沒 有 guts 。。。 就 不 能 選 擇 去 自 己 的 路 嗎 ?

Something between Us [16]

[ . . * ~ . . . d E a R . . z I m b A . . . ~ * . . ]





กว่าหมอจะออกจากห้องผ่าตัดก็กินเวลาเกือบแปดชั่วโมง


“หมออยากให้ญาติเผื่อใจไว้บ้าง ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนมาก ...โอกาส.... คงต้องรอให้คนไข้ฟื้นมาก่อน”


อันอันฟังแล้วใจหาย ต้องเอามือปิดปากไม่ให้หลุดอุทานออกมา สีหน้าหมอไม่ดีนัก...


หากแต่...เฟลอร์ยังคงรับฟังอย่างสงบ


“ขอบคุณนะคะ”


รอยยิ้มอ่อนๆนั่นคงทำให้หมอและอันอันคิดตรงกัน ...เด็กคนนี้ใจแข็งอย่างประหลาด


“ตอนนี้คุณกลับไปพักผ่อนก่อนนะครับ หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงทางเราจะแจ้งไปอีกที”





อันอันจอดรถหน้าบ้านที่มืดสนิท


“ให้เจ๊อยู่เป็นเพื่อนไหมเฟลอร์”


น้ำเสียงที่ถามเต็มไปด้วยความเป็นห่วง


“เฟลอร์อยู่ได้ เจ๊กลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ วันนี้เหนื่อยอยู่เป็นเพื่อนเฟลอร์มาทั้งวันแล้ว”


มือใหญ่เคลือบปลายเล็บสีสดเอื้อมมากุมมือบาง


“ทำยังกับเป็นคนอื่นคนไกลไปได้ แต่เอาเถอะ...เฟลอร์พักผ่อนให้มากนะ แล้วถ้ามีอะไรก้อโทรหาเจ๊ทันที ห้ามเกรงใจ เข้าใจหรือเปล่า”


“ค่ะ... เจอกันพรุ่งนี้ที่บริษัทนะคะ”


อันอันขยับปากจะค้าน แต่พอคิดว่าหากอยู่เฉยจะฟุ้งซ่านมากกว่าก็เลยได้แต่ยิ้มรับ


มองจนเด็กสาวเดินหายเข้าไปในบ้านและเปิดไฟเรียบร้อย อันอันถึงค่อยออกรถ...














“จื้อเหลียง แผ่นหนัง The lord of the rings ที่นายเอามาอยู่ไหนแล้วล่ะ”


ฮยุนจองเดินออกจากห้องน้ำ สวมเสื้อกล้ามสีขาวอวดมัดกล้ามที่แขนและไหล่กว้าง กางเกงขาสามส่วนสีเทาดูสบายๆสำหรับเวลาพักช่วงเช้า ก่อนงานโปรโมทก็เริ่มอีกครั้งในเวลาสามโมงเย็น ผมสั้นยังหมาด ใบหน้าขาวจัดกับปากอิ่มเต็มสีแดงทำให้หน้านั้นสวยราวกับผู้หญิง ...หากไม่มีไรเขียวตลอดแนวคางและเหนือริมฝีปาก


“อยู่ในกระเป๋าสีฟ้าบนโต๊ะนั่น แน่ใจนะว่านายไม่อยากออกไปข้างนอก”


ผู้จัดการที่ทำงานร่วมกันมาหลายปีรู้สึกแปลกใจไม่น้อย ฮยุนจองที่เขารู้จักชอบออกไปพบปะผู้คนมากกว่านี่นา แต่...ก้อดีเหมือน ไม่มีไอ้หมอนี่ไปด้วยค่อยหายใจโล่งหน่อย ...ค่อยเดินได้อย่างคนธรรมดา ไม่ต้องมีแฟนๆล้อมหน้าล้อมหลังหายใจแทบไม่ออก


“แล้วฉันจะหาอะไรอร่อยๆมาฝาก”


จื้อเหลียงยังมีน้ำใจ เพราะวันนี้ทีมงานเจ้าของถิ่นจะพาเขาไปชิมของขึ้นชื่อของที่นี่


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันโทรสั่งรูมเซอร์วิซเอาก้อได้”


“อือมมมม... จะเอาอย่างนั้นก้อตามใจ งั้นฉันไปก่อนนะ”


ฮยุนจองที่ยังง่วนอยู่กับการหา DVD ในกระเป๋าชูมือบอกรับโดยไม่หันมามอง


เสียงปิดประตูเบาๆพร้อมกับที่ฮยุนจองเจอแผ่นที่ต้องการ


เขาต่อสายเครื่องเล่นเข้ากับทีวีเครื่องใหญ่ในห้องแล้วหันมาเปิดกล่อง


...The Lion King....


จื้อเหลียง...เดี๋ยวนี้นายป้ำๆเป๋อๆอย่างนี้เชียวเหรอ


ฮยุนจองปิดกล่องทำท่าจะเปลี่ยนแผ่นใหม่ ...ก้อเขาไม่ชอบการ์ตูนนี่นา -.-“


แต่เดี๋ยวก่อน....


ป่านนี้ร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่มั้ง... ดูหนังเรื่องนี้เมื่อไหร่เป็นเรื่องทุกที แต่ก็ชอบดูเสียจริงเชียว


เสียงซวนซวนผ่านเข้ามาในหัว


ดวงตากลมโตคู่สวยแดงก่ำ และน้ำตาไหลผ่านร่องแก้มนวล ...เฟลอร์...


.....


ฮยุนจองเปลี่ยนใจเปิดแผ่นนั้น นั่งลงกับพื้นเอนหลังพิงขอบเตียง จ้องไปที่จอทีวีอย่างตั้งใจ



.........








ฮยุนจองมองตัวเองในกระจก


ใบหน้าที่มองตอบกลับมามีน้ำเกาะพราว ดวงตาคู่ยาวรีแดงเรื่อ....


เขายิ้มมุมปาก... ถ้าจื้อเหลียงรู้คงล้อเขาไม่หยุดปาก...ดูการ์ตูนแล้วร้องไห้


Zimba... ลูกสิงห์โตแสนซนและอวดดี


ความอวดดีทำให้ชีวิตมันต้องตกอยู่ในอันตราย และคงถึงตายหากเจ้าป่าผู้เป็นพ่อไม่เอาชีวิตตัวเองเข้าแลก ....กว่าจะรู้ถึงความรักอันยิ่งใหญ่มันก้อสายเกินไปแล้ว....


ฮยุนจองไม่รู้ว่าน้ำตาของเขาเป็นเพราะ Zimba ไหน







เขากำลังจะเก็บแผ่น The Lion King เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นซองสีน้ำตาลไม่ใหญ่นัก เขียนหน้าซองไว้ว่า


...ฝากให้เฟลอร์ด้วยครับ...เทียนหลาง


มือใหญ่เอื้อมไปแตะซองนั้น ซองไม่ได้ปิดผนึก ...เขารู้ว่าเสียมารยาท แต่ความอยากรู้มีอำนาจมากกว่า


ฮยุนจองวางแผ่นซีดีในจานกลมนั่นแล้วกดปุ่ม Play



“สวัสดีค่ะครู ตอนนี้เฟลอร์ยืนอยู่หน้าบ้านค่ะ”


เฟลอร์สวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดเพนท์มือว่า Home Sweet Home ยืนยิ้มสดใสอยู่หน้ารั้วบ้าน


เธอหันหลังไปมองตัวบ้านแล้วยิ้มกับกล้องอีกครั้ง


“บ้านหลังใหญ่นี้มีเฟลอร์กับคุณลุงอยู่กันแค่สองคน ไม่นับคุณป้าคนทำความสะอาดที่มาเช้าเย็นกลับ ตอนแรกที่เฟลอร์มาอยู่ เฟลอร์เกลียดบ้านหลังนี้พิลึก มันใหญ่โตจนรู้สึกเหงา ...เฟลอร์ไม่เข้าใจว่าคุณลุงของเฟลอร์อยู่ได้ยังไงคนเดียวมาตั้งนานสองนาน

คุณลุงของเฟลอร์ท่านไม่ใช่คนช่างพูดนักแต่ก็ใจดีเป็นที่สุด ถึงงานท่านจะยุ่ง แต่ทุกครั้งที่มีเวลาว่างเราก็จะนั่งในห้องนั่งเล่นด้วยกัน คุณลุงอ่านหนังสือหรืออาจจะทำงานบ้าง เฟลอร์ก็นั่งวาดรูปของเฟลอร์ไป พอเงยหน้าคุณลุงก็จะยิ้มให้อย่างอ่อนโยนทุกครั้ง

...คุณลุงยังไม่รู้หรอกว่า เฟลอร์แอบวาดรูปคุณลุงไว้ รอให้เต็มเล่มก่อน เฟลอร์จะให้เป็นของขวัญคริสต์มาสกับท่าน

ถ้าแม่มาอยู่ด้วยกันอีกคนก้อดีสิคะ”


คนพูดเริ่มตาแดงๆ แต่แล้วก็รีบเปลี่ยนกลับมาเป็นยิ้มสดใสอีกครั้ง


“ขอโทษค่ะ ...เฟลอร์ว่าเรามาพูดเรื่องอื่นกันดีกว่า วันนี้เฟลอร์จะพาครูไปเที่ยวนะคะ ที่เมืองนี้มีที่สวยๆมากมายเลย เฟลอร์เชื่อว่าครูต้องชอบที่นี่เพราะมีวัฒนธรรมเอเชียเก่าแก่อย่างที่ครูชอบ ไปดูกันนะคะว่าผู้คนที่นี่เขาใช้ชีวิตกันยังไง”


เฟลอร์ทำมือเรียกกล้องให้ตามมา


“อ๊ะ... เฟลอร์ลืมได้ยังไงกัน”


เด็กสาวเดินกลับไปที่ตู้จดหมายหน้าบ้าน เธอเปิดกล่องแล้วทำตาโต หยิบกระดาษสีขาวแผ่นเล็กๆออกมา กล้องซูมไปที่ภาพบนโปสการ์ดใบนั้น


“ทุกเช้าก่อนไปทำงานเฟลอร์ต้องมาดูในกล่องนี้ค่ะ นี่...โปสการ์ดที่เพื่อนเฟลอร์ส่งมาให้ คนที่เฟลอร์เคยเล่าให้ครูฟังไงคะ ความเข้มแข็งของเขาทำให้เฟลอร์รู้สึกว่าเฟลอร์ต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้เหมือนกัน”



ฮยุนจองรู้สึกหัวตาเขาจะรื้นๆขึ้นมาอีก ...ไม่น่าชอบไปว่ายายนั่นขี้แยเล้ย... วันนี้เหมือนต่อมน้ำตาเขาจะทำงานหนักกว่าวันไหนๆ



เฟลอร์หยิบสมุดเล่มหนาคุ้นตา สอดโปสการ์ดลงในนั้นก่อนเก็บกลับลงเป้ตามเดิม


“พร้อมแล้วค่ะ ไปกันเลยนะคะ”


เฟลอร์ดึงเป้ให้กระชับแล้วเดินนำหน้ากล้องออกไป


......



“เก้าอี้ของเฟลอร์ค่ะ”


เด็กสาวนั่งบนเก้าอี้ตัวนั้น ตัวที่เธอกับเขาเคยนั่งกินไอศกรีมท้าลมหนาวด้วยกัน


ฮยุนจองกระพริบตาถี่ๆไล่ความอุ่นรื้นในดวงตายาวรี



“มันอาจจะเป็นเก้าอี้ของใครหลายคนนะคะ แต่เฟลอร์ว่ามันเป็นเก้าอี้ของเฟลอร์ เพราะมันจะว่างเสมอเวลาที่เฟลอร์ต้องการ ...มันเป็นเพื่อนตัวแรกของเฟลอร์ในเมืองนี้เลยนะคะ... ครูดูนี่สิคะ”


เฟลอร์เอื้อมมือคว้ากล้องมาจากตากล้อง แพนภาพไปยังน้ำพุเล็กๆและนกพิราบหลายตัวที่กำลังกินอาหารอยู่



ชายหนุ่มกดปุ่ม Pause เขาวิ่งไปรื้อกล่องที่อยู่ส่วนในสุดของกระเป๋าเดินทาง หยิบโปสการ์ดใบแรกๆขึ้นมา


...ที่นี่เอง...


ฮยุนจองกดปุ่ม Play ต่อ



“เริ่มต้นจากที่นี่ ทำให้เฟลอร์ได้...เพื่อน...พี่...ใครๆอีกหลายคนที่ทำให้ความรู้สึกแปลกแยกหายไป”


ภาพตัดมาที่เฟลอร์อีกครั้ง


“รสชาติไอศกรีมต่างจากที่เราเคยกินค่ะ แต่ก็อร่อยไปอีกแบบ เฟลอร์กำลังเรียนรู้และทำความคุ้นเคยกับรสชาติใหม่นี้ ...แต่เฟลอร์ก้อยังยืนยันว่าส่วนที่อร่อยที่สุดคือตรงนี้ ...ครูอย่าปล่อยให้ใครแย่งไปนะคะ”


ว่าแล้วเฟลอร์ก็กัดส่วนปลายโคนคำโต ชอคโกแลตที่เริ่มละลายเลอะริมฝีปาก เด็กสาวหัวเราะขำตัวเอง



ฮยุนจองอดหัวเราะตามไม่ได้


.....


จากนั้นก้อเป็นภาพเฟลอร์ตามสถานที่เที่ยวต่างๆ หนึ่งในนั้นคือที่ที่เขาเห็นเธอกับเทียนหลาง



“ครู...เห็นไหมว่าลูกสิงโตหลงทางตัวนี้เข้มแข็งขึ้นแล้ว เฟลอร์มีบ้าน มีเพื่อน มีคนที่เฟลอร์รักและรักเฟลอร์ ครูไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”


คนพูดสูดหายใจยาว เชิดหน้าน้อยๆอย่างถือดี


“เฟลอร์กำลังทำงานเก็บเงินอยู่ค่ะเก็บได้พอเมื่อไหร่เฟลอร์จะไปเยี่ยมครู ไปเยี่ยมแม่.. นะคะ ..คิดถึงครูจังค่ะ”







ภาพสุดท้ายหายไปจากจอแล้ว แต่ความรู้สึกหลากหลายที่ยังติดค้างอยู่ในใจของเขา....
















 

Create Date : 30 มีนาคม 2549
0 comments
Last Update : 31 มีนาคม 2549 16:23:33 น.
Counter : 1378 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Gracie Lou Freebush
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
30 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Gracie Lou Freebush's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.