ชีวิต 1 ปีใน Bay Shore, New York, USA ของ aupair ตัวน้อยๆ
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
7 เมษายน 2550
 
 
Part 35# March 30 - April 1, 2007 ไปเที่ยว NYC อย่างจริงๆ จังๆ ซะที

ออกจากบ้านก็วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม 2550 ตอนเย็นๆ

กว่าจะได้ออกจากบ้าน ก็เกือบ 4 โมงเย็น ไปขึ้นรถไฟที่บาบีลอนตอน 4 โมงนิดๆ ได้ เรื่องของเรื่องก็เจ้าโทนี่อะดิ ปกติเดี๋ยวนี้นอน 2 ชม.ครึ่งนี่ก็เรียกว่าเยอะแล้ว (แต่ก่อนนอนได้ยาวถึง 3 ชม.ครึ่ง แต่เริ่มนอนน้อยลงตั้งแต่แม่ออกลูกแล้วอยู่บ้าน)

ดันวันศุกร์ที่เราจะไปเที่ยว หลังจากที่ออกไปวิ่งเล่นหน้าบ้าน หลังบ้านแบบไม่หยุดพัก เกือบชั่วโมงครึ่ง กินข้าวเที่ยงเสร็จ นอนไป 3 ชม.กว่า สงสัยเหนื่อยจัด ปกติแล้ววันศุกร์ก็ไม่ได้วิ่งเล่นขนาดนี้หรอก แต่โฮสมัมเห็นเราจะไม่อยู่บ้านวันเสาร์ แล้วเค้าจะพาตัวเล็กไปตรวจร่างกายครบ 2 เดือนตอนเช้า ก็เลยไปซื้อของกันวันพฤหัสเย็น วันศุกร์นี้เลยว่างเลย

ตอนแรกโฮสมัมก็บอก จะไปหลังจากโทนี่กินข้าวเสร็จแล้วก็ได้นะ กินเสร็จก็นั่งรถไปส่งเรา กลับมาก็หลับพอดี แต่เราเองก็อยากแน๊พด้วย ก็เลยไม่เอาดีกว่า ให้เด็กนอนแล้วค่อยไปดีกว่า คิดว่าไงๆ ก็ไม่เกิน 2 ชม.หรอก กำเลย

แต่ก็ดีแล้วละที่เด็กตื่นช้า เพราะเราเองก็ดูตารางรถไฟผิดอัน เหอๆ รีบไปก็ไม่ตรงรอบอยู่ดี

พอไปถึงในเมือง วันนี้นัดกะขวัญ หลังจากไม่เจอกันมา 3 ปี ขวัญจะมากับโฮส เค้ามากินข้าวกะเพื่อนเลยชวนขวัญมาด้วย (จริงๆ เราว่าชวนมา เพราะจะได้ให้ช่วยดูเด็กตอนเค้าไปดินเนอร์อะดิ) แต่ขวัญยังมาไม่ถึง ตอนนี้ก็ 5 โมงเย็นละ เราก็เลยกะไปหาอะไรดูเล่นดีกว่า หลังจากเปิดบัญชี ของ Commerce หาค่ารถไฟซะหน่อย เพื่อนบอกให้เปิดแบบมีคนแนะนำ จะได้ 25 เหรียญ พอเราไปถามหาบอกมีแค่ 10 เหรียญ เซ็งเลย แต่ก็เปิดไป เผื่อได้ส่งบัตรกลับบ้านส่งเงินให้แม่ได้ (ธ.นี้เพื่อนๆ บอกว่ากดเงินที่ไทยฟรี ได้ประมาณ 10 ครั้งต่อเดือน ไม่หักทั้ง 2 ที่) แล้วก็ได้ 10 เหรียญก็ดีกว่าไม่ได้ฟะ แต่จนบัดนี้ผ่านไปเกือบอาทิตย์ก็ยังไม่ได้เงินซักเซนต์ เพื่อนที่แนะนำบอกตอนมันได้ตั้งแต่วันแรกหลังเปิดเลย เอาไงดีฟะเนี่ย

เสร็จแล้วก็เลยนั่งซับเวย์ไป Washington Square ฆ่าเวลาซะหน่อย เดินไงก็หา Washington Square ไม่เจอซะที แถมไปเจอคนดำมากวนตีนอีก ทีแรกมันก็ถาม Shall I eat here? ทีแรกก็คิดในใจ มรึงงงจะมาถามกรูทำไม อยากกินก็กินไปสิ ก็เลยเดินข้ามถนนหนีไป กางแผนที่ดู (จริงๆ ก็ไม่อยากกางประเจิดประเจ้อหรอกนะ แต่เดินไงก็ไม่ถึงซะที ถนนมันตัดไปตัดมาไม่เหมือนช่วงมิดทาวน์) มันก็ตามมาอีก คราวนี้มาลูบก้นด้วย ลูบเร็วๆ นะ เราก็หันไป เฮ้ย หน้าตาประมาณว่าพร้อมมีเรื่องเต็มที่ (ตอนนั้นลืมตัวว่าแถวนั้นคนดำเยอะ จริงๆ ก็ไม่ใช่ถนนคนดำนะ แต่คนดำปนไปทั่ว) มันก็ยิ้มๆ แบบเมาๆ ไม่รุ้แม่งงเมาดิบป่าว เราก็เลยเดินหนี กลับมิดทาวน์ละ ไม่ดงไม่ดูมันแล้ว

สรุปเดินเที่ยวคนเดียวครั้งแรกไม่ประสบความสำเร็จ หนักกระเป๋าเสื้อผ้าก็หนัก หลงทางอีก

ขวัญมาถึงพอดี เลยเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บที่อพาร์ทเมนต์เพื่อนโฮสขวัญก่อน แล้วก็เลยทำสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมากะเบคอนกินกัน เพราะตอนแรกเหมือนต้องอยู่เฝ้าเด็ก แต่ทีนี้โฮสมัมอารมณ์บ่จอย เลยไม่ไปกินข้าวแล้ว ให้โฮสมัมไปคนเดียว ขวัญเลยออกมาเที่ยวได้

เลยไปแถว Time Square กันก่อน แค่นี้ก็เหนื่อยละ เดินซ๊า เมื่อยเลย อากาศก็ยังหนาวอยู่นะ ถึงจะไม่หนาวแบบ winterก็เหอะ แต่ใส่แจ๊กเก็ตบางๆ นี่เอาไม่อยู่นะ เราก็ดันมีแค่เจ็กเก็ตยีนส์อย่างเดียว ก็ตอนวันศุกร์เช้ามันร้อนแล้วนี่หว่า เดินกันได้ซักตีหนึ่ง ก็กลับไปนอน

เช้ามา ตั้งนาฬิกาปลุกที่มือถือให้ปลุก 6.30 น. ดันไม่ปลุก (มากระจ่างตอนมันปลุกตอน 6.30 เย็นเนี่ยแหละ) เลยเลื่อนไป Statue of Liberty รอบ 9.30 น.แทน ซื้อตั๋วเสร็จก็ขึ้นเรือไปกันเลย ถึงแล้วก็เดินรอบเกาะ ถ่ายรูปตามระเบียบ (เย้ๆ ได้มาเที่ยวนิวยอร์ค แบบถือว่าเหยียบนิวยอร์คจริงๆ แล้ว แต่ก็ลืมเข้า Museum ของเกาะนี้)


ระหว่างนั่งบนเรือเพื่อข้ามไป Statue of Liberty ก็แชะซะหน่อย



มาถึงแล้วจ้า ถ่ายกะป้าย ไว้เป็นหลักฐาน



เลียนแบบเจ้าบ้าน ซะง้านนน



ยืนเก๊กสวย (ที่ไม่ค่อยจะมี) ก่อนจากไป


จากนั้นก็นั่งเรื่อข้ามไป Ellis Island Immigration Museum แล้วก็กลับมาฝั่งนิวยอร์คต่อ เป็นอันจบจุดนี้


อ่า มาถึงแล้ว ตอนนี้อยู่หน้าพิพิธภัณฑ์เลย



มันจะล้มมันน๊า



ภาพนี้จะว่าอาร์ต ก็ดูอาร์ตนะ จะว่าน่ากลัว ก็บรื๋ออออ



ชอบภาพนี้มากเลย ไม่น่ามีโคมไฟติดมาด้วยเลยอะ เสียดายจาง


แล้วก็ไป World Trade Center Path (ส่วนที่เหลือจากเหตุการณ์ 9/11 ตอนอยู่ไทยแล้วดูข่าวนี้ก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไรนะ เพราะมันเหมือนหนังที่ดูอยู่บ่อยๆ แต่พอมายืนตรงนี้ จุดนี้ที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงๆ แล้วมันรู้สึกได้เลยว่ามันเศร้า หดหู่ ไอ้คนทำนี่มันชั่วจริงๆ ไอ้คนไม่มีศาสนา


ด้านล่างของ World Trade Center Path


จากนั้นเลยไปหาข้าวกินดีกว่า (อะไรฟะ เปลี่ยนอารมณ์เร็วจริง) ก็คนมันหิวนี่นา อาหารเช้ามีแต่ขนมที่พกมา ตอนแรกกะหาร้านเกาหลีกินแถว World Trade Center Path นี่แหละ แต่เดินไปเดินมา กว่าจะหาร้านเจอ ไปเดินถนนคู่ขนานเลยไปตั้งเยอะ กว่าจะรู้แจ้ง แถมพอเจอร้าน (ที่เสิร์ซมาจากเนตว่าแนะนำแล้ว) ร้านงี๊เงียบเชียบ เมนูก็น้อย แถมไอ้เซทอาหารกลางวันแบบที่แนะนำไม่มีวันเสาร์ด้วย ก็เลยออกกันซะเลย ดีนะยังไม่ได้กินน้ำเปล่าที่เอามาเสิร์ฟ

จากนั้นก็เลยมุ่งหน้ามา 32nd St. ตัดกับ Broadway มั๊งถ้าจำไม่ผิด แหล่งอาหารเกาหลีเลย เป็น Korean Town เลยแหละ เลยได้กินอาหารเกาหลีสมใจซะที แพงอยู่นะนั่น กินบาบีคิวหมู 1 ชุด ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม 30 กว่าเหรียญได้ รวมทิป ที่ให้ไม่ถึง 15 เปอร์เซนต์เพราะบริการห่วยเป็นบางคน (หน้าเป็นตูดลิงเลย) แล้วก็ 36 เหรียญได้ ก็โอนะ 2 คนเหลือคนละ 18 เหรียญ วันนี้กินข้าวข้างนอกมื้อเดียวเอง กลางวันกว่าจะได้กินก็เย็นละ


หิวแล้ว กินละน๊า


เสร็จแล้วก็ไปเดินใน Central Park สัมผัสชีวิตความเป็น New Yorker ซะหน่อย จริงๆ กะไปหาน้ำพุที่เป็นฉากในหนังเรื่องกุมภาพันธ์มาถ่ายรูป ดันเดินไปเดินมา งง เดินเป็นวงกลมซะงั๊น ถนนมันคดเคี้ยวไปมา เลยอดเลย ใกล้เวลาไปดูละครสัตว์แล้วด้วย ขวัญก็ต้องกลับไปดูเด็กอีก เลย ยอมแพ้สำหรับวันนี้ วันหน้ามาหาใหม่


หมาที่เราแอบปิ๊ง (แม้แต่หมา มานก็ไม่ละเว้น ฮี่ๆ) แต่มานหยิ่งอะ พอเดินไปมุมที่จะถ่ายติดหน้ามันด้วย มานก็หันหนี ไอ้เราก็กลัวเจ้าของรู้ ว่าแอบถ่ายรูปหมาเค้า ไอ้เวลล ดีนะที่น่ารัก เลยให้อภัย


แล้วเราก็รีบเดินทางไป Madison Square Garden เพื่อไปดูละครสัตว์ เรื่อง Ringling Bros and Barnum & Bailey Circus ตอนแรกก็กะว่าจะไม่ไปดูหรอก กะไปนั่งเฝ้าเด็กกะขวัญนะแหละ แต่เสียดายตั๋ว เพราะให้มาดูเองก็คงไม่มา ตั๋วนี้โฮสแป้งให้มาหลายใบ ตอนแรกดิวโทรมาชวน ก็คิดว่าคงไม่ได้ดูเหมือนกัน บอกน้องที่เป็นออแพร์ได้มา พอมาเจอถึงได้รู้ว่าแป้งนี่เอง


ถ่ายรูปกะสาวดิว คนชวนหน่อย ดูซิ ใครกลมกว่ากันเอ่ย


ก็สนุกดีนะ ฮาดี เล่นที 2 ชั่วโมงได้ จากทุ่มครึ่ง จบสามทุ่มครึ่งแหนะ มีหลากหลายดี มีกายกรรมของจีนผสมด้วยตอนนึง แล้วก็ดำเนินเรื่องแปลกดี ประมาณว่ามีหนุ่มคนนึง ปิ๊งสาว แล้วจะทำไงให้ใกล้ชิดสาวเจ้าได้ เค้าโฆษณาไว้ด้วยนะ ว่าเป็นโชว์ที่ดีที่สุดบนโลก ซะงั๊น

ดูเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันไป กลุ่มนึงกลับนิวเจอร์ซี่ กลุ่มนึงไปแดนซ์ต่อ ส่วนเราก็นัดเจอกับขวัญที่ Empire State Building ดูโรแมนติคเนอะ ขึ้น Empire State Building ไปดูวิว ถ้ามาดูกะหนุ่มนี่ น่าคิด อิอิ ตอนแรกนึกว่าจะเสียค่าตั๋วฟรีซะแล้วถ้าโฮสขวัญไม่กลับมาให้ทัน เพราะประตูตึกเปิดให้ขึ้นถึง 11.15 น. แล้ว 10.00 น.แล้วโฮสขวัญยังไม่โทรมาบอกเลยว่าจะกลับมาให้ป่าว แต่สุดท้ายก็ได้ดู

ระหว่างทางกะจะถึงจุดที่ได้ดูนี่นานมากกกก ลิฟท์ใช้อยู่ 2 ตัว พอขึ้นไปข้างบน ด้านตรงกลางเค้าก็จัดเป็นพื้นที่ขายของฝาก รอบๆ ก็เป็นที่ดูวิว ไม่เหมือนที่เคยดูในหนัง Sleepless in Seattle เลย ที่ขึ้นลิฟท์มาถึงเลย เดินผ่านประตูกระจกมาก็เห็นวิวทันที เหอๆ ชั้นนี่อินกะหนังไปหน่อย


มาสวีตกัน 2 คนที่ Empire State Building ต่ออีกแล้ว


>



ก่อนจากไป ก็ต้องถ่ายรูปกะของที่ระลึกก่อน ตามประสานักท่องเที่ยวที่ดี (ตรงไหนเนี่ย) แบบมะอยากเสียตังค์ซื้อ ไม่รุ้จะเอาไปอะไรให้รกห้อง


หลังจากนั้นก็กลับบ้าน Brooklyn Bridge ตอนกลางคืนไม่ไปละ ไว้โอกาศหน้าละกัน หมดแรง หนาวด้วย

กลับอพาทเมนต์ กว่าจะได้นอน ตี 2 ได้ หลับเป็นตาย แพลนที่วางไว้ว่าพรุ่งนี้ก่อนกลับบ้านจะไปโบสถ์ St. Patrick อะไรซักอย่าง ก็ไม่เอาละ นอนเอาแรงดีกว่า

พอสายๆ ขวัญก็กลับบ้าน เราก็นั่งซับเวย์ไปต่อรถไฟกลับบ้าน ตอนแรกก็ว่าจะเดินดูนั่นดูนี่ไปตามประสา แต่ไม่ไหวแหล่ว เมื่อย หนาว หนัก กลับดีกว่า

มาถึงสถานีบาบีลอนปุ๊บ โทรบอกให้จอห์นมารับ แทนที่จะได้กลับบ้านเลย ดันพาตรูไปแวะ 2 ที่อีก ที่แรกแวะเอาบัตรเครดิตจอห์น ชิว ก็โอ แป๊บเดียว อีกที่ไปแวะห้างคืนม่านบังแสงนี่ดิ น่านโครต ปวดฉี่ก็ปวด เมื่อยก็เมื่อย

สุดท้ายก็ได้กลับบ้านซะที มาอาบน้ำแช่น้ำอุ่นให้ขาหายป่วย แล้วก็ลงมากินข้าว

แถมอีกนิด ตื่นมาทำงานวันจันทร์ โฮสมัมถามจะนอนต่อป่าว ได้นะ (ดีจริงๆ เลยโฮสฉาน) แต่ไม่เอาดีกว่า นอนแล้วท่าจะยาว ไว้เด็กแน๊พเราค่อยแน๊พด้วยดีกว่า อิอิ

จบไปอีกทริปเหนื่อย แต่ก็สนุก


Create Date : 07 เมษายน 2550
Last Update : 17 เมษายน 2550 8:55:40 น. 2 comments
Counter : 320 Pageviews.

 
อ่านแล้วน่าสนุกเล่าอีกน่ะครับ..ว่าแต่ Bay Shore NY นี่มันอยู่ตรงไหนอ่ะครับ..นึกไม่ออกจริงๆๆ..


โดย: Matt (everything on ) วันที่: 7 เมษายน 2550 เวลา:7:34:28 น.  

 
ขอบคุณค่า Matt ส่วน Bay Shore อยู่บน Long Island ค่ะ แถวกลางๆ ส่วน Long Island นี่ก็เป็นไส้ติ่งที่ยื่นไปในมหาสมุทรของนิวยอร์คนะค่ะ

อธิบายไปแล้วงงกว่าเดิมหรือเปล่าเนี่ย คนอธิบายเริ่มจะงงเอง ฮี่ๆ


โดย: grapekmitl (grapekmitl ) วันที่: 7 เมษายน 2550 เวลา:22:52:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

grapekmitl
Location :
Bay Shore, New York -- กรุงเทพฯ United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาใช้ชีวิตเป็น aupair ใน Bay Shore, New York 1 ปี ก็อยากจะบันทึกเก็บไว้กันลืม ถ้าไม่ขี้เกียจนัก ก็จะมาเล่าต่อ ปกติไม่เขียน Diary เลยอะ แบบว่า...
[Add grapekmitl's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com