Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
2 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
[ME] เรื่องเล่าจากแดนปลาดิบ

เนี้ยว~

และแล้วเราก็กลับถึงประเทศไทยแล้ว ม่ายยยยยยย นี่คือความจริงใช่ไหม? ชั้นไม่อยากกลับประเทศ พรุ่งนี้จะชวนพี่เจี๊ยบกับหญิงไปฮารา จะไปถ่ายฟูคูระที่ชิบุ กับปิ่น แต่แอบมีเสียงแม่กระซิบว่าพอแล้วเธอ = =" ที่บ้านพิมพ์ธนบัตรได้เองเรอะ? (แม่อ่าทำลายความฝัน) ใจร้าย~~~~~ เมื่อวานนี้นี้หญิงโทรมาหา มันบอกว่าคิดถึงโฮสที่ชินจูกุ อารมณ์นี้เจ๊จ่ายแล้วถึงไหนถึงกัน 5 5 5+ เด๋วมันก็เอาแกรไปผ่างหรอก ............. (ผ่าง = คำศัพท์เฉพาะที่เอาไว้เมาส์กันในกลุ่ม แปลว่า ทำอย่างว่า) อืมตามที่สัญญากันไว้ว่าผู้ชายคนในรูปที่ลงบล็อคไปคราวที่แล้วคือใคร เค้าคือฮิโรโตะ เพื่อนปิ่น(ปิ่น - รูมเมทเรา) เค้าเคยมาถ่ายแบบที่ไทยด้วยนะคราวนั้นก็ลงอิมเมจที่แหละ แอบเปลือยเล็กๆ (เลือดพุ่งๆๆๆ) เป็นคนญี่ป่นแท้ๆที่เรียนอยู่ปี 3 คณะที่แบบว่าเทียบเท่ากับอักษรของบ้านเรา เลือกเอกจีน แล้วก็บ้านเกิดอยู่ที่ เกียวโต วันเกิด เดือนเมษานี่แหละแต่จำวันที่ไม่ได้ (จะละเอียดไม่ไหนเนี่ย? ใครเค้าอยากรู้? แต่เราอยากบอกอ่ะ 5 5 5+) แบบว่าฮิโรโตะเป็นเพียงไม่กี่คน(ที่เป็นคนธรรมดาไม่ใช่ดารา) ที่เราแบบว่ามองหน้าแล้วเขิน ก็หล่อซะขนาดนี้นิ ตอนที่ถ่ายรูปคู่ด้วยกัน แบบว่า เรากับเค้าอยู่ห่างกันพอสมควรเพราะว่าเราเขินแหละ แจ่ฮิโรโตะพยายามยืนหน้ามาใกล้ๆอ่ะ เย้ย อย่าใกล้มากดิเค้าเขินเฟ้ยยยยยยย (ถ้าปิ่น พี่เจี้ยบ หญิง มาอ่านบล็อคเราโดนล้อตายแน่ๆเลย) หลังจากที่ได้เห็นฮิโรโตะวันแรกนั้น เราพยายามบอกปิ่นว่า ปิ่นเอาเค้ามาบ่อยๆเราชอบเฟ้ย แต่เจอกันกี่ครั้งก็ไม่เคยพูดคุย 1.เราไม่เก่งญี่ป่น 2.เราอายอ่ะ แต่ฮฺโรโตะคุงแมนมาก มาส่งปิ่นที่ห้องเกือบทุกครั้ง แต่เรากับปิ่นจะรู้กันคือทุกคนในห้องจะมีการ์ดเปิดห้องอยู่แล้ว แต่ปิ่นจะไม่รูดจะกดกริ่งรอเรามาเปิด เราจะได้เห็นฮิโรโตะ ขอบคุณนะปิ่น มันเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆของผู้หญิงคนนึง 5 5 5+ สุดท้ายแล้วเราก็ไปขโมยรูปฮิโรโตะจากกล้องปิ่นมา เย้ยยยยย น่ารักวู้ยยยยยยย

ตอนที่ไปอยู่ที่นู้นแอบลืมเลือนแจจุงอ่า (ก็เราเคยบ้าญี่ปุ่นมาก่อน) ยิ่งไปดูคอนคัตตุนด้วยแล้ว มันเลยกู่ไม่กลับแล้วที่นี่ ใจมีแต่จินๆๆๆๆๆๆๆ ขอโทษจริงๆนะแจจุง ตอนนี้เราพยายามโหลดรายการของนายมาดูด้วยนะจ๊ะ แล้วแบบว่าหลายคนฝากความหวังที่จะให้ไปถ่ายรถที่โฆษณาดงบังคงจะไม่ได้อ่ะเพราะว่าที่นี่มีคิวต่อโฆษณาเยอะมากเพราะว่าsingle แทบจะออกทุกวัน เพราะฉะนั้นโฆษณาไม่กี่วันเด๋วมันก็เปลี่ยนแล้ว ถ้าถามว่าตอนนี้ที่นู้นอะไรดังคงจะเป็น คัตตุน อาราชิ kinki kids แล้วก็ AAA ล่ะมั้ง มันมีโฆษณาเยอะอ่ะแต่ส่วนดงบังแทยจะหาไม่ได้เลยในญี่ป่นแต่ร้านคาราโอเกะด็มีเพลงดงบังนะแต่มีแค่อัลบัม five in black อ่ะ เกะใหญ่จริงๆถึงจะมีเพลงดงบังเป็น เกาหลีแต่มีเพียงแค่3เพลง ส่วนเทปซีดี ก็ไม่ได้มีทุกร้านนะเพราะว่าที่นู้นแค่ ศิลปินเค้าเองก็เยอะอยู่แล้วจนไม่มีที่จะวาง ก็เราไม่ได้เสียใจหรอกเพราะเราคิดว่าดงบังน่าจะดังที่เกาหลีแหละดีแล้วพวกดงบังอยู่ญี่ป่ปุนดูไม่มีชีวติชีวาเอาซะเลยต้องมาใช้ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาของตัวเองมันเลยทำให้เวลารายการแล้วเครียดๆไม่สนุกเหมือนของเกาหลีว่ามะ? ส่วนร้ายขายรูปปาปา ก็แอบมีรูปดงบังด้วยนะจ๊ะ ^^ แต่มีเพียงร้านเดียวในฮารา อย่างน้อยก็ยังมีเนอะๆๆๆๆๆ

เป็นการยืนยันว่าในคาราโอเกะมีดงบังอยู่จริง 5 5 5+

อ่าส่วนคนที่ฝากเราซื้อพวกเครื่องรางเราซื้อให้ที่วัดนี้ มันคือวัดเมจิที่อยู่แถวฮาราจุกุ เดินเลยจากสะพานที่เค้ามีcosplayกันน่ะแหละ พอเข้าไปแล้วรู้สึกได้ถึงความร่มรื่นของต้นไม้ แบบว่าไม่น่าเชื่อว่าใจกลางเมืองโตเกียวแบบนี้จะมีอะไรที่ดูสงบเหมือนกันเนอะ แต่เครื่องรางแอบแพง ประมาณ 800 เยนต่อ1อันได้ แต่เครื่องรางก็ราคาประมาณนี้หมดแหละเน้อ

ในฐานะที่เราเป็นสัตวแพทย์ ก็ต้องมาเยี่ยมชมสวนสัตว์เนอะ เรามาที่สวยสัตว์อุเอโนะ ก็คงเป็นสวยสัตว์ของรัฐบาลอารมณ์ประมาณว่าเขาดินแต่ที่นี่ดีกว่าเยอะนะ เพราะว่าใหญ่มากพร้อมทั้งมีสัตว์มากมาย แต่สัตว์ปีกเยอะกว่าปกติ (หรือว่าเรารู้สึกไปเอง?) สัวต์ที่นี่ร่าเริงแจ่มใสมาก ไม่เป็นที่เขาดินอ่ะสัตว์ดูเหมือนโดนวางยาเบื่อเลย แต่สัตว์ที่นี่ดูร่าเริงแจ่มใส ^^ โดยเฉพาะเพนกวินอ่ะ น่ารักอย่างแรง แบบว่ามันไม่ได้อยู่ในตู้กระจกด้วย เลยรู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดกับเพนกวิน แหมขอยื่นใบสมัครมาทำงานที่นี่เลยได้ไหมเนี่ย!!!!!!!!! สวนสัตว์อุเอโนะจ๋า อีก5ปีไว้เจอกัน คริคริ

อ่าเล่าเรื่องมาก็ตั้งหลายเรื่องตัวละครที่เราชอบพูดถึงบ่อยๆก็มีอยู่ 3 คน ถ้วน เลยเอารูปมาให้ดูกัน หญิง พี่เจี๊ยบ แล้วก็ป้าปิ่น สังเกตุได้ว่าป้าปิ่นชอบทำท่าแบบนี้ เจ๊หญิงกับพี่เจี๊ยบเลยชอบเลียนแบบ ดั่งที่เห็นในรูป 5 5 5+

อ่าแล้วก็เราเป็นคนที่ชอบเล่นสวนสนุกแบบรุนแรง มีคนแนะนำว่าแกรต้องไปฟูจิคิวเท่านั้นเครื่องเล่นแบบว่าสะใจแกรมากมาย และแน่นอนเราก็ไม่พลาด เราไปฟูจิคิวโดยขึ้นรถบัสจากโตเกียวไป มันไปถึงสวนสนุกเลยอ่ะค่ารถบัส+ค่าบัตรเครื่องเล่นรวมก็ลงราวๆ 7100 เยน แอบแพงนะแต่เราว่ามันคุ้มมากมาย ดูเครื่องเล่นไอ้รางสีแดงๆดิ เสี้ยวสุดยอดอ่ะ >W< แล้วที่เห็นในรูปเป็นบัตรที่เข้าไปเล่น ตอนแรกเค้าจะให้บัตรเปล่าๆก่อนเสร็จแล้วก็เข้าไปที่ตู้ถ่ายรูปและสอดบัตรเข้าไป เสร็จแล้วมันก็จะกลายเป็นแบบนี้ มีหน้าเราอยู่บนบัตรด้วยๆ

มาที่นี่พี่กบก็แนะนำว่าต้องมาเข้าบ้านผีสิงให้ได้ๆ ขอรับประกันว่าที่นี่หลอนจริงๆใช้เวลาเดินอยู่ในนั้นศิริรวมเวลาก็ประมาณ 30นาที พนักงานที่ดูแลบ้านผีสิงก็แต่งตัวใส่เสื้อกาวน์เปื้อนเลือด แบบว่าบ้านผีสิงที่นี่ทำธีมประมาณว่าโรงพยาบาลโรคจิตประมาณนั้น ตอนเข้าไปก็มีการบิ้วอารมณ์ซะก่อนด้วยการที่ฉายภาพยนต์ให้ดูเล็กน้อยแต่ไม่น่ากลัวเท่าไรเนื่องจากฟังภาษาญี่ป่นไม่ออกทำให้อัตราการกลัวลดลงถึง 20 % จากนั้นเค้าจะแบ่งกลุ่มเข้าไปอย่างมากน่าจะไม่เกิน6คนได้แต่ละกลุ่มก็มีไฟฉาย (เค้าให้มา) แล้วแบบว่าแต่ละที่ของโรงบาลจะมีจุดที่ทิ้งไฟฉาย ไอ้กลุ่มเราก็ไม่รู้อ่ะนึกว่าเค้าให้ทิ้งเลย ความจริงมันไม่ใช่จะทิ้งเมื่อไรก็ได้นะ (ด้วยความที่กลัวว่าจะน่ากลัวน้อยเกินไป เลยทิ้งไฟฉายซะตั้งแต่ตอนแรกเลย = =") แล้วแบบว่าที่พี่2คนเกาะแขนเราไว้คนละข้างหวังว่าเราจะไม่กลัวและเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจให้พี่เค้าได้ ความจริงไม่ใช่เลยอ่ะพอผีมาเราอ่ะวิ่งคนแรกซะงั้น เค้าเกาะแขนเรา เราไม่สนใจแล้วชั้นขอวิ่งก่อนๆ ฮิ้ว~~~ คือแบบว่าบ้านผีสิงที่นี่มีการเดินขึ้นเดินลงบันไดด้วยแหละ แถมมันจะมีห้องต่างๆเช่นห้องดับจิต ห้องผ่าตัด บลาๆๆๆๆๆ แบบว่าแค่กลิ่นยังเหมือนเลยอ่ะ แถมคนที่แต่งตัวเป็นผียังแบบว่าแต่งได้เหมือนอีกด้วย แต่เราเพิ่งรู้กฎของบ้านผีสิงนะว่าหลอกอย่างไรก็ได้แต่ห้ามโดนตัวเพราะฉะนั้น เราไม่ต้องกังวลกันแล้วนะคะว่าใครจะมาโดนตัวเรา ^^ สรุปแล้วมันเป็นบ้านผีสิงที่คุ้มมากๆ ตั้งแต่ที่เราเคยเล่นมาเลยง่ะ แต่วันนี้เราเล่นเครื่องเล่นที่ฟูจิคิวไม่ครบเน้อเพราะว่าเวลาไม่เอิ้ออำนวยกลัวตกรถแล้วกลับไม่ได้ ไว้ปีหน้าเจอกันน้า ฟูจิคิว

และเราก็มาเที่ยวที่พระราชวังอิมพีเรียลพอลงจากสถานโตเกียว ป๊าดดดด มันช่างไม่เหมือนjapanเอาซะเลยมันเหมือนยุโรปมากๆ สวยๆดูเป็นเมืองที่ไม่พลุกพล่านไม่เหมือนชิบูย่าหรือชินจุกุเลย แค่ตรงตัวสถานีก็สวยมากแล้ว~ เดินไปเรื่อยๆชมความงาม ก็เดินไปจนถึงพระราชวัง ที่นั่นเค้าให้เข้าไปนั่งฟังการบรรยายก่อนว่าประวัติความเป็นมา บลาๆๆๆๆ ซึ่งเราก็ฟังไม่ออกอ่านะถีงเป็นพี่เก่งๆที่ไปด้วยกันก็ฟังไม่ออกอยู่ดีเพราะว่าเค้าใช้ศัพท์ยากอ่ะออกแนวคำราชาศัพท์ซะงั้น พอเค้าให้ฟังการบรรยายก็พาออกไปชมก็แค่รอบๆพระราชวังอ่าแหละไม่มีไรน่าตื่นเต้นเพราะว่าฝนก็ตก ฟังที่เค้าบรรยายก็ไม่ออก กลุ่มที่ไปด้วยกันก็มีแต่ฝรั่งยังจะพูดญี่ป่นอยู่อีก มีอังกฤษหน่อยก็ดีนะเฮียขา = =" แถมต้องเดินให้เป็นแถวเรียบร้อยอีกด้วย เหมือนแถวอนุบาล เค้าคงไม่อยากให้วุ่นวาย แต่เราเบื่อมากมายเลยอ่ะเพราะว่าส่วนหนึ่งมันฝนตกด้วย เลยเป็นวันเที่ยวที่ไม่ค่อยจะสนุกเท่าไรนัก

แน่นอนว่ามาถึงโตเกียวแล้ว ไม่ไปวัดอาสะกุสะแล้วเหมือนมาไม่ถึง ความจริงเราก็เคยมาแล้วแหละ ตอนแรกกะจะมาหาเครื่องรางของเพื่อนให้ที่นี่แต่แบบว่าไม่สวยเลยอ่ะ แถมแอบแพงอีกตังหาก เลยไม่ซื้อไป แต่ถ้าจะหาของฝากแบบญี่ป่นๆก็ควรซื้อที่นี่นะเพราะว่าราคาไม่แพงมากๆ และจะมีพวกกุญแจแบบญี่ปุ่นๆ

หลังจากกลับจากวัดเราเลยลองแวะย่านกินซ่าบ้าง ได้ข่าวว่าเป็นย่านสุดหรูมันก็ไม่ทำให้เราเสียใจจริงเพราะว่าคนเดินถนนที่นี่มีแต่แบบว่าดูรวยและมีเงิน รถsportที่เห็นยากๆที่ญี่ป่นเพราะคนที่นี่เค้าไม่ค่อยใช้รถ ก็เห็นที่นี่ ป๊าดจะรวยไปไหนคะมีสุนัขด้วย สุนับที่นี่ราคาก็ตกตัวล่ะ 6หมื่นเยน ก็เหยียบๆ2หมื่นบาทได้ นี่ลูกสุนัขตัวเล็กๆเท่านั้นนะ = =" มาที่ย่านนี้รับรองว่าไม่ได้เสียเงินแน่ๆคะเพราะว่าไม่มีปัญญาซื้ออยู่แล้วทุกอย่างเป็นแต่ยี่ห้อแบบว่าแพงๆ เราไม่สามารถแตะต้องได้อยู่แล้ว

ด้วยความที่มาถึงถิ่นแล้ว ชั้นอยากกินชาบู~~~~ เลยชักชวนพี่น้องร่วมชะตากรรม 3คน เจ้าเดิม ป้าปิ่น พี่เจี๊ยบ และหญิงไปกินชาบูกันแถวชิบูย่า มันเป็นบุฟเฟ่ราคา 1260 เยน คุ้มนะเราว่าเพราะว่ามันเป็นเนื้ออ่ะราคาแพงโคตรๆ เนื้อที่นี่เค้าหันบางๆลวกน้ำทีก็เกือบจะสุกอยู่แล้ว กินเข้าไปแล้วเหมือนจะละลายในปากเลยอ่า~ แต่ใครจะรู้ว่ามันไม่ได้อร่อยแต่เพียงอาหาร

แบบว่าให้ตายเถอะพนักงานหล่อโคตรๆ เราเรียกกันว่าพี่เม่น (พี่แกรเซ็ตผมซะเป็นเม่นเลย) ทั้งโต๊ะอยากได้รูปกันมากๆ แน่นอนว่าฝีมือการถ่ายรูปเราดีสุด และตรงที่เรานั่งก็เห็นพี่เม่นอย่างชัดเจน แต่เพื่อแบบว่าไม่เป้นการจงใจถ่ายพี่เม่นมากเกินไป คงต้องเพิ่งหญิงให้ดูเหมือนถ่ายรูป ถ่ายนานมากๆกว่าจะได้ภาพนี้เพราะว่าที่นั้นมันมืดมากๆ แถมพี่เม้นเดินเร็วอ่ะ ถ่ายแล้วสั่นๆเบลอๆซะเป็นส่วนใหญ่ มีรูปนี้แหละชัดสุดแล้ว~ แต่คาดว่าพี่เม่นเป็นเคะอ่ะเพราะว่าพี่เม่นไปจับก้นคนอื่น o.O เรากับป้าปิ่นเห็นคาตามากๆๆๆ พี่เม่นทำไมทำแบบนี้อ่า~~~ แต่ตอนถ่ายขำกับมาก แบบว่าชาบูมันใส่กัญชาลงไปด้วยหรือไงเนี่ย!!!!! 5 5 5+ จนพนักงานมาถามว่าdaijoubu (ไม่เป็นไรใช่ไหม) 5 5 5+ เราว่าไม่ได้เมากัญชาหรอก เมาผู้ชายกันมากกว่า กร๊ากกกกกกก

ไปดิสนี่ย์แลนด์มาด้วยๆ เพราะดิสนี่ย์ซีไปแล้วแล้นเน้อเมื่อคราวที่แล้ว~ ถูกใจไอ้ปากเป็ดนี้มากมาย พี่เจี๊ยบบอกว่าแกรต้องซื้อให้ได้เลยนะๆๆ ไม่พลาดอยู่แล้น คริคริ มันเป่าออกมามีเสียงเป็ดด้วยนะเออ ชอบมากมาย ขอบอกว่าหมูแมวมีลานั้นเราใส่ตั้งแต่อยู่ที่หอใส่เดินมาเรื่อยๆขึ้นรถไฟก็ใส่ วันนั้นแอปแบ๋วสุดๆ แบงค์เห็นแล้วยังงงเลยแกรเป็นไรมากไหมเนี่ย? 5 5 5+ ไม่อายอ่ะวันนั้นเป็นไรก็ไม่รู้ 5 5 5+

อ่า~~ เราไปเที่ยวอีกเยอะแหละแต่ว่าขี้เกียจทำรูป เราว่าแค่นี้คงหอมปากหอมคอเพื่อนๆที่รออ่านกันแล้วนะคะ เอนทรี่ย์ต่อไปจะกลับมาเป็นเรื่องดาราแบบเดิมแล้วเน้อ~ แต่มีมีคัตตุนเพิ่มเติมจากดงบัง เพื่อนๆคงไม่ว่ากันน้า~ ก็แหมไปญี่ป่นแล้วเลือดรักจินมันพุ่งนิน่าๆๆๆ เพื่อนๆมะว่าไรเราใช่ม้า~~ แจจุงก็อย่าน้อยใจนะจ๊ะ

ปล.ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่าไว้จะตามไปเม้นคืนนะกั๊บ

วันนี้ปิดท้ายด้วย PV YOU จินนายจะหล่อไปไหนเนี่ย!!!!!!!!!!!





Create Date : 02 พฤษภาคม 2550
Last Update : 2 พฤษภาคม 2550 16:18:35 น. 0 comments
Counter : 2053 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Conch
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่คนธรรมดาเดินดินที่มีชื่อว่าConch
Conch อ่านว่า คอนช์
แต่บางคนว่ายาวเลยเรียกกันว่า ค้อน
(ซึ่งผิดจากความหมายเดิมมาก)
เพราะ Conchแปลว่าหอยสังข์
(ไม่รู้อ่ะดิ = =)
แต่ห้ามเรียกว่านังหอย นะ น่าเกลียดชะมัด
Friends' blogs
[Add Conch's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.