นั่ง limousine busจากจุดจอด Herbis Osaka รถวิ่งเกือบ 1 ชม.ก็มาถึง Kansai Airport
เรามุ่งหน้าไปร้าน lawson ที่ชั้น2
เพื่อนั่งรอเวลา และหาอาหารเที่ยงกินกันด้วย
ชั้น2 จะเป็นของผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ
ร้านอยู่ใกล้ Mc.donald
ที่ร้าน lawson อาหารน่ากินทั้งนั้น
ที่สำคัญมันอร่อยด้วยนี่ละ
เรากิน สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่าไข่ออนเซ็น อร่อยเวอร์ เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี ครีมซอสหอมนุ่มนวล ไข่ออนเซ็นก็นุ่มมากๆ
และใส้กรอกชุปแป้งทอด อันนี้อร่อยเหมือนกัน
เฮียก็เมนูเดิมเลย ... โอเด้ง สุดโปรดของเ้ค้าละ
กินอาหารเที่ยงเสร็จ ก็เก็บเสื้อกันหนาวตัวหนาลงกระเป๋าใหญ่
เปลี่ยนเสื้อเป็นตัวบาง เพราะในสนามบินอบอุ่นมาก
และจัดกระเป๋าครั้งสุดท้าย
พาไปชมศูนย์อาหารในสนามบิน
ร้านอาหารตรงนี้เยอะมาก เท่าที่ดูราคาไม่บวกแพงกว่ามากนัก
เกือบบ่าย2 เราเตรียมขึ้นไปชั้น4 ก่อนจะขึ้นลิฟท์ เราออกไปสูดอากาศหนาว 4 องศา
อำลาความเย็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะกลับกรุงเทพ
ไปชั้น4 กันเืพื่อ check in ตั๋ว
check in ตั๋ว
เดินเข้าตม.
เข้ามาด้านใน
นั่งพักกันสักครู่ ก็ลุย duty free กัน เฮียก็ซื้อของฝากที่บ้านเฮีย ส่วนเราเดินเล่น
duty free ที่นี่เล็กนะ ของก็มีไม่หลากหลายเท่าไร
หลานสาวฝากซื้อแว่นตา Ray Ban ก็ดูอยู่นานพอเราจะเอา ดันมีแต่ตัวโชว์
ใกล้เวลาไป Gate ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าอีกรอบ ถอด legging กันหนาวออก และเปลี่ยนเป็นขาสั้น
จะได้นั่งบนเครื่อง 6 ชั่วโมงสบายๆ
16.20 เดินไปขึ้นรถไฟ เพื่อข้ามไปที่ Gate กัน Gate ที่นี่จะอยู่ไกลออกไป เพราะสนามบินจะสร้างอยู่กลางทะเล
ออกจากรถไฟ ก็เดินต่อไปที่ Gate 30 ตรงจุดรอขึ้นเครื่องนี้มีบริการ internet เก้าอี้นวดไฟฟ้าแก้เมื่อย
มาถึงที่พัก Gate30
ช่วงรอก็ถ่ายรูปเล่น เครื่องลำนี้ละ ที่เราจะพาเราข้ามฟ้ากลับบ้าน
เต็มๆลำ สวยมาก
เฮียถ่ายรูปเราตอนกำลังเพลินอยู่
เจ้าหน้าที่มาเตรียมพร้อมที่หน้า Gate กันแล้ว
เจ้าหน้าที่เรียกเข้าเครื่อง
เราได้ที่นั่่งคู่ ริมหน้าต่าง
ขอจบ blog นี้ไว้ตรงนี้ blog ต่อไป ...กดตรงนี้... บนเครื่อง JL727 เดินทางกลับกรุงเทพ
ขอให้มีความสุข กับ Trip ของคุณ