|
|||
ส้นเท้าแตก เกิดจากอะไร ? ส้นเท้าแตก เกิดจากอะไร ? 1. ผิวแห้ง การมีผิวแห้งถือเป็นสาเหตุพื้นฐานที่ทำให้ฝ่าเท้าแห้ง ส้นเท้าแตกซึ่งคุณอาจสังเกตได้ว่าผิวรอบๆส้นเท้านั้นมีแนวโน้มที่จะแห้งและหนาก่อนที่ส้นเท้าจะแตกนอกจากนี้มันยังทำให้คุณรู้สึกว่าผิวตึง ขรุขระและคันโดยเป็นผลจาการที่ผิวหนังสูญเสียน้ำมันหรือน้ำที่มักเกิดขึ้นในฤดูหนาวการอาบน้ำร้อน การใช้สบู่ที่มีฤทธิ์รุนแรง อายุที่มากขึ้นฯลฯ - วิธีการรักษา ใช้ครีมมอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำโดยให้ใช้หินสำหรับขัดผิวทำการขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วก่อนทาครีมค่ะ 2. ฝ่าเท้ารับน้ำหนักมากไป แม้ว่าผิวหนังแห้งจะเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำให้ ส้นเท้าแตกแต่การที่ฝ่าเท้ารับน้ำหนักมากเกินไปนั้น ก็สามารถทำให้ส้นเท้าแตกได้ไม้แพ้กันโดยเฉพาะ การยืนเป็นระยะเวลานาน การมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานฯลฯ -วิธีรักษาให้คุณหลีกเลี่ยงการเดินหรือยืนเป็นระยะเวลานานและใช้อุปกรณ์รองส้นเท้าฮีลคัพหรือแผ่นเสริมใต้ฝ่าเท้าช่วงพยุงและกระจายน้ำหนักให้เท้าค่ะ 3. เป็นโรคน้ำกัดเท้า โรคน้ำกัดเท้าเป็นโรคที่ผิวหนังบริเวณเท้าติดเชื้อราโดยมักเกิดขึ้นเมื่อเท้าของคุณมีความชื้นและมีความอบอุ่นสำหรับอาการของคนที่เป็นโรคน้ำกัดเท้าคือเท้าจะลอกแห้งแตกและตกสะเก็ดนอกจากนี้เท้ายังส่งกลิ่นเหม็นและทำให้คุณรู้สึกแสบ คันฝ่าเท้ามีสีแดงผิดปกติฯลฯทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคดังกล่าวคือการใส่รองเท้าที่อากาศถ่ายเทไม่ดีการมีเหงื่อออกมากเกินไป การที่ผิวหรือเล็บมีรอยแตกที่เอื้อต่อการเติบโตของเชื้อรา -วิธีการรักษา คุณสามารถซื้อยารักษาโรคน้ำกัดเท้าได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์ คุณควรไปพบแพทย์ 4. โรคสะเก็ดเงิน โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังที่ทำให้ผิวของคุณมีลักษณะเป็นปื้นแดงและมีสะเก็ดสีเงินขึ้นตามร่างกายโดยอาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือคันในบางครั้ง ทั้งนี้โรคสะเก็ตเงินสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกบริเวณของร่างกาย ซึ่งประกอบไปด้วย หัวเข่า ข้อศอกแผ่นหลังด้านล่าง หนังศีรษะ เท้า ฯลฯ อย่างไรก็ตามเรายังไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดของโรคดังกล่าวได้แต่มีการสันนิษฐานว่าอาจเกิดจาการทำงานที่บบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกันหรือการใช้ยาบางชนิดค่ะ -วิธีการรักษาโรคสะเกิดเงินเป็นโรคที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่แพทย์อาจให้ยาสำหรับทานหรือใช้ทานในกรณีร้ายแรง แพทย์ก็อาจใช้วิธีโดยกาฉายแสงค่ะ 5. โรคผื่นผิวหนังอักเสบ ผู้ป่วยที่เป็นโรคผื่นผิวหนังอักเสบนั้นจะมีผิวหนังที่แดงคัน และตกสะเก็ด โดยสามารถเกิดได้กับทุกส่วนของร่างกายเช่น ขา มือ แผ่นหลังหัวเข่า หัวไหล่ ใบหน้า หนังศีรษะ ฯลฯ ทั้งนี้โรคดังกล่าวมักเกิดขึ้นในทารกอย่างไรก็ตาม เรายังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริ งของการเกิดโรคผื่นผิวหนังอักเสบแต่ความเครียด สบู่การแพ้อาการหรือสภาพอากาศนั่นล้วนแต่เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคผื่นผิวหนังอักเสบได้ค่ะ -วิธีการรักษา การใช้อีมอลเลียนท์ (Emollients) และยาTopical corticosteroids สามารถช่วยให้อาการบวม ผิวแห้งหรืออาการคันดีขึ้นนอกจากนี้การกลีกเลี่ยงก็สามารถช่วยป้องกันโรคดังกล่าวได้ค่ะ 6. Juvenile Plantar Dermatosis (JPD) JPD เป็นปัญหาผิวที่พบได้ในเด็กซึ่งผู้ป่วยจะมีส้นเท้า และใต้นิ้วที่แตก โดยจะมีอาการเจ็บร่วมด้วยซึ่งปัญหาดังกล่าวมักเกิดจากแรงเสียดทาน ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้เกิด JPD เช่นการมีเหงื่อออกที่ฝ่าเท้าการใส่รองเท้าแตะที่ทำให้เกิดการเสียดสี ฯลฯ -วิธีการรักษาคุณควรใส่รองเท้าที่พอดีกับฝ่าเท้าที่ผลิตจากหนังเพื่อให้เท้าได้หายใจซึ่งมันสามารถช่วยลดการเสียดทานได้ค่ะ นอกจากนี้การใช้ครีมมอยส์เจอไรเซอร์ทาฝ่าเท้าก็สามารถช่วยได้เช่นกัน 7. ผิวไหม้แดด อย่างไรที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ารังสียูวีจากแสงแดดนั้นสามารถทำร้ายผิวของเรา การตากแดดนานเกิน ไป จะทำให้ผิวของคุณแดง แสบ และลอก หลังจากนั้นไม่กี่วัน ซึ่งเราอาจไม่ทันสังเกตว่า ผิวบริเวณเท้า ก็สามารถมีอาการดังกล่าวเช่นกัน -วิธีการรักษา ให้คุณใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณผิวที่ไหม้แดดและด้วยความที่สมุนไพรชนิดนี้มีฤทธิ์เย็นทำให้ช่วยปลอบปะโลมผิวได้เป็นอย่างดี แต่หากผิวของคุณบวม มีอุณหภูมิสูง ปวดศีรษะผิวพองหรือเวียนศีรษะคุณก็ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ |
goodtimes12
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] Group Blog All Blog |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |