Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
23 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
ตอนที่ 15 ใส่ผ้าอนามัยกลับด้าน มันเจ็บซะมัดเลย กระซิกๆๆ

.................73


ในวันรุ่งขึ้น ที่บ้านของฟ้าสวย เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ก็รู้สึกไม่สบายตัว ครั่นเนื้อครั่นตัว ร้อนวูบวาบ โลกมันหมุนๆ อย่างอธิบายไม่ถูก เห็นอะไรก็หงุดหงิดไปหมด เอกวิทย์ จึงพูดกับตัวเองความว่า


“วันนี้มันเป็นบ้าอะไรฟ๊ะ ห้องมันหมุนๆยังไงไม่รู้ บ้าจริง”


“โอ้ย!! หงุดงิดโว้ย!! ร้อน บ้าเฮ้ย อะไรฟ๊ะเนี๊ยะ”


“ไม่ไหวแล้ว อยู่ในห้องนี้ไม่ได้แล้ว วันนี้ ผีหลอกชัวร์ๆ ผีหลอกกลางวันแน่ๆ”


“แน่นอนเลย ผีมันมาหมุนห้อง ห้องก็เลยหมุน อยู่ไม่ได้แล้วโว้ย!!”



และแล้ว เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ก็รีบออกมาจากห้องนอน และรีบลงมาชั้นล่าง ซึ่งเป็นร้านขายของชำ ส่วนของแม่ฟ้าสวย ก็เห็นลูกสาวของตัวเองไม่สบายตัว มีอาการแปลกๆ และวิ่งหน้าตาตื่นลงมา จึงถามไปความว่า


“ลูกฟ้า ลูกไม่สบายเหรอ หน้าตาซีดเชียว”


“อ๋อ นิดหน่อยค่ะแม่”


“เป็นอะไรเหรอลูก”


“ไม่รู้สิค่ะ แต่รู้สึกไม่สบายตัวเลย แต่ว่า แม่ครับ เฮ้ย!! แม่ค่ะ ที่บ้านของเรามีผีด้วยเหรอค่ะ”


“ผี เหรอลูก!!”


“ใช่ค่ะ เมื่อตะกี้ มีผีมาหลอกด้วย”


“จริงหรือลูก แล้วเรื่องมันเป็นยังไง ผีมันมาหลอกยังไง” แม่ของฟ้าสวยพูด และแสดงสีหน้าตื่นตกใจ

...............74



“เมื่อตะกี้นะค่ะ ลูกนอนๆอยู่ พอรู้สึกตัว ก็มีอาการร้อนวูบวาบ แน่นอนเลยว่า เป็นอาการเริ่มแรกก่อนผีจะมาหลอกค่ะ”


“หา!! ร้อนวูบวาบ แล้วผีจะมาหลอกเลยเหรอลูกฟ้า!!”


“ใช่ค่ะแม่ ยังไม่พอเพียงเท่านั้น พอนั่งได้ซักพัก ผีมันก็มาหมุนห้อง”


“หา!! ผีหมุนห้อง”


“ใช่ค่ะ ห้องมันหมุนๆใหญ่เลย น่ากลัวมากมาย เป็นครั้งแรกเลยละค่ะ ที่เจอผีหลอกกลางวันแสกๆแบบนี้”



แม่ของฟ้าสวย มองเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย โดยเธอดูอาการ สีหน้า และหลายๆอย่างประกอบกัน จากนั้น แม่ของฟ้าสวย ก็อมยิ้มแล้วก็พูดความว่า


“แม่ว่า คงไม่ใช่ผีหลอกแล้วละ”


“เอ๊ะ!!”


“หรือว่าลูกเมสส์มาเหรอ”


“เมสส์???”



เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย นั่งงงอยู่สักพัก ทำให้เขานึกได้ว่า ผู้หญิงนั้นต้องมีประจำเดือน และจากการที่เอกวิทย์ ได้รู้ๆมาบ้างก็คือ ผู้หญิงนั้น เวลาก่อนที่จะมีประจำเดือนนั้น มักจะมีอาการแปลกๆ และแต่ละคนจะมีอาการที่ไม่เหมือนกัน



จากนั่น เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ก็เดินไปหยิบผ้าอนามัย แบบมีเทปกาว ที่ตั้งขายหน้าร้าน แบบหน้าแตกสุดๆ แล้วก็เดินขึ้นไปบนห้องสักพัก แล้วเขาก็กลับลงมาอีก แต่ทว่า แม่ของฟ้าสวย ก็เห็นว่า เอกวิทย์ ในร่างฟ้าสวย มีอาการเดินที่ผิดปรกติ แม่ของฟ้าสวยจึงถามไปความว่า

............75


“ลูกฟ้า....ลูกเป็นอะไรหรือป่าว เห็นลูกเดินแปลกๆไปนะ”


“ไม่มีอะไรหรอกค่ะแม่ . แม่ค่ะ ......เออ............คือว่า.........เวลาใส่ผ้าอนามัยนี้มันต้องเจ็บๆเหรอค่ะ”


“เจ็บๆเหรอลูกๆ ?!?”


“ค่ะ .... มันดึงๆนะค่ะ ........ เจ็บนิดๆ แต่ทนได้ค่ะ”


“ดึงๆเหรอลูก ??? .............”



แม่ของฟ้าสวย ทำหน้า งงๆ และทำท่าทางคิด ว่าเจ็บๆยังไงหนอ ก่อนที่เธอจะอมยิ้ม และพูดออกไปความว่า


“หรือว่าลูกใส่กลับด้าน”


“เอ๊ะ!!.......กลับด้าน อึ้ง+อาย.............*.*”


และแล้ว เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ก็รีบวิ่งขึ้นไปบนห้องทันที


ส่วนทางด้าน แม่ของฟ้าสวย เมื่อได้เห็นพฤติกรรมแปลกๆของลูกสาว ก็เข้าใจว่า เกิดจากอาการทางประสาท ที่ฟ้าสวยหลังจากฟื้นไข้จะมีอาการ และพฤติกรรมที่แปลกๆ หลงๆลืมๆ ตามที่แพทย์ผู้ให้การรักษาได้เคยบอกไว้ เธอก็เลยไม่ได้คิดอะไร



หลายวันต่อมา แม่ของฟ้าสวย ก็ได้สังเกตเห็นถึงอาการซึมเศร้าของลูกสาว และชอบทำตัวแปลกๆ ไม่ค่อยชอบออกจากห้อง ซึ่งก็เข้าใจว่าเป็นอาการทางประสาทอย่างที่แพทย์บอก แต่แม่ของฟ้าสวยก็ดีใจที่เธอไม่ต้องสูญเสียลูกสาวคนนี้ไปในเหตุการณ์ครั้งนั้น และเธอคิดว่า ต่อให้ลูกสาวของเธอมีอาการทางประสาทมากแค่ไหน เธอก็จะคอยดูแลฟ้าสวยไปจนกว่าจะตาย

............76


ในค่ำคืนหนึ่ง ในห้องนอนของฟ้าสวย เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย เริ่มเก็บตัวมากขึ้นเป็นลำดับ โดยเขาคิดถึงเรื่องอนาคตว่า จะทำอย่างไรต่อไป จนอยู่ในอาการซึมเศร้าอย่างหนัก จากนั้น ก็ดูหมือนว่า เขากำลังคิดถึงใครบางคน เขาจึงพูดขึ้นความว่า


“เฮ้อ น้องดา จะเป็นยังไงบ้างนะ แต่งงานกับ ไอ้วุทธ มันแล้วยังนะ หรือน้องดาจะแค่ขู่เรา ว้า รู้สึกไม่ค่อนดีเลยแฮะ”


ว่าแล้ว เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ก็เอามือมาบีบที่ ดั๊งจมูก จากนั้นเขาก็พูดขึ้นความว่า


“อืม หายใจโล่งดี รู้สึกสบายดีแฮะ ใช้ได้ๆ”


และในคืนนั้นเอง เมื่อเอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย หันไปมองปฏิทิน และเขาก็พูดขึ้นความว่า


“เอ๊ะ!! วันนี้วันศุกร์อีกแล้วหรือเนี๊ยะ ต้องเขียนจดหมายอีกแล้วสินะ”



ส่วนเนื้อความในจดหมายนั้น เขียนบรรยายถึงความรู้สึกของ เอกวิทย์ และเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการสลับร่าง จ่าหน้าส่ง ติดแสตมป์เรียบร้อย พร้อมส่งถึงผู้รับ



ในเช้าวันต่อมา แม่ของฟ้าสวย ได้เห็นว่า ลูกสาวของตัวเองนั้นได้เปลี่ยนไปมาก คือ มีอาการหลงๆลืมๆ เหมือนคนสูญเสียความทรงจำ ซึ่งก็เป็นอาการที่หมอเคยบอกว่า ฟ้าสวยอาจสูญเสียความจำ บางช่วงของชีวิตไป แต่ที่เป็นห่วงที่สุดคือ อาการซึมเศร้าของลูกสาว ที่เริ่มน่ากลัวขึ้นทุกวัน



ซึ่งหัวอกคนเป็นแม่ ก็ไม่อยากให้ลูกสาวของตัวเองต้องอยู่ในอาการซึมเศร้านานเช่นนี้ จึงได้บอกให้พี่ชายของฟ้าสวย ซึ่งก็คือ สารวัตรฟ้าลั่น ซึ่งเป็นคนรูปร่างใหญ่ ไว้หนวดไว้เครา หน้าตาเหมือนโจรก็ไม่ปาน แต่เป็นคนใจดี ดุดันในบางครั้ง เพราะเป็นตำรวจระดับสารวัตร ให้พาฟ้าสวยไปในสถานที่ๆฟ้าสวยเคยไป เพื่อฟื้นความทรงจำ ตามคำแนะนำของแพทย์ จากนั้นแม่ฟ้าสวยจึงพูดกับ ฟ้าลั่น ความว่า


“ฟ้าลั่นเฮ้ย.............แม่ว่าเราน่าจะพาฟ้าสวยไปเที่ยวบ้างนะลูก”


“ก็ดีเหมือนกันนะแม่คับ เห็น ฟ้าสวย ตั้งแต่รถคว่ำ น้องซึมๆยังไงก็ไม่รู้”


“งั้นลูกก็พาน้องไปเที่ยวนะ แล้วดูแลน้องด้วยละ ”

..................77


“คร๊าบ.....แม่ ”


ซึ่ง เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่เคยได้ออกไปไหนเลย จนพี่ ฟ้าลั่น บอกว่าจะพาออกไปเที่ยว แต่ เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย นั้นไม่ค่อยอยากจะไป แต่ก็ต้องไปตามคำขอของแม่ฟ้าสวย


“เออ.......นาย ..... นี้เราจะไปไหนกันเหรอ”


เอกวิทย์ ถามพี่ชายของฟ้าสวย ในรถยนต์กระบะ ของที่บ้าน ในระหว่างการเดินทาง


“หา.......อะไรนะ”


“เราจะไปไหนกัน”


“เราจะไปหาอะไรกินกันที่ห้างโลตัส...........ที่ใกล้ที่ทำงานของน้องไง น้องก็ไปบ่อยนิ จำไม่ได้เหรอ”


“อ๋อเหรอ............ จำได้เละๆ”


เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย แกล้งทำเป็นจำได้ เพื่อกลบเกลื่อน เพราะเอกวิทย์ คิดว่า ไม่ควรจะบอกความจริงว่าเขาไม่ใช่ฟ้าสวยในตอนนี้ เพราะ เอกวิทย์ ไม่แน่ว่าจะมีคนเชื่อหรือไม่ และหากมีคนเชื่อ โดยเฉพาะแม่ของฟ้าสวย เอกวิทย์กลัวว่า แม่ของฟ้าสวยจะเสียใจ จึงต้องปิดบังเอาไว้ก่อน จะกว่าจะสามารถแก้ไข้และหาสาเหตุของเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นได้ แต่ฟ้าลั่นนั้น ก็งงๆ และถาม เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวยความว่า


“แต่............ ตะกี้น้องเรียกพี่ว่า นาย หรอ” ฟ้าลั่น หันมาถามแถมทำหน้างงๆ


“เอ๊ะ!! ........ อ๋อเหรอคะ...อะ...น้องล้อเล่นนะค่ะ ขำๆนะพี่ชาย”


จากนั้น เอกวิทย์ในร่างฟ้าสวย ก็แอบพูดในใจ ความว่า


“อ๊วก...........กุจะบ้าตาย”




ในขณะเดียวกัน ที่ห้องทำงานของ หมอธีรพล โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นการสนทนาระหว่างการทำงานวิจัย ระหว่าง หมอธีรพล กับ พยาบาลสุนิสา ผู้ช่วยทำงานวิจัย ความว่า

.............78


“พี่หมอพลค่ะ หากว่า สิ่งมีชีวิตชนิด C เกิดขึ้นมาจริงๆแล้ว เธอ เอ๊ะหรือ เขา เอ๊ะงง ค่ะ สรุปคือสิ่งมีชีวิตชนิด C ก็แล้วกันนะ จะต้องปรับตัวอย่างไรบ้างค่ะ”


“เรื่องนี้ผมเองก็สงสัยเหมือนกันนะ น้องนิสา แต่ผมคิดว่า เรื่องแรกที่สิ่งมีชีวิตชนิด C จะต้องปรับตัว ก็คือ การกะจังหวะ การเดิน และการวิ่งใหม่”


“เอ๊ะ ยังไงกันค่ะ นิสา งงมากๆ”


“ผมคิดว่า หากนาย A เริ่มใช้ร่างกายของนางสาว B ในการเดิน นั่ง วิ่ง การใช้สายตา ฯลฯ อย่างเต็มที่แล้ว ปัญหาการกะจังหวะการเดิน หรือการวิ่ง หรือการทำเรื่องต่างๆ น่าจะเริ่มมีปัญหาแล้วละ”


“อืม ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีละค่ะพี่หมอพล”


“เอาอย่างนี้นะ เช่น สายตา สั้น และยาว ของนาย A กับนางสาว B นั้น ย่อมไม่เท่ากันแน่นอน เพราะทั้งคู่เป็นคนละคนกัน แต่ถ้านาย A มาใช้สายตาของ นางสาว B ละ จะเกิดอะไรขึ้น”


“อืมนั้นนะสิค่ะ”


“ผมคิดว่า การกะจังหวะ การคำนวณระยะด้วยสายตา อาจจะผิดพลาดได้ง่ายๆ อาจจะเดินชนโน้นชนนี้ สักพัก จนกว่าสิ่งมีชีวิตชนิด C จะปรับตัวได้ ”


“ อืม พอจะเข้าใจแล้วละค่ะพี่หมอพล แล้วการกะจังหวะการเดิน กับการวิ่งละค่ะ”



“ส่วนการกะจังหวะการเดินหรือการวิ่ง เนื่องจากนาย A กับนางสาว B เป็นคนละคนกัน สัดส่วนของร่างกาย นาย A น่าจะใหญ่กว่า เพราะเป็นผู้ชาย ดังนั้น เมื่อจิตใจของนาย A มาอยู่ในร่างกายของ นางสาว B การกะจังหวะการเดิน หรือการวิ่ง น่าจะผิดพลาดได้ง่ายๆ เช่นเวลาก้าวขาขึ้นบันได้ นาย A อาจจะคิดว่า ก้าวขาแค่นี้น่าจะพ้น ในกรณีนาย A อยู่ในร่างกายของตัวเองก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้านาย A มาใช้ร่างกายของนางสาว B ในการก้าวขาขึ้นบันไดละก็ การก้าวขาขึ้นบันไดอาจจะไม่พ้นได้ง่ายๆ เพราะสเกลร่างกายของนางสาว B เล็กกว่า ร่างกายนาย A มาก”



“อ้าว ยังงี้สิ่งมีชีวิตชนิด C ก็ต้องเดินตกบันไดสิค่ะพี่หมอพล”


“ใช่ สิ่งมีชีวิตชนิด C น่าจะต้องเดินตกบันไดบ่อยๆแน่ๆ อาจจะกลายเป็นคนเดินชนโน้นชนนี้ หกล้มบ่อย แต่คงสักพักแหละ พอจิตใจของนาย A กับร่างกายของนางสาว B เริ่มปรับตัวเข้าหากันและกันได้ ปัญหานี้ก็น่าจะหมดไป”


“โห จริงหรือค่ะพี่หมอ น่าตื่นเต้นจังค่ะ”


“น่าตื่นเต้นตรงไหนเนี๊ยะ”


.................โปรดติดตามตอนต่อไป




Create Date : 23 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2552 11:12:11 น. 1 comments
Counter : 1948 Pageviews.

 
เนื้อเรื่องสนุกดีนะคะ...แต่ใช่ภาษาไทยผิดอยู่หลายจุดเลยค่ะ รบกวนแก้ไขด้วยนะคะ


เช่น...

ไม่รู้สิค่ะ ...ต้องเป็น... ไม่รู้สิคะ

แม่ค่ะ ...ต้องเป็น... แม่คะ


เรื่องการใช่ค่ะ กับ คะ เนี่ย...ผิดหลายจุดมากเลยค่ะ...ก็เข้าใจนะคะว่าเป็นผู้ชายอาจจะไม่เคยชินกับการใช้ ค่ะ และ คะ ของผู้หญิง...วิธีแก้ก็คืออยากให้คุณลองพูดก่อนที่จะพิมพ์ประโยคที่ลงท้ายด้วย ค่ะ และ คะ ทุกครั้ง

เมสส์ ...ต้องเป็น... เมนส์

ดั๊งจมูก ...ต้องเป็น... ดั้งจมูก

แม่คับ ...ต้องเป็น... แม่ครับ (ซึ่งถ้าใช้แม่คับมากๆ ระวังแม่จะหายใจไม่ออกนะคะ อิ_อิ)

รถยนต์กระบะ ...อ่าจะรถยนต์ หรือรถกระบะ ก็เลือกเอาสักอย่างสิคะ - -"


ความจริงจุดผิดยังมีมาก...อยากจะให้ผู้เขียนลองกลับไปหาอ่านดู...เพราะนิยายจะสะดุดอารมณ์ในการอ่านไม่ต่อเนื่องกันเป็นเพราะความพลั้งเผลอที่ใช้คำผิดโดยไม่ตั้งใจ...


สู้ๆ นะคะ จะรออ่านต่อไปค่ะ



โดย: นักวิจารณ์กำมะลอ IP: 58.8.162.194 วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:10:17:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ruddy01
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ruddy01's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.