wellcome to dog world. Photobucket
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
6 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 

วันที่4 เที่ยวตลาดนิชิกิ และ เดินทางไปวัดน้ำใส




diary Japan trip 
รีวิวก่อนหน้าทั้งหมด >>> กดตรงนี้



Plan Trip วันเดินทาง : 31 DEC 2013 - 6 JAN 2014
วันที่ 1 Jan : osaka แหล่งช๊อปปิ้ง shinsaibashi dontonbori  (lunch @ ramen / dinner @ Chibo okonomiyaki)
วันที่ 2 Jan : Nara, Osaka castle  (dinner @ Hokkyokusei Omuraisu ข้าวห่อไข่เจ้าแรกของญี่ปุ่น)
วันที่ 3 Jan : Arima Onsen  (lunch @ ข้าวหม้อดินแบบออนเซ็น/ dinner @ ippudo ราเมนแชมเปี้ยน)
วันที่ 4 Jan : Kyoto  (lunch @ Gogyo ราเมนน้ำดำ / dinner @ Karuma Kushikatsu)
วันที่ 5 Jan : Kobe  (lunch @ Steak Land / dinner @ ข้าวห่อไข่ Hokkyokusei + ippudo ราเมนแชมเปี้ยน)
วันที่ 6 Jan : Osaka (lunch @ ramen แบบยืนกิน )







เริ่มบันทึก Diary ต่อ ... วันที่ 4 มกราคม 2014


หลังจากกิน Gogyu ราเมนน้ำดำแล้ว
ก็ไปเดินเล่น ... ตลาดนิชิกิ ... กันต่อ
เราย้อนกลับมาตรงโคมไฟตรงนี้  แล้วเดินเล่นต่อกันเลย








ร้านหัวมุมร้านนี้ ได้บรรยากาศญี่ปุ่นมาก








ตลาดนี้คนจะเยอะมากในช่วงเที่ยงๆ - บ่าย
เพราะทั้งทัวร์ และ นักท่องเที่ยวทั่วไปก็มาเดินชมกัน

ตลาดนี้มีทั้งของกิน ของสด ของแห้ง ของฝากมากมาย
เดินชมกันเพลินเลยละ 











เดินมาสักพัก ก็เจอเข้ากับร้านนี้
...... ลูกชิ้นปลานึ่ง ......

ร้านนี้เราเคยได้ดูผ่านรายการ Maki magic restaurant ด้วย
เป็นร้านชื่อดังในย่านนิชิกินี้เลยละ










เค้ามีลูกชิ้นหลากหลาย น่ากินทั้งนั้นเลย  
ที่สำคัญมีป้ายภาษาไทยด้วย    แสดงว่าคนไทยมาเยอะ











เราซื้อเพื่อลองกิน 1 ไม้  .... Takossisso ....
มันคือลูกชิ้นปลาผสม ปลาหมึกยักย์ ใบงาขี้ม่อน และ ใบชิโสะ
แล้วทางร้านก็มีโต๊ะให้นั่งกินง่ายๆ ข้างๆร้าน











รสชาติอร่อย หอม เคี้ยวหนึบหนับ 
ขนาดว่าเรากินราเมนมาจนอิ่มแล้ว  ก็ยังรู้สึกอร่อยมากเลย












เดินเที่ยวต่อ ก็มาสะดุดตากับร้านเกาลัด
เสียทรัพย์ไปอีกราคา 1000 yen
เกาลัดร้านนี้ลูกใหญ่ เนื้อหวานมากๆ

















เดินจนเกือบสุดตลาด  ก็ตัดสินใจไปวัดน้ำใสกัน
เดินเลี้ยวขวาออกจากตลาด แล้วมารอรถเมล์ที่ป้าย

เรานั่งรถเมล์สาย100 ไปแค่ 1-2 ป้ายนี่ละ
คือพอรถถึง 4 แยกไฟแดง แล้วเลี้ยวซ้ายก็ลงป้ายนั้นเลย
(จริงๆไม่ต้องขึ้นรถเมล์ก็ได้ แต่เรา save ขาไว้ก่อน)
ค่ารถเมล์ไม่ต้องจ่ายจ้า ใช้บัตร Kansai Thru Pass 









ลงป้ายรถเมล์แล้ว ให้เดินย้อนกลับมาที่4แยกไฟแดง
แล้วเดินตรงไปที่สะพานข้ามแม่น้ำ แล้วก็ข้ามไปเลย











แม่น้ำนี้สวย และ มีเสน่ห์มาก
ช่วงเย็นๆก่อนเรากลับ osaka เราจะมาตรงนี้กันอีกครั้ง










พอข้ามมาฝั่งตรงข้าม 
ก็จะเจอสถานีรถไฟสาย Keihan  ตรงนี้คือสถานี Gion-shijo
ทีี่สำคัญรถไฟสายนี้ ใช้บัตร Kansai Thru pass จ่ายค่ารถไฟได้ด้วย

(รถไฟสาย Keihan เป็นรถไฟสายข้ามเมือง   จากเกียวโตอ้อมลงด้านล่างเข้า osaka แถวๆปราสาทโอซาก้า  รถสายนี้สามารถไปเปลี่ยนสายเพื่อเข้า nara ได้ด้วย >>> mapกดตรงนี้ )











เราใช้รถไฟ Keihan นี้
นั่งไปเพียง 2 สถานี  ลงที่ป้าย Kiyomizu-gojo

ขึ้นมาตรงนี้ ถ้าจะเดินไปวัดน้ำใสก็เดินได้
เีพียงเดินตรงขึ้นไปเลย    ระยะสัก 2-3 ป้ายรถเมล์ ก็จะถึงปากทางขึ้นเนิน
แล้วก็ต้องเดินต่ออีกสัก 3-4 ป้ายรถ








แต่เราเลือกนั่ง taxi จ้า
ตรงปากทางออกรถไฟนี้ มี taxi จอดรอเยอะเลย
ค่าใช้จ่ายแค่ 600 yen ทุนเวลาเดินเกือบ 20 นาทีแน่ะ
ลองดูจากในภาพนะ ว่าคนเดินขึ้นวัดกันมากขนาดไหน












รถวิ่งไม่ถึง 10 นาที
ก็มาส่งเราที่ทางเข้า ... วัดน้ำใส (ช่วงถนนคนเดิน)
เริ่มเห็นหนุ่มสาวญี่ปุ่นใส่กิโมโนกัน











เวลาบ่ายโมงกว่าๆ   เราเริ่มเดินเข้าถนนคนเดิน
คนเยอะมากๆๆๆๆๆ  เดินเบียดกันสนุกเลยละ










ใกล้ๆวัดน้ำใส มีร้านให้เช่ากิโมโนด้วย
แต่คงต้องจองล่วงหน้ากันก่อน










ถนนคนเดินใช้เวลาเดิน 10 นาที (ถ้าไม่แวะดูของข้างทาง)
จะมาถึงประตูทางเข้าวัดสีแดงสด  












มีชาวญี่ปุ่นให้เฮียช่วยถ่ายรูปให้เค้า
เราก็เลยขอให้เค้า่ถ่ายให้เราบ้าง แลกกัน











ขอจบ blog นี้ไว้ตรงนี้
blog ต่อไป .... กดตรงนี้ ....   Kiyomizu Temple (วัดน้ำใส)








ขอให้มีความสุข กับ Trip ของคุณ









 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2557
0 comments
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2557 19:11:12 น.
Counter : 6752 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


หมาดำปราณบุรี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




^^ | welcome to dog world
2 3 4
New Comments
Friends' blogs
[Add หมาดำปราณบุรี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.