก็อตแลนด์นั้นจะเป็นพื้นที่โล่งและมีลมพัดแรง จึงหนาวเย็นกว่าส่วนอื่นๆค่อนข้างมาก


ฤดูร้อน

สก็อตแลนด์ตั้งอยู่ส่วนเหนือของทวีปจึงทำให้ฤดูร้อนและหนาวมีแสงแดดแตกต่างกันค่อนข้างมาก ในช่วงหน้าร้อนพระอาทิตย์จะส่องแสงได้ถึง 3-4 ทุ่ม ฤดูนี้จะเป็นช่วงที่ชาวสก็อตคึกคักเป็นอย่างมากและใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยว การนั่งตากแดดรับบรรยากาศในสวน และการสนุกสนานไปกับงานเทศกาลต่างๆ


ฤดูใบไม้ร่วง

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้น ใบไม้ผลิสีเป็นสีเหลือง ส้ม แดง เป็นทัศนียภาพที่งดงามมาก ผู้คนจะนิยมไปท่องเที่ยวตามสวนพฤกษชาติต่างๆเพื่อเก็บภาพและความทรงจำที่สวยงามกลับมา


ฤดูหนาว

เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆในยุโรปส่วนใหญ่ ฤดูหนาวของสก็อตแลนด์ เป็นช่วงเวลาที่คลอบคลุมไปด้วยบรรยากาศแห่งความเงียบเหงาเป็นบางครั้ง เนื่องจากพระอาทิตย์ส่องแสงน้อยมาก อย่างไรก็ตาม หากปกคลุมร่างกายให้มิดชิดด้วยเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมแล้ว ฤดูหนาวก็อาจจะเป็นช่วงเวลาช็อปปิ้งที่สนุกสนาน โดยเฉพาะช่วงหลังเทศกาลคริสต์มาสที่ร้านค้าต่างๆนำของมาลดราคาอย่างมโหฬาร ยิ่งกว่านี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเล่นสกีได้ในรีสอร์ท หลายๆแห่งทางเหนือของสก็อตแลนด์


ฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูใบไม้ผลิจะเป็นฤดูที่ชาวสก็อตเริ่มออกมาคึกคักกันอีกครั้ง หลังจากหยุดพักไปในช่วงฤดูหนาว ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ดอกไม้เริ่มบาน และแข่งสีกันราวกับจะแย่งกันดึงดูดนักท่องเที่ยว ผู้คนเริ่มออกไปสูดอากาศและพักผ่อนตามสวนสาธารณะ เพื่อต้อนรับแสงแดดที่กลับมาอีกครั้งหนึ่ง




Create Date : 01 เมษายน 2551
Last Update : 9 ตุลาคม 2551 17:38:33 น. 5 comments
Counter : 1533 Pageviews.

 
การที่บล๊อคออกมาสวยได้ก็ด้วยความเอื้อเฟื้อและมีน้ำใจของท่านเหล่านี้ค่ะ
อักษรต้อนรับ.....คุณmonata

สีของตัวอักษร.....ป้ามด

นาฬิกากุ๊กกู้......คุณice coffee

รูปไอคอนเล็กๆ......คุณsunshire mummy

ภาพพิ้นหลังสวยๆ.......คุณไหม

ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ


โดย: กวนฐานฮวา ณ อเบอร์ดีน วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:5:40:00 น.  

 
น่าจะมีของประเทศอังกฤษบ้างนะคับ


โดย: พีพี IP: 125.26.227.59 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:19:27:00 น.  

 
ขอบคุณนะค่ะ
คุณพีพี ที่แวะเข้ามาทักทาย

พอดีอยู่ที่นี่หนะค่ะ ก็เลยอยากหาข้อมูลให้กับตัวเอง และคนอื่นๆที่สนใจ เพราะคิดว่าข้อมูลของประเทศอังกฤษคงมีคนอื่นทำบ้างแล้ว


โดย: กวนฐานฮวา ณ อเบอร์ดีน วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:0:12:26 น.  

 
ช่วยอธิบายคำว่า สหราชอณาจักร กับประเทศ แตกต่างอย่างไร


โดย: เฉลิม IP: 124.121.37.31 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:10:03:45 น.  

 
รักสก๊อตแลนด์


โดย: Elizabeth Town วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:18:33 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

กวนฐานฮวา ณ อเบอร์ดีน
Location :
ทับเที่ยง ตรัง Aberdeen United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เติบโตมาในตระกูลคนจีนแต้จิ๋ว ที่บุพการีทั้ง 2 หอบเสื่อผืน หมอนใบ อาศัยกิน-นอนใต้ท้องเรือ รอนแรมจากจังหวัดทางภาคใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ ในตำบลเก็กเอี๊ยะ มณฑลกวางตุ้ง จังหวัดซัวเถา ทางฝ่ายอาปา ส่วนอาหมะมาจากตำบลโผว่เล้ง จังหวัดซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง เช่นเดียวกัน
ท่านทั้ง 2 มากันคนละรอบมาเจอกันที่เมืองไทย มาขึ้นฝั่งทางภาคตะวันออกของประเทศไทย คิดว่าคงเป็นจังหวัดชลบุรี่ หรือไม่ก็คงเป็นจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง อันนี้ท่านเองก็เรียกชื่อจังหวัดไม่ถูกค่ะ

ญาติพี่น้องของบุพการี่ที่มาด้วยกัน ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปอยู่คนละจังหวัด ส่วนอาปาและอาหมะของเรา ลงมาปักหลักอยู่ที่ตำบลทับเที่ยง จังหวัดตรัง ไม่เคยย้ายไปไหนอีกเลย ตราบจนท่านทั้ง 2 สิ้นชีวิต เราภูมิใจที่สุดที่เกิดมาเป็นลูกของอาปาและอามะ เพราะท่านมีชีวิตอยู่แบบพอเพียง ไม่เคยเป็นหนี้ใคร หากเป็นหนี้ในการซื้อของมาขายก็จะรีบเอาไปใช้คืนในวันถัดมา รักท่านที่สุดเลย บ้านเปิดเป็นร้านโชวห่วยเล็กๆ ที่ท่านทั้ง 2 สามารถเลี้ยงดูเราทั้ง 10 คนจนเติบใหญ่มาจนทุกวันนี้


Friends' blogs
[Add กวนฐานฮวา ณ อเบอร์ดีน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.