ภูเก็ต
ต้องไปภูเก็ตอีกแล้ว (ทุกอาทิตย์เลยเชียว)
ไหน ๆ ต้องไปบ๊อยบ่อย ทะเลแค่เห็นจากสนามบินตอนเครื่องขึ้น-ลง แต่ที่วนเวียนอยู่บ่อย ๆ คือในเมือง
ความสนใจหนึ่งที่เราช๊อบ ๆ ในเมืองเล็ก ๆ น่ารักนี้คือ บ้านสไตล์ Sino-Portuguese
ตอนสมัยเรียนเคยเขียนรายงานเป็นภาษาฝรั่งเศษส่งอาจารย์ฝรั่งเรื่องเกาะภูเก็ต ซึ่งตอนนั้นไม่เลยเห็น ไม่เคยไปเลย แต่เพราะเรียนประวัติศาสตร์เลยต้องศึกษาเพื่อเขียนรายงาน และประทับใจเมืองเล็ก ๆ ที่มีสถาปัตย์กรรมแบบนี้มานาน จนกระทั่งตอนนี้ต้องไปเมืองนี้บ่อยเหลือเกิน ก็เพราะงาน......แอบมองบ้านหลาย ๆ หลังสไตล์นี้ทุกครั้งที่ผ่าน งั้นเอาข้อมูลจาก วิกิพิเดีย มาฝากไว้ให้อ่านเล่น ๆ ดีกว่า.....
ชิโนโปรตุกีส (อังกฤษ: Sino-Portuguese)
คือรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก ในแหลมมลายูในยุคสมัยแห่งจักรวรรดินิยมของตะวันตก ราวปี พ.ศ. 2054 สามารถพบเห็นได้ในเมืองมะละกา เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ หรือมาเก๊า รวมไปถึงประเทศไทย
ชาวโปรตุเกสได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานและทำการค้าบริเวณเมืองท่ามะละกา และได้นำเอาศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนวิทยาการตะวันตกเข้ามาเผยแพร่ และได้สร้างบ้าน และสถาปัตยกรรมตามรูปแบบของตน ซึ่งช่างชาวจีนได้นำผังการก่อสร้างไปดำเนินการ แต่ลักษณะของสถาปัตยกรรมได้เพี้ยนไปจากเดิมโดยช่างชาวจีนได้ตกแต่งลวดลายสัญลักษณ์รวมถึงลักษณะรูปแบบบางส่วนของตัวอาคารตามคติความเชื่อของจีน เกิดการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมโปรตุเกสและจีน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้นท่ามกลางสังคมของกลุ่มชน 3 เชื้อชาติ อันได้แก่โปรตุเกส จีน และมาเลย์ ในดินแดนแหลมมลายู
ต่อมาเมื่อชาวดัตช์และอังกฤษเข้ามามีอิทธิพลในดินแดนแถบนี้ ก็ได้ปรับปรุงรูปแบบของอาคารโดยดัดแปลงและเพิ่มเติมลวดลายต่างๆ และมีชื่อเรียกลักษณะการก่อสร้างอาคารเหล่านี้ว่า สถาปัตยกรรม ชิโนโปรตุกีส คำว่า ชิโน หมายถึงคนจีน และคำว่า โปรตุกีส หมายถึง โปรตุเกส แม้ว่าอังกฤษและดัตช์จะเข้ามามีอิทธิพลในการผสมผสานศิลปะของตนเข้าไปในยุคหลังด้วยก็ตามก็ยังเรียกรวมกันว่า ชิโนโปรตุกีส
ในประเทศไทยพบสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสได้ในจังหวัดภูเก็ตรวมถึง จังหวัดระนอง กระบี่ ตะกั่วป่า พังงา หรือตรัง ซึ่งอาคารส่วนใหญ่สร้างในสมัยของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) เป็นสมุหเทศาภิบาลสำเร็จราชการมณฑลภูเก็ต ในช่วงปี พ.ศ. 2444 - 2456 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ภูเก็ตในสมัยนั้นมีความสัมพันธ์ทางด้านการค้ากับปีนัง อาคารแบบชิโนโปรตุกีสได้ถูกสร้างขึ้นโดยนักธุรกิจชาวจีนที่มีความร่ำรวยจากการทำธุรกิจเหมืองแร่ดีบุก
เมื่อปี พ.ศ. 2537 ทางเทศบาลนครภูเก็ต รวมทั้งหน่วยงานจากภาครัฐและองค์กรเอกชน องค์กรท้องถิ่นในเมืองภูเก็ต ได้ร่วมกันพัฒนาและอนุรักษ์ย่านเมืองเก่าขึ้นมา มีการกำหนดให้พื้นที่ประมาณ 210 ไร่ ซึ่งครอบคลุมถนนรัษฎา ถนนพังงา ถนนเยาวราช ถนนกระบี่ ถนนดีบุก ถนนถลาง ถนนเทพกระษัตรี ให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศิลปกรรม โดยออกเป็นประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้มีการควบคุมให้พื้นที่อนุรักษ์นี้ ให้มีความสูงอาคารได้ไม่เกิน 12 เมตร และยังได้ส่งเสริมให้มีการพัฒนาอาคารในรูปแบบดั้งเดิมไว้ อย่างเช่นมีการให้เว้นช่องทางเดินด้านหน้า และคงรูปแบบอาคารลักษณะชิโนโปรตุกีสไว้ เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ต
Create Date : 20 ธันวาคม 2553 |
|
6 comments |
Last Update : 20 ธันวาคม 2553 21:53:50 น. |
Counter : 1729 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: lastmoon 22 ธันวาคม 2553 9:04:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: noinanai 27 ธันวาคม 2553 12:25:26 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|