ย่ำแดน..อินเดีย
บันทึกไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว....อยากบอกเล่าให้อ่าน~ ****************************** กล้าว่ะ..!! เฮ้ยยย บินไปคนเดียวเนี่ยนะ..เก่งว่ะ ! โห...กล้าไปได้ไงเนี่ย 2 คน! นึกว่าไปกันกลุ่มใหญ่!! ... หลายๆ เสียงอุทานให้ได้ยิน เมื่อได้ฟังว่าเราไปเที่ยวอินเดียมา ทำให้เริ่มฉุกคิดขึ้นมาว่า เอิ่มม..นี่เราเก่งขนาดนั้นเลยหรอ ?? O_o!! ทำไมไม่เห็นรู้สึกแบบนั้นเลย..!! >.< ตอนนี้รู้สึกอย่างเดียว.. อยากทำภาพอวดชาวบ้าน ให้เห็นความสวยงามของอินเดีย.. ...คิดถึงอินเดีย คิดถึงสีสันของส่าหรี สีเจ็บๆ สถาปัตยกรรมแสนอลังการ ..อยากไปอีกๆๆ แต่ตอนนี้ หลังจากลาพักร้อนไป 1 อาทิตย์ งานกองเต็มโต๊ะ ก้มหน้าก้มตากำจัดงานให้หมดก่อน ^^!! ก่อนที่จะได้ดูรูปงามบ้างไม่งามบ้าง ขอเม้าท์อะไรหน่อยนะ.. 2.10.09 ช่วงเย็นวันศุกร์ เสียงคุณน้องจิ๊บโทรเข้ามา พี่ปา.. ไปเที่ยวอินเดียกัน! หา !! อินเดียอีกแล้วหรอ ?! O_o!!!! อินเดีย ชื่อนี้เคยทำให้เราอกหักมาแล้ว จากการที่เคยเกือบจะได้ไปถ่ายรูปวัดไทยในอินเดีย เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งจากการเปลี่ยนแปลงของราคาตั๋วเครื่องบิน ทำให้งบประมาณในส่วนของช่างภาพ ทำให้ไปได้แค่คนเดียว เราเลยอดได้ไปรับใช้พุทธศาสนาในครั้งนั้น.. ครั้งนั้น เอกสารพาสปอร์ต รูปถ่าย ทุกอย่างถูกจัดเตรียมพร้อมและถูกส่งไปให้พี่ที่เราจะไปทริปด้วย แต่พี่ท่านนั้นขณะนี้ออกทริปดำน้ำอยู่เกาะช้าง !! T__T
เฮ้ยยย! ไปเมื่อไหร่..?? จิ๊บต้องไปทำข่าว ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์นี้ แต่อยากเที่ยวต่อ พี่ปาไปเที่ยวกันนะๆๆ ตอนนั้นก็คิดว่า เอ่อออ.. ไม่มีเอกสารอะไรอยู่กับตัวเล้ยยย งั้นพี่ขอเวลาคิดหน่อยนะ ยังไม่รับปากตอนนี้..
จิ๊บชวนเพื่อนไว้อีกคน ถ้าพี่ปาตกลงจะได้เดินทางพร้อมเพื่อนจิ๊บเลย.. แง่บๆ เอ่ออออ ยังไม่ตอบตอนนี้นะ.. >.< แต่ที่ไหนได้... รีบโทรหาอาจารย์ (หมอดู) ที่นับถือ... อาจารย์คะ ปาจะได้ไปต่างประเทศมั้ยเนี่ย ?!?! แบบว่า..ไม่อยากไปเสียตังค์เตรียมเอกสารทุกอย่างสุดท้ายแล้วก็อดไปอีก (เป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ T^T) อาจารย์ที่ปรึกษาเราก็น่ารักมาก จัดการดูให้เสร็จสรรพ.. ตอบมาว่าไปได้แน่ๆ ดวงต่างประเทศเด่นมาก! เตรียมตัวให้พร้อมละกัน !!! เท่านั้นล่ะที่ต้องการ!! ฮิ้ววววววว...ว.... 5.10.09 วันจันทร์! ช่วงพักกลางวัน รีบแว่บไปทำพาสปอร์ต. ดูไม่ค่อยอยากไปเท่าไรเล้ยยย 6.10.09 แวะไปรับพาสปอร์ตแต่เช้า.. และรีบกลับเข้ามาทำงาน (แปลว่าอู้งานไปล่ะ ^^!! ) 7.10.09 ช่วงพักกลางวัน แว่บไปขอวีซ่าอินเดีย... (อู้งานอีกรอบ ^^!! ) พอดีน้องจิ๊บโทรมา... พี่ปา.. นี่จิ๊บกำลังหาตั๋วโปรโมชั่นให้อยู่ ตกลงไปนะๆ (ไม่ค่อยบังคับเล้ยยย คนเรา -*- ) อ่ะๆ ได้ๆๆ เอาแบบถูกๆ เลยนะ ตังค์ไม่ค่อยมีวุ้ย T^T สักพักน้องจิ๊บโทรมาอีกรอบ.. ว่าได้ตั๋วแล้ว พยายามเลือกไฟล์ทที่เครื่องลงพร้อมๆ กัน จะขอเลขวีซ่าเพื่อจองตั๋ว เลยต้องสารภาพว่ายังไม่ได้รับ เพิ่งจะไปขอเนี่ย 8.10.09 แว่บไปรับวีซ่า กว่าจะได้เล่มคืน เกือบ 5 โมง รีบลนๆ ไปหาน้องที่บริษัท
เพื่อจะได้จัดการชำระค่าเสียหายให้เรียบร้อย พร้อมนัดแนะสถานที่นั่งรอกันก่อนจะแยกย้ายกันไปผจญภัย... แถมด้วยข่าวร้ายนิดหน่อยว่า เพื่อนอีกคนที่นัดไว้ติดปัญหาไม่สามารถไปร่วมผจญภัยกับเราได้ เอิ่มมมม เหลือกัน 2 ชีวิต แถมต่างคนต่างบินไปเจอกัน ! คนนึงบินจากพาราณสี มาลงเดลี.. อีกคนบินจากกรุงเทพฯ ไปลงเดลี.. สนุกล่ะคราวนี้!! 9.10.09 น้องโทรมา พี่ปาๆๆๆ ฝากแลกตังค์ด้วย ที่นี่ไม่มี ATM ให้กดตังค์เลยยยยย O_o!!! แง่บๆ ได้ๆ เด๋วจัดการให้ เดินทางดีๆ ล่ะ แล้วเจอกานนนนนนนน >.< 11.10.09 หลังจากแพ็คกระเป๋าพร้อมเสบียงยังชีพพอประมาณ ได้ 1 กระเป๋าใหญ่ๆ , กระเป๋ากล้อง, กระเป๋าขาตั้งกล้อง และสุดท้ายกระเป๋าเสื้อผ้าใบน้อย ทุกอย่างพร้อม แม่เห็นสภาพแล้ว คิดว่าคงซิ่งมอร์ไซร์ออกไปไม่รอดแน่ๆ เลยออกไปเรียก Taxi มารับที่บ้าน.. กอดแม่ก่อนขึ้นรถ... แม่อวยพรให้เที่ยวให้สนุก .. แง๊วๆ ตื่นเต้นๆๆ
Taxi ขับมาได้สักพัก พี่ Taxi เริ่มชวนคุยโน่น นี่ นั่น.. ไอ้เราก็อยากนั่งทำสมาธิ -*- ตื่นเต้นเล็กน้อยตอนนั้น เฮ้ยย!! นี่เราจะได้ไปต่างประเทศแล้วหรอเนี่ย T^T แถมเป็นประเทศที่ติดอันดับต้นๆ ของเมืองที่ไม่น่าเที่ยวอีก!! >.< โอ้วว แม่เจ้า คิดถูกคิดผิดหว่า?? = =!! เสียงพี่ Taxi ดังแทรกเข้ามาในความเงียบ จะเลี้ยวเข้าทางไหนดีคับ? ผมเคยมาก่อสร้างสนามบิน! ยังไม่เคยขับมาส่งผู้โดยสารเลย !! แป่ววว O_o!! ดีนะที่เรายังพอจำทางได้ เลยต้องบอกเส้นทางเข้าผู้โดยสารขาออกกันตลอดทาง.. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลากำลังดี เราเผื่อเวลาเดินทำใจไว้ 2 ชม. เต็ม เดินเข็นรถสัมภาระไปมาฆ่าเวลาเล่น เดินไปคิดไป ลืมอะไรบ้างหนออออ? อ่อออ ลืมแปรงสีฟัน แวะไปซื้อก่อน.. ทุกอย่างครบล่ะ หาที่คอนเฟิร์มตั๋ว.. แง่บๆ อินเดียนแอร์ไลน์อยู่ช่องไหนหว่า.. ถามเจ้าหน้าที่ก็ได้รับคำแนะนำด้วยดี ตอนนี้รู้สึกว่า เราอยากจะพูดจะคุยกับทุกคนไปหมด เหมือนสังหรณ์ใจว่าเดี๋ยวเราจะไปอยู่ในที่ที่เค้าพูดภาษาไทยไม่ได้เลย ^^~ พอมองมาตามที่เจ้าหน้าที่ชี้บอกแล้วอดขำตัวเองไม่ได้ ไม่น่าถามเล้ยยย เห็นกลุ่มชนชาวภารตะยืนออกันเต็มไปหมดที่ช่องเป้าหมาย ก็น่าจะเดาได้ ปาทูเอ๊ยยยย ^^!! พอถึงคิวเราเข้าไปยืนยันตั๋ว เราก็ขอที่นั่งติดหน้าต่าง เจ้าหน้าที่สาวไทยหน้าตาใจดี ก็ดูแลจัดให้ น่าร๊ากกกมั่กๆ ^0^ ตอนนั้นทั้งแถวมีเราคนเดียว เลยหาเรื่องคุยกับเจ้าหน้าที่
ถามส่วนของ Domestic Airport กับInternational Airport ว่าอยู่ห่างกันมากมั้ย เพราะเรานัดเพื่อนไว้ตรงนั้นตรงนี้ เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่แสดงสีหน้าเห็นใจ ตอบเราไม่ได้ เพราะไม่เคยไปลงสนามบินที่ว่า T^T เอาวะ ไหนๆ ก็ไหนๆ ไปลุยเอาดาบหน้า!! ผ่านด่าน ตม. ตรวจทุกสิ่งอันเรียบร้อย แล้วไปรอขึ้นเครื่องดีกว่า.. เดินเข้ามาในเครื่องก็ปล่อยไก่ทันที.. ที่นั่งเราอยู่ส่วนหน้าๆ แต่ความที่ชาวอินเดียเยอะมากๆ เราเดินตามขบวนอาบังมาจนเกือบถึงท้ายเครื่อง.. แป่วว ที่นั่งอีนี่อยู่หนายยย?!?!? เอ่อออ ถามคุณแอร์สาวสวยก็ได้ความว่า..ที่นั่งดูจากเลขตรงนี้ๆ นะจ๊ะนายจ๋า~ !!! ก็เสียเวลาเดินย้อนฝ่าขบวนหนุ่มสาวชาวอินเดีย กระดึ๊บๆ ออกมาจากท้ายเครื่องมาหน้าเครื่อง หาที่นั่งอีกพักนึง..แฮ่กๆ
เจอแล้ววว ที่นั่งของเรา แต่!! ดันเจอ 1 ครอบครัวพร้อมเด็กน้อยนอนหลับอยู่ที่เก้าอี้เรา!! แง๊วๆๆ ทำไงดี.. o_O!! แสดงสีหน้าเว้าวอน ขอเข้าไปนั่งข้างใน.... สักพักคุณพ่อบ้านหน้าตาอินเดี๊ย อินเดีย ก็กุลีกุจอลุกออกมา
..พอเราจะเก็บกระเป๋าสัมภาระขึ้นชั้นบนแต่มันค่อนข้างหนัก ส่งสายตาเว้าวอนพร้อมภาษาง่อยๆ ขอความช่วยเหลือไป คุณพ่อบ้านก็จัดการช่วยยกกระเป๋าเก็บที่ช่องเก็บสัมภาระให้ด้วยความเต็มใจ ^^!!
(คิดเข้าข้างตัวเองสุดๆ) นึกชื่นชมคุณพ่อบ้านในใจ ช่างมีน้ำใจอะไรเช่นนี้ รู้สึกกลายเป็นคนไม่ดีไปเลยเรา ดันไปแย่งที่นอนลูกสาวเค้า >.< นั่งไปสักพัก.. มองออกไปนอนหน้าต่าง.. แอบบิ๊วอารมณ์นิดหน่อย.... บ๊ายบายยไทยแลนด์... แล้วอีนี่จะรีบกลับมานะนายจ๋าาาา U__U เครื่องขึ้นแล้ว.... เด็กน้อยที่หลับ เริ่มดิ้นไปมา.. น่ารักวุ้ย ปกติเป็นโรคไม่ค่อยถูกกับเด็กยังรู้สึกได้ว่าเด็กคนนี้น่ารักมากๆ เด็กน้อยเริ่มล้ำถิ่นเรา เราก็ยกที่พักแขนขึ้น บอก Noproblem สบายมากๆ ให้น้องเค้านอนสบายๆ... มาหนุนตักเราและพาดตัวไปที่แม่เค้า.. หลับปุ๋ยเลย คุยทักทายกันนิดหน่อยเพราะภาษาอังกฤษเราก็ง่อยๆ ..สักพัก คุณพ่อบ้านชาวภารตะถามว่า เราเป็นคนจีนหรือเปล่า? No. ค่ะ แล้วเป็นคนไทยหรือเปล่า? No. ค่ะ (ฟังไม่ออกจริงๆ ตอนนั้น อ๊าย อายยย >.< ) เรานั่งถ่ายรูปวิวนอกหน้าต่างไปสักพัก.. น้องเด็กน้อยเริ่มตื่น เราเลยขอถ่ายรูปน้องเค้า คุณพ่อบ้านกับคุณแม่บ้านอินตะระเดีย ชอบรูปที่เราถ่ายลูกสาวเค้ามากกกกก สักพักนึงเค้าพูดภาษาไทยกัน เราเลยหูกระดิกเลย!! อ๊าวววว อีนีฉานก็คนไทยนะนายยย!! เท่านั้นล่ะ เลยเม้าท์กันสนุกเลย ^0^ ครอบครัวนี้อยู่เมืองไทยมา 6 ปีแล้ว พูดภาษาไทยได้ชัดแจ๋ว มิตรภาพดีๆ เริ่มขึ้น เราขอให้เค้าแนะนำสถานที่เที่ยวสวยๆ ในอินเดียให้ เผื่อเราจะไปเที่ยว เค้าก็ว่าเรามีเวลาน้อยมาก แต่ก็จดๆ ให้เรา 6-7 สถานที่ที่น่าเที่ยว ^^~ เราสัญญาว่าจะไรท์รูปส่งให้เค้า เมื่อเค้ากลับถึงเมืองไทย.. (เห็นว่าจะกลับอินเดีย 3 อาทิตย์ แต่เราตั้งใจจะไปแค่อาทิตย์เดียว)
ณ สนามบินอินทิรา คานธี เครื่องลงจอดอย่างเรียบร้อย.. เรารับกระเป๋าครบหมด แต่อยากอยู่ถ่ายรูปเพื่อนชาวต่างชาติครอบครัวแรกของเราอีกพักนึง.. เค้าก็บอกว่าป่านนี้เพื่อนคงมารอแล้วมั้ง ออกไปหาเพื่อนก่อนก็ได้.. เดี๋ยวเพื่อนจะรอนาน เค้าต้องรอกระเป๋าอีก 2-3 ใบ เราเลยตัดสินใจบ๊ายบาย และออกมาตามแผนที่ ที่ได้นัดแนะกับน้องจิ๊บไว้...
ก่อนจากกัน เค้าทิ้งเบอร์โทรที่บ้านเค้าไว้ด้วย บอกว่าถ้ามีปัญหาโทรหาเค้าได้ แต่เค้าต้องเดินทางโดยรถไฟต่อไปอีก 400-500 กม. บ้านเค้าอยู่บ้านนอก ต้องพรุ่งนี้เย็นๆ เค้าจึงจะถึงบ้าน ค่อยโทรหาเค้าตอนนั้นได้.... ...ประทับใจครอบครัวนี้จริงๆ ^^~ เราเข็นๆ รถออกมาชะเง้อๆ มอง.. อยู่ไหนหว่า?? ยืนมองจนเพื่อนชาวภารตะของเราเดินออกมา เห็นเรายืนหน้าจ๋อยอยู่ ก็ยิงคำถามมา เจอเพื่อนหรือยัง? พร้อมส่งยิ้มให้กำลังใจมากระบุงใหญ่... ยังเลยค่ะ (ฮืออ ฮือออ) ..เค้าก็ปลอบใจว่า ไม่เป็นไรๆ เครื่องบินที่นี่ ดีเลย์ประจำ !! โอ้ววว ใจชื้นขึ้นมาเลย ^0^ ขอบคุณมากๆ นะนายจ๋าาา~ โบกมือบ๊ายบายยยครอบครัวโรตีแสนน่ารัก และก็มานั่งจุ้มปุ๊ก มองหาไอ้คุณน้องจิ๊บต่อไป...
รอ...ร๊อ...รอ... 1 ชม. ผ่านไป.. เอ.. เดินไปถามก็คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เอาวะ!! รอให้มันถึงที่สุดละกัน T__T 2 ชม. ผ่านไป.. เดินไปถามใครดีหนออออ เจ้าหน้าที่ที่สะพายปืนนี่ จะตอบเราได้มั้ยหว่า ?!? มองออกไปด้านนอก.. ฟ้ามืดแล้ว.. ขณะนี้เวลา 2 ทุ่มแล้ว (ที่เมืองไทยคง 3 ทุ่มกว่าๆ) ไปถามเจ้าหน้าที่ เค้าก็แนะนำว่า นั่งรถเมล์สายนี้ๆ ไปถึง Domestic ได้นะ ไปมั้ย? มองทะลุกระจกออกไปด้านนอก แขก..แขก..แขก..เต็มไปหมด รถก็วิ่งกันเยอะแยะ!! โอ้วว... ไม่ดีกว่า เราก็ Thank you ไป และตัดสินใจขอนั่งรอต่อ.. (สงสารตัวเองชะมัด) T^T
ระหว่างนั่งรอ ได้ยินเสียง ปี๊น! ปี๊น! ดังเข้ามา ว๊าววว!! เสียงนี้ที่ร่ำลือ ได้ยินแล้วๆๆ ดีใจๆๆ เสียงแตรรถที่อินเดียเป็นที่โจษจัณฑ์ไปทั่วทุกสารทิศ.. บัดนี้มันดังอยู่ข้างๆ เรานี่เอง อิอิ กำลังคิดอยู่ว่าคนเค้าพูดกันเกินจริงไปหรือเปล่า ไม่เห็นจะดังจนน่ารำคาญอะไรเล้ยย ^^ เกือบ 3 ชม. ที่นั่งรอ... ฮืออ ฮือออ สงสัยชะตากรรมเราต้องนอนค้างในสนามบินแหงๆ T^T คาดว่าจะปลอดภัยกว่าการออกไปผจญข้างนอก !! เสียงแตรข้างนอกเริ่มดัง จากที่ดีใจที่ได้ยิน กลายเป็นหนวกหู... จากหนวกหูเปลี่ยนเป็นเริ่มชิน... ....เสียงแตรข้างนอกเริ่มจะเบาบาง! นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย? เย้ยยย!! จะ 3 ทุ่มแล้ว!!!! o_O!! อารมณ์นั้นก็พลันนึกถึงหนังเรื่อง The Terminal ที่เคยดู ..พระเอกติดอยู่ในสนามบิน ต้องกินนอนอยู่ในสนามบิน ดำรงชีวิตอยู่ในสนามบิน! เพราะออกไปไหนไม่ได้! แง๊วๆๆ เราจะมีชะตากรรมเยี่ยงนั้นหรือเปล่าเนี่ยยยย!! T^T และแล้ว... โอ้ววววววววว นั่นๆๆๆ หัวฟูๆ ท่าทางกระหืดกระหอบ เข็นรถวิ่งไปทางนั้นแล้วๆๆ O_o!! ไอ้คุณน้องจิ๊บ!!! มาโน่นแล้วววววววววววววว!! อยากจะหาอะไรขว้างไปให้รู้ตัว พี่อยู่นี่ๆๆ (เว้ยยยยย!!) (ไอ้) จิ๊บบบบ!! ไอ้สายตาสั้นแล้วไม่ยอมตัดแว่นนนน!! เห็นแล้วขำมากกว่าจะเคืองหรือโกรธ 555+ การเชื่อมั่นในทีมนี่มันดีแบบนี้นี่เอง ^0^ ท่าทางลนๆ ของน้องจิ๊บที่พยายามวิ่งไปชะโงก มองหน้าคนโน้นที คนนี้ที แบบระยะประชิด เพราะทัศนวิสัยในการมองไม่เอื้ออำนวย.. เฮ้ออออ เห็นแล้วขำ.. เรารีบเข็นๆ รถเข้าไปหา ก่อนที่น้องจิ๊บจะวิ่งเตลิดไปไกล แว่บแรกที่เราเข้าไปเรียกให้รู้ตัว น้องจิ๊บดีใจมากกกก กระโดนกอดเราใหญ่เลย >.< บอกเครื่องจิ๊บดีเลย์ๆๆ ขอโทษพี่ปาด้วยๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ ดีนะ ที่ยังพยายามหาทางมาจาก Domestic มา International ได้ เก่งมากๆๆๆ จิ๊บเล่าให้ฟังถึงความยากลำบากในการเดินทางมาหาเราที่นี่ เพราะสนามบินห่างกันเกือบ 5 กม. ได้ แถมเจ้าหน้าที่ก็แนะนำผิดๆ ถูกๆ หรือว่าจิ๊บพูดแล้วเค้าไม่เข้าใจก็ไม่รู้ 555+ เอิ๊กกกกกกกกก อยากจะหัวเราะทั้งน้ำตา T^T~
Create Date : 30 สิงหาคม 2553 |
|
6 comments |
Last Update : 1 กันยายน 2553 15:48:35 น. |
Counter : 657 Pageviews. |
|
|
|